bc

เจ้าสาว(สำรอง)ม.ปลายที่รัก

book_age12+
961
FOLLOW
3.7K
READ
love after marriage
age gap
bxg
like
intro-logo
Blurb

แผนการล้มงานแต่งที่เขาและว่าที่เจ้าสาววางไว้กลับพลิกผันเมื่อผู้เป็นพ่อยังดึงดันจะให้เขาแต่งงานให้ได้จนต้องหาเจ้าสาวคนใหม่และนั้นยังน้อยไปกับคำว่าซวยเมื่อการสุ่มหาเจ้าสาวของผู้เป็นพ่อดันไปแจ๊คพอตแตกที่เด็กม.ปลาย แล้วนายทหารเรืออย่างเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะเนี้ย ได้เมียเด็กแถมอายุยังห่างกันถึง20ปี

chap-preview
Free preview
อารัมภบท
อารัมภบท    ร่างสูงในเครื่องแบบทหารเรือสีขาวสง่า เครื่องหมายบนบ่าและอกเสื้อบ่งบอกถึงชั้นยศนาวาเอก ใบหน้าดูเคร่งขรึมดุดัน น่าเกรงขามยืนมองเพื่อนสนิทตรงหน้าอย่างสงสัย นาวาเอกธนกฤต เตชะนาวินทร์หรือผู้การธามผู้บังคับการเรือหนุ่มเกือบใหญ่วัย37ปีถึงกับฉงน ด้วยยศที่ถือว่าสูงพอตัวทำให้เขาไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะขอให้ทำอะไรแบบนี้          “พูดอีกครั้งสิพลอย เธอจะให้ฉันไปทำอะไรนะ” ผู้การหนุ่มเอ่ยถามย้ำเมื่อต้องการฟังคำขอร้องของเพื่อนสาวคนเดียวอีกครั้งชัด ๆ “แนะแนวพวกนักเรียนม.6 ช่วยฉันหน่อยนะ เป็นการแนะแนวพิเศษเพื่อเป็นตัวเลือกให้กับนักเรียนที่สนใจการฝึกของนักทำลายใต้น้ำจู่โจม ฉันไม่เห็นใครเหมาะเท่านายอีกแล้ว ผู้การธาม นักรบซีลที่น่าเกรงขาม” พรปวีร์ ภูมิภัทรภาธีหรือครูพลอย คุณครูมัธยมสาวเกือบใหญ่วัย37ปี ที่ยังไม่คิดจะลงจากคานทองง่ายๆเอ่ยบอกเพื่อนสนิทที่คบหากันมาเกือบเท่าอายุอีกครั้ง เธอเห็นว่าการแนะแนวทางด้านนี้ไม่ได้เสียหายอะไรแถมยังมีนักเรียนสนใจมากพอควรแม้จะไม่ได้ไปฝึกเองก็มีข้อมูลให้สำหรับคนที่จะไปฝึกได้เรียนรู้ออกจะเป็นแนวคิดที่ดี           “จะบ้าเหรอ  ไม่ไปเว้ย” ผู้การหนุ่มเอ่ยบอกสั้นๆ เรื่องอะไรจะไปทำแบบนั้น เขาไม่ชอบเด็กๆ มันดูวุ่นวายถ้าว่าเด็กสองขวบสามขวบพอว่า แต่นี่17-18 วัยหัวเลี้ยวหัวต่อชัดๆ เกิดอยากลองของ อยากเท่ขึ้นมาแล้วเกิดผิดพลาดเขาไม่ซวยเหรอ           “น๊านะ ช่วยฉันสักครั้งนะ ฉันเอาเรื่องนี้เสนอผ.อ.แล้ว ท่านก็อนุมัติแล้วด้วย  ถือว่าเห็นแก่เพื่อนสักครั้งนะ นะเพื่อนรัก ชวนพวกนายพีไปด้วยก็ได้” พรปวีร์ยังคงโน้มน้าวพร้อมทำหน้าตาปานจะร่ำไห้ ถึงเพื่อนคนนี้จะดูเคร่งขรึมแต่ก็แพ้น้ำตาผู้หญิง เธอรู้ดี เธอใช้บ่อย “โอ๊ย! ก็ได้ๆยัยปีศาจ “ ธนกฤตเอ่ยอย่างปฏิเสธเสียไม่ได้ ยัยนี้จี้จุดอ่อนกันชัดๆ ยัยแม่มด  ยัยปีศาจ ยัยเพื่อนนิสัยไม่ดี “ขอบใจมากนะ รักนายว่ะ” พรปวีร์เอ่ยบอกอย่างดีใจพร้อมทั้งกระโดดกอดเพื่อนอย่างดีใจ เขาคงซึ้งหรือรู้สึกดีถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นมาบอกรักแต่ไม่ใช่กับพรปวีร์เพราะเขารู้ดีว่าเธอไม่ได้คิดเกินเลย แถมเธอยังเป็นเลสเบียนอีกต่างหาก            “พอเลยยัยเบี้ยน ถอยไปเลย” ผู้การหนุ่มเอ่ยบอกก่อนที่พรปวีร์จะขยับถอยออกไปจากชายหนุ่ม            “เออนี่ นายยังไม่เคยเจอพริกหวานตอนโตเลยใช่มั้ย คราวนี้จะได้เจอแล้วเดี๋ยวฉันจะแนะนำให้รู้จัก บอกตรงๆฉันรักพริกหวานมากอะ ชาตินี้ลูกของตัวเองไม่มีก็ช่างแค่มีพริกหวานก็พอ” พรปวีร์เอ่ยบอกก่อนที่จะยิ้มเอ็นดูเมื่อนึกถึงหลานสาววัย17ปี ที่เธอทั้งรักทั้งหลง เพราะหลานสาวคนนี้ช่างแสบสันได้ใจ             “พูดถึงอีกแล้ว จะสักแค่ไหนกันฮ่ะเธอถึงรักถึงหลงขนาดนี้” คนเริ่มรำคาญเอ่ยบ่น เจอหน้าเพื่อนแต่ล่ะครั้งพรปวีร์ก็พูดถึงแต่หลานสาว เด็กสาวที่เขาเคยเจอแค่ตอนคลอดแถมยังเป็นคนตั้งชื่อจริงและชื่อเล่นให้ตามที่พี่ชายของพรปวีร์ขอ            “เฮอะ ถ้านายได้เจอพริกหวานนะรับรองจะหลงเด็กคนนี้ขนาดมีร้อยให้ร้อยมีล้านให้ล้านเลย ยังไงนายก็เป็นพ่อทูนหัวของพริกหวานไปเจอลูกสักครั้งสิ จะได้เจอซะทีคาดกันมาหลายครั้งแล้วตั้งแต่เล็กๆจนตอนนี้หลานฉันจะ18อยู่แล้ว” พรปวีร์เอ่ยทำให้คนที่เกิดหิวน้ำขึ้นมาจนต้องเดินไปกินถึงกับสำลัก            “แค่กๆ ก็บอกว่าไม่รับเป็นพ่อทูนหัวไงเธอกับพี่เพชรนี่พูดไม่รู้เรื่อง ให้ตั้งชื่อให้ก็พอมั้ง ชัดๆเลยไม่เป็นพ่อทูนหัวเว้ย” ธนกฤตเอ่ยบอกหลังจากหลุดจากอาการสำลักน้ำเอ่ยบอก ก่อนที่จะนึกย้อนไปถึงสมัยที่ภรรยาของพี่ชายพรปวีร์คลอดบุตรสาวคนเล็ก พี่ชายของพรปวีร์ขอให้เขาตั้งชื่อจริงและชื่อเล่นให้กับลูกสาวเพราะช่วงที่พี่สะใภ้ของพรปวีร์ท้องได้หกเดือนบ้านที่สัตหีบถูกไฟไหม้พี่สะใภ้ของพรปวีร์ติดอยู่ในกองไฟในขณะที่พี่ชายของพรปวีร์ออกไปรับลูกชาย ธนกฤตผ่านมาพอดีเข้ามาช่วยไว้ได้เขาจึงถูกมองว่าเป็นผู้มีพระคุณของเด็กหญิงแรกเกิดคนนั้นจึงให้ตั้งชื่อให้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตเด็กน้อย แถมยังให้เป็นพ่อทูนหัวให้อีกแต่ตัวเขาปฏิเสธไปเพราะเห็นว่าตัวเองยังหนุ่มเกินไปที่จะเป็นพ่อทูนหัวของใคร            “จากเด็กหญิงพิมพ์ลภัสในวันวาน ตอนนี้เป็นนางสาวพิมพ์ลภัส นักเรียน.5 ที่น่ารักและสดใสได้ก็เพราะนายเลยนะ ยังไงฉันกับพี่เพชรก็สอนพริกหวานว่านายคือพ่อทูนหัว ต่อให้นายไม่รับก็เถอะ”พรปวีร์เอ่ยบอกก่อนที่โทรศัพท์ของพรปวีร์จะดังขึ้นเธอจึงขอตัวกลับ “น้องมิวโทรมา ขอไปรับแล้วกลับเลยดีกว่า ห้ามเบี้ยวนะ ไม่งั้นฉันจะฟ้องพ่อนาย เตรียมเจอตัวลูกสาวด้วยนะคุณพ่อทูนหัวของพริกหวาน “ หญิงสาวเอ่ยบอกก่อนจะเดินออกไป ผู้การหนุ่มได้แต่ส่ายหัวก่อนจะโทรศัพท์หาเพื่อนรักผู้ร่วมเป็นร่วมตายด้วยกันตั้งแต่ตอนฝึกนักเรียนทำลายใต้น้ำจู่โจมเพื่อชวนไปด้วยกัน      วันศุกร์  โรงเรียน... กรุงเทพมหานคร             มือหนาของผู้การหนุ่มยกสมาร์ทโฟนขึ้นก่อนจะโทรศัพท์หาพรปวีร์เมื่อมาถึงโรงเรียนที่หญิงสาวสอนอยู่ โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครทำให้ธนกฤตอิดออดที่จะมาในตอนแรกเพราะเขาไม่ค่อยชอบเมืองหลวงที่มีแต่มลพิษและผู้คนที่วุ่นวาย ชายหนุ่มไม่ค่อยชอบพบปะกับผู้คนมากนักนอกจากนายทหารจากเหล่าต่างๆ เพราะเขาค่อนข้างเก็บตัวและไม่ชอบความวุ่นวาย            “ฉันอยู่หน้าอาคารแล้ว ไอ้พี กับ ไอ้เพลิงยังไม่มาอีกครึ่งชั่วโมงถึงจะตามมา โอเคเดี๋ยวฉันขึ้นไป” ธนกฤตเอ่ยบอกก่อนจะมองไปยังสนามที่เริ่มมีเด็กนักเรียนในชุดพละสีแดงอ่อนทยอยกันมายืนตั้งแถวหน้าเสาธงแล้วเดินที่บันได                 กริ่งๆ เสียงระฆังเตือนในเวลา07.50น. ทำให้นักเรียนไม่ว่าจะชายหรือหญิงในโรงเรียนแห่งนี้ต่างวิ่งวุ่นกันชุลมุนเพื่อไปยืนหน้าเสาธงเพื่อเคารพธงชาติและสวดมนต์ตอนเช้า และหนึ่งในนั้นก็คือนางสาวพิมพ์ลภัส ภูมิภัทรภาธี หรือพริกหวานนักเรียนสุดฮอตหัวหน้าห้องประจำชั้นมัธยมศึกษาปีที่5/1ทั้งชื่อจริงและชื่อเล่นของเธอเป็นสิ่งที่ถูกสั่งสอนมาตลอดว่าพ่อทูนหัวผู้มีพระคุณเป็นคนตั้งให้แม้จะไม่รู้ว่าใครแต่เธอก็ชอบชื่อนี้เป็นอย่างมาก เด็กสาวรีบผูกเชือกรองเท้าพละด้วยความรวดเร็วก่อนจะลุกขึ้นและรีบวิ่งไปทางบันไดโดยไม่ได้มองเส้นทางเพราะคิดว่าเดินประจำก่อนที่จะชนโครมเข้ากับใครบางคนจนร่างของเธอล้มลงไปนั่งกองกับพื้นอาคารอย่างแรงบั้นท้ายงามงอนกระแทกพื้นกระเบื้องอย่างจังจนรู้สึกเจ็บ           “โอ๊ย เจ็บ เดินยังไงเนี่ย” เด็กสาวเอ่ยร้องโอดครวญก่อนจะถามอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่องพลางเงยหน้าขึ้นมองจึงได้เห็นว่าคนที่ถูกชนหรือคนเดินมาชนก็ไม่อาจทราบอยู่ในชุดสีขาว ‘นายทหารเรือ โอ้ย หนูพริกแพ้เครื่องแบบทหารเรือ’ พิมพ์ลภัสได้เอ่ยในใจ เธอปลาบปลื้มและชื่นชอบทหารเรือมากเพราะถูกอาสาวและพ่อพูดกรอกหูว่าพ่อทูนหัวเป็นนายทหารเรือเธอจึงผูกใจว่าทหารเรือแสนดีน่ารักมีน้ำใจ เด็กสาวพิจารณามองเครื่องหมายบนหน้าอกก่อนจะสะดุดเข้ากลับตราประทับที่เธอเคยเห็นแค่ในหน้าเว็บไซซ์หรือโลกออนไลน์ ' กรี๊ด หน่วยซีลเหมือนพ่อทูนหัวด้วย โอ๊ยใจละลาย แต่เอ๊ะ อีตานี่เดินชนหนูพริกนิ หนูพริกจะไปชื่นชมทำไม'            “เป็นไงบ้างน้อง ทำไมวิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือเลย” ผู้การหนุ่มเอ่ยบอกในเชิงต่อว่าก่อนจะจ้องใบหน้าของเด็กสาว ริมฝีปากอมชมพูธรรมชาติ ใบหน้าไร้เครื่องสำอาง ดวงตากลมโต ผมยาวถูกมัดรวบเป็นหางม้า ส่วนหน้าผากมนถูกปกคลุมด้วยผมหน้าม้าดูน่ารักสมวัย ชายหนุ่มจดจ้องมองจนทำให้แอบใจเต้นไม่เป็นจังหวะอย่างห้ามไม่อยู่ ‘น่ารักชะมัด’             “อ้าวนี่น้า หนูก็วิ่งของหนูดีๆ น้านั่นแหละโพล่มาจากไหน” เสียงหวานเอ่ยบอกก่อนที่จะลุกขึ้นยืนทั้งที่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครผิดก็เธอมัวแต่มองนาฬิกาอยู่นะสิ คำพูดไม่รื่นหูของเด็กสาวทำให้คนแอบหัวใจเต้นแรงถึงกับหยุดความคิดไปดื้อๆ ‘น่ารักอยู่หรอกแต่ปากพูดไม่ค่อยจะเพราะเท่าไหร่ โดยเฉพาะคำว่าน้า’           “นี่น้อง น้าเลยเหรอไร้มารยาเกินไปแล้วนะ” คนอายุมากกว่าเอ่ยต่อว่า รู้สึกเสียความมั่นใจขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่  น้า น้าเลยนะ ถึงแม้ว่าความจริงเขาจะมีหลานชายที่หน้าจะอายุมากกว่าเธอก็ตาม แต่เธอไม่ใช่หลานเขานะมาเรียกน้าเนี่ยหยาบคายมาก “อ้าวนี่น้า ก็ดูจากหนังหน้าแล้วเนี่ยคงสามสิบกว่าๆ ขนาด29หนูยังเรียกน้าเลย เรียกน้าเนี่ยถูกแล้วหรือจะให้เรียกคุณตา แบบนั้นเอาป้ะ” คนอายุน้อยกว่าเอ่ยอย่างไร้มารยาท คนอายุมากกว่าถึงกับหัวเสีย 'ดูเอาเถอะ ยัยเด็กนี้ ตัวเท่าลูกหมาปากคอเราะร้าย เป็นน้องเป็นนุ้งเป็นลูกเป็นหลานจะฟาดให้ก้นลาย'   “ยัยเด็กไม่มีมารยาท เธอเป็นคนวิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือเองมาโทษคนอื่นยังไม่พอยังไม่รู้กาลเทศะ มีเด็กที่ไหนมายืนต่อปากต่อคำกับผู้ใหญ่แบบนี้กัน” คนไม่ชอบพูดมากเอ่ยบอก น่าจะเป็นประโยคยาวประโยคแรกที่เขาพูดกับคนไม่รู้จักกันก็ว่าได้            “อ้าวน้า แบบนี้มันด่ากันชัดๆ เป็นผู้ใหญ่ภาษาอะไรมายืนต่อว่าเด็กอย่างนี้ล่ะ “ เด็กสาวเอ่ยบอกแหงนหน้ามองอย่างไม่เกรงกลัว ฝ่ายคนเป็นผู้ใหญ่ก็ต้องก้มหน้ามองอย่างไม่ยอมแพ้ 'ยัยเด็กนี้เตี้ยชะมัด'            “คนหรือเสาไฟฟ้าวะสูงชะมัด คิดว่าสูงกว่าจะกลัวไง๊ ฝันไปเถอะ นี่แน่ะ” คนที่ขี้เกียจเงยหน้ามองเอ่ยก่อนจะเดินไปกระแทกเท้าลงที่รองเท้าของอีกฝ่ายก่อนจะวิ่งหนีไป            “โอ๊ยยัยลูกหมา ตัวเท่ามด เท้าหนักชะมัด อย่าให้เจออีกนะพ่อจะจับมาฟาดให้ก้นลาย ยัยแคระ” ธนกฤตเอ่ยคาดโทษด้วยความเจ็บ น้อยครั้งที่จะมีคนทำให้เขาเจ็บได้ เจ็บใจเว้ย เจ็บใจ้เป็นบ้า 'ฝากไว้ก่อนยัยเด็กแสบ ถ้าเจออีกโดนดีแน่' ชายหนุ่มคิดในใจก่อนจะเดินไปยังที่นัดหมายกับพรปวีร์ไว้ในใจนึกคาดโทษแม่หนูน่ารักแต่นิสัยไม่ดีไปด้วย 2ชั่วโมงต่อมา          “ขอบใจนายมากนะธาม เด็กๆดูสนใจมากเลย” พรปวีร์เอ่ยบอกหลังจากที่การแนะแนวอาชีพของธนกฤตและพวกจบลง     “นี่ยัยเบี้ยน ขอบใจแต่ไอ้ธาม พวกฉันล่ะหรือว่าตาถั่วมองไม่เห็น”นาวาเอกพีรวัศ เกศทีรวีหรือผู้การพีเอ่ยถามออกมา ก่อนจะหันไปมองหน้านาวาเอกเพลิงตะวัน ธีรัชดำรงณ์หรือผู้การเพลิงเพื่อขอแรงสนับสนุน  เขาเคยชอบเธอแต่คุณเธอดันเป็นเลสเบี้ยนแถมยังเคยหลอกเขาไปหาหนุ่มสวยเพื่อนเธอจนเกือบรักษาประตูหลังไว้ไม่อยู่ทำให้แค้นฝังใจมีโอกาสเมื่อไหร่มีหาเรื่อง  “นายนี่ชอบหาเรื่องฉันจริงๆนะ เอาเวลาไปหาแม่ให้น้องพั้นดีกว่านะไอ้พ่อหม้ายปลาไหล” พรปวีร์เอ่ยต่อว่าอีกฝ่ายเบาๆเพราะยังอยู่ในห้องเรียนเธอตั้งทำตัวให้สำรวม ด้านคนเป็นพ่อหม้ายลูกหนึ่งถึงกับหันมามองอย่างโมโห   'คำก็พ่อหม้ายปลาไหล สองคำก็พ่อหม้ายปลาไหล ยัยเบี้ยนเอ้ย ถ้าไม่ใช่เพราะเธอชอบผู้หญิงด้วยกัน ฉันคงไม่ต้องเป็นแบบนี้หรอก' พีรวัศได้แต่เอ่ยในใจก็ถ้าเธอชอบผู้ชายป่านนี้เขาอาจไม่ต้องแต่งงานกับแม่ของลูกตั้งแต่อายุ20และไม่ต้องกลายเป็นพ่อหม้ายเมียทิ้งหลังจากพัญวลัยหรือน้องพั้นลูกสาวคลอดได้เพียง6เดือนหรอก หลังจากนั้นเขาก็เจ้าชู้สับรางไปเรื่อยเพื่อประชดชีวิตจนได้ฉายาจากเธอว่าพ่อหม้ายปลาไหล          “พอแล้วน๊ายัยพลอย ไอ้พี เถียงกันตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆจนตอนนี้ลูกจะ18อยู่แล้วไม่เบื่อบ้างรึไงวะ” เพลิงตะวันเอ่ยห้ามอย่างรำคาญ เกือบ18ปีแล้วที่ทั้งสองไม่เคยคุยกันดีๆตั้งแต่อายุ20จนตอนนี้พัญวลัยอายุ17แล้วยังจะทะเลาะกันอยู่ได้             “โอเค้ ไม่ทะเลาะแล้วก็ได้ งั้นเพื่อตอบแทนทั้งสามคนเย็นนี้ฉันเลี้ยงข้าวเองตกลงมั้ย” พรปวีร์เอ่ยถามไม่หันไปสนใจพีรวัศอีก ธนกฤตพยักหน้าแทนคำตอบอย่างไม่ใส่ใจนักก่อนที่จะเดินนำไปอย่างรำคาญ   อีกฝั่งหนึ่งของอาคารพิมพ์ลภัสยืนเก็บใบงานจากเพื่อนๆเพื่อเอาไปส่งคุณครูประจำวิชา เด็กสาวเรียบเรียงใบงานตามเลขที่ของนักเรียนในห้องก่อนจะเดินออกไปและก็ชนกับร่างของคนที่เดินมาอย่างธนกฤตอีกครั้ง      ตุบ! “โอ๊ย” เสียงหวานร้องออกมาอย่างเจ็บปวดทันทีที่ร่างของเธอล้มลงไปกองกับพื้น          “ตายแล้ว พริกหวานเป็นยังไงบ้างลูก ธามเดินยังไงหะชนหลานฉันจนล้มแบบนี้” พรปวีร์เอ่ยโวยวายด้วยความห่วงเด็กหญิงก่อนจะถลาเข้าไปพยุง พิมพ์ลภัสเป็นลูกสาวของพี่ชายเธอ และเธอก็รักเด็กสาวมาก และก็หวงมากเช่นเดียวกันและสาวน้อยคนนี้ก็คือเด็กน้อยที่ธนกฤตตั้งชื่อให้นั่นเอง   “เธอ! ยัยลูกหมา” ธนกฤตเอ่ยขึ้นเมื่อมองคนที่ตัวเองชนและยังเป็นยัยลูกหมาตัวแสบที่เจอเมื่อเช้า “เด็กนี่หลานเธอเหรอพลอย มารยาทดีจริงๆเลยนะ” นายทหารเรือหนุ่มเอ่ยอย่างประชด          “นี่น้า ทำคนอื่นเขาเจ็บแล้วยังจะมาว่าเขาอีก” พิมพ์ลภัสเอ่ยอย่างโมโห ก้นที่เจ็บอยู่แล้วเจ็บขึ้นกว่าเก่าด้วยฝีมือคนๆเดียว มันน่าโมโห          “ตายแล้วพริกหวาน ทำไมไปเรียกธามเข้าแบบนั้นลูก ไม่น่ารักเลย ขอโทษพ่อทูนหัวของหนูเลยนะ” คนเป็นอาเอ่ยต่อว่าแต่ก็แบบขำเมื่อเห็นสีหน้าโมโหของคนที่ปกติเงียบขรึมและเย็นชา ' คงเจอฤทธิ์แม่พริกขี้หนูของฉันมาแล้วสินะ555 ขนาดทำให้ผู้การธามผู้เย็นชาร้อนได้ ไม่ธรรมดาจริงๆยัยหลาน'           “ห๊ะเนี่ยเหรอพ่อทูนหัวไม่ใช่ที่คิดไว้เลยอะ”พิมพ์ลภัสเอ่ยอย่างไม่อยากเชื่อ ‘เธอนึกมาตลอดว่าพ่อทูนหัวจะต้องเป็นทหารเรือแก่ๆอายุสัก40-50 ใครจะคิดว่าเจอแบบนี้’          “ไม่ใช่ที่คิดไว้เลยงั้นเหรอ ช่างกล้าพูด อ้อ แล้วเข้าใจไว้นะฉันไม่ได้รับเป็นพ่อทูนหัวของเธอแค่ตั้งชื่อให้เฉยๆ” ธนกฤตเอ่ยอย่างไม่ชอบใจและย้ำเตือนทั้งคนหลานรวมไปถึงคนเป็นอาว่าเขาไม่รับตำแหน่งพ่อทูนหัวของเด็กสาว          “ฉันสอนหลานมาแบบนี้แล้วนิ พริกหวานขอโทษพ่อธามเดี๋ยวนี้” พรปวีร์เอ่ยบอกเพื่อนหนุ่มแล้วหันมาสั่งหลานสาว          “น้าคนนี้มาชนหนูพริกก่อนนะคะอาพลอย เมื่อเช้าก็ทีนึงแล้ว” พิมพ์ลภัสเอ่ยฟ้องคนเป็นอาพร้อมทั้งเอามือลูบบั้นท้ายเพื่อบรรเทาอาการเจ็บ คนเป็นน้าหันหน้าไปมองเพื่อนด้วยสายตาเอาเรื่อง   “นี่เธอ  เมื่อเช้าเธอชนฉันแล้วล้มลงไปเองแถมยังแกล้งกระทืบเท้าฉันอีก ทำไมฟ้องอาแค่นั้นล่ะ” คนที่ถูกเพื่อนมองด้วยสายตาเอาเรื่องเอ่ยบอก คนผิดตัวจริงถึงกับทำหน้าเจื่อน 'อีตาขี้ฟ้อง นิสัยไม่ดี หน้าหล่อดีหรอกแต่นิสัยขี้ฟ้องเนี่ย พริกหวานจะไม่ทน'         “ตกลงมันยังไงกันแน่พริกหวาน” พรปวีร์เอ่ยถามอย่างสงสัย เพื่อนเธอไม่เคยโกหกแถมหลานสาวยังแสบได้ใจ แต่เธออยากฟังความจริง          “พลอยที่นี่มีกฎห้ามวิ่งบนอาคารรึเปล่า หลานเธอวิ่งบนอาคารแถมยังไม่ดูตาม้าตาเรือมาชนฉันล้มลงไปเองยังมาโทษคนอื่น แถมยังทำร้ายฉันอีก เทียบกับฉันชนเมื่อกี้อันไหนร้ายแรงกว่ากัน มารยาทแบบนี้ก็สมกับที่เป็นหลานเธออยู่หรอก” คนไม่ชอบพูดเอ่ยร่ายยาวครั้งแรกแถมใส่อารมณ์สุดๆจนเพื่อนสามคนถึงกับอ้าปากค้าง ‘เกิดอะไรขึ้นกับผู้การธามผู้เเสนเย็นชา’          “นี่น้า ขี้ฟ้องชะมัด นิสัยไม่ดี” พิมพ์ลภัสเอ่ยอย่างไม่ชอบใจนักพร้อมทั้งกระทืบเท้าใส่อย่างไม่พอใจ           “พริกหวาน อย่าเสียมารยาท อาธามเป็นเพื่อนกับอา ขอโทษอาธามซะ แล้วจงจำไว้ถ้าไม่มีอาธามช่วยในวันนั้นหนูคงไม่ได้เกิดมา ขอโทษพ่อทูนหัวของหนูซะ” คนเป็นอาเอ่ยเสียงดุ พิมพ์ลภัสไม่ใช่เด็กก้าวร้าวแต่ถ้าเจอใครที่ไม่ชอบหรือมีเรื่องให้ไม่พอใจถึงจะแสดงความก้าวร้าวแบบนี้ออกมา ‘จำได้ยัยหลานบอกว่าชอบทหารเรือนิ ยิ่งเป็นซีลยิ่งชอบใหญ่แต่ทำไมถึงได้แสดงท่าทีแบบนี้นะ หรือมันมีอะไรมากกว่านั้น’ คนเป็นอาคิดในใจอย่างสงสัย            “ก็ได้ค่ะอาพลอย หนูขอโทษนะคะลุงธามมายยย(ทำไม)” เด็กสาวเอ่ยบอกก่อนจะหยิบแผ่นใบงานที่เกลื่อนอยู่ตามพื้นแล้ววิ่งออกไปทันที          “เด็กอะไรไวอย่างกับจรวจ ทั้งแสบทั้งก้าวร้าว ไร้มารยาท ไม่มีสัมมาคารวะ ฮึย” คนถูกเรียกว่าลุงเอ่ยอย่างหัวเสีย พรปวีร์กลั้นขำอย่างสุดความสามารถ แต่เพลิงตะวันและพีรวัศกลับขำออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่            “เฮ้ย ลุงธามมายยย เนี่ยมาจากทำไมของคนเมากาวรึเปล่าวะ ฮะฮะฮะ” พีรวัศเอ่ยก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมา            “ฉันว่าชื่อพริกขี้หนูยังจะดีกว่า ฉันไม่น่าตั้งให้ว่าพริกหวานเล้ย อย่าให้เจออีกนะยัยเด็กแสบไม่งั้นเจอดีแน่” ผู้การหนุ่มเอ่ยคาดโทษก่อนจะเดินออกไปอย่างหัวเสีย ‘ยัยเด็กนั้นทำเขาหัวเสียทั้งที่ไม่มีใครเคยทำได้ เธออยู่เหนือการควบคุมทั้งด้านอารมณ์ และไอ้หัวใจบ้านี้ที่มันเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อเจอ เป็นไปได้อย่าเจอะเจอกันดีกว่า'             “ฮัดเช้ย!” เสียงจามของพิมพ์ลภัสดังขึ้นก่อนจะถึงหน้าห้องอาจารย์ 'ใครบ่นถึงเนี้ย หรือมีคนคิดถึง บ้าไปแล้วพริกหวาน บ้าแล้ว' เด็กสาวเอ่ยในใจก่อนจะส่ายหน้าพรืดกับความคิดของตัวเอง เด็กสาวเคาะประตูห้องก่อนจะเดินเข้าไปส่งใบงาน   

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

สะใภ้ขัดดอก

read
34.3K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
4.8K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
8.2K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
11.6K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
2.8K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook