ตอนที่ 2 เปลือยกาย

1506 Words
@คอนโด วันถัดมา "เชิญครับ" กฤษณ์ผายมือเชิญมัสยาให้เดินเข้าไปในห้องคอนโดของอคิราห์ หญิงสาวกลอกลูกตาไปมาด้วยอารมณ์ขุ่น รู้สึกประหม่าที่ต้องเข้าไปอยู่ในห้องอันเงียบสงบกับบุรุษแปลกหน้าที่เพิ่งเคยพบกันแค่ครั้งเดียว มิหนำซ้ำยังสองต่อสองในยามราตรีวิกาลเช่นนี้ "คุณกฤษณ์พอจะแนะนำมัสได้หรือเปล่าคะว่าควรจะทำตัวยังไง เพราะคุณอคิราห์เขาดู...เย็นชามากเลยค่ะ" "ไม่มีครับ" ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าเรียบเฉยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ต่างจากใบหน้า "คะ?" คิ้วเรียวขมวดยุ่งเมื่อได้ยินคำตอบห้วนๆ จากลูกน้องคนสนิทของซีอีโอหนุ่ม แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมเงียบไปและไม่เซ้าซี้อะไรอีก "เชิญคุณเข้าไปพบท่านประธานได้แล้วครับ พรุ่งนี้เจ็ดโมงเช้าผมจะมารับไปส่งที่มหาวิทยาลัย" กฤษณ์พูดเท่านั้นแล้วจึงหมุนตัวเดินตรงกลับเข้าไปในลิฟต์ หญิงสาวได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางจ้องมองเข้าไปในห้องคอนโด จึงเห็นว่าอคิราห์กำลังนั่งอยู่บนโซฟาโดยมีเพียงแสงไฟสลัวจากโคมไฟเท่านั้น รู้สึกไม่เข้าใจอารมณ์และนิสัยใจคอของอีกฝ่ายเอาเสียเลย มัสยาถอดรองเท้าส้นสูงออก เธอจรดปลายเท้าลงบนพื้นพรมแผ่วเบา ย่องเดินเอื่อยเฉื่อยจนกระทั่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าซีอีโอหนุ่ม กลิ่นกายหอมเนื้อนางอบอวลทั่วห้อง เขาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ในขณะที่มือหนายังคงถือแก้วบรั่นดีและจ้องมองมันด้วยแววตาไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ "นั่งลงสิ" น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยออกมาราวกับเป็นการออกคำสั่งเสียมากกว่าเชื้อเชิญ มัสยาหาที่เก็บมือไม้ไม่ถูกจึงหย่อนก้นงอนลงแนบชิดกับโซฟานุ่มนิ่มเชื่องช้า มือเล็กประสานกันวางบนตักเล็กของตนเอง สัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นบนฝ่ามือเพราะความรู้สึกประหม่า วินาทีไม่กล้าแม้กระทั่งหายใจเสียงดัง ความเงียบสงบภายในห้องคอนโดยามวิกาลทำให้หญิงสาวรู้สึกหวาดหวั่นหัวใจ "ไม่เปิดไฟหน่อยหรือคะ?" เธอเอ่ยถามเสียงสั่นเครือ น่าแปลกใจที่นักแสดงสาวผู้เคยเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจกลับรู้สึกประหม่ามากเสียเหลือเกินเมื่ออยู่ต่อหน้าซีอีโอหนุ่มผู้เป็นนิยามของคำว่าเย็นชา "ไม่ อีกหน่อยก็เข้านอนแล้ว ผมไม่ชอบแสงไฟสว่าง" เขาตอบพลันหันกลับมามองใบหน้าหวาน ดวงตาเป็นประกายจ้องมองเรือนร่างงามในชุดนักศึกษาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า จากนั้นจึงละสายตาจากเรือนร่างงามอรชรและหันกลับไปให้ความสนใจกับบรั่นดีในมือ เขากระดกมันเข้าปากจนหมดแก้ว "มัสทำตัวไม่ถูกเลยค่ะ ถ้าคุณอคิราห์จะให้มัสทำอะไรก็บอกมาได้เลยนะคะ" "เข้าไปอาบน้ำ ชุดคลุมและผ้าเช็ดตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้า" เขาบอกเสียงเรียบ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมหยัดกายลุกขึ้นยืนและเดินไปยังตู้เสื้อผ้าตามคำสั่งของเขา อย่างน้อยก็พอจะมีเวลาในห้องน้ำเพื่อคิดไตร่ตรองถึงสิ่งที่ตนเองกำลังทำอยู่ในขณะนี้ "บ้าจริง ทำไมถึงได้เย็นชาขนาดนี้นะ แล้วยังจะให้เรามาหาตอนกลางค่ำกลางคืนอีกด้วย" เธอพึมพำหน้ากระจกใสในห้องน้ำหรูหรา ดวงตากลมโตเหม่อลอย คิ้วเรียวขมวดแทบชนชิดเพราะคิดไปไกล มือเล็กกำผ้าเช็ดตัวไว้แน่นพลางขยับขึ้นมาถูไถกับริมฝีปากอวบแผ่วเบาอย่างลืมตัว "คุณเป็นคนยังไงกันแน่ มีรสนิยมอะไรแปลกๆ หรือเปล่านะ..." ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสับสน มัสยาปัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัวสมอง มือเรียวบรรจงแกะกระดุมเสื้อนักศึกษาออก และตามด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์ชิ้นอื่นๆ จนร่างบางกายนวลงามเปลือยเปล่า "อื้ม...อุ่นจัง" หญิงสาวพึมพำเมื่อสายน้ำจากฝักบัวชโลมลงสู่กายเปลือย ผิวขาวเนียนเปล่งปลั่งฉ่ำชื้นน่าเสน่หา เพราะอารมณ์เคลิบเคลิ้มและเสียงน้ำจากฝักบัวทำให้มัสยาไม่ได้ยินเสียงบานประตูห้องน้ำซึ่งถูกเลื่อนออก เธอลืมไปเสียสนิทว่ามันถูกออกแบบมาแบบไม่สามารถล็อกได้ อคิราห์จ้องมองเรือนร่างงามเปลือยเปล่าภายใต้สายน้ำจากฝักบัว ก้นงอนเนียนอวบอัดดึงดูดสายตาของเขาไว้ครู่ใหญ่ แผ่นหลังผุดผ่องนวลงาม ผิวขาวเนียนเฉดสีผ่องสม่ำเสมอทุกอณู เรียวขาสวยสมส่วนจรดน่องเล็ก เพียงด้านหลังช่างมากเสน่ห์เหลือล้น อคิราห์ส่ายหน้าน้อยๆ เขาจึงเลื่อนบานประตูห้องน้ำปิดไว้เช่นเดิม "บ้าจริง..." ร่างสูงสืบเท้ายาวมายังหน้ากระจกเงา จ้องมองใบหน้าตนเองท่าทางครุ่นคิดประหลาดใจ เขาถอดเสื้อผ้าออกจนกายกำยำเปลือยเปล่า พลางคว้าผ้าขนหนูมาพันรอบเอวไว้อย่างหมิ่นเหม่ แล้วจึงเดินกลับมาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาด้วยอารมณ์คุกรุ่น "มัสยา..." อคิราห์พึมพำชื่อหญิงสาว ภาพรอยยิ้มของนักศึกษาที่เขาเคยพบเมื่อหลายเดือนก่อนจางหายไป ภาพเรือนกายงดงามเปลือยเปล่าที่เขาปรารถนาติดตาไม่หายผุดขึ้นมาแทนที่ เพียงตั้งใจจะเดินเข้าไปอาบน้ำพร้อมกับมัสยา แต่ทว่าดูเหมือนเรือนกายงดงามจะมีอิทธิพลเกินกว่าจะอดใจไหว ครู่ใหญ่บานประตูห้องน้ำก็ถูกเลื่อนออก ร่างบางอรชรสวมชุดคลุมสีขาวเดินก้มหน้าก้มตาย่องปลายเท้ามาหยุดอยู่ปลายเตียงนอน อคิราห์ยังคงดื่มด่ำบรั่นดีราวกับมันเป็นของโปรดชั้นดี ใบหน้าหล่อคมคายกลายเป็นสีแดงลงมาจนถึงลำคอ คาดว่าอาจเกิดจากแอลกอฮอล์ที่เขาดื่มเข้าไปเป็นจำนวนมากนั่นเอง "อาบน้ำเสร็จแล้วก็ขึ้นไปนอน" ชายหนุ่มออกคำสั่งเสียงเรียบ พลางกระดกน้ำสีเข้มเข้าปากอึกสุดท้ายและหยัดกายกำยำลุกขึ้นยืน ร่างสูงทะมัดทะแมงสืบเท้ายาวเข้ามายืนตรงหน้ามัสยา เขาจ้องมองใบหน้าหวานไม่วางตา แววตาประกายบ่งบอกอารมณ์มากมายในนั้น แต่ทว่าหญิงสาวกลับไร้เดียงสาเกินกว่าจะสามารถตีความหมายของมันได้ "คะ?" คิ้วเรียวขมวดยุ่ง เธอหันขวับไปมองเตียงนอนสีคลุมโทนมืดกว้างขวางถูกจัดระเบียบไว้งดงามราวกับไม่เคยมีคนนอน จากนั้นจึงหันกลับมามองซีอีโอหนุ่มอีกครั้งด้วยแววตาสั่นระริก "ผมบอกให้ขึ้นไปนอนบนเตียงนอน ไม่ได้ยินหรือยังไง?" เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้น้ำเสียงของเขาฟังดูดุดันยิ่งขึ้น "ได้ยินค่ะ แต่เราคุยกันแล้วไม่ใช่หรือคะว่าเราจะ...ไม่มีเซ็กส์กัน" มัสยาเอ่ยเสียงเบา น้ำเสียงบ่งบอกถึงอารมณ์ประหม่าในประโยคท้าย "แกล้งอ่อนต่อโลกหรือยังไง คุณเชื่อในสิ่งที่ผมบอกไปเมื่อวานจริงๆ งั้นเหรอ?" อคิราห์ถามออกไปเช่นนั้นเพียงแค่นึกอยากลองเชิงดูปฏิกิริยาของมัสยา แม้เขาจะขึ้นชื่อเรื่องรับเลี้ยงดูนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ แต่ที่ผ่านมากลับไม่เคยพานักศึกษาคนไหนขึ้นเตียงเลยแม้แต่คนเดียว ไม่เคยปรารถนามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้หญิงที่เพิ่งรู้จักเพียงเพราะอารมณ์ดิบกระหาย ซีอีโอหนุ่มมีสัมพันธ์ลึกซึ้งครั้งสุดท้ายเมื่อราวห้าปีที่แล้ว กับผู้หญิงที่เขาให้สถานะเป็นเพียงความสัมพันธ์ที่ไม่ผูกมัดเท่านั้น ซึ่งหล่อนก็คือหนึ่งในเพื่อนสนิทของตนนั่นเอง "แต่ว่า...มัสไม่โอเคค่ะ" มัสยาส่ายหน้าน้อยๆ เรียวเท้าเล็กก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวเพื่อเว้นระยะห่างจากร่างสูงกำยำ "ทำไม?" ใบหน้าคมคายบึ้งตึงลง เขาถามกลับทันควันเมื่อเห็นว่าหญิงสาวปฏิเสธหน้าเสีย "คือ...มัสไม่พร้อม ถ้ามัสต้องเสียตัวมัสขอถอนตัวดีกว่าค่ะ" หัวใจแกร่งดั่งภูผาที่เคยรู้สึกหนักอึ้งรู้สึกคลายความอึดอัดลงจนน่าแปลกใจ อคิราห์พึงพอใจกับคำตอบของมัสยาเป็นอย่างมาก เพราะเขาไม่เคยปรารถนาให้ผู้หญิงที่ตนเฝ้าฝันหามานานหลายเดือนต้องมาทำเช่นนี้เพื่อแลกกับเงิน "ไม่พร้อมงั้นเหรอ ถ้างั้นก็ไปเปลี่ยนชุดแล้วก็เดินออกจากคอนโดของผมไปซะ" อคิราห์ออกคำสั่งเสียงดุดัน แม้เพียงแกล้งทดสอบหญิงสาวแต่ทว่าใบหน้าคมคายกลับเรียบเฉย จากนั้นร่างสูงกำยำจึงสืบเท้ายาวเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำ "คุณอคิราห์..." มัสยาพึมพำและมองตามแผ่นหลังกว้างด้วยแววตาตัดพ้อ ริมฝีปากอวบเบะคว่ำลง อยากร้องไห้ออกมาเสียให้รู้แล้วรู้รอด วินาทีนี้มีเพียงความอัดอั้นตันใจและรู้สึกจุกแน่นในอกเพราะกำลังกลั้นน้ำตาเอาไว้ แต่สุดท้ายจำใจต้องกลืนก้อนน้ำตาแห่งความทุกข์ขมกลับลงไปและบอกตนเองให้เข้มแข็ง นึกสมเพชโชคชะตาที่ดูเหมือนจะไม่มีโชคไหนเข้าข้างตนเอาเสียเลย...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD