Chapter 2: หนูชอบ

1695 Words
ธนบัตรเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนใหญ่ เดิมทีห้องนี้คือห้องของรวี รวีไวย์ผู้เป็นพ่อของสาวน้อยรุธิราและเป็นลูกชายคนเดียวของคุณนิดา อดีตเศรษฐินีเจ้าของที่ดินย่านปริมณฑล คุณนิดารักลูกชายมาก นอกจากรวีจะได้ห้องใหญ่ที่สุดในบ้านเป็นของตัวเองแล้ว ยามตายจากไปห้องนั้นก็ถูกเก็บรักษาไว้ราวกับรวียังมีชีวิตอยู่ตราบจนกระทั่งสองหนุ่มหล่อ ธนบัตรและชนกชนก้าวเข้ามาถือครองที่ดินของบ้านรวีไวย์ สองหนุ่มเพิ่งเข้ามาอยู่ในบ้านได้ไม่เกินสามวันก็สั่งให้คนรื้อข้าวของในห้องออกจนหมด ตกแต่งห้องใหม่ทั้งห้อง เพิ่มโทรทัศน์เอย เติมเครื่องเสียงเอย กั้นห้องทำเป็นตู้เสื้อผ้าวอล์กอินเอย พวกเขาสั่งทำใหม่ทั้งหมด และส่วนที่เปลี่ยนไปมากจนน่าตกใจคือเตียงใหญ่เก้าฟุตที่ตั้งกลางห้อง เตียงมีเสาไม้สี่เสาประดับผ้าแพรลูกไม้เป็นม่านดูหรูหรา ฟูกเตียงนุ่มนิ่มและมีขนาดใหญ่โตเกินกว่าคนเดียวหรือสองคนจะนอนได้ ผ้าปูสีขาวนวลเข้ากับลักษณะวินเทจของตัวบ้าน ที่สำคัญบนเตียงมีร่างแบบบางขาวนวลเนียนของหญิงสาวคนหนึ่งนอนเนื้อตัวเปล่าเปลือยอยู่ตรงกลาง “เอวา เดี๋ยวพวกผมต้องออกไปทำธุระก่อนนะ อีกสักชั่วโมงหนึ่งผมจะให้ไอ้แชมป์ขับรถมารับคุณไปส่งที่คอนโด แล้วถ้าผมและไอ้ชิคเหงาขึ้นมาเมื่อไหร่ ผมจะโทรหาเอง” ธนบัตรก้มใบหน้าหล่อเหลาลงกระซิบที่ข้างหูสาวสวยหน้าลูกครึ่ง หญิงสาวมีผมสีบลอนด์ยาวตรงถึงกลางหลัง หน้าตาสะสวย มีกระขึ้นตรงปลายจมูกตามแบบสาวฝรั่ง รูปร่างสูงเพรียว หน้าอกขนาดกำลังเหมาะ ยอดปทุมถันมีสีชมพูสวย เรียกได้ว่าทั้งสวยทั้งมีเสน่ห์ในตัว “หือ? ทำไมธนกับชิคออกบ้านเร็วจังคะ? ไม่เย่อรอบเช้ากันอีกสักยกสองยกเหรอคะ?” สาวผมบลอนด์ขยี้ตาคล้ายไม่อยากตื่นจากความฝันแล้วถามสองหนุ่มหล่อน้ำเสียงงัวเงีย ชนกชนก้มตัวลงไปขยำเต้าอวบข้างหนึ่งของสาวสวยเบา ๆ อย่างมันเขี้ยวก่อนที่จะตอบเธอ “วันนี้ไม่เหมาะแล้วล่ะ มีเหยื่อใหม่มา เป็นเหยื่อที่พวกฉันต้องกินให้ได้เสียด้วย ดังนั้น... ถึงอยากจะเย่อเธอแค่ไหนตอนนี้ก็คงไม่ใช่เวลาที่เหมาะนัก” หนุ่มหล่อหน้าหวานตอบแล้วเคล้นคลึงเต้านมของสาวสวยไปมาพร้อมใช้นิ้วหัวแม่มือเขี่ยยอดจุกสีหวานราวกับกำลังเร้าอารมณ์ของเธอ “อื้อออ... ถ้าไม่มีเวลาก็อย่ามายั่วให้อยากสิคะ... ขอเอวานอนต่อสัก 20 นาที เดี๋ยวเอวาจะอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงไปรอแชมป์มารับข้างล่างค่ะ” เอวาปัดมือใหญ่ของหนุ่มหน้าหวานออกอย่างแง่งอนแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมร่างเปลือยเปล่า สองหนุ่มหัวเราะเบา ๆ ก่อนที่จะลงมือแต่งตัว ธนบัตรสวมกางเกงแสล็กส์และเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำอยู่แล้ว เหลือเพียงแต่ติดกระดุมเสื้อและเซตผม ขณะที่ชนกชนยังอยู่ในกางเกงนอนแต่เขาก็อาบน้ำแต่งตัวได้รวดเร็ว ไม่ถึง 15 นาทีสองหนุ่มหล่อก็อยู่ในสภาพพร้อมออกจากบ้าน “ผมไปก่อนนะเอวา อย่าลืมตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวละ เกิดไอ้แชมป์มารับแล้วเจอสภาพแบบนี้มีหวังเอวาได้เก็บแต้มไอ้แชมป์ต่อแน่ ไอ้แชมป์มันยังเด็ก เพิ่ง 20 ต้น ๆ อย่าทำเด็กเสียคนละเอวา” ธนบัตรบอกหญิงสาวที่ยังคงหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงกึ่งจริงจังกึ่งแซวเธอไปด้วย “รู้หรอกค่ะ ไปเถอะ เอวาขออีกห้านาที เดี๋ยวเอวาก็ลุกไปอาบน้ำเองแหละ” สาวสวยบอกเขาเสียงอู้อี้ สองหนุ่มหล่อสบตาแล้วยิ้มให้กันในความช่างต่อรองของเอวา พวกเขาและเอวาเป็น ‘เพื่อนเอา’ หรือที่เรียกว่า Friend with Benefits มาได้เกือบ 10 ปีแล้ว นอกจากเอวา ผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่ผ่านเข้ามามักเลยผ่านไป มีแต่เอวาที่อยู่ได้ยาวกว่าคนอื่นเพราะเธอเองก็มีความคิดคล้ายพวกเขา... แค่มองหาเซ็กซ์ที่เร้าใจ แปลกใหม่ และสนองอารมณ์อยากได้มากที่สุด เอวารู้ใจพวกเขา อยู่ในชีวิตของพวกเขานานกว่าผู้หญิงอื่นจนใครหลายคนคิดว่าเธอคือตัวจริงของพวกเขา แต่สองหนุ่มก็ยังไม่ตกลงปลงใจกับสาวเจ้า ตัวเอวาเองก็ดูเหมือนจะพอใจกับความสัมพันธ์ที่มีอยู่กับพวกเขา สามหนุ่มสาวจึงคบกันแบบเพื่อนร่วมเตียงเสมอมา และเอวาก็รู้ดีว่าเมื่อสองหนุ่ม ‘เพื่อนเอา’ มี ‘เหยื่อ’ ใหม่ เธอคงไม่ถูกพวกเขาเรียกให้มาร่วมเตียงไปสักระยะ อาจจะสองอาทิตย์ สองเดือน หรือมากที่สุดก็ไม่เกินสามเดือน ไม่มีใครจะอยู่กับพวกเขาได้ยาวนานเท่าเธออีกแล้ว หนุ่มหล่อสองคนเดินออกจากห้อง ไม่มีการกอดหรือจูบลาสาวสวยที่นอนอยู่บนเตียงเลยสักนิด พวกเขาแยกความสัมพันธ์ที่ผูกไว้ด้วยความใคร่ออกจากความรักหญิงชายอย่างชัดเจน ระหว่างทางเดินลงไปชั้นล่างของบ้าน ธนบัตรโทรเรียกไอ้ปอ ลูกน้องคนสนิทให้ขับรถมารับพวกเขา จากนั้นจึงโทรบอกไอ้แชมป์ให้มารับเอวาตามเวลาที่ตกลงกันไว้ พอเดินมาถึงห้องโถงชั้นล่างธนบัตรก็สั่งงานลูกน้องเสร็จพอดี “ทำไมพวกพี่แต่งตัวนานจังคะ? หนูอยากไปหาคุณย่าจะแย่” รุธิราหันหน้ามามองสองหนุ่มหล่อด้วยความร้อนใจ หารู้ไม่ว่าที่พวกเขาชักช้า ส่วนหนึ่งก็เพราะต้องร่ำลาคู่ขาที่ยังนอนอยู่ด้านบน “โทษที พวกพี่มีหลายอย่างต้องจัดการก่อนออกไป ว่าแต่... น้องจะไม่ถามหรือสงสัยสักคำเหรอว่าทำไมจู่ ๆ พวกพี่ถึงจะเข้ามาเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ได้? จะไม่โวยวายสักหน่อยเหรอว่าไม่มีทางที่คุณนิดาจะยอมปล่อยให้บ้านหลังนี้เป็นของพวกพี่? แถมยังจะตามพวกพี่ไปหาคุณนิดาง่าย ๆ แบบนี้อีก ไว้ใจพวกพี่เหรอ? ไม่กลัวพวกพี่หลอกไปทำอะไรเหรอ?” ชนกชนขมวดคิ้วแล้วถามเด็กสาว ดูเหมือนเธอจะเชื่อทุกคำที่พวกเขาพูดสนิทใจ เชื่อคนง่ายเกินไป... ง่ายจนน่าสงสาร อยู่บนโลกนี้มาจนอายุขนาดนี้ได้ยังไงวะ? ชนกชนคิดในใจหลังจากที่ตั้งคำถามกับเด็กสาวไปแล้ว “ตอนแรกก็ไม่ค่อยไว้ใจค่ะ แต่มาคิดดูหลายอย่างมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่พวกพี่จะมาหลอกหนู ถ้าพวกพี่จะทำอะไรหนู ทำในบ้านนี้ไม่ดีกว่าเหรอคะ? ห่างไกลผู้คน เงียบด้วย ส่วนเรื่องขายบ้าน... คุณย่านิดเคยเป็นเศรษฐินีก็จริง แต่ตอนนี้ไม่ใช่นี่คะ ขนาดหนูที่เป็นหลานคนเดียวยังต้องเช่าหอพักเล็ก ๆ โทรม ๆ อยู่ ถ้าคุณย่าจะลำบากขนาดต้องขายบ้านหลังนี้ทิ้งหนูก็เข้าใจค่ะ ที่สำคัญ... หนูก็ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าคุณย่าสุขภาพไม่ค่อยดี เรื่องที่พวกพี่บอกว่าคุณย่าป่วยเลยไม่ได้เกินจริงนัก ดังนั้นพวกพี่พาหนูไปเลยได้ไหมคะ? หรือไม่ก็บอกมาว่าคุณย่าของหนูอยู่โรงพยาบาลไหนก็ได้ค่ะ" เด็กสาวอธิบายยาวเหยียดแล้วเร่งรัดให้พวกเขารีบพาเธอไปหาย่า สิ่งที่เธอพูดมาทำให้ชนกชนต้องพยักหน้ายอมรับในความคิดของเธอก่อนที่ธนบัตรจะเป็นคนเดินนำออกไปทางหน้าบ้าน “เมื่อคืนพวกพี่ไปงานเลี้ยงมา เมาเหมือนหมา ต้องให้ลูกน้องขับรถมาส่ง ดึกมากด้วย ตีสองเห็นจะได้ จะให้มันเรียกรถกลับเองก็ยาก เลยให้มันขับรถกลับไปก่อนแล้วค่อยขับมารับพวกพี่วันนี้” ชนกชนกล่าวต่อ “มึงสิเมาเหมือนหมาไอ้ชิค กูเมาแล้วกูเงียบโว้ย กูมีสติ กูแค่ไม่อยากขับรถตอนเมาให้ตำรวจจับได้แล้วเป็นปัญหาทีหลัง ดังนั้นมีแต่มึงอะ เมาเหมือนหมา กูเหมือนเจ้าของหมาที่จูงมึงขึ้นรถกลับบ้าน” ธนบัตรเถียงเพื่อนทันที รุธิราที่มีสีหน้าเคร่งเครียดเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อสักครู่ยิ้มออกมาน้อย ๆ เมื่อได้ยินพวกเขาทะเลาะกัน “พวกพี่สนิทกันดีจังค่ะ ดูรักกันดี หนูชอบ” รุธิราพูดเสียงหวาน สองหนุ่มรูปหล่อที่เดินนำหน้าเธออยู่หันขวับมามองสาวน้อยด้วยความสงสัย “หนูบอกว่าชอบพวกพี่เหรอ?” ชนกชนเอ่ยถามขึ้นมาก่อน “ค่ะ หนูชอบพวกพี่ ชอบความสัมพันธ์ของพวกพี่น่ะค่ะ ดูรักกันเหมือนพี่น้องดีค่ะ หนูเป็นลูกคนเดียวค่ะ คุณแม่หนูเสียตอนที่หนูเกิด คุณพ่อเสียตั้งแต่หนูยังเด็ก สัก 4-5 ขวบได้ หนูจำคุณพ่อได้เลือนรางเหลือเกิน พี่น้องก็ไม่มี ถ้าไม่มีเพื่อน ๆ หนูก็คงเหงาเหมือนกันค่ะ มีแต่คุณย่าคนเดียวเอง” เด็กสาวพูดน้ำเสียงฟังดูอ่อนโยน เสียงของเธอมันเบานุ่มเหมือนปุยฝ้าย มันเสริมให้ตัวเด็กสาวดูน่ารักน่าเอ็นดูมากมายหลายเท่า สองหนุ่มหล่อที่อยู่ตรงหน้าเธอลอบสบตากัน ฉับพลันแววตาของพวกเขาที่ดูเหมือนจะมองน้องด้วยความเอ็นดูก็เปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวขึ้นมาทันที สองหนุ่มเพื่อนรักได้แต่พร่ำบอกตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า... อย่าใจอ่อนให้ผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงที่ชื่อรุธิรา รวีไวย์... ลูกสาวคนเดียวของนายรวี รวีไวย์
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD