5

1412 Words
นิโคลัสอมยิ้ม “ครับ ผมจะพาเธอมาหาคุณเดวิดตอนแปดโมงเช้านะครับ” นิโคลัสเห็นสายตาดุๆ มองมาก็รีบก้มหน้าซ่อนรอยยิ้มรู้ทัน เดวิดเริ่มจะสนใจแม่สาวเอเชียร่างเล็กคนนั้นเข้าให้แล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทีท่าสนใจแบบนี้ แต่จะไม่ให้สนใจได้อย่างไร เพราะแม่สาวคนนั้นสวยน่ารักราวกับสโนวไวท์จริงๆ เดือนนาราไม่ต้องการนอนคุก เธอไม่ใช่หัวขโมย เธอเป็นโปรแกรมเมอร์ฝีมือดี แต่วันนี้หมดสภาพต้องหยิบแอปเปิลลูกโตในสวนคนอื่นกินเพราะหิวจัดจนตาลาย แล้วแอปเปิลที่สวนนี้มันกรอบอร่อยจนหยุดไม่ได้ แต่เจ้าของอาณาจักรสวนผลไม้พันล้านที่ส่งออกไปทั่วโลกคนนี้โหดร้ายเกินไปจะจับเธอส่งตำรวจ เธอควรหนีออกไปก่อนแล้วค่อยกลับมาอธิบายให้เขาฟัง ถ้าไม่ติดว่าจะคุยเรื่องสำคัญเธอคงจะหนีไปไม่กลับมาอีกแล้ว นึกถึงคำพูดที่เป็นเหมือนคำสั่งเสียของพี่สาวก็ทำให้หัวใจดวงน้อยฮึดสู้ ชีวิตในต่างแดนทำให้เธอรู้จักเอาตัวรอด ไม่รอคอยความตาย เดือนนาราสำรวจรอบห้องนี้แล้วก็พบว่ามีหน้าต่างชำรุดไม่ได้ซ่อมแซม เพราะเหตุนี้หรือเปล่าถึงได้ไม่มีคนอยู่ และเจ้าของสวนเลยจับเธอมาขังไว้ในห้องนี้ก่อน “ซวยจริงๆ แค่กินแอปเปิลแค่นี้ทำงกไปได้ ไหนตามข้อมูลว่ารวยระดับมหาเศรษฐีพันล้าน ไอ้เราก็นึกว่าจะเป็นสายเปย์ ที่แท้เกลือมหาสมุทรเรียกพี่ชาย” เดือนนาราเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันนึกถึงเจ้าของสวนหน้าเลือด ถ้าเรียกเก็บเงินเพื่อเป็นค่าเสียหายเธอก็จะยอมจ่ายให้ ถึงแม้จะเพิ่งเรียนจบมาแต่เธอก็มีเงินเก็บบ้าง ด้วยการที่เดือนนาราเป็นคนขยันทำให้ผลการเรียนดีมาโดยตลอดจึงได้รับคัดเลือกเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเมื่อมาเรียนที่อเมริกา คนขยันไม่ยอมอยู่นิ่งหนักเอาเบาสู้ ชีวิตเด็กมหาวิทยาลัยที่นี่เกือบทุกคนทำงานไปด้วยระหว่างเรียน เดือนนาราเห็นช่องหาประสบการณ์ไปพร้อมกับรายได้จึงสมัครเข้าโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างครอบครัวของชาวอเมริกันกับผู้คนทั่วโลกหรือเรียกสั้นๆ ว่า ‘ออแพร์’ เดือนนาราเคยทำหน้าที่ดูแลลูกๆ ให้กับโฮสต์แฟมิลี และช่วยเตรียมอาหารให้พวกเขาอยู่ในรัฐหนึ่ง เธอได้รับเงินจากการช่วยดูแลลูกของโฮสต์อยู่ไม่น้อย พวกเขาเป็นครอบครัวที่น่ารัก ใจดีมากและบอกว่าเธอดูแลลูกๆ ของพวกเขาได้ดี โฮสต์แฟมิลียังช่วยสนับสนุนเงินด้านการศึกษาให้อ**บางส่วนจนกระทั่งเธอเรียนจบ เพราะชีวิตเด็กกำพร้าทำให้เธอปากกัดตีนถีบตั้งแต่เด็ก บิดามารดาเสียตั้งแต่เธออายุสิบสอง ลุงกับป้าซึ่งมีเปิดกิจการเนอสเซอรี่เลี้ยงเธอมาแต่พอกิจการขาดทุน พวกท่านก็ไม่มีเงินส่งเสียเธอ เธอจึงดิ้นรนทำงานพิเศษทุกอย่างเพื่อหาเงินส่งเสียตัวเอง เดือนนารากลับมาสู่ปัจจุบัน ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มเมื่อหน้าต่างที่ทำจากไม้ถูกดันออกไปเพียงพอให้เธอปีนออกไปได้ หน้าต่างบานนี้มันไม่มีกลอนแต่ถูกงับปิดไว้เฉยๆ เธอเห็นจากตอนที่เดินสำรวจ บานหน้าต่างหนาหนักถูกผลักออก เอี๊ยด เดือนนาราค่อยๆ ปีนออกมา และกระโดดลงกับพื้นอย่างง่ายดาย เมื่อเท้าถึงพื้นคอนกรีต เธอจึงเพิ่งเห็นว่ามันเป็นบ้านพักคนงาน เจ้าของสวนคงทำไว้ให้คนงานอาศัย สภาพยังใหม่อยู่ทุกห้องยกเว้นห้องที่เธอเพิ่งหนีออกมา เดือนนาราไม่แน่ใจว่าจะมีใครเดินมาเห็นเธอหรือเปล่า เพราะบริเวณโดยรอบเงียบมาก มองไปที่ห้องพักข้างๆ ส่วนใหญ่จะปิดไฟนอนกันหมดแล้ว เดือนนารายิ้มอย่างโล่งอก เธอตั้งใจว่าจะหนีไปก่อนแล้วค่อยกลับมาพบกับเจ้าของสวนอีกครั้งเพื่ออธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟัง เธอหวังว่าเขาจะเข้าใจและเลิกคิดว่าเธอเป็นหัวขโมยเสียที เดือนนาราเดินด้วยฝีเท้าเงียบกริบ ยามกลางคืนภายในสวนแห่งนี้เงียบมากแต่ยังมีแสงไฟจากหลอดไฟฟ้าที่ติดไว้ทั่ว นั่นเป็นปัญหาที่ทำให้เดือนนาราต้องพยายามหาที่มืดๆ เดินเพื่อหลบเลี่ยงจากสายตาคนงานที่อาจมองเห็น บ้านหลังใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล ประมาณจากสายตาก็ราวๆ สองร้อยเมตรทำให้เดือนนาราละล้าละลังจะหลบออกจากสวนแอปเปิลที่เพิ่งเดินมาซ่อนตัวดีหรือไม่ นั่นคงเป็นบ้านของเจ้าของสวน เธอจะบุกเข้าไปหาเขาตอนนี้ดีไหม หรือว่ารอให้ถึงพรุ่งนี้เช้าดี เดือนนาราครุ่นคิด ถึงจะไม่แน่ใจว่าการได้คุยกับเจ้าของสวนนี้แล้วจะทำให้เธอได้สิ่งที่ต้องการกลับไปหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็ได้ลองคุยดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย ขณะกำลังคิดอยู่นั้น เดือนนาราก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังสวบๆ เข้ามาใกล้ๆ เธอเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นสายตาหื่นกระหายสะท้อนแสงไฟมองตรงมา “พระเจ้าช่วย นางฟ้าที่ไหนหลงมาวะเนี่ย” เสียงหื่นกระหายมากับกลิ่นเหล้าคละคลุ้ง ไม่พูดเปล่าแต่มันเอื้อมมือมาจับ เดือนนารารีบปัดมือมันออกแล้วยืดกายเต็มความสูง “อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ” “หวงตัวซะด้วย สาวน้อยเธอเป็นใครกัน พี่ไม่เคยเห็นหน้า แต่สวยบาดตาพี่มาก” แจ๊คเป็นคนงานใหม่ของสวนแห่งนี้ เขามาทำงานได้หนึ่งเดือนแล้ว มีหน้าที่คอยเก็บแอปเปิลและคืนนี้เขาต้องอยู่เวรเฝ้าสวนแอปเปิล แต่คืนนี้ดวงดีมีนางฟ้ามาอยู่เป็นเพื่อน “แล้วนายเป็นใคร ฉันรู้จักกับเจ้าของสวนนะ” เดือนนาราอ้าง “ฮ่าๆ อย่ามาหลอกกันให้ยาก ถ้าเป็นคู่ขาคุณเดวิดจริงๆ เธอต้องไปอยู่บนห้องนั้นแล้ว” ไอ้คนเมาชี้มือไปที่บ้านหลังใหญ่ที่เวลานี้ไฟปิดสนิทไปแล้ว “คืนนี้คุณเดวิดคงมีสาวไปสนุกบนเตียงด้วยแล้ว แต่ถ้าน้องสาวเหงาก็มาสนุกกับพี่ได้” แจ๊คกินเหล้าเข้าไปแล้วพูดห่ามโดยไม่ยั้งคิด หากยังสติดีเขาคงไม่พูดแบบนี้ออกมาเพราะรู้ดีว่าคุณเดวิดห้ามคนงานชายหิ้วผู้หญิงขายบริการเข้ามาในไร่ เขาเป็นลูกของคนงานเก่าแก่เลยมาทำงานโดยไม่ได้ผ่านการสัมภาษณ์จากเจ้าของสวน บางครั้งจึงชอบวางท่า เดือนนารายกมือปิดจมูกเพราะเหม็นกลิ่นเหล้า ยิ่งเห็นสายตาหื่นห่ามบวกกับกลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งยิ่งทำให้เบ้หน้า “ใครจะไปสนุกกับแกไอ้บ้า ถอยไปนะ” เดือนนาราตวาดใส่ ที่สวนนี้มันเป็นสวนคนเถื่อนหรือยังไง “ปากเก่งแบบนี้พี่ชอบ ตื่นเต้นดี มามะ มาสนุกกัน” ไม่พูดเปล่าแต่มันโถมร่างเข้าใส่เดือนนาราทันที แต่คนตัวเล็กไวกว่ารีบวิ่งหนีสุดฝีเท้าทันที “ไอ้บ้า สนุกไปคนเดียวเถอะ” เดือนนาราด่า ขณะที่สองเท้าก็ออกวิ่ง ร่างเล็กวิ่งเข้าไปตามแนวของต้นแอปเปิลที่ปลูกเรียงไว้แต่เพราะไม่ชินทางเท่ากับเจ้าของพื้นที่ พอวิ่งมาได้สักพัก ร่างท้วมใหญ่ของไอ้คนเมาจัดก็มายืนจังก้า “ว้าย” “ฮ่าๆ น้องสาวหนีพี่ไม่พ้นหรอก ชอบเล่นไล่จับก็ไม่บอก แต่ว่าพอแล้วนะ พี่เหนื่อย” เดือนนาราฟังแล้วตัวสั่นด้วยความรังเกียจ เธอหันหลังวิ่งหนีต่อแต่มันก็วิ่งตามมาคว้าข้อมือไว้ได้ทัน เดือนนาราหวีดร้องสุดเสียง ล้มลงกับพื้น ทำให้มันยิ่งตื่นตัวหื่นหัวเราะด้วยความย่ามใจรีบคร่อมกายมาทับ “ชอบตรงนี้หรือจ๊ะ ก็ได้ พี่ตามใจคนสวย” ร่างหนาใหญ่กำลังทาบทับลงมา เดือนนารารีบหาทางเอาตัวรอด สมองคิดอย่างเดียวว่าต้องมีสติ แล้วทันใดนั้น ดวงตาก็ลุกวาบเมื่อมือที่กวาดไปมาสะเปะสะปะไปสัมผัสกับก้อนหิน เดือนนาราหยิบขึ้นมาแล้วทุบลงไปบนศีรษะของคนที่กำลังก้มหน้าลงมาเต็มแรง ตุบ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD