กนกวดีจำต้องออกไปจากงานเลี้ยงด้วยความรู้สึกหงุดหงิดในหัวใจ เธอมองคฤหาสน์หลังใหญ่อีกครั้งอย่างแสนเสียดาย
ไม่นานงานเลี้ยงก็เลิกราเพราะเจ้าของงานเมามาย ถูกหามขึ้นตึกไปแล้วนั่นเอง
“คุณพันเป็นอะไรคะพี่จักร”
“เมาไม่รู้เรื่องเลยกังวาน ช่วยหน่อยแล้วกัน คุณท่านให้พี่ลงไปช่วยเคลียร์ด้านล่าง” แม้จะเป็นห่วงกังวานว่าจะรับมือกับเจ้านายหนุ่มไหวหรือเปล่า แต่งานเลี้ยงด้านล่างก็รอให้เขาไปเคลียร์อยู่ เขาต้องจัดการส่งแขกทุกคนกลับ ปิดบ้าน และให้คนเคลียร์สถานที่ให้เรียบร้อย
ส่วนกังวานนั้นใครๆ ก็รู้ว่าประมุขของบ้านนั้นหมายหมั้นปั้นมือเอาไว้ให้ลูกชายของตน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็ไม่ควรจะเข้าไปขัดขวางหรือยุ่งวุ่นวายให้มาก
ทางด้านกังวาน หลังจากที่เธอรับไม้ต่อจากจักร ก็ต้องตกเป็นของพันทัพอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงในค่ำคืนนั้น
กลับมาณปัจจุบัน…
พันทัพโวยวายไม่ยอมรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้นซึ่งคุณพิมพ์แก้วก็เลือกที่จะเงียบเอาไว้ก่อน น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวาง ด้วยรู้นิสัยของบุตรชายดีว่ายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ แต่ยิ่งอยากให้ทำก็ดื้อแพ่งไม่ยอมทำท่าเดียว
“ถ้าคุณแม่กลัวว่าเด็กของคุณแม่จะท้อง งั้นถ้าเธอไม่ท้องผมก็ไม่รับ แบบนี้คุณแม่ก็น่าจะสบายใจนะครับ” พันทัพหาทางออกให้กับตัวเอง
ในเมื่อบุตรชายยื่นคำขาดว่าหากกังวานไม่ท้อง เขาก็จะไม่รับผิดชอบ ท่านก็พูดอะไรไม่ได้
“คุณแม่อย่าได้มาบีบบังคับผมเลยครับ ผมยอมรับว่าผิดพลาด แต่คนเราจะแต่งงานกันต้องมีพื้นฐานมาจากความรักไม่ใช่เหรอครับ ผมไม่ได้รักเธอ คุณแม่จะให้ผมอยู่กับคนที่ไม่รักอย่างนั้นเหรอครับ”
คุณพิมพ์แก้วเองก็คิดถึงเหตุผลข้อนี้ด้วย ท่านอยากสลัดดาราสาวชื่อดังนิสัยเสียแฟนลูกชายทิ้งไป พอได้จังหวะก็อยากจะยัดเยียดเด็กในบ้านให้ โดยลืมคิดไปว่า พื้นฐานความรักความเข้าใจกันของคนสองคนที่จะแต่งงานกันก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
แต่กระนั้นท่านก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะให้บุตรชายได้ร่วมหอลงโลงกับกังวาน เด็กในบ้านที่อาจจะไม่ได้ร่ำรวยมีฐานะทางสังคมอะไร แต่กลับเป็นคนดี นิสัยน่ารักและมีน้ำใจกับทุกคน ท่านรวยอยู่แล้ว จึงอยากได้คนดีคนขยันมาร่วมวงศ์ตระกูลมากกว่ารวยแต่เป็นคนไม่ดี
“ผมขอตัวก่อนนะครับคุณแม่ เอาเป็นว่ารอให้กังวานเด็กของคุณแม่ท้องก่อนแล้วค่อยมาคุยเรื่องแต่งงานกับผม”
คุณพิมพ์แก้วคิดว่าถึงแม้กังวานจะไม่ท้อง ท่านก็จะหาวิธีอื่นบีบบังคับให้ลูกชายต้องแต่งงานกับกังวานให้ได้
ท่านเมตตากังวานเป็นที่สุด คิดว่าในอนาคตพันทัพจะต้องขอบคุณท่านเสียด้วยซ้ำที่หาภรรยาที่ดีอย่างกังวานให้
พันทัพหงุดหงิดจากมารดาเป็นอันมาก ถึงแม้ว่าท่านจะบังคับเขาไม่ได้ แต่เขาก็รู้ดีว่าท่านเป็นคนไม่ยอมอะไรง่ายๆ ท่านคงจะหาวิธีให้เขาต้องแต่งงานกับเด็กกังวานอีกแน่ ๆ ด้วยความที่ท่านรักและเอ็นดูกังวานเอามากๆ แถมยังหมายมั่นปั้นมือจะยกเด็กนั่นมาเป็นเมียของเขาหลายต่อหลายครั้ง พูดกับเขาว่ากังวานดีสารพัด บางทีเขาก็คิดว่ากังวานออดอ้อนออเซาะมารดาของเขา เป่าหูให้ท่านเห็นดีเห็นงามกับเจ้าหล่อนในทุกๆ เรื่อง
เมื่อก่อนเขายอมรับว่าเอ็นดูกังวานมากๆ แต่พอรับรู้ว่ามารดาคิดเช่นไร เขาก็เริ่มไม่สบอารมณ์อยู่หลายครั้ง แม้ลึกๆ จะยอมรับว่ากังวานเป็นเด็กสาวที่หน้าตาดี สุภาพเรียบร้อย อ่อนหวานและสวยจับจิตจับใจก็ตามที
“อุ๊ย! คุณพัน” กังวานเดินมาชนเขากับพันทัพ เธอเห็นหน้าเขาก็รีบถอยหนีทำท่าจะผละห่าง เพราะหลบหน้าหลบตาเขาได้มาหลายวันแล้ว
แต่คนอยู่บ้านเดียวกัน หนียังไงก็หนีไม่พ้น แม้ว่าเธอจะออกไปทำงานที่ห้องเสื้อชื่อดังทุกวันก็ตามที แต่การทำงานก็ย่อมมีวันหยุด
เขารีบดึงร่างของเธอเข้ามาหา ร่างน้อยถูกดึงเข้ามาปะทะกับอกกว้างของเขาเต็มแรง
“โอ๊ย!” เธอร้องออกมาอย่างตกใจกับการกอดรัดที่แสนแนบแน่นนั้น มือหนาของเขาบีบแขนของเธอจนเจ็บ
“คุณพัน กังวานเจ็บนะคะ” กังวานร้องประท้วงออกมา
“เจ็บสิดี จะได้รู้ว่าทำให้คนอื่นเดือดร้อนมันเป็นยังไง” เธอนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
“สะใจเธอแล้วสิกังวาน” พันทัพเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้มดุ เขามองเธอด้วยสายตาเหยียดหยามทำเอาหญิงสาวสะบัดร้อนสะบัดหนาว กับสายตาดูถูกดูแคลนจากเขา
“คุณพันพูดอะไรคะ กังวานไม่เข้าใจ”
“อย่ามาทำไขสือ เธอคิดจะจับฉันก็ทำสำเร็จแล้วไม่ใช่เหรอ ได้นอนกับฉัน ทำให้คุณแม่มาเห็นแล้วบีบบังคับให้ฉันแต่งงานกับเธอ”
“กังวานเปล่านะคะ”
“เธอมันผู้ร้ายปากแข็ง เสียแรงที่เมื่อก่อนฉันรักและเอ็นดูเธอมาก ไม่คิดว่าเธอมันหน้าเนื้อใจเสือ คอยเป่าหูคุณแม่ ทำให้ท่านรักท่านหลงจนอยากได้เธอซึ่งเป็นแค่เด็กในบ้านมาเป็นลูกสะใภ้ ไม่อายหรือไงที่กินอยู่บ้านของเขา แต่อยากเผยอขึ้นมาเป็นนายหญิงของบ้าน” เขาผลักร่างของเธอออกห่างอย่างรังเกียจ
“โอ๊ย!” กังวานร้องด้วยความเจ็บ เสียใจกับประโยคของเขา เพราะเธอไม่เคยคิดที่จะทำอะไรแบบนั้นเลยสักครั้ง ยอมรับว่าแอบชอบเขาจริง แต่ก็แอบชอบอยู่ห่างๆ เท่านั้น ไม่เคยคิดที่จะป่ายปีนขึ้นไปอยู่ให้สูงทัดเทียบกับเขา เธอรู้ตัวเองดีว่าในสายตาของเขา เธอต่ำต้อยด้อยค่าแค่ไหน
“แล้วหลังจากนี้ล่ะ เธอมีแผนการอะไรอีก ไหนบอกฉันมาสิ” เขาดึงแขนของเธอมาหา กระชากเธอขึ้นจากพื้นพลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดุดัน
“คุณไม่อยากแต่งงานกับกังวาน กังวานรู้ดีและคุณได้ยืนยันไปแล้วว่าจะไม่แต่งงานกับกังวานไม่ใช่เหรอคะ”
“ฉันไม่อยากแต่งงานกับเธอน่ะมันแน่อยู่แล้ว”
“คุณท่านคงไม่สามารถบังคับคุณได้หรอกค่ะ” เธอพูดออกมาอย่างขมขื่น เธอเห็นว่าเขาปฏิเสธหัวชนฝา แล้วใครหน้าไหนจะบังคับเขาได้ เธอก็เห็นว่าไม่เคยมีใครบังคับอะไรเขาได้เลยสักครั้ง
จริงๆ แล้วเธอก็รู้ว่ามารดาของเขาหมายมั่นปั้นมือให้เธอเป็นภรรยาของเขา แต่พันทัพไม่เอาเด็กในบ้าน เขาปฏิเสธหัวชนฝา ก่อนที่จะไปคบกับกนกวดี ดาราดังที่มีแต่ข่าวฉาว
พันทัพไม่สนใจข่าวลือต่างๆ นานา ของกนกวดี ประหนึ่งว่าเขาอยากจะเอาชนะมารดาและด้อยค่าเธอซึ่งเป็นเพียงแค่เด็กในบ้านที่ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่รัก
“เธอพูดถูกแล้ว ฉันจะไม่ยอมแต่งงานกับเธอเด็ดขาด เพราะผู้หญิงที่มีแต่แผนการ หวังสูงแบบเธอไม่คู่ควรกับคนอย่างฉัน”
“กังวานรู้ดีค่ะ เข้าใจดีด้วยว่าคุณพันไม่เคยรักกังวานเลย” กังวานปากคอสั่น ไม่ได้อยากให้ตัวเองเป็นเช่นนี้ ไม่อยากอ่อนแอต่อหน้าเขา แต่ทำไมเธอถึงได้เป็นแบบนี้ก็ไม่รู้
“รู้ก็ดีแล้ว” เขากอดรัดร่างของเธอเอาไว้ ทำเอาคนที่พยายามขืนตัว ต้องดันอกกว้างของเขาสุดแรง
“ปล่อยเลยนะคะ”
“ทำไมฉันต้องปล่อยเธอด้วย เธอทำให้ฉันหงุดหงิดขนาดนี้ ไม่คิดจะทำให้ฉันหายหงุดหงิดใจบ้างเลยเหรอ”
“ว้าย! คุณพัน ปล่อยนะคะ ปล่อยนะ กังวานมึนหัว” เธอหวีดร้องเสียงหลงเมื่อเขาจับร่างของเธอขึ้นพาดบ่า ก่อนจะอุ้มพาไปยังเรือนเล็ก ซึ่งเป็นเรือนพักส่วนตัวของเขา
“คุณพัน! จะทำอะไรคะ” เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตกใจ เมื่อโดนผลักเข้ามาในเรือนเล็ก เรือนกล้วยไม้ที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้สบายและมีความเป็นส่วนตัวสูง
“เธอคิดว่าฉันจะทำอะไรล่ะ เมื่อหลายวันก่อน ฉันเมาไม่ได้สติ เลยไม่ได้รับรู้รสชาติที่เธอประเคนให้ แต่วันนี้ฉันไม่เมา แถมสติดีทุกอย่าง ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงที่คุณแม่อยากให้เป็นเมียฉันนักหนา รสชาติจะเป็นยังไง”
“อย่าเข้ามานคะ”
“แต่ดูแล้วเธอน่าจะจืดชืดกว่าแกงจืดที่เธอทำให้ฉันกินเสียอีก!” ประโยคของเขาสร้างความตกใจให้เธอไม่น้อย