ห้วงความฝันของการเสียตัว
ในห้วงความฝันของสาวน้อยไร้เดียงสาวัย 18 ปี ทุกค่ำคืนมักจะฝันประหลาด จนคลายเรื่องจริง และยิ่งแปลกไปกว่านั้นตื่นเช้ามาเนื้อตัวปวดระบมไปหมด เหมือนกับว่าตอนกลางคืนไปออกรบจับศึกมาอย่างไงอย่างงั้น แต่สาวน้อยก็ยังคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ฝัน อีกอย่างะเล่าให้ใครฟังได้เล่า พ่อแม่หรือ เล่าไปก็อาย อายุหล่อนยังน้อยไม่ควรหมกมุ่นกับเรื่องโลกีย์พรรค์นี้
ในค่ำคืนนี้ก็เช่นกัน มันมาอีกแล้วความฝันที่แสนจะเร่าร้อน แต่ครั้งนี้มาแปลกกว่าทุกคืน เพราะทุกสัมผัสร้อนจากมือหนาที่ตนจำได้ไม่เคยลืม ไม่ว่าจะยามหลับหรือตื่น ใบหน้าหล่อเหลานั้นเด่นชัดเสมอ มันรุนแรงและหนักหน่วงกว่าทุกครั้งที่ได้พบ จนต้องลืมตาขึ้นมาเพื่อให้ความฝันนั้นจางหายไป แต่แล้วก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อพบกับร่างหนาที่กำลังคร่อมทับร่างเล็กของตนอยู่ สาวน้อยเพิ่งรู้ก็ตอนนี้เองว่ามันไม่ใช่ความฝัน แต่มันเป็นเรื่องจริงทุกอย่าง แล้วทำอย่างก็เด่นชัดขึ้นมาเรื่อยๆ เมื่อมือหนาเอื้อมไปเปิดไฟที่หัวเตียงของหล่อน
“คุณเป็นใคร” สาวน้อยเอ่ยถามเสียงแข็ง ใช่เพิ่งเห็นใบหน้าคมชัดก็วันนี้ เองเขาหล่อ มีกล้ามหน้าท้องที่แสนจะแข็งแกร่ง
“จุๆ สาวน้อยต่อจบบทก่อนค่อยถามนะ” ชายนิรนามเอามือปิดปากสาวน้อยใต้ร่าง ก่อนร่างหนาจะเริ่มเบียดเสียดสีเข้าหาร่างเล็ก
ร่างหนาบิดพลิ้วไปตามจังหวะรักเป็นท่วงทำนองเพลงรักที่เขาเป็นคนแต่งและควบคุมบทเพลงเอง ส่วนร่างเล็กใต้ร่างนั้นได้แต่บิดเร้าครวญครางไปตามกระแสความเสียวซ่านที่ชายหนุ่มเหนือร่างกำลังปลุกปั่นให้แก่ตน
“โอว์!...ดีเหลือเกินเด็กน้อยจ๋า.....ชูว์!.....” เสียงเข้มคำรามก้องด้วยความสุขสม เมื่อตัวเองนั้นถึงปลายโค้งฟ้าแล้ว และไม่นานก็ตามมาด้วยเสียงร้องครวญครางเล็กของ
“กรี๊ดดดด.....” สาวน้อยวัยกระเตาะกรีดร้องอย่างมีความสุข เธอกรี๊ดทุกครั้งที่คนเหนือรางส่งถึงวิมารดอกฟ้า ก่อนจะเผลอหลับหมดแรงไปอย่างเหนื่อยล่า
“อ๊า
!...หลับซะนะเด็กน้อยของฉัน” เสียงเข้มแหบพร่าเอ่ย พร้อมกับพลิกตัวนอนข้างกายของสาวน้อย ก่อนจะดึงรั้งร่างเล็กเข้ามาซุกอกตนนอนหลับไปด้วยกันในค่ำคืนที่แสนจะหฤหรรษ์นี้
ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ข่างบ้านของสาวน้อยผู้น่ารักในอ้อมกอดเขาก็ไม่อาจจะหักห้ามความปรารถนาของตัวเองได้เลย เพราะความอยากได้ของเขาจนทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ซ้ำๆ แทบทุกคืน ใช่เรื่องนี้ไม่มีใครรู้นอกจากตัวเขาและคนสนิทนั้นเอง
“เห้อ
!
” ร่างใหญ่ถอนหายใจแรงๆ ด้วยความเหนื่อยอ่อนใจ ไม่รู้จะทำเช่นไรกับชีวิตนี้ จะปล่อยคนตัวเล็กไปก็เสียดาย กลัวเหลือเกินว่าจะมีชายอื่นมาทับรอยตน ตัวรู้ว่ามันไม่ควรที่จะทำแบบนี้กับสาวน้อยวัย 18 ปีอย่างเจ้าหล่อน
ย้อนไปเมื่อต้นเดือนที่แล้ว ขุนพล ชาติเจริญทรัพย์ หรือ พล วัย 35 ปี เจ้าของโรงแรม 7 ดาวชาติเจริญ ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่ ที่ตนได้ซื้อไว้ และเพื่อให้สะดวกต่อการเดินทางไปทำงานจึงได้เลือกบ้านหลังนี้ แต่ก็ดันมามีเพื่อนข้างบ้านอย่างชลินดา วไลกร หรือปิ่น สาวน้อยวัย 18 ปี ลูกสาวของเจ้าของร้านดอกไม้ที่อยู่ตรงหน้าปากซอยของหมู่บ้านแห่งนี้นั้นเอง
เพียงแค่ยิ้มที่ได้เชยชมก็ทำให้บุรุษหนุ่มแข็งแกร่งอย่างเก็บมานึกคิดและใฝ่ฝันทุกค่ำคืน จนแล้วจนรอดเก็บกักความทรมานและความปรารถนาไม่ไหว จนได้บุกรุกเข้ามามอบความเป็นชายชาตรีให้เด็กน้อยไร้เดียงสา และความภาคภูมิใจก็ได้กินขึ้น เมื่อครั้งแรกของเธอเป็นเขาที่ได้ครอบครอง พอตอนนี้จะถอนตัวก็กลับถอนไม่ได้เสียแล้ว เมื่อกวางน้อยนั้นแสนหวานและเร่าร้อนเหลือเกิน
“เห้อ!
เพราะความอยากของเราแท้ๆ ถึงทำให้เป็นบ่วงแบบนี้ ฉันจะเอายังไงกับเธอดีแม่สาวน้อยวัยแรกแย้ม” ขุนพลพำพึมเบาๆ เมื่อกลับมาอยู่ในปัจจุบัน
“อื้อ!” รางเล็กครวญครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน เมื่อถูกมือใหญ่รุกเร่ากึ่งกลางกาย
“อ่า! !เธอติดไฟไวเหลือเกินปิ่น อูว์!” การกระทำมันสวนทางกับความคิดเสมอ ตอนนี้บุรุษหนุ่มหลงลืมไปแล้วว่าอันไหนดีอันไหนชั่ว ก็ตอนนี้ร่างเล็กนั้นครวญครางกระเชาน่าค้นหาเหลือเกิน มือหยาบกร้านจึงไม่รอช้าที่จะสอดแทรกเข้าไปในกลางกายสาว ถึงแม้ว่าคนตัวเล็กนั้นจะหลับอยู่ก็ตาม
“อีก 2 ชั่วโมงก็จะตี 5 แล้ว ขออีกรอบก่อนจะกลับไปปกตินะสาวน้อย” มือเหลือตามองโทรศัพท์เครื่องแพงของตัวเองแล้ว ก็ไม่รอช้าที่จะพลิกร่างขึ้นคร่อมร่างเล็กอย่างรวดเร็ว
“ว้าย!อ่า !
” ร่างเล็กร้องออกมาได้แค่นั้น เมื่อถูกปากหนาบดขยี้ให้ แถมกายสาวก็ถูกสอดแทรกด้วยความแข็งแรงของชายหนุ่ม ตอนนี้ชลินดาครึ่งหลับครึ่งตื่น แยกไม่ออกว่ามันคือความจริงหรือความฝันกันแน่น แต่เธอก็หาได้ใส่ใจไม่ เมื่อทุกคืนมักจะฝันแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา
“ปิ่นจ๋า...ขออีกรอบนะแล้วฉันจะกลับ พรุ่งนี้เจอกันใหม่นะ” ว่าแล้วเอวสอบก็ไม่รอช้าที่จะขับเคลื่อนแรงม้าของตน
“อะ ! อืม!” เสียงครวญครางดังมาเป็นระยะ พร้อมกับเสียงคำรามซ่านของคนต้นเรื่อง
“โอว์ ! ตอดรัดดีเหลือเกินคนดีจ๋า อ่า!
” เสียงพร่ากระซิบข้างหูคนตัวเล็ก มือหยาบจับรั้งเอวเล็กให้มั่น ก่อนจะโถมแรงม้าเฮืกสุดท้ายของตนเข้าหากระบอกอย่างดุดดัน
“อะ !โอว์!” ร่างเล็กแอ่นเด้งรับอย่างรู้จังหวะ มือเล็กจิกผ้าปูที่นอน ใบหน้าเปียกชื่นเหงื่อแหงนมองเพดานห้องอย่างคนละเมอ ก่อนจะร้องออกมาอีกครั้ง เมื่อความสุขซ่านไปทั่วเรือนกาย
“อา! ขอบคุณนะสาวน้อย..อืม !
” ใบหน้าหล่อซบลงซอกตอระหงอย่างหมดเรียวแรง ก่อนจะขบเม้นฝากรอยไว้ให้คิดถึงและผลิกร่างไปนอนข้างกายคนตัวเล็กด้วยความเหลื่อยล้า ยังไม่หายเหนื่อยดีก็ถูกรบกวนด้วยเครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัยของตน
ตึ๊ด ! ตึ๊ด !ตึ๊ด!
“ใครวะ!คนยิ่งเหนื่อยๆ อยู่” สบถออกมาด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะหยิบขึ้นมาดูว่าใครโทรมา
“น่าขึ้นเงินเดือนให้จริงๆ เลยสมิงนิ รู้หน้าที่ก็แกนี้แหละ” บ่นกับโทรศัพท์ก่อนจะกดรับสาย
“รู้แล้วน่าสมิง นายจะโทรตามทำไมวะ!”
“ไม่ได้หรอกเจ้านาย ผมกลัวเจ้านายหลับคาอกเด็กเอา” สวนกลับเจ้านายด้วยความหมั่นไส้ ก็ดูเอาเถอะตัวเองไปมีความสุข ส่วนตัวเขามานอนให้อาหารยุงดูต้นทางให้เจ้านายหนุ่ม
“เออน่า !
ใส่เสื้อผ้าเสร็จจะตามลงไป นายเนี่ยนะทำหน้าที่ดีจนฉันอยากหักเงินเดือน” ว่าแล้วก็กดตัดสายลูกน้องตัวขัดความสุขทันที