เลิกเรียน
ปี๊น
"ว้าย" ฉันสะดุ้งจนสุดตัวเมื่อจู่ๆ เสียงแตรรถก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของตัวเอง
"ไปส่งไหม" เป็นพี่โทโมะนั่นเอง เล่นเอาซะน้องมาวินคนสวยตกอกตกใจไปหมดเลยนะคุณพี่!
"ยินดีค่ะ" เพราะพี่เขาดูเป็นคนดีอยู่พอตัว ฉันเลยรู้สึกไว้ใจพี่เขา
"ขอบคุณนะคะ" ฉันก้มหัวนิดนึงให้พี่โทโมะที่ลงมาเปิดประตูรถให้กับฉัน
"วันนี้อาจารย์งานเยอะไหม" พี่โทโมะชวนคุยเมื่อเห็นฉันนั่งเกร็งๆ ไม่ยอมพูดจา ก็แหงละ! คนมันเกร็งจริงๆ หนิ แล้วจะให้พูดอะไรอีกละ!
"ไม่ค่ะ ช่วงนี้ใกล้ปิดเทอมงานน้อยค่ะ" ฉันยิ้มอ่อนๆ "แล้วพี่โทโมะละคะปีสามงานคงเยอะน่าดู"
"ใช้ได้ครับแต่พี่เคลียร์จบหมดแล้ว" พี่เขาหันมายิ้มให้ฉันครู่นึงก่อนจะหันไปสนใจถนนลาดยางตรงหน้าตามเดิม
"ทานข้าวกันหน่อยดีไหมครับ พี่เป็นเจ้ามือเอง" ว่าจบพี่แกก็ตบกระเป๋าตัวเองดังปุๆ แหม... พ่อหนุ่มทรงป๋าสินะ
"ดีเหมือนกันค่ะ มาวินหิว" ฉันมักจะมีความรู้สึกว่าหิวมากๆ หลังจากที่เลิกเรียนเสมอแหละ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
แม่บุญโภชนา
"ร้านนี้หรือครับที่น้องมาวินเล่าให้พี่ฟังว่าเป็นร้านอีกสาขาของคุณตาและคุณยายของน้องมาวิน" โทโมะกวาดสายตาดูร้านหรูที่ตกแต่งสไตล์ไทยแท้อย่างชื่นชม แม้ร้านตรงหน้าจะไม่ใช่ร้านที่ใหญ่โตโอ่อ่าอะไรมากมาย แต่ก็ถือว่าเป็นร้านที่ตกแต่งได้สวยงามมากจริงๆ
"ใช่ค่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ มาวินขอเป็นคนเลี้ยงพี่ดีกว่าค่ะ ถือว่าตอบแทนที่พี่อุตส่าห์ไปส่งมาวินถึงแมนชั่น" ฉันยิ้มกว้างโชว์ฟันทั้งสามสิบสองซี่
"งั้นพี่ไม่เกรงใจละนะ" โทโมะยกมือขึ้นถูกันเบาๆ ฉันก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงพี่คีตะ เดี๋ยวนะ! ละฉันจะมาคิดถึงนายคนนั้นไปทำไมก่อน!
"เต็มที่ค่ะ" ฉันว่าก่อนจะยื่นเมนูอาหารประจำร้านไปให้พี่เขาได้เลือกดู
"เดี๋ยวมาวินไปตักน้ำแข็งให้ดีกว่าเนอะ ว่าแต่...พี่กินน้ำกระเจี๊ยบไหมคะ?"
"ไม่เคยกินมาก่อนเลยครับ" โทโมะถึงกับยกมือเกาหัวตัวเองเบาๆ เพราะเขาไม่รู้จักกระเจี๊ยบที่หญิงสาวพึ่งจะกล่าวออกมาจริงๆ
"เอาเป็น...น้ำเปล่าดีกว่าครับ"
"สักครู่นะคะ"
"ทำไมถึงชื่อมาวินละครับ ถามได้ไหม" โทโมะชวนสาวรุ่นน้องพูดคุยขณะที่ทั้งคู่กำลังนั่งรออาหารที่สั่งไปมาเสิร์ฟ
"พอดี...ตอนที่แม่ของมาวินท้องมาวิน แม่แกอยากได้ลูกชายมากค่ะ ทีนี้พออัลตร้าซาวด์ดูแล้วหมอก็แจ้งให้แม่ทราบว่ามาวินเป็นเด็กผู้ชาย คุณยายท่านก็เลยตั้งชื่อนี้มาตั้งแต่ตอนที่มาวินอยู่ในท้องแม่ว่ามาวิน ก็เลยได้ชื่อมาวินเลยค่ะ"
"น่ารักดีครับ" โทโมะ... ถึงกับละสายตาจากผู้หญิงคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ไม่ได้แม้แต่เสี้นววินาทีเดียว ด้วยว่ามาวินนั้นเป็นผู้หญิงที่ผมดำขลับยาวสลวย ประกอยด้วยแพขนคิ้วที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามจนหญิงสาวไม่ต้องเสียเวลาไปกัยการเขียนคิ้วให้กับตัวเอง จมูกกระจิ๋วที่โด่งเป็นสันนั้นรับกับปากสีแดงจัดเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องพึ่งลิปสติกเลยแม้แต่น้อยนั้นได้ดี ทั้งยังมีใบหน้ารูปไข่กับดวงตากลมใสเหมือนลูกแก้ว เลยยิ่งทำให้คนที่ได้สัมผัสกับเธอแบบผิวเผินอย่างโทโมะไม่สามารถที่จะละสายตาจากเด็กสาวไปได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว
"พี่โทโมะคะ?"
และกว่าที่เขาจะหลุดจากภวังค์ความสวยนั้นมาได้ก็เมื่อตอนที่หญิสาวร้องเรียกบอกเขาว่าอาหารที่สั่งไปเมื่อครู่นั้นได้ถูกวางวางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะแล้วแล้วในตอนนี้
"เอ่อ...คือ"
หลังจากที่โทโมะได้กวาดตามองอาหารที่อยู่บนโต๊ะทำให้เขาถึงกับเหงื่อตกซิกในทันที เพราะเขาไม่ชอบทานแกงส้มเป็รการส่วนตัว และไม่ชอบกินไข่เจียวชะอมเพราะเกลียดกลิ่นเหม็นฉึ่งของมัน ที่เหม็นมากเสียจนจนเขาแทบจะปล่อยอ้วกออกมาต่อหน้าดุจสิตาในตอนนี้
"ก็รู้อยู่แล้วว่าคนรวยอย่างพี่ต้องไม่ชอบกิน มาวินเลยสั่งสเต็กปลามาเผื่อพี่แล้วค่ะ"
"ขอบคุณมากครับมาวิน"
"มาวินเข้าใจค่ะ ยังไงก็ลองกินสเต็กปลาดูก่อนนะคะ เมนูใหม่จากทางร้านของเราเองค่ะ"
ฉันผายมือให้พี่เขาทานสเต็กก่อนจะทำการยกไข่เจียวชะอมจานนั้นไปส่งคืนในห้องครัวด้วยตัวเอง ก็ทำไมฉันถึงจะดูไม่ออกว่าพี่เขามีท่าทีพะอืดพะอมแค่ไหนที่ได้กลิ่นชะอมชุบไข่ทอดที่ฉันเป็นคนสั่งมา
"สเต็กปลาเป็นของโปรดพี่เลยครับ" เขาพูดออกมาจากใจจริง และหญิงสาวก็ดูออกว่าเขานั้นไม่ได้แกล้งทำ
"ขอพี่ลองชิมหน่อยได้ไหมครับ แหะๆ"
"รอแปปนะคะ" ฉันตอบรับอย่างยินดีที่พี่เขาสนใจจะลองดื่มน้ำกระเจี๊ยบ จึงรีบลุกขึ้นไปเพื่อกดน้ำกระเจี๊ยบให้กับพี่เขา
"พี่โทโมะคะ!" ฉันตกใจจนลูกตาแทบจะถลนเมื่อกลับมาถึงโต๊ะแล้วพบว่าพี่แกกำลัยกแก้วน้ำที่ฉันกินเหลือเอาไว้ครึ่งแก้วขึ้นไปดูดกินจนหมด
"ขอโทษครับ... พี่แค่หิวน้ำไม่ได้จะวิสาสะกินน้ำในแก้วของน้องมาวินเลยครับ"
"พูดอะไรอย่างนั้นคะ" ฉันหัวเราะให้กับท่าทีเหมือนผู้ร้ายถูกตำรวจต้อนเข้ามุมของพี่เขา
"ที่มาวินตกใจเพราะกลัวว่าพี่จะรังเกียจนะคะ"
"อ๋อ...ครับ โล่งใจไปที"
"แล้วเป็นไงคะ อร่อยไหมเอ่ย" ฉันยกสองมือขึ้นมประสานกันไว้ใต้คางอย่างรู้สึกตื่นเต้น เพราะมันเท่ากับว่านับเป็นการดื่มน้ำกระเจี๊ยบครั้งแรกในชีวิตของพี่เขานั่นเอง
"อร่อยมากครับ น้ำสีแดงๆนี้ที่มาวินเรียกว่าน้ำกระเจี๊ยบน มีรสชาติที่เปรี้ยวอมหวานกำลังดี กินแล้วทำให้สดชื่นใช่ได้อยู่ครับ ไม่แน่ใจว่าทางร้านเขาจะพอมีขายเป็นแบบขวดไหมครับ"
"นี่ค่ะ สองขวดนี้ยี่สิบบาท" ฉันฉีกยิ้มกว้างอย่างจริงใจก่อนจะส่งน้ำกระเจี๊ยบสองขวดไปไว้ตรงหน้าเขา
"ยี่สิบ ยี่สิบเองนะเหรอ?"
"ใช่ค่ะพี่ฟังไม่ผิดหรอก พี่รับไปเถอะหนูไม่คิดตังค์ ถือซะว่าเป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ จากหนูนะคะ"
ฉันอดไม่ได้จริงๆ ที่จะสงสัยว่าพี่เขากินอะไรเป็นอาหารกันแน่นะถึงได้โตมาจนถึงขนาดนี้ หรือว่าบางทีคนรวยเขาไม่กินอาหารพื้นบ้านเหมือนกันกับเรา ไม่หรอกน่า... ขนาดพี่คีตะที่บ้านเขารวยขนาดนั้นยังกินได้เลย ก็คงจะเป็นความชอบส่วนบุคคล...มั้งนะ
เสน่ห์แรงจริงๆ ลูกสาวของแม่เหยินคนนี้ แรงเกินจนถึงขั้นสองหนุ่มฮอตของมหาลัย แข่งกันขายขนมจีบให้น้องกันเลยทีเดียวเชียว ธรรมดาซะที่ไหน ฮ่าๆๆ 🤣