bc

องค์หญิงสามของท่านแม่ทัพจาง

book_age18+
346
FOLLOW
1.0K
READ
contract marriage
HE
blue collar
drama
secrets
ancient
like
intro-logo
Blurb

หลี่เยี่ยนถิงคือองค์หญิงสามที่ไร้ซึ่งความรักและคนรักนางอย่างแท้จริง

แต่แล้วคืนหนึ่งนางก็ถูกท่านแม่ทัพจางกล่าวหาว่านางก่อกบฏ แล้วอุ้มนางกลับไปที่จวนของเขา หลังจากนั้นชีวิตขององค์หญิงสามก็เปลี่ยนไป เมื่อจางซงหยวนทูลขออภิเษกสมรสกับนาง

++++++

“หากรู้ว่าท่านใจร้าย ใจดำและบ้าตัณหาราคะเช่นนี้ ข้าจะหนีไปให้สุดผืนแผ่นดิน ไม่มีทางยอมเข้าพิธีสมรสกับท่านแม่ทัพจางโดยเด็ดขาด”

จางซงหยวนได้ยินว่าคนในอ้อมกอดจะหนีไปจากเขา นางจะไม่สมรสกับเขาก็ยังไม่ขุ่นใจเท่ากับที่นางเรียกเขาว่า ‘แม่ทัพจาง’

จางซงหยวนก้มหน้าลงเพื่อถาม น้ำเสียงดูจะเอาเรื่องอยู่หลายส่วน

“เหตุใดไม่เรียกว่าพี่ซีฮัน”

เยี่ยนถิงย่อมรู้ถึงแรงอารมณ์ของสามี นางช้อนตาขึ้นมองสู้สายตากับเขา ค่อยถามยียวนกลับไป “แล้วเหตุใดข้าต้องเรียกท่านว่า ‘พี่ซีฮัน’ ด้วยเล่า ท่านแม่ทัพจาง”

จางซงหยวนคำรามฮึ่มๆ ในลำคอ ท่านแม่ทัพจางออกแรงกระชับอ้อมกอดให้แน่นเข้าแล้วเค้นเสียงถามด้วยอาการมันเขี้ยว

“เจ้าจะยั่วพี่ไปถึงเมื่อใดเยี่ยนถิง”

นางออกแรงดิ้นสุดแรง แต่จะเอาเรี่ยวแรงที่ใดมาดิ้นรนสู้กับแรงของเขาได้

++++++

chap-preview
Free preview
บทนำ
ร่างเล็กเดินไปตามทางลาดของด้านหลังของวังที่ซึ่งเป็นเส้นทางห้ามสัญจรแต่นางกลับหาได้สนใจไม่ ในมือเล็ก ๆ นั่นคล้ายกับมีอะไรกำแน่นที่ในนั้น มือกำเสียแน่นราวกับมันคือความลับที่สำคัญยิ่งกว่าชีวิตของนางเสียอีก หลี่เยี่ยนถิงเหลียวมองซ้ายแลขวาไปพลางขณะก้าวขาเดินมุ่งหน้าตรงไปยังนอกพระมหาราชวัง คล้ายนางกลัวว่าใครจะมาเห็นนางเข้าเสียก่อน ยามจื่อเช่นนี้ทั้งอากาศหนาวเย็นใครจะออกมาเดินที่นอกวังกัน หากแต่เป็นนาง สตรีที่แม้จะเป็นธิดาของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน แต่กลับไร้เกรงใจ ไร้คนเหลียวแล และบัดนี้นางก็กำลังลักลอบออกนอกจากตำหนัก ไม่เพียงแต่ตำหนักร้างของนาง แต่นางกำลังมุ่งหน้าไปยังเส้นทางลับหวังจะออกนอกวังด้วยซ้ำ  “กำลังไปที่ใด” เสียงห้าวเอ่ยถาม ต้นตอดังมาจากเบื้องบน องค์หญิงหลี่เยี่ยนถิงหยุดขาที่กำลังก้าว ก่อนจะช้อนดวงตางามปนเศร้าขึ้นไปยังที่เสียงที่ดังขัดขวางการลักลอบออกนอกวังของนาง พบว่าเป็นคนโปรดขององค์ฮ่องเต้ บิดาของนางเอง หากแต่ท่านแทบไม่เคยเรียกหา พบหน้าไม่แม้แต่จะมองด้วยซ้ำ คงไม่คิดนับนางเป็นเลือดเนื้อของตนด้วยซ้ำไป และหากนางทำเมิน ไม่ตอบคำถามนั้นก็ดูจะเป็นการเสียมารยาทจนเกินไป ที่หนักไปกว่านั้นนางอาจส่อมีพิรุธอีกด้วย “คือ…” หลี่เยี่ยนถิงเปิดปากออกมาคำหนึ่งเพียงคำเดียวเท่านั้น เสียงถามก็ดังขึ้นอีก ทว่าคราวนี้เงาดำนั่นย้ายร่างจากด้านบนของหลังคาลงมายืนที่เบื้องหน้าของนางแล้ว “องค์หญิงจะไปที่ใดหรือกำลังมาจากที่ใด” ไม่เคยมีใครเอ่ยเรียกนางว่าองค์หญิงมาก่อน นั่นเพราะไม่มีผู้ใดให้ความเคารพยำเกรงนาง ไม่เคยมีใครนับหน้าถือตานาง จะเพราะเหตุใดก็อันเนื่องมาจากนางเป็นลูกของสนมที่ถูกกักขังในวังร้างทางทิศใต้จนสติเลอะเลือน ก่อนสิ้นลมหายใจไปตั้งแต่นางอายุเพียงสามขวบเท่านั้น หลี่เยี่ยนถิงพยายามจะอ้าปากอีกครั้งเพื่อตอบคำถามของเขาแต่แล้วเสียงดุห้าวขรึมก็ส่งคำถามออกมาอีก “ในมือขององค์หญิงคือสิ่งใด”  จบคำถามของเขาร่างสูงสง่าในชุดสีทึบก็เคลื่อนย้ายตัวเข้ามาใกล้นางยิ่งกว่าเดิม บุรุษผู้มีร่างกายกำยำแม้อยู่ในอาภรณ์หรูหราและแม้ว่ารอบด้านจะมืดอยู่เช่นนี้ก็ตามที นางจำได้ว่าเขามีใบหน้าและแววตาเย็นชายิ่งนัก เคยได้ยินเหล่าเสนาบดีพูดถึงเขาว่าสามารถฆ่าคนได้ชนิดที่แทบไม่กะพริบตาด้วยซ้ำ ก็น่าจะเป็นเช่นนั้น แววตาของเขาแม้สงบทว่าเยือกเย็นแต่กลับสง่างามเฉกเช่นเดียวกันกับท่าทางและอาภรณ์ที่เขาสวมใส่ในคืนนี้ เหตุใดแม่ทัพจางซงหยวนจึงออกมาจากงานเลี้ยงที่องค์ฮ่องเต้ทรงจัดให้เขา นางยังได้ยินเสียงดนตรี เสียงร้องรำ เห็นแสงแผดจ้าจากโถงงานเลี้ยงอยู่เลย และเพราะว่ารอบตำหนักของนางไร้ทหารเฝ้ายาม นางจึงได้ใช้โอกาสนี้ลอบออกจากตำหนักร้างของนาง ไม่คิดว่า... “จดหมายเสนอตัวนั่น องค์หญิงต้องการนำไปถวายให้ผู้ใดอย่างนั้นหรือ”  น้ำเสียงของจางซงหยวนถามขัดความสงสัยของนางขึ้น หากนางฟังไม่ผิดคล้ายในน้ำเสียงจะมีแววหมิ่นแคลนดูถูกนางอีกด้วย นั่นเลยทำให้นางนึกฉุน แล้วเอ่ยตอบโต้ออกไปพร้อมกับเบี่ยงแขนข้างที่มีสาส์นลับไปไว้ที่เบื้องหลังของนางทันที “ในมือข้ามีสิ่งใด ไยต้องบอกท่านด้วย”  มุมปากของแม่ทัพจางซงหยวนกระตุกเล็กน้อยดูเหมือนยิ้ม แต่แลดูอีกทีกลับมิใช่ เสียงเข้มเปล่งออกมาราวกับราชสีห์กำลังหยอกล้อหนูตัวเล็กๆ อยู่  “องค์หญิงสามพูดได้ยาวขนาดนี้ทีเดียวหรือ”  หากเขาต้องการยั่วแหย่นางก็นับว่าสำเร็จแล้ว แต่นางไม่สามารถหยุดเพื่อคุยกับเขาได้อีกต่อไป นางต้องรีบส่งสิ่งที่อยู่ในมือนี้ให้กับผู้ที่รอคอยนางอยู่ไม่อย่างนั้นอาจไม่ทันการ  แต่แล้วนางก็ถูกมือที่หนาใหญ่ของจางซงหยวนคว้าที่ไหล่ของนางออกแรงเพียงนิดหมุนร่างให้หันหลังพร้อมกับดึงเอาสาส์นนั้นออกจากนางไปได้อย่างรวดเร็วแทบไม่ทันได้กะพริบตาด้วยซ้ำ   “นั่นของข้า”  นางลองส่งเสียงขึ้นอีกนิดยื่นมือออกไปจากคว้าของคืนแต่แล้วร่างหนาใหญ่ของแม่ทัพจางซงหยวนก็เคลื่อนออกห่างนางไปสามก้าว เท่านั้นนางก็ตามเขาไม่ทันแล้ว จางซงหยวนคลี่ม้วนไม้ในมือออก กวาดสายตาดุอ่านเนื้อความข้างในอย่างรวดเร็วก่อนจะลากสายตามามองสบตากับนาง “ผู้ใดเขียนจดหมายนี้ รู้หรือไม่ว่าหากมีผู้อื่นพบเข้า องค์หญิงจะถูกกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดก่อการกบฏต่อองค์ฮ่องเต้”  จบคำกล่าวของเขาใบหน้าที่ออกซีดเหลืองของหลี่เยี่ยนถิงพลันซีดลงไปอีก เหตุใดเขาถึงเอ่ยวาจากล่าวหานางเช่นนั้น และคล้ายกับว่าจางซงหยวนเองจะอ่านแววตาของนางออก เขาหันสาส์นในม้วนไม้ไผ่ม้วนนั้นมาให้นางดู “มะ ไม่ใช่เช่นนั้น ข้าไม่” หลี่เยี่ยนถิงตะกุกตะกักกล่าววาจาใดออกมาไม่ถูกเลยแม้แต่คำเดียว   “กระหม่อมให้องค์หญิงสามเลือกสองทาง” เสียงทุ้มกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ให้กระหม่อมนำสาส์นในมือกล่าวทูลต่อฮ่องเต้เดี๋ยวนี้เลยหรือ...” เสียงห้าวหยุดชั่วขณะ หลี่เยี่ยนถิงช้อนดวงตาจากม้วนไม้ไผ่ในมือมองไปยังเขา สบเข้ากับดวงตาสีดำสนิทที่อ่านแววตานั้นไม่ออกก็พลันรู้สึกราวกับกำลังถูกดูดเข้าไปในดวงตาคู่นั้นแล้ว ความเงียบทำงานอย่างรู้หน้าที่ของมันดี นานจนนางหายใจไม่ออกจำต้องหลุดเสียงแผ่วเบาถามออกไป “หรืออันใด” “…ไปที่จวนของกระหม่อม”  “หนะ นี่ ทะ ท่านพูดออกมาแบบนี้หมายความว่าอย่างไร” เสียงเล็กๆ บอกอย่างแผ่วเบาทว่าเด็ดเดี่ยวในน้ำเสียงของนาง เมื่อไม่มีคำอื่นมาไขความกระจ่างในนางเพิ่ม สติของนางพลันกลับคืนมาช้าๆ อีกครั้ง    “ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด” “ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิด ก็ไปพร้อมสาส์นนี่ เข้าพบองค์ฮ่องเต้ด้วยกันเสียเดี๋ยวนี้ หากใครเห็นสาส์นนี้เข้า คงเข้าใจไม่ต่างจากกระหม่อมเป็นแน่” “มะ ไม่ ไม่ได้” แม้นางจะไม่เข้าใจว่าสาส์นนี้กล่าวเรื่องผิดเรื่องร้ายแรงอันเอาไว้แต่ก็คิดไปว่าสาส์นนี้ดูแปลกไม่น้อย เสียงหวานปนเศร้าตอบแผ่วเบาแย้งเขาออกไป ดวงตาสีดำของจางซงหยวนมองมาที่นางด้วยแววเรียบนิ่ง ก่อนที่เสียงราบเรียบทรงอำนาจจะดังก้องขึ้นในความมืดของทางเดินที่เกล็ดหิมะเริ่มหนาขึ้นเรื่อย ๆ   “อย่างนั้นองค์หญิงก็จงเลือก”  หลี่เยี่ยนถิงยืนตาแดงที่ตรงนั้น หิมะเริ่มโปรยปรายลงหนัก กระนั้นก็ยังไม่มีเสียงหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากหนาของท่านแม่ทัพจางแต่อย่างใด เป็นนางที่เริ่มยืนไม่อยู่ ทั้งหนาวและหวาดกลัวกับแววตาและสถานการณ์ชวนอึดอัดเช่นนี้  ไม่นานนักจางซงหยวนจึงได้พูดจากดดันให้นางต้องเลือก  “หากจะไม่ไปพบฮ่องเต้ด้วยกัน ก็ไปที่จวนของกระหม่อม”  เหตุใดนางจะไม่รู้ความหมาย แม้จะถูกเลื่อนงานอภิเษกสมรสหลายครั้ง จนอายุของนางเลยวัยออกเรือนมามากแล้ว เพราะไม่เคยมีผู้ใดเอ่ยปากทาบทามสมรสกับนาง เพราะนางมิได้งดงามเทียบเท่าอย่างองค์หญิงองค์อื่นในพระบิดาเดียวกัน แต่นางก็หาได้โง่ไร้สมองไม่ จางซงหยวนที่เป็นแม่ทัพเอกของแคว้น อีกทั้งยังเป็นคู่หมายของบุตรสาวของพระสนมคนโปรดที่เพิ่งได้เข้าพิธีแต่งตั้งเป็นฮองเฮาเมื่อไม่นานมานี้ เขาไม่มีทางแลนางอย่างแน่นอน และที่เสนอให้นางไปยังจวนของเขา บางทีอาจต้องการสอบสวนนาง ข่าวที่เหล่าขุนนางลือกันว่าเขาโหดและทารุณกับเหล่าโจรร้ายและพวกข้าศึก ถึงขนาดฆ่าได้พริบตาราวปลิดใบไม้ทิ้ง คงเป็นจริง   “ข้าจะถือความเงียบขององค์หญิงสาม เป็นคำตอบว่าไปที่จวนของกระหม่อม” นางยังไม่ทันได้ตอบรับ ร่างสูงใหญ่ราวกับคนพรากวิญญาณก็ตรงเข้ามาช้อนนางขึ้นอุ้มแนบกับอกของเขา แล้วพาเคลื่อนตัวขึ้นไปบนหลังคาด้านบน ตำหนักแล้วตำหนักเล่า “ปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้”  นางเปล่งเสียงดังสุดเท่าที่นางจะทำได้ แต่แล้วเสียงนั่นกลับฟังแล้วแผ่วเบาเหลือเกิน คงเพราะนางไม่ได้กินอาหารให้อิ่มเต็มที่มาสามวันแล้วกระมัง ร่างเล็กขององค์หญิงหลี่เยี่ยนถิงถูกจางซงหยวนอุ้มลอยออกจากรั้ววังแล้วบัดนี้ แรงที่นางดิ้นรนกลับมีไม่ถึงเศษหนึ่งในหลายส่วนของกำลังท่านแม่ทัพเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ยังอุตส่าห์ออกแรงดิ้นรนต่อสู้ พลันนั้นที่เกล็ดหิมะหนาตัวลง พร้อมด้วยสติทั้งหมดขององค์หญิงหลี่เยี่ยนถิงที่ค่อยๆ ดำมืดลงในเวลาต่อมา 

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

สะใภ้ขัดดอก

read
39.4K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.1K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.3K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.7K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.6K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook