EP 14

1144 Words
ตอนที่ 3   “แล้วว่าแต่เรื่องบ้านกับโรงงานตกลงเพลงทำยังไงล่ะลูก พรุ่งนี้ก็จะถึงกำหนดแล้วนะ แล้วหาเงินได้มั้ย ไม่เห็นเพลงบอกพ่อเลย หรือเห็นพ่อไม่มีความหมายแล้ว” เขาส่งน้ำเสียงต่อว่าเล็กน้อย แต่เธอก็รู้ว่าพ่อไม่ได้จริงจังกับคำพูดเท่าใดนัก “คุณพ่อคะ คุณพ่อเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตเพลงค่ะ แต่เพลงไม่อยากให้คุณพ่อคิดมาก เพลงก็เลยยังไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง แต่เพลงก็กำลังจะมาบอกค่ะ ว่าเพลงตกลงจะไปทำงานใช้หนี้เขา มันดูจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด และเพลงก็ไม่ต้องไปรบกวนใครๆ ด้วยค่ะ คุณพ่อเห็นด้วยไหมคะ” เธอบอกพ่อในที่สุด “แล้วเขาให้เราทำอะไรบ้างล่ะเพลง ทำงานแค่ห้าปี แลกกับเงินตั้งห้าสิบล้าน มันไม่น้อยไปหน่อยเหรอลูก” เขาไม่วายจะสงสัย เพราะนั่นคือคำถามที่มีในใจเขา ตั้งแต่วันแรกที่ลูกสาวเอามาบอกเล่าแล้ว “โธ่! คุณพ่อคะ เพลง  น่ะอินทีเรีย ดีไซเนอร์ ปริญญาโทจากนอกนะคะ ทำงานแป๊บๆ ก็หาเงินให้เขาได้มากกว่าที่เรายืมอีกค่ะ” ลูกแสร้งทำน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจไปอย่างนั้น “ยังไงลูก” “คือเขาให้เพลงทำงานตามที่เพลงเรียนมานี่ล่ะค่ะ ปีๆ หนึ่งเพลงก็จะต้องหาลูกค้าที่กระเป๋าหนักๆ เข้าบริษัทเขาเยอะๆ ให้ได้มากที่สุดค่ะ ช่วงนี้ธุระกิจด้านนี้กำลังบูมค่ะ อีกไม่นานเพลงก็ทำเงินคืนให้เขาได้แล้วล่ะค่ะ คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ แต่ว่าช่วงที่เพลงไปทำงาน เพลงคงไม่ได้มาอยู่ที่นี่นะคะ จะมาหาคุณพ่อได้ก็เฉพาะคืนวันเสาร์ แล้วก็คืนวันอาทิตย์ค่ะ เพราะเพลงหยุดวันอาทิตย์วันเดียว” เธอจัดแจงแต่งเรื่องให้พ่อเชื่อ “แล้วทำไมมานอนบ้านเราไม่ได้ล่ะลูก” แต่พ่อก็ยังสงสัยไม่วาย “ก็บริษัทอยู่ไกลค่ะคุณพ่อ เพลงก็คงจะเดินทางไปมาไม่ไหวหรอกค่ะ แล้วอีกอย่าง เพลงก็ไม่มีรถ เพลงพักที่ออฟฟิศเลยค่ะ เขาทำที่พักไว้ให้คนงานต่างจังหวัดพักด้วย น่าอยู่มากๆ เลยค่ะ คุณพ่อไม่ต้องห่วงเพลงนะคะ” ลูกยอมโกหกเพื่อให้พ่อโล่งใจ “พ่อค่อยสบายใจหน่อย ทำงานกับเขาก็ทำตัวดีๆ นะลูก ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด และอดทนนะลูก อย่าทำไม่ดี เพราะบาป กรรมทุกวันนี้มันเดินทางเร็วเหลือเกิน ไม่นานมันก็ตามมาทันในชาตินี้แล้ว ไม่ต้องรอให้ถึงชาติหน้าหรือชาติไหนหรอก แต่พ่อว่าลูกพ่อเป็นคนดี พ่อภูมิใจในตัวลูกจริงๆ เลย” เขาสอนลูกพร้อมๆ กับยิ้มจางๆให้ แต่ในใจนั้นมันช่างเศร้าเหลือเกิน เมื่อคิดถึงกรรมที่ตัวเองกำลังรับอยู่ในตอนนี้ และยังผลให้ลูกต้องลำบากไปเป็นลูกจ้างคนอื่น “ค่ะคุณพ่อ เพลงจะจำคำสอนคุณพ่อไว้ค่ะ งั้นคุณพ่อพลิกตัวก่อนนะคะ นอนนานๆ เดี๋ยวจะเป็นแผลกดทับ เป็นแล้วมันรักษายาก หรือคุณพ่อจะนั่งไหมคะ เพลงจะอ่านหนังสือให้ฟังค่ะ” เธอพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะรู้สึกไม่ดีที่โกหกผู้ใหญ่ “เอางั้นก็ได้ลูก นานๆ ทีจะมีคนอ่านหนังสือให้ฟัง เจ้าโป่งมันก็หูตาไม่ค่อยดีแล้วช่วงนี้ อีกอย่างก็เกรงใจมันด้วย มันช่วยงานสารพัด” พ่อยิ้มให้ลูกด้วยความรักและเอ็นดูยิ่ง   ใบหน้าคมสัน ผิวขาวสะอาด นั่งกับเก้าอี้ห้องทำงาน พร้อมทั้งเอาขาไขว้ห้างด้วยความสบายใจ เขามองไปหาเพื่อนที่ตั้งแต่ก้าวแรกที่มาถึงบ้านเขา ก็ก้มหน้าก้มตาอ่านสัญญาที่เขาเขียนขึ้น เพื่อจะให้กับลูกศัตรู “แกจะไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอไอ้ดำ นี่มันสัญญาทาสชัดๆ นะ อะไรกัน ใจคอแกจะไม่ยอมอ่อนข้อให้ทางโน้นบ้างรึไง” พิสิทธิ์ค่อนขอดเล็กน้อย หลังจากเข้าใจเนื้อความในสัญญาแล้ว “ทำไมฉันจะต้องอ่อนข้อให้พวกมันด้วยล่ะ แกจำไม่ได้เหรอ ว่าตอนที่ฉันไม่มีกิน แล้วกระเสือกกระสนไปพึ่งใบบุญพ่อแกน่ะฉันอยู่ในสภาพไหน” เขาไม่วายจะต่อว่าเพื่อน “ไอ้จำได้มันก็จำได้ แต่แกก็ไม่ได้สูญเสียอิสรภาพซะหน่อย แล้วนี่อะไร อาทิตย์หนึ่งอยู่บ้านแกตั้งหกวัน จะกลับไปหาพ่อก็ต้องรีบกลับมาให้ทันตีห้า สายนาทีเดียวก็เป็นอันว่าสัญญายกเลิก มันจะไม่โหดไปหน่อยเหรอ แล้วถ้าเกิดเขาไปไหน แล้วเกิดเหตุฉุกเฉินจนมาไม่ได้ หรือมาไม่ทัน หรือมีอุบัติเหตุจนทำให้มาไม่ได้ ไอ้ที่เขาทำงานกับแกมามันก็สูญเปล่าสิวะ” เขาแย้งเพื่อน เพราะเห็นว่าสัญญาที่ทำนั้น ไม่ค่อยยุติธรรมสักเท่าไหร่ “ก็แล้วแต่เขาสิ กลัวจะมาไม่ทันก็ไม่ต้องกลับ แกอย่ามาว่าฉันนะ แกเป็นทนายของฉัน มีหน้าที่ทำงานให้ฉัน ไม่ใช่ไปเห็นใจฝ่ายตรงข้าม” เขาไม่วายจะว่าเพื่อนกลับ แต่ก็ไม่จริงจังอะไรนัก แล้วพิสิทธิ์เองก็รู้ดี “ไปได้แล้ว แม่นั่นมารอก่อนเวลาตั้งชั่วโมงหนึ่งแล้ว สงสัยกลัวจะมาสาย เลยเผื่อเวลาไว้ซะเยอะเลย” เขาบอกแล้วก็เดินนำหน้าพิสิทธิ์ไป โดยไม่สนใจจะฟังคำติติงของเพื่อนแม้แต่น้อย จนพิสิทธิ์ต้องส่ายหน้าแล้วก็เดินตามเขาไปอย่างไม่มีทางเลือก “ว่ายังไง ตกลงวันนี้เธอมีเงินมา หรือจะมาทำงาน” เขาถามทันทีที่เข้ามาถึงห้องรับแขก ทั้งๆ ที่เขาเองก็พอจะอ่านเกมส์ออกว่าไม่มีวันที่ระพีพรรณจะหาเงินมาคืนเขาได้เป็น แล้วเขาก็ทรุดตัวลงนั่ง และเอาขาไขว้ห้างอย่างไม่แยแสต่อสายตาโสภาที่มองมาที่เขาอย่างขุ่นเคือง “ฉันจะมาทำงานค่ะ เตรียมข้าวของมาแล้ว และนี่ก็พยานของฉันค่ะ คุณโสภา” เธอบอกเขาออกไปด้วยน้ำเสียงที่เรียบ และไม่คิดอะไร เพราะเธอตั้งใจมาอย่างแน่วแน่แล้วว่า จะต้องอดทนให้มากที่สุด เพราะไม่เช่นนั้นเธอก็อาจจะทำภารกิจไม่สำเร็จ ดังที่ตั้งใจเอาไว้ก็ได้ แล้วเธอก็ให้สัญญากับตัวเองว่า ต่อให้เขาทำอะไรกับเธอมากแค่ไหน เธอก็จะไม่ถือโทษโกรธเคือง เพราะเธอเองก็เข้าใจเขาค่อนข้างมาก กับการกระทำของผู้เป็นพ่อและพี่ชาย ที่ทำต่อเขาและครอบครัว 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD