“พี่พันน่ะ อย่าใจร้อนสิคะ อุ๊ย! จั๊กจี้ค่ะพี่พัน ไม่เอาตรงนี้สิค่ะ เดี๋ยวมีคนมาเห็นเข้า” กนกวดีหัวเราะคิกคัก เบี่ยงหลบอย่างมีจริตจะก้าน พยายามที่จะพาพันทัพขึ้นห้องให้จงได้ เธอกับเขาจะได้ตกเป็นของกันและกัน แบบที่เขาไม่ป้องกัน แล้วลูกในท้องของเธอก็จะมีพ่อที่ดี ร่ำรวย เป็นเศรษฐี ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ไม่รู้ เธอจึงหมายมั่นปั้นมือที่จะจับพันทัพให้อยู่หมัด
เธออยากแต่งงานกับเขา คุยๆ เรื่องแพลนที่จะแต่งงานกันบ้าง แต่พันทัพยังสนุกกับการทำงาน เธอเองก็ยังกลัวหมดชื่อเสียงในวงการ เลยอยากกอบโกยเงินไปก่อน การเป็นข่าวกับพันทัพ นักธุรกิจดัง และคบหาดูใจกับเขา ทำให้เธอมีงานพรั่งพรูเข้ามามากมาย เธอจึงต้องจับเขาให้ได้ในค่ำคืนนี้ การมีสัมพันธ์สวาทในคืนนี้จะปูทางไปในอนาคตให้เขารับลูกในท้องของเธอ
คุณพิมพ์แก้วกับจักรเดินมาดักหน้ากนกวดีเอาไว้ ก่อนที่ท่านจะพยักหน้าให้จักรเข้าไปนำตัวพันทัพออกมาจากอ้อมแขนของกนวกดี
“นี่ทำอะไรน่ะ ปล่อยเลยนะ” กนกวดีผลักไสจักรให้ออกไปห่างๆ แต่มีหรือเธอจะสู้แรงผู้ชายได้ ในขณะที่พันทัพไม่ได้สติ จักรก็รวบร่างของเจ้านายหนุ่มเอาได้ได้สำเร็จ
จักรขนลุกทำท่าจะปล่อย ดีที่ยังมีสติอยู่ เมื่อพันทัพเลื่อนมือมาบีบก้นของเขา
“จักร พาตาพันขึ้นไปบนห้องก่อน ทางนี้ฉันจัดการเอง” คุณพิมพ์แก้วเอ่ยสั่งเสียงเฉียบ
“ครับคุณท่าน” จักรรีบประคองร่างที่ทำท่าจะกอดปล้ำเขาขึ้นห้องอย่างทุลักทุเล กนกวดีทำท่าจะเดินตามไป แต่ถูกพิมพ์แก้วเข้าขวางเอาไว้เสียก่อน
“คุณแม่มาขวางหนูไว้ทำไมคะ” กนกวดีเอ่ยถามอย่างหงุดหงิดใจ ชะเง้อคอมองตามร่างของพันทัพไปอย่างแสนเสียดาย ถ้ายาออกฤทธิ์แล้วเธอไม่ได้อยู่ตรงนั้น ก็เท่ากับว่าแผนการทุกอย่างล่มไม่เป็นท่า
“ฉันมีลูกชายคนเดียว ไม่มีลูกสาวที่ไหนอีก เรียกฉันว่าอีแก่หนังเหี่ยวอย่างที่เธอเรียกฉันสมัยก่อนก็ได้นะ”
ท่านยิ้มเย็นออกมา เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความไม่ชอบใจยิ่งนัก
อาการแค่นยิ้มของหญิงสูงวัยตรงหน้า ทำให้กนกวดีหน้าตึง เมื่อนานมาแล้ว เธอเคยเดินชนกับพิมพ์แก้วในงานเลี้ยงงานหนึ่ง ซึ่งเธอได้รับเชิญไปด้วย เธอด่าคนตรงหน้าว่าอีแก่หนังเหี่ยวจริงๆ นั่นแหละ และหาว่าเดินไม่ดูตาม้าตาเรือด้วย เพราะเครื่องดื่มของพิมพ์แก้ว ทำให้ชุดสวยของเธอเลอะ แต่ใครจะคิดว่าอีแก่หนังเหี่ยวนี่จะเป็นมารดาของผู้ชายที่เธอจะจับทำผัว
“คุณป้าจะจงเกลียดจงชังอะไรหนูนักหนาคะ”
“ก็ถ้าเธอไม่คิดที่จะทำอะไรไม่ดี ฉันก็คงเอ็นดูเธอมากกว่านี้ เธอจะพาตาพันไปไหนล่ะ”
คุณพิมพ์แก้วเอ่ยถามว่าที่ลูกสะใภ้ที่ท่านไม่ชอบหน้าตั้งแต่แรกเห็น เพราะกิริยามารยาทที่ไม่น่าดู แถมยังเป็นดารานางแบบที่มีข่าวฉาวที่สุดในประเทศไทย
กนกวดีขยันเป็นข่าวไม่เว้นแต่ละวัน ไอ้นิสัยเหวี่ยงวีนแบบนี้ คงอยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่นาน ที่สำคัญก็คือคงอยู่กับลูกชายของท่านไม่ได้นานเช่นกัน เพราะท่านเลี้ยงพันทัพมากับมือ รู้ดีว่าพันทัพทนอะไรไม่ได้นานหรอก ผู้หญิงที่จะอยู่กับพันทัพได้ต้องใจเย็นเหมือนน้ำแข็งและมีกิริยามารยาทที่เรียบร้อยอ่อนหวาน เป็นแม่บ้านแม่เรือน
ท่านให้นักสืบไปตามสืบเรื่องของกนกวดีมาแล้ว จึงรู้ว่าที่บ้านของหล่อนมีหนี้สินเยอะมาก แถมบิดามารดายังผลาญเงินเป็นว่าเล่น โดยการเข้าบ่อนการพนัน พ่อแม่ไม่ดีลูกจะดีได้อย่างไรกัน แทนที่จะช่วยลูกเต้าเก็บเงินเก็บทอง ลงทุนให้ทรัพย์สินงอกเงยกลับช่วยกันผลาญ อาชีพดารานางแบบอยู่ได้ไม่นาน ตอนกอบโกยได้ก็ควรที่จะรู้จักเก็บเงินเก็บทองและลงทุนสร้างฐานะเอาไว้ให้มั่นคงเป็นปึกแผ่น ยามใดที่ไม่มีงานก็จะได้ไม่ลำบาก และมีอาชีพอื่นสำรองเอาไว้ในบั้นปลายชีวิต
ท่านยังสืบรู้อีกว่ากนกวดีมีเบื้องหลังที่ไม่ดีนัก เธอทั้งขายตัวและเคยเป็นเมียเก็บเมียน้อยของเสี่ยน้อยเสี่ยใหญ่มากมาย พ่อแม่ขายลูกกินแต่เด็ก ก่อนจะดันมาเป็นดารา ดังนั้นท่านไม่ต้องการที่จะให้กนกวดีมาเป็นลูกสะใภ้ของท่าน หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่เอา มีลูกมีเต้าจะสอนลูกเต้าให้เป็นคนดีได้อย่างไรกัน
“พี่พันเมา วดีก็แค่จะพาพี่พันขึ้นไปนอนพักบนห้องก็แค่นั้นเองค่ะ” กนกวดีเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงมีพิรุธ สีหน้าล่อกแล่ก อีกทั้งยังหลบสายตาไม่กล้าสบ นั่นทำให้ท่านยิ้มเย็นออกมาอีก
กนกวดีฮึดฮัดขัดใจ มองตามพันทัพที่ถูกจักรประคองหายขึ้นไปบนตึกอย่างร้อนรน
อุตส่าห์วางแผนเสียดิบดี วางยาปลุกเซ็กซ์สำเร็จแล้ว แต่ต้องมาชวดเพราะนังแก่หนังเหี่ยวแม่ของพันทัพ มันน่าเจ็บใจนัก ถ้าก่อนหน้านี้เธอมีสัมพันธ์สวาทกับพันทัพ เธอก็จะอ้างได้ว่าท้องกับเขา เพราะถึงแม้พันทัพจะป้องกันโดยการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง แต่เธอก็สามารถแอบเจาะถุงยางฯ ทำให้ถุงยางฯ ฉีกขาดได้ มันมีวิธีมากมายที่จะจับเขา แต่มันไม่ได้นอนกันเลยสามเดือนนี่สิ ถ้าเธอท้องตอนนี้ เขาก็ต้องรู้แน่ ๆ ว่าไม่ใช่ลูกของเขา
เรื่องการป้องกัน พันทัพมักให้เหตุผลกับเธอเสมอว่าไม่อยากให้เธอท้องป่องก่อนแต่ง และเธอก็เป็นดาราดังมีชื่อเสียง เขาจึงอยากช่วยรักษาชื่อเสียงของเธอเอาไว้
เธอพยายามหลายครั้งที่จะให้เขาพลั้งเผลอ เมื่อรับรู้ว่าทางบ้านมีหนี้สินก้อนใหญ่ หากเธอได้แต่งงานกับพันทัพก็จะได้ปลดหนี้ นั่นเป็นความคิดเดียวที่เธอมีในเวลานี้
พันทัพทั้งหล่อทั้งรวย พร้อมเปย์ แตกต่างจากผู้ชายทุกคนที่เธอเคยคบ เธอจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อจะจับเขาให้อยู่หมัด เธอไม่กล้าไปทำแท้งเพราะเป็นดาราดังหากทำเช่นนั้น เธออาจจะมีผู้พบเห็นจนเสื่อมเสียชื่อเสียงได้ สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือรีบจับพันทัพแต่งงานให้เร็วที่สุด
“เธอไม่ต้องขึ้นไปหรอก ตาพันน่ะกำลังเมา เธอขึ้นไปบนห้องสองต่อสองกับลูกชายฉัน มันจะดูไม่งาม เธอเป็นผู้หญิงนะกนกวดี ถึงจะเป็นคนรักก็เถอะ แต่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง”
“แหม... เดี๋ยวนี้มันยุคสมัยไหนแล้วคะคุณป้า”
กนกวดีเหลือเชื่อกับความคิดของอีแก่หนังเหี่ยวตรงหน้าเสียเหลือเกิน
“จะยุคไหนสมัยไหนก็ช่าง แต่ฉันยังยึดถือความดีงามของการเป็นผู้หญิงว่าควรที่จะรักนวลสงวนตัว”
“แต่วดีดีเป็นคนรักของพี่พันนะคะ เดี๋ยวนี้เขาไม่ถือกันแล้ว” เธอยังเถียง ไม่ว่าจะนานแค่ไหน พิมพ์แก้วก็ไม่ชอบเธอ นี่คือก้างชิ้นใหญ่ที่เธออยากกำจัดออกไปให้พ้น ๆ ทางซะ
ถ้าทำได้ เธออยากจะฆ่าอีแก่หนังเหี่ยวตรงหน้านี้เหลือเกิน ถ้าไม่เพราะพิมพ์แก้วไม่เห็นชอบเรื่องการแต่งงาน เธอกับพันทัพอาจจะหมั้นหมายกันไปแล้วก็ได้ หมั้นกันเอาไว้ก่อน ก็ได้ของหมั้นไปปลดหนี้ แต่งงานนั้นค่อยแต่งก็ได้ เพราะเธอเองก็ยังหาเงินในวงการได้อยู่
แต่ถ้าให้เลือกระหว่างแต่งงานกับเศรษฐีผู้แสนร่ำรวยมีเงินมีทองกินใช้ไปตลอดชาติ กับทำงานงกๆ ในวงการบันเทิงที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ เธอเลือกแต่งงานกับพันทัพมากกว่า
ขนาดฤกษ์หมั้นฤกษ์แต่งที่เธอเคยคุยๆ กับพันทัพเอาไว้ พอเขาไปปรึกษาเรื่องนี้กับมารดาของเขา ท่านก็บอกว่าฤกษ์ไม่ดี และไม่ว่าปีไหน ๆ ก็ยังไม่มีฤกษ์ที่ดี ให้คบกันไปก่อน ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าฤกษ์ดีสำหรับพิมพ์แก้วนั้นไม่มี หากเธอต้องแต่งงานกับพันทัพลูกชายของนาง
เธอพูดกับพันทัพหลายครั้งว่ามารดาของเขาอคติและไม่ชอบเธอ แต่เขาก็ยังเข้าข้างท่าน บอกว่าให้เธอพิสูจน์ตัวเอง ท่านไม่ได้อคติหรือไม่ชอบอะไรเธอหรอก แค่อยากมั่นใจว่าเธอรักเขาจริง
“แต่ฉันถือ ฉันไม่อยากให้ใครพูดว่า... คนรักของลูกชายฉันเป็นคนใจง่าย ยอมนอนกับผู้ชายง่ายๆ เธอคิดดูสิกนกวดี ถ้าเธอมีลูกสาว เธอจะสอนลูกสาวของตัวเองยังไงเรื่องการรักนวลสงวนตัว ที่สำคัญ ถ้าเธอมีลูกสาว เธอจะปล่อยให้ลูกไปเที่ยวนอนกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้า มั่วไปทั่ว พอท้องขึ้นมาก็หาพ่อของลูกไม่เจอแบบนั้นเหรอ เธอคิดว่ายังไงล่ะ” กนกวดีรู้สึกหน้าชาไปไปทั้งแถบ เหมือนโดนลากไปตบกลางสี่แยกไฟแดง
“เธอว่าไงล่ะกนกวดี ไม่เห็นตอบฉันเลย”
คุณพิมพ์แก้วถามย้ำ กนกวดีใบหน้าซีดเผือด ประโยคมีนัยของท่านทำให้เธอรู้สึกว่าท่านอาจจะไปรู้อะไรมา คนมีความผิดติดตัวเริ่มร้อนรน
“นี่ก็ดึกมากแล้ว เธอควรจะกลับบ้านไปได้แล้วนะ” เมื่อโดนไล่ตรงๆ กนกวดีก็ถึงกับหน้าร้อนผ่าวด้วยความอาย สีหน้าท่าทางของพิมพ์แก้วคือไม่ชอบเธออย่างชัดเจน เธอกลืนน้ำลายลงคอ หมดหวังกับค่ำคืนนี้ อุตส่าห์วางแผนเอาไว้เสียดิบดี