คุณนายผู้การ

2114 Words
คุณนายผู้การ หลังจากที่พิมพ์ลภัสไปปรึกษากับคุณครูและได้ข้อสรุปว่าเธอสามารถทำเรื่องย้ายและไปรอโรงเรียนทางโน้นเปิดได้เลยเพราะทางโรงเรียนจะจัดการส่งเรื่องไปให้โรงเรียนปลายทางเองพัทธิพงค์จึงให้หลานสาวเดินทางไปรอที่สัตหีบได้เลย จะได้เรียนรู้การอยู่ด้วยกันกับธนกฤตด้วย เด็กสาวนั่งรอผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีทางนิตินัยอยู่ที่หน้าบ้านหลังจากล่ำลาคนในครอบครัวเมื่อช่วงเช้าก่อนที่พวกเขาจะไปทำบุญกัน เด็กสาวมองดูต้นกุหลาบที่เธอตั้งใจปลูกก่อนจะหันไปคุยกับต้นกุหลาบราวกับมีชีวิต “เจ้ากุหลาบน้อย ไปกับหนูพริกนะ ถ้าไม่มีกุหลาบน้อยหนูพริกคงเหงาแย่เลย อีตาลุงนั้นคงจะไม่ค่อยอยู่บ้านหรอก” “ไม่รู้มาก่อนเลยนะว่าพริกขี้หนูคุยข้ามสายพันธุ์กับดอกไม้ได้” เสียงที่เอ่ยมาจากด้านหลังทำให้พิมพ์ลภัสถึงกับอายม้วนเพราะรู้ดีว่าเสียงนี้เป็นเสียงใคร เด็กสาวหันไปมองแต่ชายหนุ่มยืนอยู่ใกล้ทำให้เด็กสาวต้องถอยหลังจนล้มลงไปใกล้ๆกับกระถางกุหลาบ “โอ๊ย!!! อีตาลุงนิสัยไม่ดีคอยดูนะถ้าสะโพกหนูเป็นอะไรไปนะจะอาละวาดให้น่าดูเลย” คนล้มก้นกระแทกพื้นเอ่ยบอก 'เจออีตาลุงนี่ทีไรก้นระบมทุกที คอยดูนะถ้าก้นหรือสะโพกเธอเป็นอะไรไปเธอจะอาละวาดให้ไม่มีความสุขไปเลย ' “อ้าวๆ มาโทษกันซะงั้น ซุ่มซ่ามเองยังจะมาว่ากันอีก อะ อะ พี่ผิดก็ได้ ไปกันดีกว่าเดี๋ยวจะถึงค่ำตลาดจะวายจะไม่มีของกินเย็นนี้” ธนกฤตเอ่ยบอกพร้อมทั้งยอมลงให้เมื่อเด็กสาวทำหน้าดุใส่ 'เด็กอะไรหนอ ยิ้มก็น่ารัก โกรธก็น่ารัก ยิ่งดุนี่ยิ่งน่ารักน่าฟัด' “ตลาดเหรอ” เด็กสาวที่ทำหน้าดุเบิกตาโตอย่างตื่นเต้น ธนกฤตได้แต่ยิ้มขำ 'ยัยเด็กเมืองกรุง' “ไปสิถ้าอยากเที่ยวตลาด แต่เป็นตลาดของทะเลเป็นส่วนใหญ่นะ” ชายหนุ่มเอ่ยบอกก่อนจะเดินไปยกเจ้ากระถางกุหลาบเพื่อนต่างสายพันธุ์ของเด็กสาวไปที่รถซึ่งคนงานในบ้านยกกระเป๋าของเด็กสาวมาไว้ในรถเรียบร้อยแล้ว “นี่” เด็กสาวเอ่ยขึ้นหลังจากชายหนุ่มขับรถออกมาจากบ้านได้เกือบ5กิโลเมตร “ว่าไง” ธนกฤตไม่หันมามองแต่ก็เอ่ยตอบ “มันวังเวงและเงียบมาก หนูไม่ชอบทำไมพี่เงียบแบบนี้เนี่ย” เด็กสาวเอ่ยอย่างทนไม่ไหว 'มิน่าล่ะพ่อเขาถึงอยากได้อาพลอยที่พูดไม่หยุดแบบเธอไปเป็นสะใภ้ก็ลูกชายท่านเงียบอย่างกับไร้ตัวตนนิ' “โทษทีพี่พูดไม่เก่ง เปิดเพลงฟังก็ได้จะได้ไม่เงียบ” คนเงียบเอ่ยบอกพร้อมเสนอแนวทางให้ก่อนที่จะเปิดเพลง แต่เด็กสาวกลับเอื้อมมือไปปิดซะ “หนูไม่ชอบฟังเพลงเวลานั่งรถ ไม่เอา ไม่เอา พี่ต้องพูดกับหนู เงียบแบบนี้คนอื่นเขาจะเข้าใจว่าเป็นใบ้กันพอดี ต่อไปถึงจะเงียบกับคนอื่นแต่ต้องคุยกับหนูเข้าใจมั้ย” “งั้นหนูต้องชวนพี่คุยนะ เพราะพี่ไม่ถนัดคุย” คนอายุมากกว่าเอ่ยบอกแต่คนฟังหน้าเห่อร้อนอย่างบอกไม่ถูก 'อร๊ายย น่ารักไปอีก' “ก็ได้ งั้นมาเล่นเกมกันดีกว่า หนูจะพูดขึ้นมาสองอย่างให้เลือก พี่ต้องเลือกว่าชอบอันไหนมากกว่าแล้วพี่ก็หามาถามหนูด้วยเราจะได้รู้จักกันมากขึ้น” เด็กสาวเอ่ยบอกก่อนจะกลบเกลื่อนรอยยิ้มเอาไว้ “กรีฑาหรือแบตมินตัน” “อื้ม กรีฑา” คนที่ขับรถอยู่ตอบก่อนจะถาม “ทีนี่พี่ต้องถามหนูใช่มั้ย” เด็กสาวพยักหน้าก่อนจะตอบ “ใช่ถามมาเลยเรื่องอะไรก็ได้” “เรือหรือเครื่องบิน” คนไม่ค่อยถนัดพูดเอ่ยถามเริ่มจากไอ้เรื่องใกล้ตัวนี่แหละ “เรือ”พิมพ์ลภัสเอ่ยตอบอย่างไม่ต้องคิด “น้ำตกหรือทะเล” เด็กสาวเอ่ยถามธนกฤตยิ้มขำออกมาก่อนจะบอก “อาชีพอย่างพี่เนี่ยชอบน้ำตกมั้ง ต้องทะเลอยู่แล้ว พี่ถามบ้างซีลหรือรีคอน” เจอคำถามนี้เข้าไปเด็กสาวถึงกับยกมือขึ้นเกาท้ายทอยจะตอบไปตามจริงก็กลัวโดนล้อไม่ตอบก็ไม่ได้ “ว่าไง นักรบซีล หรือ นักรบรีคอน ไม่ต้องบอกว่าไม่รู้จักพี่ไม่เชื่อ” ผู้การหนุ่มเอ่ยเร่งอย่างรู้ทัน “ซี ซีล กุหลาบขาวหรือกุหลาบแดง” เด็กสาวว่าก่อนจะเปลี่ยนเรื่องทันทีเมื่อมองเห็นรอยยิ้มที่ริมฝีปากของชายหนุ่ม “กุหลาบขาว ผู้ชายขี่บิ๊กไบท์หรือผู้ชายขี่เบนท์” ธนกฤตเอ่ยถามพร้อมทั้งยิ้มออกมา “บิ๊กไบท์” เด็กสาวตอบอย่างเขินๆดูแลแต่ล่ะคำตอบช่างเข้าตัวเขาจังเลย ทั้งคู่เล่นกันต่อไปเรื่อยๆจนถึงตลาดอาหารทะเลซึ่งอยู่ห่ายจากบ้านพักของธนกฤตอีกไม่ไกล เด็กสาวดูตื่นเต้นกับการเดินตลาดจนชายหนุ่มได้แต่ยิ้มขำ “จะซื้ออะไรเหรอ” เด็กสาวหันมาเอ่ยถาม ธนกฤตเดินตามมาก่อนจะเอ่ยบอก “แล้วเย็นนี้หนูอยากจะกินอะไรล่ะ” “ปู” เด็กสาวเอ่ยบอกอย่างตื่นเต้นเมื่อมองไปเห็น “เอาอันนี้นะพี่ หนูอยากกิน” “พี่ว่าเอาปลากับกุ้งดีกว่า ปูมันแกะยากกว่าจะได้กินหนูเอ๋ย” ชายหนุ่มเอ่ยแย้ง พิมพ์ลภัสหันกลับมามองอย่างขัดใจก่อนจะพูด “หนูจะกินปู” “พี่ว่ากินปลาดีกว่า จะได้ฉลาดๆ” ธนกฤตยังคงแย้งเพราะเห็นว่าปลาจะทานง่ายกว่า “หนูว่าหนูฉลาดอยู่แล้วในระดับหนึ่ง มีน้ำมันตับปลาไว้กินแล้วด้วย ดังนั้นหนูจะกินปู” คนถูกขัดใจบอก “กินปลาดีกว่า นะครับ” คนไม่อยากให้เด็กสาวต้องแกะเจ้าปูนั่นให้เหนื่อยเอ่ยอย่างขอร้อง “จะเอาปู หนูจะเอา” เด็กโดนขัดใจเอ่ยบอกเสียงดังจนแม่ค้าหันมามองอย่างสงสัย “โอเคครับ โอเค ปูก็ปูเนาะ แต่ซื้อปลา กุ้งแล้วก็หอยไปด้วยนะหนูนะ” ธนกฤตเอ่ยบอก ก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ 'นี่แหละสมเป็นหลานยัยพลอยก็ต้องเอาแต่ใจนี่แหละแต่ดูจะเยอะกว่าอย่างมหาศาล' “ป้าชื่นครับเอา กุ้ง หอม ปู ปลาอย่างล่ะกิโลครับ อ่อ เอาปูสองไปเลย” ชายหนุ่มเอ่ยบอกขณะที่เด็กสาวเดินออกไปทางอื่นแล้ว “นี่ค่ะผู้การ กุ้ง หอย ปู ปลาครบเลย หนูคนเมื่อกี้ใครคะน่ารักเชียว คุณหนูลูกสาวผู้การเหรอคะ” แม่ค้าขาเมาท์ที่รู้จักทุกคนไปทั่วเอ่ยถามอย่างอยากรู้ ธนกฤตจ่ายเงินแล้วรับของมาก่อนจะตอบ “ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่ลูกสาวผู้การ แต่เป็นคุณนายผู้การครับ ภรรยาผมเอง” ว่าแล้วก็รีบเดินตามคนหน้างอคอหักเป็นปลาทูแม่กลองไปทันที “หนู นี่พี่ซื้อปูสองกิโลเลยนะพอใจมั้ย จะเอาอะไรอีกมั้ย” ธนกฤตเอ่ยถาม พิมพ์ลภัสมองถุงของสดในมือของชายหนุ่มก่อนจะถาม “พี่จะทำอะไรล่ะ” “แล้วแต่หนูเลย ปกติพี่จะกินที่บ้านนายเพลิง พี่กับนายพีและน้องพั้นฝากท้องที่นั่นประจำ” ชายหนุ่มเอ่ยบอก ปกติเขาและพีรวัศและพัญวลัยจะไปฝากท้องทานอาหารฝีมือนารารินภรรยาของเพลิงตะวันเป็นประจำอยู่แล้วแต่เมื่อมีเด็กสาวเพิ่มเข้ามาคงต้องปรับเปลี่ยนจากอะไรก็ได้เป็นตามใจเธอ 'นี่เขากำลังเลี้ยงต้อย เอาใจเด็กรึเปล่าเนี่ย ' “น้องพั้น?” คนได้ยินชื่อนี้แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นใครท้วง “น้องพั้นเป็นลูกสาวนายพี เอ่อ พี่หมายถึงคนที่เถียงกับยัยพลอยดีๆน่ะ” ธนกฤตบอก “น้องพั้นก็เหมือนลูกคนหนึ่งของพี่ เลี้ยงช่วยนายพีมาตั้งแต่เด็ก เดี๋ยวหนูก็จะได้เจอน้องพั้น บางทีอาจได้เจอพีมด้วย พั้นกับพีมอายุเท่าหนูนั่นล่ะ” “อยากตบมือจังเพิ่งได้ยินพี่พูดยาวๆก็คราวนี้” เด็กสาวว่าแล้วยกมือขึ้นตบแปะๆ “ก็หนูบอกเองไม่ให้พี่เงียบใส่หนูไง” ธนกฤตบอก “ว่าแต่ไอ้ของพวกนี้จะทำอะไรล่ะ เอากลับไปพี่จะได้ให้นุช เมียนายเพลิงทำให้ถูก” “หนูจะทำเอง หนูทำได้ อร่อยนะ ไม่ต้องรบกวนใครหรอก” เด็กสาวพูดอย่างโอ้อวดแต่ก็ไม่เกินจริง “วันนี้ก็เอาง่ายๆล่ะกันปูนึ่ง ปลาย่าง กุ้งชุบแป้งทอด ส่วนหอยเก็บไว้แค่สามอย่างพอแล้ว ต้องไปซื้อของทำน้ำจิ้มด้วยตามมา” “โอเคครับคุณนาย เอาที่สบายใจครับคุณนาย” ธนกฤตเอ่ยอย่างขำขัน ดีนะที่เขากับเธอไม่กัดกันเหมือนวันแรกๆ ก็พอจะอยู่กันได้ถ้าไม่ไปขัดใจเธอ 'รู้สึกว่าคุยด้วยแล้วมีความสุขเหมือนกันแฮะ คุณนายของเรา' ธนกฤตเดินตามเด็กสาวที่เลือกซื้อนั่นซื้อนี่อย่างคล่องแคล่วด้วยรอยยิ้ม เด็กตัวแค่นี้รู้จักจับจ่ายซื้อของแถมมีการต่อรองราคาอีกด้วย “พี่คะ อันนี้กี่บาทคะ” พิมพ์ลภัสเอ่ยถามพร้อมชี้ไปที่พริกขี้หนูที่อยู่บนถาด “ขีดละ20บาทคะ” แม่ค้าสาวขายพริกเอ่ยบอกพร้อมเหลือบไปมองคนที่มากับเธออย่างสนใจมีใครบ้างไม่รู้จักผู้การธาม คนที่ถูกขนานนามว่าเป็นผู้การยังหนุ่มที่ไม่พบปะพูดคุยกับใครมากนักจนบางครั้งถูกคนเรียกว่าเทพบุตรหุ่นยนต์เลยด้วยซ้ำ “ลดให้หน่อยสิคะ หนูเป็นลูกค้าใหม่เลยนะลดหน่อยสิคะพี่คนสวย” เด็กสาวยังคงต่อรองราคา จนธนกฤตยิ้มแหยๆออกมา 'แม่พริกขี้หนูของเขาขี้งก ขี้เหนียวซะจริง สักวันเขาคงต้องยกเงินเดือนให้เธอเป็นคนจัดการเลยมั้งเนี่ย' “โอ๊ยน้องของซื้อของขายจะมาลดให้ได้ยังไง” แม่ค้าสาวเอ่ยบอกแต่ยังคงส่งสายตายั่วยวนให้กับผู้การหนุ่มจนพิมพ์ลภัสรู้สึกโมโหขึ้นมา “พี่ธามที่นี่มีแผงขายพริกสดอีกมั้ย หนูไม่ซื้อแผงนี้แล้ว” เด็กสาวเอ่ยบอกพร้อมทั้งเดินมาควงแขนขวาของชายหนุ่มอย่างเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ “ถ้าพริกสดมีอีกสองแผงแต่ถ้าหนูจะเอาพริกขี้หนู มีแค่แผงนี้” คนถูกประกาศความเป็นเจ้าของเอ่ยบอก “งั้นพี่ธามช่วยซื้อให้หน่อย อ๋อ! แล้วก็อย่าไปเล่นหูเล่นตากับแม่ค้านะ หนูไม่ชอบไม่งั้นเจอดีแน่ยัยแม่ค้าขี้งก “ เด็กสาวเอ่ยบอกสามีหนุ่มก่อนจะตะโกนในประโยคถัดไปแล้วเดินออกไป ธนกฤตมองตามก่อนจะหันมามองแม่ค้าสาวด้วยสายตาไม่เป็นมิตร “ผมขอซื้อพริกขี้หนูครับ ถ้าไม่ขายผมก็ไม่ว่าขอโทษแทนภรรยาผมด้วย” ธนกฤตซื้อพริกขี้หนูมาได้ด้วยราคาที่แม่ค้าสาวตั้งพร้อมทั้งขอโทษเธอแต่ในใจไม่ได้ขอโทษอย่างที่พูดก่อนจะเดินตามแม่พริกขี้หนูของเขาไปที่รถ “ไปกันดีกว่าหนู ถ้าโมโหหนักเราปลูกผักไว้กินเองดีมั้ย จะกินอะไรปลูกมันให้หมด” ธนกฤตเอ่ยบอก พิมพ์ลภัสมองก่อนจะยิ้มออกมา “ดีหนูจะทำตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่9 จะไม่ง้อยัยแม่ค้าหน้าเลือดนั้น นอกจากงกแล้วยังมาเล่นหูเล่นตาใส่สามีชาวบ้าน” “นี่ตกลงโกรธที่แม่ค้าไม่ลดราคาให้ หรือโกรธที่แม่ค้าเขาเล่นหูเล่นตาใส่พี่กันแน่หนู หวงล่ะสิ” ธนกฤตเอ่ยบอกพร้อมทั้งยักคิ้วลิ้วตาให้ “บ้าใครไปหวงพี่กันชิ” เด็กสาวพูดก่อนจะเดินไปขึ้นรถอย่างเขินอาย ธนกฤตอมยิ้มพร้อมทั้งขำออกมาก่อนจะเอาของไปเก็บที่ท้ายรถ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD