ตอนที่ 5 ความปรารถนา

1350 Words
"นี่มันรูปภาพของมัสนี่คะ" มัสยาขมวดคิ้วเรียว ความรู้สึกสงสัยปนเปกับความสับสนมากยิ่งขึ้นเมื่ออคิราห์เอาแต่นิ่งเงียบ เขาชำเลืองมองกรอบรูปที่วางอยู่ซ้ายมือของตนด้วยแววตาราบเรียบ "ทำไมถึงไม่เดินออกไปละ?" ซีอีโอหนุ่มเลิกคิ้วถาม แม้น้ำเสียงจะเยือกเย็นแต่ทว่ากลับสัมผัสได้ถึงความประชดประชันในน้ำเสียงนั้น มัสยาจ้องมองใบหน้าคมคายไม่วางตา ปรารถนาคำตอบจากปากของเขาทว่าไม่อยากคาดคั้น "คุณอคิราห์ตอบมัสมาหน่อยสิคะ ว่าทำไมรูปถ่ายของมัสถึงตั้งอยู่ตรงนี้" "ผู้หญิงในรูปไม่ใช่คุณ ผู้หญิงในรูปคือเจ้าของรอยยิ้มที่สดใส ไม่ใช่ผู้หญิงที่เอาไปทำหน้าอมทุกข์เหมือนที่ผมกำลังเห็นอยู่ในตอนนี้" ซีอีโอหนุ่มเบือนหน้าหนี ไม่แม้แต่ปรายตามองเจ้าของเรือนร่างบอบบางในชุดนักศึกษาที่กำลังยืนจ้องมองตนอยู่ "ถ้าเช่นนั้นมัสจะคิดว่าคุณแค่ชื่นชอบมัสในฐานะที่เป็นดารานักแสดงคนหนึ่งเท่านั้น ขอตัวก่อนนะคะ หวังว่าเราจะไม่ต้องพบเจอกันอีก" ใบหน้าหวานสะบัดหนีไปทางอื่น เธอกำลังหมุนตัวเดินออกจากห้องทำงานทว่าเสียงของอคิราห์ดังขึ้นเสียก่อน "คิดว่าผมเอารูปของคุณมาตั้งไว้ในห้องทำงานเพียงเพราะว่าความชื่นชอบในฐานะดาราคนหนึ่งอย่างนั้นเหรอ?" เรียวเท้าเล็กหยุดชะงัก เรือนร่างอรชรหมุนตัวหันกลับมาจ้องมองคนตัวโตที่กำลังหยัดกายลุกขึ้นยืน ร่างสูงกำยำสืบเท้ายาวมาจนกระทั่งหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงสาว เขาจ้องมองใบหน้างดงามไม่วางตา "ก็คุณไม่ยอมตอบเอง ว่าทำไมถึงเอารูปมัสมาตั้งไว้บนโต๊ะทำงาน" "ความปรารถนา..." อคิราห์พูดแทรกขึ้นทันควัน "คะ?" "อยู่กับผม" เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบอีกครั้ง แต่ทว่าความหมายในคำพูดนั้นมันกลับทำให้หัวใจดวงน้อยหวั่นไหว "มัสไม่เห็นจะเข้าใจเลยค่ะ คุณกำลังพูดเรื่องอะไรคะ?" คิ้วเรียวขมวดยุ่ง ดวงตากลมโตฉายแววสับสน มัสยาเอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ใบหน้าสุดแสนเย็นชาของอีกฝ่ายทำให้เธอไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของซีอีโอหนุ่มได้ "ผมให้เดือนละสามล้าน แลกกับการมาหาเมื่อผมต้องการ" "คะ?" "ลองอยู่สักหนึ่งเดือนก่อนก็ได้ ถ้าพอใจค่อยอยู่ต่อ" "คุณอคิราห์พูดเรื่องอะไรคะ ทำไมคุณถึงยอมจ่ายเงินให้ผู้หญิงคนหนึ่งตั้งเดือนละสามล้านทั้งๆ ที่คุณไม่เคยรู้จักมาก่อน ไม่รู้จักนิสัยใจคอด้วยซ้ำ" ความรู้สึกสับสนทำให้มัสยาตัดสินใจถามออกไปตามตรง หัวใจดวงน้อยไม่ได้ปฏิเสธแต่เพียงแค่แปลกใจเป็นอย่างมาก แม้ใจหนึ่งกำลังต้องการเงินเพื่อนำไปรักษามารดา ทว่าอีกใจหนึ่งกลับมีความรู้สึกพิเศษให้กับซีอีโอหนุ่ม ความรู้สึกที่เคยคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ทำให้หญิงสาวต้องเก็บมันไว้ลึกสุดก้นบึ้งของหัวใจ อาจเพราะครั้งแรกที่พบกันอคิราห์ได้ช่วยเหลือตนไว้ "ผมเคยเจอคุณเมื่อหลายเดือนก่อนที่งานงานหนึ่ง รูปนี้ผมเป็นคนสั่งให้กฤษณ์ถ่ายเอาไว้ เพราะว่าชอบรอยยิ้มที่โดดเด่นของคุณ" หัวใจดวงน้อยพองโตเมื่อเขาสารภาพความจริงออกมา มัสยาคิดไม่ถึงว่าตนเองจะเคยตกเป็นเป้าสายตาของผู้บริหารระดับสูงเช่นอคิราห์ แม้ใบหน้าหล่อเหลานั้นจะสุดแสนเย็นชาราวกับคนไร้ความรู้สึก แต่ทว่าคำพูดกลับชัดเจนเสียจนหญิงสาวประหลาดใจ "เดือนละสามล้าน แปลว่า...เราต้องมีอะไรกันหรือคะ?" "ใช่" เขาตอบเสียงหนักแน่นปราศจากการคิดไตร่ตรอง อาจเพราะว่าชายหนุ่มคงคิดทุกอย่างไว้หมดแล้ว "แต่ว่า..." "เมื่อคุณยินดี หรือเมื่อมีอารมณ์ปรารถนาเท่านั้น ไม่บังคับ" "เอ่อ..." มัสยาไตร่ตรองสีหน้าหนักใจ หากจะตอบรับงานที่เขาเสนอให้ตอนนี้ก็คงดูเหมือนใจง่ายเกินไป อคิราห์หมุนตัวเดินกลับไปยังโต๊ะทำงาน มือหนาเอื้อมไปคว้าเอาเสื้อสูทของตนเองที่หุ้มเก้าอี้หนังตัวใหญ่มาถือไว้ จากนั้นจึงเดินกลับมาหาหญิงสาวอีกครั้ง "คุณจะไปไหนคะ?" "กลับ" เขาตอบพลางเดินอ้อมมายืนด้านหลังมัสยา จากนั้นจึงถือวิสาสะห่มเสื้อสูทคลุมกายบอบบางเพื่อปกปิดเสื้อนักศึกษารัดรูปไว้ "เสื้อคุณ..." "เลิกพูดจาอ้ำอึ้งได้แล้ว" "ก็มัสแปลกใจนี่คะ มัสไม่เห็นจะเข้าใจในสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ตอนนี้เลย" "คุณไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องกังวลแล้ว เพราะฉะนั้นทำตัวให้เป็นธรรมชาติเหมือนกับผู้หญิงในรูปนั้น" อคิราห์พูดพลางหมุนตัวเดินออกไปยังประตูห้องทำงาน "คุณอคิราห์คะ..." เธอเรียกตามหลังคนตัวโต แล้วจึงรีบร้อนวิ่งบนรองเท้าส้นสูงตามเขาออกไป ทันทีที่ก้าวขาพ้นขอบประตูจึงได้เห็นว่าซีอีโอหนุ่มกำลังยืนคุยอยู่กับเลขาส่วนตัว "ค่ะท่าน ดิฉันจะส่งอีเมลให้นะคะ" นิตารับคำสั่ง พลันหันมาเห็นมัสยาซึ่งกำลังเดินตรงเข้ามาหาอคิราห์ หล่อนแปลกใจเมื่อเห็นว่านักศึกษาสาวสวมเสื้อสูทของประธานหนุ่มอยู่ ครุ่นคิดครู่หนึ่งจึงถึงบางอ้อ แล้วจึงคลี่ยิ้มบางเบาให้เจ้าของใบหน้างดงามโดดเด่น เพราะจำได้ขึ้นใจว่าผู้หญิงคนนี้คือคนเดียวกันกับที่อยู่ในรูปภาพซึ่งตนเป็นคนนำไปใส่กรอบให้กับประธานหนุ่มนั่นเอง "มัสยา" อคิราห์เอ่ยขึ้น เป็นการแนะนำให้เลขาของตนรู้จัก "สวัสดีค่ะคุณมัสยา ดิฉันนิตาเป็นเลขาของท่านประธานค่ะ" "สวัสดีค่ะ" เธอคลี่ยิ้มให้เลขาสาวเป็นการทักทาย "ไปได้แล้ว" ประธานหนุ่มหันมาบอกเสียงดุ แล้วจึงหมุนตัวเดินตรงไปยังลิฟต์ มัสยาจึงรีบก้าวเท้ายาวเดินตามหลังเขาไป "ใครกันนะ" "น่าแปลกมากเลยนะ ปกติท่านประธานไม่เคยพานักศึกษาหรือผู้หญิงคนไหนมาที่นี่เลย" "นั่นน่ะสิ มันแปลกจริงๆ แต่ผู้หญิงคนนี้หน้าคุ้นมาก เหมือนเป็นดาราเลย" "ก็เขาเป็นดาราไง ตอนนี้ยังไม่ดังเท่าไหร่หรอก แต่ละครที่กำลังถ่ายกับพระเอกคนดังใกล้จะออนแอร์เต็มทีแล้ว เห็นว่าเป็นละครฟอร์มยักษ์ด้วย อนาคตน่าจะดังกว่านี้แน่ๆ เพราะว่าสวยมากๆ" "เธอเป็นญาติกับท่านประธานหรือเปล่า" "ไม่น่าจะใช่ญาติหรอก ดูเสื้อที่เธอสวมอยู่สิ นั่นเสื้อสูทของท่านประธานนะ" บรรดาพนักงานซุบซิบพูดคุยกัน "แบบนี้ฉันต้องรายงานคุณชัญญ่าแล้วล่ะ" มาลินีพึมพำพลางหยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นมา หล่อนเป็นหนึ่งในพนักงานฝ่ายการตลาดของทางโรงแรมซึ่งมีความสนิทชิดเชื้อกับอดีตสาวคนสนิทของอคิราห์ (ว่ายังไงมาลินี) เสียงทักทายของชัญญ่าดังมาตามสาย "คุณชัญญ่าขา นีมีเรื่องรายงานค่ะ" (เรื่องอื่นฉันไม่ฟังนะ ฉันฟังเรื่องของคาลล์เท่านั้น) เป็นชื่อที่หล่อนถือวิสาสะเรียกอคิราห์สั้นๆ เมื่อครั้งเคยสนิทสนมกัน "วันนี้ท่านประธานพานักศึกษาคนหนึ่งมาที่ทำงานด้วยค่ะ สวยมากๆเลยนะคะ น่าจะสวยกว่าคุณชัญญ่าอีก เห็นเขาซุบซิบกันว่าเป็นดาราด้วยนะคะ" (อ๊าย! มาลินี! เธอจะบ้าหรือยังไงถึงกล้ามาบอกว่านังผู้หญิงคนนั้นมันสวยกว่าฉัน?) "เปล่านะคะคุณชัญญ่า นีแค่จะพยายามสื่อสารให้คุณชัญญ่าเห็นภาพเท่านั้นเองค่ะ ว่านังผู้หญิงคนนั้นมันสวยมากแค่ไหน ท่านประธานต้องหลงมันมากแน่ๆ ค่ะ คุณชัญญ่าต้องรีบกลับมานะคะ" (บ้า! อารมณ์เสีย ฉันจะรีบกลับไปภายในอาทิตย์หน้านี้แหละ อยากจะเห็นหน้านังผู้หญิงคนนั้นเต็มทน!) ปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดแล้วจึงกดปุ่มวางสายไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD