Ep.4 ผู้หวังดี

1367 Words
​ ผู้ชายขายน้ำ 20+ Ep 4. ผู้หวังดี PART : ลีลา วันต่อมา ""พี่ลี...หนาวเหรอคะ?" นิดน้อยหน่าผู้ช่วยของฉันเอ่ยถามอย่างสงสัยกับการแต่งตัวของฉันตอนที่เอาเอกสารของลูกค้ามาให้ มันก็น่าที่จะให้น้อยหน่าสงสัยอยู่หรอก เพราะการแต่งตัวของฉันในวันนี้มันออกจะผิดธรรมชาติไปสักหน่อย แต่จะว่าไปมันก็ไม่ได้แปลกอะไรมากมายฉันก็แต่งแบบปรกติเหมือนทุกวันนั่นแหล่ะ แค่วันนี้ฉันเพิ่มผัาพันคอพันรอบคอปกปิดรอยแดงไว้ก็เท่านั้นเอง เพราะเสื้อผ้าของฉันแต่ล่ะชุดนั้นถ้าไม่เปิดไหล่ก็มีแต่เกาะอกกับสายเดี่ยวนั่นแหล่ะ "อากาศมันค่อนข้างเย็นนะวันนี้" ฉันตอบคำถามของน้อยหน่าก่อนจะหยิบเอกสารขึ้นมาดูเพื่อกลบเกลื่อนพิรุธของตัวเอง "งั้นน้อยหน่าลดแอร์ให้นะคะ" "ไม่ต้องง!" ฉันรีบร้องห้ามความหวังดีของน้อยหน่าเสียงสูง ทำให้เธอต้องหันมามองหน้าฉันอย่างตกใจปนแปลกใจ "คือ...พี่ว่าตอนนี้อากาศกำลังดีแล้วล่ะ ไม่ต้องก็ได้ พี่สะดวกแบบนี้" ฉันพูดเร็วๆจนลิ้นแทบจะพันกันและไม่อยากให้น้อยหน่าเอะใจหรือสงสัยอะไรไปมากกว่านี้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ทันแล้ว เพราะตอนนี้สายตาที่น้อยหน่ามองมาที่ฉันนั้นบอกให้รู้ว่าเธอสงสัยไปแล้ว แต่ถึงจะสงสัยน้อยหน่าก็เลือกที่จะเงียบมากกว่าที่จะสอดรู้สอดเห็น และนี่เป็นข้อดีของน้อยหน่ามันทำให้ฉันไว้ใจและเลือกที่ทำงานกับเธอต่อไป "ถ้าอย่างนั้นน้อยหน่ากลับไปทำงานนะคะ" พอฉันพยักหน้าอนุญาติน้อยหน่าก็เดินออกจากห้องทำงานไปทันที ส่วนฉันก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่ไม่มีใครรู้เห็นร่องรอยน่าอายที่คอของฉัน แกร่ก! ผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีประตูก้องทำงานของฉันก็ถูกเปิดเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับแขกที่ไม่ได้เชิญ "ฮัลโล...หนูลี..." เสียงแหลมๆที่ฟังแล้วแสบแก้วหูเรียกชื่อฉันอย่างสนิทสนมก่อนจะก้าวเท้าเข้ามาในห้องพร้อมกับผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง "น้าเอม?" ฉันเรียกชื่ออดีตน้าสะใภ้อย่างงๆ เพราะไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกตั้งแต่น้าชายแท้ๆของฉันตายไป "จ้ะ...น้าเอมอรเอง...คิดถึงงง..." พูดจบนางก็เดินเข้ามาสวมกอดฉันไว้อย่างแนบแน่น เหมือนจะรักกันดี แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ ฉันกับนางไม่ค่อยลงรอยกันมาตั้งแต่ไกนแต่ไรแล้ว ฉันแอบเบ้ปากเล็กน้อย รู้สึกขนลุกกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของนาง ก่อนจะผลักนางออกเบาๆ "น้าเอมมีอะไรเหรอถึงได้บากหน้ามาหาลีถึงที่นี่?" ฉันเอ่ยถามอย่างคนที่รู้ไส้รู้พุงกันดีและแอบจิกกัดนางเล็กน้อย คนอย่างเอมอรไม่เคยมาวุ่นวายกับฉันหรอกถ้าไม่มีสิ่งดึงดูดใจ "แหมหนูลีล่ะก็...เล่นถามกันตรงๆแบบนี้เลยเหรอจ๊ะ..." "เข้าเรื่องเถอะค่ะ...ลีมีงานต้องทำ" ฉันพูดสวนก่อนที่นางจะพาออกทะเลไปไกล "ที่น้ามาที่นี่...ก็เรื่องมรดกของคุณพ่อนั่นแหล่ะจ้ะ" หึ! กะแล้วเชียวว่าต้องเป็นเรื่องนี้ ทำไมอีลีซื้อหวยไม่ถูกเเบบนี้บ้าง จะได้เลิกปวดหัวกับมรดกบ้าบอนี่ซะที "จมูกดีจังเลยนะคะ ดมกลิ่นซะรู้ทุกเรื่องเลย แล้วยังไงอ่ะ เรื่องมรดกมันเกี่ยวอะไรกับน้าเอมเหรอ ในเมื่อคุณปู่ยกให้ลีที่เป็นหลานสาวเพียงคนเดียวของท่าน" ฉันพูดใส่หน้านางอย่างเยาะเย้ย และมันก็จริงอย่างที่ฉันพูด เรื่องมรดกมันไม่เกี่ยวอะไรกับนางเลยสักนิดเดียว เอมอรหน้าเจื่อนลงไปนิดนึงก่อนจะปรับสีหน้าเป็นยิ้มแย้มเหมือนเดิม หน้าหนาหน้าทนไม่มีใครเกินจริงๆ "ก็นี่ยังไงล่ะคะสาเหตุที่น้าต้องมา น้าได้ข่าวมาว่าหนูลีจะไม่ได้อะไรเลยถ้าหนูลียังไม่แต่งาน..." ฉันหน้าไปมองนางทันทีอย่างเอาเรื่องที่นางรู้ลึกรู้จริงขนาดนี้ นี่คงไปถามลุงทนายมาหมดแล้วล่ะสิ ลุงทนายก็อีกคนซื่อเหลือเกินใครถามอะไรก็บอกเขาหมด "ก็แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่น้าเอมมาหาลี?" ฉันถาม บอกตรงๆว่ายังไม่เข้าใจว่านางต้องการอะไรกันแน่ "นี่อมรเทพจ้ะหลานชายน้าเอง" แล้วนางก็เปลี่ยนเรื่องหันไปแนะนำหลายชายของตัวเองให้ฉันรู้จักซะงั้น งงใจ "อมรเทพช่วยหนูลีได้นะจ๊ะ...เรื่องแต่งงาน...." อ๋ออออ... ฉันส่งเสียงครางยาวๆในลำคอ ถึงบางอ้อเลยทีนี้ ที่แท้ก็เสนอตัวผู้ชายมาให้ฉันพิจารณานี่เอง ฉันหันไปมองหน้านายอมรเทพอย่างพิจารณาอีกครั้ง เจาเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีนะ แต่ฉันไม่ชอบสายตาเหมือนแมวจ้องตระครุบหนูของเขา เห็นแค่นี้ก็รู้แล้วว่าเคมีของฉันกับเขาไม่มีทางเท่ากันได้ "ตกลงว่ายังไงจ๊ะหนูลี?" "แล้ว...ทำไมถึงคิดจะช่วยลีล่ะคะ?" ฉํนถามกลับเพราะไม่คิดว่าคนอย่างนางจะคิดช่วยเหลือใครโดยไม่หวังผลตอบแทน "แหม...เรามันก็คนคุ้นเคยกันอยู่นะหนูลี...น้าไม่หวังอะไรมากหรอกจ้ะแค่อยากช่วย แต่อมรเทพน่ะสิจ๊ะเขาเป็นเเฟนคลับของหนูลี ถ้าอนาคตความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะคืบหน้าน้าก็ดีใจด้วยค่ะ" เอมอรพูดอะไรอีกยืดยาว มันวกวนจนฉันเริ่มปวดหัวเพราะฟังนางไม่รู้เรื่อง "หนูลีตกลงใช่ไหมจ๊ะ?" เอมอรถามอีกครั้งพร้อมกับส่งยิ้มให้ฉันอย่างมีความหวัง และบังเอิญว่าฉันมันเป็นประเภทชอบดับความหวังคนอื่นซะด้วยสิ โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ชอบขี้หน้า "ไม่ดีกว่า...เหลือเวลาอีกตั้งเป็นปี ลีคิดว่า...ลีคงหาผู้ชายดีๆสักคนมาแต่งงานด้วยไม่ยากหรอก ขอบคุณในความหวังดีครั้งนี้นะคะ" ฉันพูดเสียงเรียบก่อนจะก้มหน้าลฃซ่อนรอยยิ้มสะใจแบบร้ายกาจของตัวเองเอาไว้ "แต่ว่า...." "ลีต้องออกไปพบลูกค้าแล้วค่ะ ขอตัวนะ..." พูดจบฉันก็เดินไปคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายบ่าแล้วรีบเดินออกจาหห้อฃทำงานไปไม่สนใจเสียงร้องเรียกของนางที่ดังตามหลังมาเลยสักนิด แค่ที่เสียเวลาคุยด้วยตั้งนานสองนานก็เกินพอแล้ว "น้อยหน่า..." พออกมานอกห้องฉันก็ตรงไปที่โต๊ะทำงานของน้อยหน่าทันที "คะ...พี่ลี" "พี่จะออกไปข้างนอกฝากทางนี้ด้วย มีอะไรด่วนโทรหาพี่นะ" และไม่รอให้น้อยหน่าตอบรับฉันก็เดินออกมาทันที จนเกือบถึงบันไดเลื่อนตรงหน้าตึกเสียงแหลมๆของน้าอรก็ดังขึ้นอีกครั้ง ''ตามติดเป็นเจ้ากรรมนายเวรเลยนะ" ฉันถึงกัลกรอกตามองบนก่อนจะรีบสาวเท้าลงบันไดเลื่อน แต่ด้วยความรีบร้อนอยากจะไปให้พ้นๆสองคนนั่นทำให้ฉันไม่ทันได้มองว่าบันไดเลื่อนที่ก้าวเท้าเหยียบลงไปนั้นมันเป็นบันไดขาขึ้น! "กรี๊ดดดดด!" ฉันกรีดร้องเสียงหลงเมื่อตัวเองเซถลาหน้าทิ่ม ก่อนจะหลับตาปี๋เพราะคิดว่ายังไงก็ต้องล้มหน้าทิ่มแน่ๆ(เสียโฉมแน่ๆอีลี!) มีอะไรจะซวยไปกว่านี้อีกไหม? ตุ้บ! มีความรู้สึกว่าร่างกายของฉันกระแทกเข้ากับอะไรสักอย่างที่อุ่นๆไม่ถึงกับแข็ง แต่ก็ไม่นิ่มจนเกินไป?(มันคืออะไรหว่า) แต่.... "ทำไมไม่รู้สึกเจ็บ?" ฉันพึมพำเบาๆเพราะไม่รู้สึกเจ็บอย่างที่คิดไว้ "ก็ลืมตาขึ้นมาดูสิจะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร" "!" PART : ลีลา ************************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD