มหาวิทยาลัยศิลปะ
เอี๊ยด!
“ตั้งใจเรียนนะคะคนสวย” พี่ฮันเตอร์บอกเมื่อจอดรถหน้าตึกเรียนของฉัน
“รับทราบค่ะ! พี่กับพ่อก็ตั้งใจทำงานนะคะยังมีสาวน้อยคนงามให้เลี้ยงอยู่ อิอิ” ฉันยิ้มตาเป็นสระอิ
“ค้าบบบ! ไปเรียนได้แล้วเดี๋ยวสายนะสาวน้อย”
“งั้นฮันน่าไปก่อนนะ บายยยย~” ฉันโบกมือลาพี่ฮันเตอร์ก่อนจะลงจากรถแล้วเดินเข้าตึกเรียนตลอดทางก็มีคนมองตลอดเป็นเรื่องปกติธรรมดามาก ๆ ทั้งที่ฉันก็เรียนมาตั้ง 4 ปีแล้ว ก็ไม่ชินกันสักที
มหาวิทยาลัยของฉันเป็นมหาวิทยาลัยที่สอนเกี่ยวงานศิลปะโดยเฉพาะทั้งวาดรูป แกะสลัด งานปั้นต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับศิลปะมีหมดเรียกได้ว่าครบวงจรเลยละ
“พี่ฮันน่าค่ะ!” และขณะที่ฉันกำลังเดินอยู่นั่นเองก็มีเสียงใสใสตะโกนเรียกฉัน
“มีอะไรคะน้อง?” ฉันหันไปถามบุคคลแปลกหน้าที่ไม่เคยเจอมาก่อนเลย
“คือว่าหนูชื่อนุ่มนะคะเป็นแฟนคลับพี่ฮันน่า”
“ขอบคุณค่ะแล้วเรียกพี่ทำไมคะ?” ฉันถามอย่างสงสัยกับคนไม่รู้จักฉันก็จะพูดห้วน ๆ แบบนี้แหละฉันไม่ได้เป็นคนนิสัยดี น่ารักอะไรหรอกนะก็แค่คนธรรมดาทั่วไปเท่านั้นเอง
“คือว่าเอ่อ...จะรบกวนไหมคะถ้าหนูจะขอถ่ายรูปคู่กับพี่”
“รบกวนค่ะ”
“คะ?” น้องนุ่มหน้าเอ๋อแดกไปเลยเพราะว่าฉันปฏิเสธ
“งั้นพี่ขอตัวก่อนนะคะ” ฉันพูดและพยายามเดินเลี่ยงออกมา
“พี่ค่ะ!!พี่ฮันน่า!!หนูขอร้องช่วยถ่ายรูปกับหนูหน่อยนะคะหนูมาไกลมากกกก!!นั่งรถตั้งสองต่อแนะเพื่อมาหาพี่เพราะงั้นขอร้องนะคะช่วยถ่ายรูปกับหนูหน่อย”
“คงไม่ได้หรอกขอโทษด้วยแล้วก็ขอบคุณมากที่อุตส่าห์มาถึงที่นี่”
“อะไรกัน...หยิ่งจริงด้วย” กึก! ขาของฉันชะงักไปแต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกนะที่ได้ยินอะไรแบบนี้
“ค่ะ พี่ค่อนข้างหยิ่งน่ะ” ฉันหันไปพูดด้วย
“อุ๊บ! พะพี่ค่ะหนูมะไม่ได้ตั้งใจ...” เหมือนเธอจะตกใจที่ได้ยินสิ่งที่ตัวเองพูด
“ไม่เป็นไรหรอกแต่พี่ก็คงถ่ายรูปกับน้องไม่ได้ขอตัวนะพี่มีเรียนน่ะ” ฉันบอกแค่นั้นก่อนจะหันหลังเดินต่อไม่ได้สนใจเสียงเรียกของเธอ
“พี่ฮันน่า!!พี่ฮันน่าค่ะ!!!หนูขอโทษ!!!”
เฮ้อออ!! นี่แหละชีวิตด้านนอกของฉันเมื่อฉันไม่ถ่ายรูปด้วยก็จะกลายเป็นคนหยิ่งทันที เป็นคนสวยจอมหยิ่งและหน้านิ่งไม่เอาใครทั้งนั้น ไม่ทำกิจกรรมส่วนรวมและไม่ซุงซิงกับใครเท่าไหร่นอกจากเพื่อนในห้องเรียนสองคน บางครั้งก็พูดจาไม่ดี ห้วน และสุนัขไม่รับประทาน แต่แล้วไงฉันแคร์แค่เพื่อนของฉันและครอบครัวเท่านั้นคนอื่นไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับชีวิต
ห้องเรียน
พรึ่บ!
“เฮ้อ!” ฉันนั่งลงเก้าอี้ที่นั่งประจำตำแหน่งของตัวเองก่อนจะถอนหายใจออกมา
“มีคนมาขอถ่ายรูปอีกแล้วเหรอ?” เพลินเพื่อนของฉันถาม
“อืม”
“คงโดนพูดอะไรไม่ดีมาอีกแล้วสิ” มีนาเพื่อนอีกคนพูดอย่างรู้ทันเพราะมันไม่ใช่เหตุการณ์ครั้งแรกที่เกิดขึ้น ถ้ามีใครมาขอถ่ายแล้วฉันปฏิเสธไปพวกเขาจะเปลี่ยนความชอบเป็นความเกลียดแล้วก็พูดจาไม่ดีใส่ฉัน
“ชินแล้วละ”
“แล้วทำไมไม่อธิบายเหตุผลไปละ?”
“ทำไมฉันต้องอธิบายด้วยละฉันไม่ได้เป็นดาราหรืออะไรนะและอีกอย่างใครจะคิดยังไงก็เรื่องของเขาเถอะฉันไม่ได้เก็บเอามาคิดหรอก ถ้าอธิบายครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อ ๆ ไปฉันไม่ชอบพูดอะไรซ้ำน่ะ” น่าเบื่อและขี้เกียจด้วย
“ไม่ได้เป็นดาราแต่โคตรดังแกมีคนติดตามตั้งเป็นสิบล้านนะเว้ย!” ใช่ ยอดติดตามในไอจีหรือเฟสฉันมากกว่า 10 ล้านคนทั่วโลกและมีคนยื่นเสนองานมากมายแต่ฉันก็ไม่ได้รับไว้ด้วยเหตุผลส่วนตัวนั่นแหละ ถ้าไม่เป็นโรคบ้า ๆ นี่ฉันอาจจะดาราก็ได้มั้ง แต่ก็อาจจะไม่เหมือนกันเพราะว่าฉันไม่งานชอบนั้นชอบวาดรูปมากกว่า
“ไม่รู้ว่าติดตามอะไรกัน ฉันแทบไม่ลงอะไรเลยนะ...” รูปส่วนมากก็ได้มาจากคนที่แอบถ่ายนั่นแหละ
“ตามติดชีวิตคนสวยไงคะคุณฮันน่า~~”
“เรียนเถอะอาจารย์มาแล้ว” ฉันบอกกับมีนาเมื่อเห็นว่าอาจารย์เดินเข้ามา
เลิกเรียน
“พวกแกจะไปไหนต่อ...”
“เฮ้ย!!ใครวะที่ชื่อฮันน่าอะ!!กล้าดียังไงมาทำน้องกูร้องไห้วะ?!” พวกเรากำลังเดินอยู่ใต้ตึกเรียนก็มีคนมาตะโกนชื่อของฉันเสียงดัง
“เกิดอะไรขึ้นแกไปมีเรียนกับนักเลงที่ไหน?”
“ไม่มีนิ”
“พี่พายุ!!พอเถอะหนูไม่เป็นอะไรกลับเถอะเดี๋ยวตำรวจก็มาจับหรอก” ฉันมองน้องคนนั้นที่กำลังพยายามห้ามพี่ชายตัวเอง
“ไม่เว้ย!!กูเป็นพี่มึงยังไม่เคยทำมึงร้องไห้เลยแล้วมันเป็นใครถึงกล้า!!!”
“พี่!!”
“น่ากลัววะฉันว่าแกไปทางอื่นเถอะฮันน่าเดี๋ยวจะโดนทำร้ายเอา”
“อีตอแหล!!ออกมาสิวะ!!” กึก! ขาของฉันชะงักไปทันทีเมื่อโดนด่าแบบนั้น
“หนอย!!ไอ้หน้าปลาดุกกล้ายังไงมาด่าเพื่อนฉันวะ?!” มีนาพูดอย่างโมโหเมื่อได้ยินแบบนั้น
“คิดว่าเป็นดาราคนดังแล้วจะทำลายความรู้สึกของใครก็ได้เหรอวะ?! ออกมาดิ!!แม่งเอ๊ย!!” โครม! คนนั้นถีบโต๊ะและเก้าอี้ล้มระเนระนาดไปหมด รปภ.ก็พยายามเข้ามาห้ามแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะเขาแรงเยอะมาก
“ไปนะไม่อย่านะจะแจ้งตำรวจ!!”
“อีฮันน่า!!!! ออกมาสิวะออกมา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
“พี่พายุ!!!หนูบอกให้พอไง!!!”
“ฮันน่า...” ฉันทนไม่ไหวและเดินไปหาทั้งคู่เพื่อนพยายามเรียกแต่ไม่ทันแล้ว
“ออกมา!!ปล่อยกู!!”
“มีธุระอะไรกับฉัน?” ฉันพูดออกไป
“มาแล้วเหรอวะ...!!” เขาหันมาและมองหน้าของฉันเขาชะงักไปแถมยังนิ่งอีก
“สรุปว่ามีเรื่องอะไรถึงมาโวยวายขนาดนี้มันทำให้คนอื่นเขาเดือดนะ นายเองก็อาจจะโดนจับไปได้เหมือนกันข้อหาทำลายข้าวของและสร้างความเดือดร้อนให้สังคม”
“เอ่อ คือเอ่อคือว่า...” เขาพูดไม่ออก
“คือหนูผิดเองค่ะ! หนูขอโทษแทนพี่ชายหนูด้วยนะคะ” น้องคนนั้นขอโทษแทนและก้มหัวไหว้
เพี๊ยะ!!
“ไอ้พายุ!อย่าให้ความสวยบังตาเธอทำน้องมึงร้องไห้!!” และอยู่ ๆ เขาก็ตบหน้าตัวเองและพูดคนเดียว
“เธอ!!” และก็เปลี่ยนมาชี้หน้าของฉัน
“คะ?”
“เธอ...เธอทำน้องสาวเราระร้องไห้ได้ยังไงไม่ดีเลยนะ” ลดเสียงเบาลงทันที
“ฉันยังไม่ได้ทำอะไร?” แค่ไม่ให้ถ่ายรูปด้วย
“ทำสิ!!เออมาเว้ย!!ไอ้พายุมึงต้องดุดันแบบนี้!!ไม่เกรงใจใคร?!” แล้วพูดคนเดียวอีกแล้ว
“เป็นบ้าหรือไง?” ฉันเผลอพูดออกไปอย่างที่คิด
“เหอะ! หน้าตานางฟ้าแต่ความจริงเป็นนางมารสินะ! น้องเรา...เอ๊ย! น้องกูชอบมึงมาก!!มันอุตส่าห์ถ่อมาถึงที่นี่เพื่อมาหาเธอ!!เอ๊ย! มาหามึงแต่สิ่งที่ได้รับคือมึงปฏิเสธจะถ่ายรูปคู่กับน้องกู!!แม้มันจะไม่สวยเธอทนหน่อยไม่ได้หรือไง?!”
“พี่พายุ!”
“ช่างเถอะ!!มึงน่ะมันแร้น้ำใจ!!คนสวยแต่ใจทราม!!ทุกคนดูสิ!!มีดีแค่หน้า...ตา 0.0” กึก! เขาตาโตเมื่อฉันเดินเข้าไปใกล้เขา
“มันเป็นสิทธิของฉันที่จะไม่ถ่ายรูปและนายก็ควรรู้จักคำว่าสิทธิส่วนบุคคล”
“ตะตะตะแต่มะมะมันก็แค่ถ่ายไง๊!”
“ใช่ แค่ถ่ายรูป...แต่ฉันไม่อนุญาตไงฉันมีสิทธิที่จะไม่ถ่ายเพราะงั้นนายและน้องนายไม่มีสิทธิมาโวยวายและสร้างความเดือดร้อนให้ฉันแล้วก็คนอื่น ๆ ที่อยู่ในสถานที่นี้มันดู...” ฉันมองตั้งแต่หัวจดเท้าด้วยสายเรียบนิ่ง
“?”
“ต่ำและไร้การศึกษา”
“0.0”
“ปะปากดีเกินไปแล้วนะ!!!”
“จะร้องไห้หรือยังละไอ้กุยเอ๊ย!”