รอให้นางตื่นหรือหลับมาก่อน ไม่เคยมีเสียงพูดคุยด้วยอย่างใส่ใจ อย่างจงรักภักดีเช่นนี้
และนี่ก็คงไม่ใช่ที่ที่เป็นของนางอย่างแน่นอน แล้วที่นี่คือที่ใด
“ท่านแม่ทัพต้องออกไปที่ภูเขาหนานฝู่ ท่านให้บ่าวคอยดูแลคุณหนูที่ในห้องนี้ รอจนกว่าท่านแม่ทัพจะกลับมาเจ้าค่ะ”
คำตอบจากปากสาวใช้ที่ยืนรอคำสั่งทำเอาหัวใจขององค์หญิงหลี่เยี่ยนถิงแกว่งไกวไม่น้อย นางคงไม่ต้องเอ่ยคำถามแล้วว่าที่นี่คือที่ใด
ที่แท้ห้องนี้ก็คงเป็นจวนของจางซงหยวน
เมื่อคืนขณะที่นางลอบเอาสาส์นออกนอกวัง นางพบกับเงาร่างดำเงานั้น ไม่ใช่ใครที่แท้เป็นแม่ทัพจาง เขาไม่ใช่ว่าพยายามจะเอาความลับจากนางให้ได้หรอกหรือ แล้วยังจะพาไปพบองค์ฮ่องเต้อีกด้วย เขาให้นางเลือกว่าจะไปที่ใด
“มีหนทางให้องค์หญิงสามเลือกสองทาง” เสียงทุ้มกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ให้กระหม่อมนำสาส์นในมือกล่าวทูลต่อฮ่องเต้เดี๋ยวนี้เลยหรือ...”
เสียงห้าวหยุดชั่วขณะ หลี่เยี่ยนถิงช้อนดวงตาจากม้วนไม้ไผ่ในมือมองไปยังเขา สบเข้ากับดวงตาสีดำสนิทที่อ่านแววตานั้นไม่ออกก็พลันรู้สึกราวกับกำลังถูกดูดเข้าไปในดวงตาคู่นั้นแล้ว
ความเงียบทำงานอย่างรู้หน้าที่ของมันดี นานจนนางหายใจไม่ออกจำต้องหลุดเสียงแผ่วเบาถามออกไป
“หรืออะไร”
“…ไปที่จวนของกระหม่อม”
นางดิ้นรนสุดกำลังต่อสู้กับแม่ทัพที่นำขุนพลเป็นหมื่นไปสู้รบที่ชายแดน แม้จะพบจุดจบของตัวเองตั้งแต่ยังไม่สู้ แต่นางก็ยังดิ้นรนสู้เขา สุดท้ายก็...
นี่เขาพานางมาที่จวนของเขาจริง ๆ อีกทั้งยัง...ยังคิดเอาเปรียบตอนนางหมดสติอย่างนั้นหรือ
นางรู้เรื่องพวกนี้ ได้ยินเรื่องเหล่านี้มาไม่น้อยจากสาว ๆ ในหอของพี่อวี้หลันมาไม่น้อย สาว ๆ ในนั้นมักนำเรื่องราวเสียตัวครั้งแรกมาคุยอย่างสนุกปากเสมอเวลาที่นางแวะไปหา ไปคุยเล่นกับพี่อวี้หลัน
หลี่เยี่ยนถิงคิดเคียดแค้นในใจแต่ทำอะไรไม่ได้ คนก็ไม่อยู่แล้วจะให้นางไปถามหากับใครได้อีก แต่ถึงเขาอยู่นางก็คงไม่กล้าถามเขาซึ่ง ๆ หน้า นางไม่เคยใช้สิทธิขององค์หญิงที่ติดตัวนางมาด้วยซ้ำ อยู่อย่างหวาดระแวง อยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรี ชาวบ้านชาวช่อง นางสนมกำนัล บ่าวใช้ในวังยังมีชีวิตดีกว่านางเสียอีก
“บ่าวเตรียมน้ำร้อนไว้ให้นะเจ้าคะ คุณหนูล้างเนื้อล้างหน้าก่อนเถอะเจ้าค่ะ”
ไม่เคยมีใครเตรียมน้ำให้นางไว้ล้างหน้าล้างตัวมาก่อน นางจึงรู้สึกขัดเขินอยู่บ้าง ขณะขยับตัวจะลุกก็ยิ่งปวดเสียดไปทั้งเบื้องล่าง หลี่เยี่ยนถิงช้อนสายตามองไปยังบ่าวรับใช้ที่จ้องจะเข้ามาประคองช่วยเหลือก็เอ่ยเบา ๆ ว่านางไปเองได้ รอให้สาวรับใช้ผู้นั้นจากไปค่อยพาร่างเล็กบางลุกออกจากเตียง หันกลับไปมองยังเตียงนอนของนางก็พบว่ามีคราบเลือดเปรอะจาง ๆ ทั้งที่นอนนั่นก็ยับย่นราวกับเกิดศึกที่บนนั้นอีกด้วย
แม่ทัพชั่วช้าผู้นั้นถือโอกาสเอาเปรียบนางในตอนที่หลับอยู่ น่ารังเกียจ ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก
ล้างเนื้อล้างตัวแล้วก็พบว่าชุดใหม่พับรอให้นางนำมาสวม บ่าวรับใช้เข้ามาช่วยนางแต่งตัวอีกทั้งยังหวีผมให้นางด้วย หลี่เยี่ยนถิงนั่งนิ่งๆ อยู่เป็นชั่วเวลาหนึ่งค่อยเปิดปากพูด
“ข้าอยากออกไปจากที่นี่”
“ยังไปไหนไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ ต้องรอให้ท่านแม่ทัพกลับจากปราบโจรภูเขาเสียก่อน”
ได้ยินเข้าอย่างนั้นแล้วนางก็เม้มปากบาง ๆ ของตัวเองครุ่นคิดหาทางกลับไปยังวังร้างของนาง
“กินอะไรก่อนนะเจ้าคะ”
นางมองอาหารหน้าตาดูดีกว่าอาหารของนางที่ในวังหลวงก่อนจะกินทีละคำช้า ๆ
“อร่อยหรือไม่เจ้าคะ”
หลี่เยี่ยนถิงยิ้มพยักหน้าเมื่อพบว่าอาหารที่สามใช้ยกมาให้นางนั้นอร่อยไม่น้อย นางยิ้มพลางกล่าวชม “อือ อร่อยมาก”
“อร่อยก็กินให้หมดนะเจ้าคะ บ่าวยืนคอยที่ข้าง ๆ หากคุณหนูต้องการสิ่งใดเรียกบ่าวนะเจ้าคะ”
หลี่เยี่ยนถิงนั่งกินอาหารจนอิ่ม ไม่เคยกินอาหารได้เยอะเท่านี้มาก่อน แม้จะเป็นเชื้อพระวงศ์แต่ใครจะเชื่อหากนางบอกว่าอยู่ในวังที่เก่าร้างมีเพียงหญิงใบ้ที่อยู่ด้วยอีกคน จะว่าคอยรับใช้นางก็พูดได้ไม่เต็มปาก อาหารการกินนางเรียนรู้ที่จะทำกินเองด้วยซ้ำ
นึกถึงชะตากรรมตัวเองพร้อมถอนลมหายใจออกมายาว ๆ ก็พอดีกินอิ่ม หลี่เยี่ยนถิงจะเก็บจานชามด้วยตนเองเพราะคุ้นชินเช่นนั้นแต่แล้วหญิงสาวใช้ก็ไม่ปล่อยให้นางลงมือทำ นางมองว่าตนไม่มีงานมีการทำแล้วก็ค่อยเดินเลี่ยงทำทีจะออกจากห้อง โดยมีหญิงผู้นั้นเดินตามนางมาด้วย จึงทำทีพูดแก้เก้อออกไป
“สวนนั่นสวยทีเดียว”
“คุณหนูอยากออกไปเดินย่อยไหมเจ้าคะ”
“ไปได้หรือ”
หญิงบ่าวผู้นั้นอมยิ้มน้อย ๆ แววตาที่ใช้มองมาที่นางก็ออกจะเอ็นดูนางไม่น้อย ดูจริงใจเสียยิ่งกว่าคนในวังที่นางเจอมาตั้งแต่เกิดเสียอีก เห็นแล้วรู้สึกไว้ใจ อบอุ่นใจไม่น้อย
“ได้สิเจ้าคะ บ่าวพาไปนะเจ้าคะ”
สาวรับใช้บอกนางแล้วพานางเดินไปยังสวนภายในจวนที่มีภูเขาจำลอง น้ำตกจำลอง บ่อ คลองสวยงาม ที่ภายนอกมีของเช่นนี้อย่างที่จำลองจริง ๆ หรือ นางไม่เคยเห็นมาก่อน ชีวิตทีเพียงวังร่างเก่า ๆ และเส้นทางลับเล็ก ๆ ที่นางใช้สัญจรออกนอกวังเพียงเท่านั้น
“อาจู”
“มีอะไรหรือ”
ทางนั้นเข้ามากระซิบกระซาบก่อนที่หญิงบ่าวคนนั้นจะหันมาบอกกับนาง “คุณหนูชมวิวที่สวนไปก่อนนะเจ้าคะ เดี๋ยวมาบ่าวรับกลับไปที่ห้องเจ้าค่ะ”
ท่าทางมีเรื่องร้อนใจ อาจูจากไปพร้อมสาวใช้อีกคน
“สมน้ำหน้า ใครใช้ให้เจ้ามักใหญ่ใฝ่สูงกัน”
“ข้าเห็นท่านแม่ทัพมองข้าตาเป็นมัน ข้าเลยนึกว่าท่านแม่ทัพ…”
“นึกว่าท่านแม่ทัพต้องการเจ้าก็เลยปีนขึ้นเตียงอย่างนั้นหรือ เจ้านี่มันโง่นัก” อาซูบ่นไม่หยุด นึกเสียดายเด็กสาว ๆ ที่ตนอุตส่าห์ไปหามาจากบ้านนอก “ไป ออกไป นี่ยังดีที่ยังได้เงินอีกสิบตำลึงติดตัวไปน่ะ”
“พี่ซูช่วยพูดให้ข้าได้ไหม”
“ข้าจะช่วยพูดอะไรให้เจ้าได้อีก ท่านแม่ทัพแม้ไม่มีภรรยาแต่ไม่เคยทำตัวเสเพล เอาคนในจวนมาอุ่นเตียงด้วยสักครั้ง เจ้านะเจ้า แทนที่จะใจเย็นหน่อยกลับทำเสียเรื่องเสียนี่”
“ข้าเปล่าใจร้อนนะพี่ซู”
“พอได้แล้ว ข้าขี้เกียจจะฟัง เจ้าเดินไปตามทางเล็กๆ นั่นแล้วออกไปหานายใหม่ที่ตรงถนนโน่นเลย ไป!”
เสียงคุยนั่นหายไปแล้ว หลี่เยี่ยนถิงเดินออกมามองร่างสาวใช้ที่เดินหอบสัมภาระไปยังเส้นทางไม่เล็กนักยังกำแพงทางด้านหลัง พบว่าไม่มีคนยืนเฝ้ายามเหมือนอย่างที่ในส่วนอื่นของจวนจึงได้สาวเท้าเดินตามไป รอจนร่างของสาวใช้เดินพ้นประตูไปแล้ว นางมองต่อจากนั้น คอยจนบ่าวรับใช้ที่ยืนเฝ้าประตูสับเปลี่ยนเวรยามพอดีก็ค่อยเร้นกายเดินไปยังทางออกตรงนั้นบ้าง ภายนอกคือด้านนอกของจวน ตลาดเล็ก ๆ เป็นทางยาวและที่ตั้งของราชวังก็ตั้งอยู่ไกลลิบสุดสายตาของนาง หลี่เยี่ยนถิงมองแล้วก็เดินไปตามทางยาวของตลาดนั่น