Episode 05
หลายวันต่อมา
“แค่กๆ”
ตอนนี้ผมไม่สบายหนักมากครับ แต่ก็ต้องมาเรียน เพราะในวันนี้มีสอบเก็บคะแนน ซึ่งในวันนี้มีเรียนแค่วิชาเดียว ผมก็เลยลากสังขารของตัวเองมา เพราะไม่อยากไปตามสอบย้อนหลัง
“ไหวไหมวะ? ถ้าไม่ไหวก็กลับบ้านไปเถอะ ส่วนเรื่องสอบเดี๋ยวฉันคุยกับอาจารย์ให้” ปาร์คพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าผมมีสีหน้าที่ไม่ค่อยโอเคนัก “สงสารว่ะ”
“ไม่เป็นไร ฉันยังไหว แค่กๆ!” คือถ้าวันนี้ผมไม่เข้าสอบ ผมก็ต้องไปทำเรื่องต่างๆ นานา เพื่อที่จะมาตามสอบย้อนหลัง และมันเป็นอะไรที่ยุ่งยากมาก ผมก็เลยฝืนร่างกายตัวเอง และเลือกที่จะมาเรียนในวันนี้ครับ “สู้เว้ย”
“ถ้าไม่ไหวก็บอกกันนะเว้ย ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งเอา ข่าวด่วน! ลูกชายนักธุรกิจตระกูลดังใหลตายคาห้องเรียน สาเหตุการตายคือฝืนร่างกายตัวเองเพื่อมาสอบ แต่สุดท้ายก็ไม่ไหว และใหลตายไปในที่สุด” เสือตอบ
“เออ ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวฉันจะบอกเอง” ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ และก้มหน้าก้มตาอ่านสไลด์เตรียมสอบต่อไป และพอถึงเวลา การสอบในวันนี้ก็เริ่มขึ้น โดยมีเวลาให้นักศึกษาทำทั้งหมดสองชั่วโมง หกสิบข้อยี่สิบคะแนนครับ
และการสอบในวันนี้ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี พวกเพื่อนๆ ของผมก็จะไปกินข้าวกันที่โรงอาหารของทางมหาวิทยาลัยก่อน ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้าน
ส่วนผมก็เลือกที่จะไม่กิน และตั้งใจที่จะกลับบ้านเลย แต่ก่อนจะกลับก็ขอนอนหลับพักสายตาก่อนสักแป๊บนึงก็แล้วกันนะครับ สักสิบนาทีแล้วค่อยกลับบ้าน
“แกไม่ไปนอนที่โรงอาหารกับพวกฉันล่ะ?” ปาร์คถามขึ้น และในความหมายของปาร์คก็คือ ให้ผมไปนอนหลับในขณะที่พวกมันกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่นั่นเอง “จะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียว เกิดใหลตายขึ้นมาใครจะช่วยวะ”
“คนอย่างฉันไม่ตายง่ายๆ หรอก หรือต่อให้ฉันตายขึ้นมาจริงๆ เดี๋ยวก็มีคนมาพบศพฉันเองแหละ” ผมตอบปาร์คกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ติดตลก ก่อนที่จะโบกมือไล่พวกมันให้รีบไปกินข้าว “ไปกินข้าวเถอะ ไม่ต้องห่วงฉัน”
“โอเคๆ ถ้าไม่ไหวก็รีบโทรมานะเว้ย ถ้าเกิดแกใหลตายขึ้นมาจริงๆ สงสารน้องๆ รุ่นต่อไปว่ะ ห้องนี้คงถูกปิดตาย แล้วก็คงไม่มีใครกล้าเข้ามาเรียนอีก” คิดภาพไปไกลกันสุดๆ และหลังจากนั้นเพื่อนๆ ของผมก็พากันเดินออกไป
พอสอบเสร็จทุกคนก็พากันออกจากห้องไปจนหมด ไปกินข้าวบ้าง ไปเรียนวิชาอื่นต่อบ้าง กลับบ้านกันบ้าง จนกระทั่งในห้องเหลือผมเพียงแค่คนเดียว ผมก็นอนพักสายตาไปตามปกติ
จนกระทั่งผมรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างที่เดินมานั่งลงข้างๆ ผม และถ้าให้เดานะครับ ผมคงหลับเกินสิบนาที จนถึงคาบเรียนวิชาต่อไปของ sec. อื่นแล้วแน่ๆ แต่พอลืมตาขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ
“เชี้ย!” ผมร้องเสียงหลง เมื่อลืมตาตื่นมาและพบว่าคนที่เดินมานั่งข้างๆ ผมนั้นไม่ใช่เพื่อน sec. อื่นที่มานั่งรอเรียนวิชาต่อไป แต่เป็น… “เลิฟ!”
“สวัสดีค่ะ แฮะๆ” เธอยิ้มหน้าแป้น และเงยหน้าขึ้นมา จากที่ในตอนแรกเธอฟุบใบหน้าลงมาจ้องหน้าผม ตกใจฉิบหาย นึกว่าโดนผีหลอกซะแล้ว
“มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงเนี่ย!”
“หนูก็ตามพี่มาไงคะ” เธอตอบ พร้อมกับยื่นแก้วชาเขียวมาให้ผม เธอซื้อมันมาจากคาเฟ่ชื่อดังแห่งหนึ่งที่มีสาขาอยู่ใต้ตึกของมหาวิทยาลัย “หนูเห็นว่าพี่เบื่อคุกกี้แล้ว หนูก็เลยซื้อชาเขียวมาฝากค่ะ”
“ขอบคุณนะ แต่เก็บไว้กินเองเถอะ วันนี้พี่ไม่ค่อยสบายน่ะ” ผมตอบ พร้อมกับฟุบหน้าลงที่โต๊ะลงไปต่อ
“พี่ไม่สบายเหรอคะ?” เธอถามผมย้ำ ซึ่งผมก็ไม่ได้ตอบอะไร เพราะผมขี้เกียจตอบ ผมอยากนอนพัก “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนูกินชาเขียวแก้วนี้แทนพี่เองก็ได้” ว่าจบ เธอก็ลุกออกไปทันที
ออกไปแล้วออกไปเลยน่ะเหรอ?
ไม่ใช่ครับ
เพราะเธอเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง พร้อมกับน้ำเปล่าธรรมดาที่ไม่ได้แช่เย็นเอาไว้ แล้วก็แผ่นคูลฟีเวอร์จากเซเว่น หรือที่เรารู้จักกันในนามแผ่นเจลลดไข้นั่นแหละครับ นอกจากนี้ก็ยังมีข้าวต้มจากเซเว่นที่เวฟมาแล้วเรียบร้อย สามารถกินได้ทันที ซึ่งที่มหาวิทยาลัยของผมก็มีเซเว่นอยู่ในนี้ด้วยเหมือนกัน แต่ไม่ใช่เซเว่นที่ยิ่งใหญ่อะไรมาก เป็นเซเว่นขนาดเล็กน่ะครับ
“พี่เงยหน้าขึ้นมากินข้าวก่อนเร็ว หนูซื้อข้าวกับน้ำมาให้แล้ว”
“ขอบคุณนะ แต่น้องกินเถอะ พี่ไม่หิว”
“ไม่หิวก็ต้องกินค่ะ พี่ไม่สบายอยู่นะคะ”
“พี่กินไม่ไหว…พี่ปวดหัว พี่ไม่สบาย”
“ก็เพราะว่าพี่ไม่สบายไงคะ พี่ถึงต้องกิน เร็วๆ กินสักครึ่งถ้วยก็ยังดี เดี๋ยวก็ไม่มีแรงขับรถกลับบ้านหรอก”
“อ่าๆๆ กินก็กิน” ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่จะเอนหลังพิงไปกับเก้าอี้ และรับข้าวต้มกับน้ำมากิน
“ดีมากค่ะ กินเยอะๆ ได้ยิ่งดี จะได้มีแรงขับรถกลับบ้าน อ้อ! เกือบลืมไปเลย! อย่าลืมแปะแผ่นเจลลดไข้ด้วยนะคะ” เธอว่าพลางแกะแผ่นเจลลดไข้ออกจากซอง ก่อนที่จะนำมันมาแปะลงบนที่หน้าผากของผม “เรียบร้อยแล้ว หายไวๆ นะคะ”
“เธอไม่มีเรียนหรือไง? เห็นเอาแต่ตามติดพี่ทุกวันเลย”
“ก็ต้องมีสิคะ แต่พอเรียนเสร็จหนูก็รีบมาหาพี่ทันทีเนี่ยแหละค่ะ หนูแบ่งเวลาได้ พี่ไม่ต้องห่วง”
“แล้วไม่มีเพื่อนคบเลยเหรอ? เห็นเดินคนเดียวตลอด”
“พอดีหนูเป็นอินโทรไมโครซอฟท์เวิร์ดน่ะค่ะ” เอิ่ม…มันต้องอินโทรเวิร์ตหรือเปล่า
[อินโทรเวิร์ต (Introvert) ทำให้ดูเหมือนคนเก็บตัว พูดน้อย ชอบการทำกิจกรรมเงียบๆ หรือกิจกรรมที่มีกลุ่มคนน้อยๆ เช่น อ่านหนังสือ วาดรูป ตกปลา เดินป่า ดูหนังฟังเพลงที่ห้อง ฯลฯ
ข้อมูลจาก : https:/abbitcare.com/blog/wellness-tips/whats-introvert-extrovert]
“555 หนูล้อเล่นค่ะ” เธอหัวเราะคิกคักเบาๆ และยกแก้วชาเขียวที่ซื้อมาในตอนแรกขึ้นดื่ม “หนูไม่มีเพื่อนหรอกค่ะ ก็เลยต้องอยู่คนเดียว”
“อ่าว…แล้วลิ้นจี่หายไปไหนแล้วล่ะ? วันนั้นยังเห็นเดินด้วยกันอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? หรือว่ามีเรื่องผิดใจกัน ทะเลาะกัน ก็เลยเลิกคบกันไป”
“ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันหรอกค่ะ แต่พอดีลิ้นจี่เขาเรียนคนละ sec. กับหนู ก็เลยทำให้ไม่ได้เจอกัน”
“แบบนี้นี่เอง” ผมพยักหน้าเบาๆ เชิงว่าเข้าใจ ก่อนที่จะก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มต่อไป