“แม่คงต้องถามเรามากกว่านะตาพัน ว่าเราทำอะไรลงไป”
“ผมจำอะไรไม่ได้เลยครับ”
“เมื่อคืนเราเมามาก แล้วแม่ก็ให้กังวานขึ้นมาดูแลเรา แต่เราดันไปปล้ำเด็กในบ้านทำเมียนี่นะ เราจะว่ายังไง”
“จะให้ผมว่ายังไงล่ะครับ ก็ผมเมานี่ครับ ทำอะไรลงไปก็ไม่รู้สึกตัว”
“เราจะพูดปัดความรับผิดชอบแบบนี้ไม่ได้” คุณพิมพ์แก้วเสียงเขียวใส่บุตรชาย
“แสดงว่าคนดีของคุณแม่คงอยากได้ผมเป็นผัวกระมังครับ เลยฉวยโอกาสตอนที่ผมเมาไม่รู้สึกตัว ลวนลามยัดเยียดความเป็นเมียให้กับผม” พันทัพหัวเสียเลยพูดออกไปแบบนั้น ทำเอาคุณพิมพ์แก้วกับกังวานถึงกับอ้าปากค้างในทันที
“ไม่รู้ละ ยังไงแกก็ต้องรับผิดชอบกังวาน ก่อนตายนมน้อมได้ฝากกังวานเอาไว้กับแม่ แกย่ำยีกังวานไปแล้ว แกก็ต้องรับผิดชอบ” คุณพิมพ์แก้วพูดด้วยน้ำเสียงเข้มงวดปนเฉียบขาด
“แต่ผมมีคนรักอยู่แล้วนะครับ คุณแม่ก็รู้ว่าผมกับกนกวดีคบกันมาพักใหญ่แล้ว เราสองคนมีแพลนที่จะแต่งงานกันด้วย ผมคงรับผิดชอบเด็กของคุณแม่ไม่ได้หรอกครับ เพราะผมไม่ได้รักเธอ ที่สำคัญผมก็เมาไม่ได้สติด้วย” เขาค้านหัวชนฝา ด้วยว่าไม่ชอบการถูกบีบบังคับ
“แกคิดดีแล้วเหรอที่จะแต่งงานกับแม่กนกวดีอะไรนั่น” คุณพิมพ์แก้วเอ่ยถามบุตรชายด้วยน้ำเสียงจริงจัง ลูกชายรักใครท่านก็รักด้วย ไม่เคยคิดรังเกียจผู้หญิงที่ลูกชายพึงใจ แต่ก็ต้องดูเป็นคนๆ ไป ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ดี คิดแต่จะปอกลอกหรือหลอกลวง ท่านในฐานะที่เป็นแม่ก็ควรที่เตือนสติให้ได้คิดไตร่ตรองเรื่องการเลือกผู้หญิงมาเป็นคู่ไม่ใช่เหรอ
“คุณแม่อย่าอคติกับเธอสิครับ เธอเป็นดาราก็แค่มีข่าว”
“ฮึ! ไม่มีมูลจะมีใครเขียนข่าวเสียๆ หายๆ แบบนั้น”
“แต่ผมก็ไม่เอาเด็กของคุณแม่นะครับ” ยิ่งโดนยัดเยียดเขาก็ยิ่งไม่เอา เคยรักเคยเอ็นดู มาเจอแบบนี้เขาไม่ชอบใจในทันที
“เราเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่าฮึ! ทำอะไรลงไปก็ต้องรับผิดชอบสิ”
“แล้วถ้าผมเมาไม่ได้สติ ไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น ผมต้องรับพวกหล่อนเป็นเมียทั้งหมดเลยเหรอครับ” พันทัพประชดประชันมารดา นั่นทำให้คุณพิมพ์แก้วถึงกับอึ้งไป
“นี่เรากล้าพูดกับแม่ถึงขนาดนี้เชียวหรือ”
“ผมพูดความจริงครับ”
“อย่าทะเลาะกันเลยค่ะ เมื่อคืนคุณพันเมามากทำอะไรลงไปโดยไม่รู้ตัว เป็นความผิดของกังวานเองที่ไม่รีบออกไปจากห้อง ปล่อยให้เรื่องราวเลยเถิดมาถึงขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่กังวานเองก็มีสติทุกอย่าง ไม่ได้เมาเหมือนคุณพัน”
กังวานไม่อยากให้เจ้านายทั้งสองต้องมาทะเลาะกัน เธอจึงรีบไกล่เกลี่ย ยอมรับความผิดของตัวเองคนเดียว
“พูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะกังวาน เธอมีสติดีแต่จะสู้แรงคนเมาได้เหรอ” คุณพิมพ์แก้วยังไม่เลิกรา ในตอนนี้อยากจะจัดการให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย
“รู้แบบนี้ก็ดีแล้ว เธอออกไปจากห้องของฉันได้แล้ว” พันทัพไม่ได้สนใจประโยคของมารดา ยังคงหันไปเล่นงานคนข้างๆ ไม่เลิก
โดนไล่หลายรอบแบบนี้ เธอคงไม่มีหน้าจะอยู่ต่อ คนต่ำต้อยด้อยค่าเช่นเธอ จึงต้องรีบออกไปจากห้องของเขาให้เร็วที่สุด
กังวานรีบคว้านเสื้อผ้ามาสวมใส่อย่างทุลักทุเล โดยใช้ผ้าห่มปิดบังเอาไว้ เธอได้ยินเสียงไม่สบอารมณ์ของพันทัพสบถออกมาอย่างหัวเสีย เธอก็ยิ่งลนลานแต่งตัวให้เสร็จสิ้นโดยไว ท่ามกลางความไม่พอใจของคุณพิมพ์แก้วที่ยังต่อว่าลูกชายไม่เลิก
กังวานรีบวิ่งหนีออกมาจากห้องของพันทัพด้วยแข้งขาสั่นเทา รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวไปหมดทั้งเรือนกายเพราะพันทัพจัดหนักกับเธอหลายยกในค่ำคืนที่ผ่านมา เขาเหมือนเสือกลัดมันที่อดอยากหิวโหยมานานแรมปี
เธอผู้ไม่เคยร่วมรักกับชายใดมาก่อน ถึงกับเข่าอ่อน กัดฟันเดินออกมาจากห้องของเขาด้วยแข้งขาอ่อนแรง เมื่อคืนเธอพยายามหนี แต่เขาดักเอาไว้ทุกทาง ไม่ให้เธอหนีไปไหนได้ เธอถึงได้ตกเป็นของเขาแบบนี้ ถึงแอบรักเขาก็ใช่จะเต็มใจทอดกายให้ชายใดง่ายๆ
“เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ” คุณพิมพ์แก้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงดุเข้มเมื่อเด็กสาวในอุปการะของท่านวิ่งเตลิดออกไปจากห้องแล้ว
ย้อนไปก่อนหน้านี้ ท่านนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วต้องถอนใจเฮือกใหญ่
เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา พันทัพได้จัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของตัวเองหลังจากทำบุญใส่บาตรกับมารดาในตอนเช้า ซึ่งเป็นปกติที่พันทัพ ลูกชายเพียงคนเดียวของท่านจะจัดปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงเนื่องในวันคล้ายวันเกิดของตัวเอง
พันทัพนเชิญเพื่อนสนิทมาหลายคน รวมถึงกนกวดีซึ่งเป็นแฟนสาวของเขาด้วย
เพื่อนสนิทของพันทัพอันได้แก่ กานต์ ธีรภพและดลชาติ เป็นก๊วนแก๊งเพื่อนซี้ที่คบหากันมานานหลายปี เรียนจบมาด้วยกัน ผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้น
คุณพิมพ์แก้วเห็นกนกวดีวางยาบางอย่างลงในแก้วเครื่องดื่มของลูกชาย ก่อนจะนำไปให้พันทัพดื่ม แต่ท่านห้ามเอาไว้ไม่ทัน
ในสมองของคุณพิมพ์แก้วรีบครุ่นคิดที่จะจัดการกับปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงรีบไปตามจักร คนรับใช้ใกล้ชิดของพันทัพมาช่วยเหลืออีกแรง
จักรถือว่าเป็นลูกไล่ของพันทัพมาตั้งแต่เด็ก และถือว่าเป็นเพื่อนวัยเด็กของลูกชายของท่านด้วย
จักรจงรักภักดีและขยันทำงาน ท่านเองก็รักและเอ็นดูเหมือนลูกหลานในบ้าน ไม่เคยดูถูกดูแคลนว่าเป็นแค่เด็กรับใช้ แต่กลับดูแลอย่างดี ให้การศึกษาจนจักรเองก็เป็นคนมีการศึกษา เรียนจบในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง และทำงานบริษัทเดียวกันกับพันทัพ ในตำแหน่งเลขาของพันทัพนั่นเอง เนื่องด้วยรู้ใจกันเป็นอันมาก พันทัพอยากได้อะไร ต้องการอะไร จักรจะสรรหามาให้ แต่หากทำอะไรนอกลู่นอกทางหรือไม่ดี จักรก็จะช่วยเตือน ไม่ได้ตามใจเจ้านายหนุ่มไปเสียหมด
“คุณท่านมีอะไรเหรอครับ” จักรเอ่ยถาม
“ฉันเห็นแม่กนกวดีใส่ยาอะไรบางอย่างลงไปในแก้วของพันทัพ เธอช่วยจับตาดูหน่อยสิว่าแม่นั่นจะทำอะไร”
คุณพิมพ์แก้วเป็นคนตรงๆ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ไม่ชอบกนกวดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะก่อนหน้าที่กนกวดีจะมาคบกับลูกชายของท่าน ท่านเคยเจอกนกวดีตามงานต่างๆ หล่อนหยิ่งยโส วางตัวสูงส่งดูถูกคนอื่น กิริยามารยาทและนิสัยไม่ผ่านเอาเสียเลย แม้แต่กับท่านก็ยังทำกิริยาไม่ดีใส่ พอรู้ว่าหล่อนคบกับพันทัพ ลูกชายของท่าน ท่านก็เกิดอารมณ์ไม่พอใจขึ้นมาในทันที
เจอกันก่อนหน้าทำกิริยาไม่น่ามอง พอรู้ว่าท่านเป็นใครก็เข้ามาประจบประแจง เปลี่ยนเป็นคนละคน ท่านไม่ชอบคนตีสองหน้าแบบกนกวดีเอาเสียเลย
ไม่ได้จะอคติหรือเชื่อข่าวที่ออกมาในทางไม่ดีของกนกวดี แต่ท่านได้สัมผัสแล้วต่างหากว่าคนรักของลูกชายคนนี้ ไม่มีคุณสมบัติที่จะมาเป็นลูกสะใภ้ของท่านได้เลย
“เดี๋ยวผมจับตาดูให้เองครับ” จักรรีบรับคำ
พิมพ์แก้วกับจักรได้เห็นความผิดปกติของพันทัพ หลังจากนั้นไม่นาน
ลูกชายของนางโดนกนกวดีประคองออกมาจากงาน เพื่อพาขึ้นตึกใหญ่ของคฤหาสน์หลังโออ่า
“ร้อนจังเลยครับวดี ผมอยากกอดคุณให้แนบแน่นกว่านี้” สติของพันทัพหนักอึ้งมึนเบลอไปหมด ความปรารถนาพุ่งพลวดจนเขาต้องหาใครสักคนมาระบายความใคร่นี้ และคนในอ้อมแขนก็คือคนใกล้มือที่เขาจะคว้ามาร่วมสังวาสได้ในตอนนี้
“พี่พันรีบเดินขึ้นห้องกับวดีสิคะ เดี๋ยววดีจะทำให้พี่พันหายร้อนเองค่ะ” กนกวดียิ้มอย่างสมใจ พักนี้เธอคลื่นไส้อาเจียน พอไปตรวจหมอก็บอกว่าเธอตั้งครรภ์ เธอเองก็ป้องกันตลอด ไม่รู้ว่าตั้งครรภ์กับใคร แต่ที่แน่ ๆ เธอไม่ได้ตั้งครรภ์กับพันทัพแน่นอน เพราะช่วงสามเดือนมานี้ เธองานยุ่งมาก พันทัพเองก็งานยุ่งเหมือนกัน เจอกันแทบน้อยครั้ง ส่วนใหญ่จะโทร. คุยกันเสียอีก เธอเลยนอกลู่นอกทาง ผ่อนคลายไปนอนกับผู้ชายคนอื่นแทน พวกดารานายแบบดังๆ หล่อๆ คนไหนที่เธออยากลากขึ้นเตียง เธอก็แค่อ่อย ไม่มีใครปฏิเสธคนสวยๆ อย่างเธออยู่แล้ว