“กลับไปแล้ว ผมต้องเข้าไปคุยกับเจ้าสัวเรื่องของเราเสียที”
พรลักษมีชะงักมือที่กำลังจัดการกับอาหารในจาน ปฏิเสธทันควัน
“ไม่นะคะ”
“ทำไม!” จักรพรรดิแทบตวาดถามด้วยความไม่พอใจเมื่อได้ยินว่าเธอปฏิเสธ
“ฉัน... เรา...เอ่อ...เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วนี่คะ”
คนฟังวางช้อนและมีดลงบนจานแทบเป็นกระแทกกระทั้น ยกผ้าซับมุมปากแล้วประสานมือย้อนถามเธอเสียงกร้าวกรุ่นด้วยอารมณ์โกรธ
“เป็นแบบนี้? นี่คุณพูดอะไรออกมารู้ตัวบ้างไหม
มีแต่ผู้หญิงอย่างว่าเท่านั้นที่คิดอย่างนั้นน่ะ
แต่คุณกลับอยากให้เราเป็นแบบนี้?”
“ฉันยังไม่อยากผูกมัดตัวเอง คุณเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน จะเดือดร้อนทำไมคะ”
ใช่เขาเดือดร้อน เดือดจนร้อนจนไหม้เพราะเธอไม่แคร์ที่จะมีหรือไม่มีเขาก็ได้ เธอถึงได้คิดเช่นนั้น จักรพรรดิไม่ชอบความรู้สึกอึดอัดเช่นนี้ ไม่เคยต้องมาตามต้อนผู้หญิง ไม่เคยอยากลงหลักปักฐานกับใคร และเขากำลังจะบ้าตายเพราะเธอ
“ตามใจ อยากเป็นแบบนี้ก็ตามใจ คบแบบเปลืองเนื้อเปลืองตัวแบบนี้สินะที่ชอบ พอเบื่อก็หาเรื่องเลิกกัน … แบบนั้นใช่ไหม”
เขาตวาดถามสรุปประชดประชันใส่อารมณ์กับเธอ
“ดีไม่ต้องแต่งมันแล้ว อยู่กันแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนแก่จนตายจากกันไปเลยก็ดี!” เขาสรุปส่งท้ายด้วยคำพูดกระแทกแดกดันแบบที่เธอไม่เคยเห็น
“ฉันไม่อยากคุยแล้ว คุณใช้แต่อารมณ์ไม่มีเหตุผลเลย”
“ใช่! ผมใช้แต่อารมณ์ แบบนี้ก็เหมือนกัน”
จักรพรรดิจบประโยคตรงเข้ามาดึงเธอลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารสวมกอดรัดแน่นปล้นจูบเอาแต่ใจ
“ปล่อยฉันนะ นี่คุณจะข่มขืนฉันเหรอ”
“อยากลองรสชาตินั้นหน่อยไหมล่ะ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีสาวไหนได้รับเกียรตินั้นจากผมเลยสักคน”