บทที่5. ฉันไม่รู้

1091 Words
“ตั้งใจจะมาหาซื้ออยู่เหมือนกัน”  “ถ้าอยู่แต่ในโรงแรมไม่ต้องใช้ก็ได้”                ติชิลาหันไปมองชายหนุ่มด้วยสายตาขุ่นเขือง  เธอก็อยากมาเดินตลาดแบบนี้แต่ไม่มีใครพามา  เธอจะออกมาคนเดียวก็ไม่ได้  บิลลี่มองสายตาของหญิงสาวแล้วก็แหงนหน้าหัวเราะ เขาดึงข้อมือของเธอเข้ามาด้านในร้าน     พูดคุยกับเจ้าของร้านก่อนจะได้ผ้าคลุมศีรษะ3-4ชิ้นส่งใหญ่หญิงสาวเลือก เธอหยิบผืนสีครีมปักลายดอกไม้มาหนึ่งผืนแต่บิลลี่ฉวยผ้าผืนนั้นมาคลุมศีรษะให้เธอเสียเอง  “ท่าทางคุณจะชำนาญทุกเรื่องในบัดรีญาจริงๆ นะคะ”    “ผมมาบัดรีญาหลายครั้งแล้วครับ” บิลลี่มองดูใบหน้าของหญิงสาวที่อยู่ภายใต้กรอบผ้าสีอ่อนแล้วเกลี่ยเส้นผมที่เคลียแก้มเธอออก   “และผมก็เป็นคนจริงจังเรื่องงานซะด้วย ถ้าจะมาทำงานที่ก็ต้องรีเสิร์ซข้อมูลเสียก่อน”  “ฉันมาพักผ่อนเลยไม่ค่อยรู้อะไรเท่าไหร่”    “ของแบบนี้ค่อยๆ เรียนรู้ไปที่ละนิดก็ได้”   เขายิ้มเจ้าเล่ห์ และรอยยิ้มของเขาทำให้ติชิลาหลบตา  เธอมองไปฝั่งตรงข้ามเป็นร้านขายเครื่องดนตรี  ใบหน้าหวานเผลอยิ้มออกมา  “เราไปที่นั่นได้ไหมคะ”  บิลลี่มองตามนิ้วเรียวที่ชี้ไปฝั่งตรงข้าม  “ไม่มีปัญหาเรามีเวลาเยอะแยะ”  บิลลี่หันไปจ่ายเงินให้ติชิลาอย่างรวดเร็วแล้วโอบไหล่เธอพาเดินข้ามถนนเส้นเล็กๆ มาที่ร้านขายเครื่องดนตรีพื้นเมือง             “ผมได้ยินจากคุณวิชญะว่าคุณชอบวาดรูปแต่ไม่คิดว่าสนใจดนตรีด้วย”  “เราไม่ได้รู้จักกันขนาดนั้นนี่ค่ะ”  ติชิลาหัวเราะอารมณ์ดี “ฉันชอบดนตรีพื้นเมือง ถ้ามีโอกาสเวลาไปต่างประเทศ ฉันจะไปหาฟังเท่าที่ทำได้”   “เวิร์ดมิวสิค?”       “ใช่ค่ะ” เธอหยิบเครื่องดนตรีหน้าตาแปลกๆ ขึ้นมาสอบถามกับเจ้าของร้าน    โชคดีที่เจ้าของร้านพูดภาษาอังกฤษได้  แต่สำเนียงแปลกๆ ทำให้สื่อสารกันยากนิดหน่อย ติชิลาก็รู้สึกสนุกกับความรู้ใหม่ๆ ที่ได้รับ  หญิงสาวได้ยินเสียงลั่นชัตเตอร์เป็นระยะๆ จึงเงยหน้าขึ้นเห็นบิลลี่กำลังเล็งกล้องมาทางเธอ “คุณ!” “ทำต่อไปซิ ผมจะเก็บรูปไว้  แบบนั้นแหละ ดูเป็นธรรมชาติดี”    บิลลี่สั่งแล้วปรับเปลี่ยนมุมกล้องไปเรื่อย  ติชิลาเขินกล้องจึงก้มหน้าหลบกล้องแต่เขากลับหัวเราะแล้วพยายามถ่ายรูปเธอให้ได้ “พอแล้ว!” ติชิลาใช้มือยันอีกฝ่ายไว้แต่ก็หัวเราะออกมา ไม่คิดว่าผู้ชายท่าทางเจ้าชู้จะทำตัวเป็นเด็กแบบนี้ได้ “คุณควรทำตัวให้ชินกลับกล้องไว้นะ” เขาแนะนำ “ก็ฉันบอกแล้วไงว่าคุณควรใช้นางแบบมืออาชีพไม่ใช่ฉัน”  เธอเตือนเขาแล้วหันมองรอบข้าง “คนอื่นหายไปไหนกันหมดค่ะ” “ไม่ต้องห่วงหรอก เราต่างก็ทำงานของตัวเอง” บิลลี่ยิ้มที่มุมปาก  “หิวหรือยังหาอะไรกินกันเถอะ” “ก็ได้ค่ะ เมื่อเช้ายังไม่ได้กินอะไรเหมือนกัน” “อาหารเช้าสำคัญนะครับ” บิลลี่เตือนแล้วเดินจูงมือเธอออกมานอกร้าน ไม่ไกลนักมีแผงขายขนมปังหน้าตาแปลกๆ เขาซื้อแล้วส่งให้หญิงสาว “ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจของชาวบ้าน” ติชิลาหัวเราะคิกคักแล้วรับขนมปังมากัดกินคำเล็กๆ  บิลลี่จำเป็นต้องปล่อยมือของเขาออกจากข้อมือเล็กๆ ของเธอ            ชายหนุ่มเดินนำไปเรื่อยๆ ติชิลาเดินตามแต่ผู้คนที่มากมายทำเธอค่อยๆ ห่างจากเขาที่ละนิด    แต่เธอยังเห็นแผ่นหลังของเขาอยู่   ขณะที่ก้าวเท้าตามแผ่นหลังของบิลลี่เธอก็รู้สึกเหมือนถูกผลักไปด้านข้างและมีมือใหญ่มารัดเอวลากเธอเข้าไปในซอกตึก “ว้าย!”   ขนมปังในมือหล่นพื้น   ดวงตากลมโตของหญิงสาวเบิกกว้าง เมื่อร่างเล็กถูกผลักประชิดกำแพงตึก ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรอีกมือใหญ่ของอีกฝ่ายก็ตะปบเข้าที่ปากของเธอไม่ให้ส่งเสียงเสียก่อน “บอกมา! เจ้ามาทำอะไรที่นี่!!!”     บุรุษในชุดดำทมิฬขู่ตะคอก แม้มีผ้าสีดำปิดครึ่งหน้าและโพกศีรษะของเขาอยู่  แต่แววตาเคียดแค้นชิงชังที่จ้องมองเธอทำให้ติชิลาหวาดกลัว  เธอส่ายหน้าไปมาทำให้อีกฝ่ายลดมือคงแต่เลื่อนมาที่ลำคอพร้อมจะบีบให้แหลกคามือทุกนาที “คุณ...คุณ พูดเรื่องอะไร...ฉัน...ฉันไม่รู้…” “อย่ามาตีหน้าซื่อ! สารภาพมาก่อนที่ข้าจะหมดความอดทน!”  เขาออกแรงเพียงนิดเดียวหญิงสาวก็ปวดร้าวไปทั่วลำคอ “ฉันไม่รู้! คุณจำคนผิดแล้ว!” “ทำไมข้าจะจำคนตระกูลจิตรกัญญาไม่ได้” “ฉัน...เอ่อ...ครอบครัวฉันไปทำอะไรให้คุณ!” ติชิลาพยายามกลั้นไม่ให้น้ำตาของความหวาดกลัวไหลออกมา “ฉันเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก” ชายในชุดดำหัวเราะในลำคอ “อย่าคิดว่าข้าจะเชื่อในสิ่งที่พูด” “ฉันไม่เข้าใจ! พวกฉันไปทำอะไรให้” “ติชิลา! ติชิลา!”  เสียงบิลลี่ตะโกนเรียกทำให้บุรุษในชุดดำชะงักไป     เขาปล่อยมือจากลำคอของเธอ  หญิงสาวเข่าอ่อนทรุดลงไปนั่งกับพื้น เธอหอบหายใจแรงจนต้องยกมือขึ้นกุมหน้าอก “ติชิลา!”  บิลลี่ตะโกนแล้วรีบวิ่งเข้ามาหาเขาประคองหญิงสาวให้ลุกขึ้นยืน  “คุณมาทำอะไรที่นี่” “เมื่อกี้...เมื่อกี้” ติชิลาพูดตะกุกตะกักแต่พอเหลียวมองรอบข้างก็ไม่เห็นผู้ชายในชุดดำคนนั้นแล้ว “ผมเสียใจที่ปล่อยให้คุณหลงทาง” เขาโอบหญิงสาวมากอดและปลอบโยน “มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด!”   ติชิลาพยายามจะอธิบายแต่เธอรู้สึกหวาดกลัวหนักขึ้น        “ตัวสั่นเชียว  คุณกลัวมากสินะ วันนี้เรากลับโรงแรมก่อนดีกว่า”     บิลลี่ประคองหญิงสามออกมาจากตรอกเล็กๆ แต่ติชิลาอดเหลียวมองไปอีกครั้งไม่ได้แววตาเมื่อครู่เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน    แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ? เรื่องอะไรกัน!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD