ผู้ชายขายน้ำ 20+
Ep 4. ผู้หวังดี
PART : ลีลา
วันต่อมา
""พี่ลี...หนาวเหรอคะ?"
นิดน้อยหน่าผู้ช่วยของฉันเอ่ยถามอย่างสงสัยกับการแต่งตัวของฉันตอนที่เอาเอกสารของลูกค้ามาให้
มันก็น่าที่จะให้น้อยหน่าสงสัยอยู่หรอก เพราะการแต่งตัวของฉันในวันนี้มันออกจะผิดธรรมชาติไปสักหน่อย แต่จะว่าไปมันก็ไม่ได้แปลกอะไรมากมายฉันก็แต่งแบบปรกติเหมือนทุกวันนั่นแหล่ะ แค่วันนี้ฉันเพิ่มผัาพันคอพันรอบคอปกปิดรอยแดงไว้ก็เท่านั้นเอง เพราะเสื้อผ้าของฉันแต่ล่ะชุดนั้นถ้าไม่เปิดไหล่ก็มีแต่เกาะอกกับสายเดี่ยวนั่นแหล่ะ
"อากาศมันค่อนข้างเย็นนะวันนี้"
ฉันตอบคำถามของน้อยหน่าก่อนจะหยิบเอกสารขึ้นมาดูเพื่อกลบเกลื่อนพิรุธของตัวเอง
"งั้นน้อยหน่าลดแอร์ให้นะคะ"
"ไม่ต้องง!"
ฉันรีบร้องห้ามความหวังดีของน้อยหน่าเสียงสูง ทำให้เธอต้องหันมามองหน้าฉันอย่างตกใจปนแปลกใจ
"คือ...พี่ว่าตอนนี้อากาศกำลังดีแล้วล่ะ ไม่ต้องก็ได้ พี่สะดวกแบบนี้"
ฉันพูดเร็วๆจนลิ้นแทบจะพันกันและไม่อยากให้น้อยหน่าเอะใจหรือสงสัยอะไรไปมากกว่านี้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ทันแล้ว เพราะตอนนี้สายตาที่น้อยหน่ามองมาที่ฉันนั้นบอกให้รู้ว่าเธอสงสัยไปแล้ว
แต่ถึงจะสงสัยน้อยหน่าก็เลือกที่จะเงียบมากกว่าที่จะสอดรู้สอดเห็น และนี่เป็นข้อดีของน้อยหน่ามันทำให้ฉันไว้ใจและเลือกที่ทำงานกับเธอต่อไป
"ถ้าอย่างนั้นน้อยหน่ากลับไปทำงานนะคะ"
พอฉันพยักหน้าอนุญาติน้อยหน่าก็เดินออกจากห้องทำงานไปทันที ส่วนฉันก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่ไม่มีใครรู้เห็นร่องรอยน่าอายที่คอของฉัน
แกร่ก!
ผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีประตูก้องทำงานของฉันก็ถูกเปิดเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับแขกที่ไม่ได้เชิญ
"ฮัลโล...หนูลี..."
เสียงแหลมๆที่ฟังแล้วแสบแก้วหูเรียกชื่อฉันอย่างสนิทสนมก่อนจะก้าวเท้าเข้ามาในห้องพร้อมกับผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง
"น้าเอม?"
ฉันเรียกชื่ออดีตน้าสะใภ้อย่างงๆ เพราะไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกตั้งแต่น้าชายแท้ๆของฉันตายไป
"จ้ะ...น้าเอมอรเอง...คิดถึงงง..."
พูดจบนางก็เดินเข้ามาสวมกอดฉันไว้อย่างแนบแน่น เหมือนจะรักกันดี แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ ฉันกับนางไม่ค่อยลงรอยกันมาตั้งแต่ไกนแต่ไรแล้ว
ฉันแอบเบ้ปากเล็กน้อย รู้สึกขนลุกกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของนาง ก่อนจะผลักนางออกเบาๆ
"น้าเอมมีอะไรเหรอถึงได้บากหน้ามาหาลีถึงที่นี่?"
ฉันเอ่ยถามอย่างคนที่รู้ไส้รู้พุงกันดีและแอบจิกกัดนางเล็กน้อย คนอย่างเอมอรไม่เคยมาวุ่นวายกับฉันหรอกถ้าไม่มีสิ่งดึงดูดใจ
"แหมหนูลีล่ะก็...เล่นถามกันตรงๆแบบนี้เลยเหรอจ๊ะ..."
"เข้าเรื่องเถอะค่ะ...ลีมีงานต้องทำ"
ฉันพูดสวนก่อนที่นางจะพาออกทะเลไปไกล
"ที่น้ามาที่นี่...ก็เรื่องมรดกของคุณพ่อนั่นแหล่ะจ้ะ"
หึ! กะแล้วเชียวว่าต้องเป็นเรื่องนี้ ทำไมอีลีซื้อหวยไม่ถูกเเบบนี้บ้าง จะได้เลิกปวดหัวกับมรดกบ้าบอนี่ซะที
"จมูกดีจังเลยนะคะ ดมกลิ่นซะรู้ทุกเรื่องเลย แล้วยังไงอ่ะ เรื่องมรดกมันเกี่ยวอะไรกับน้าเอมเหรอ ในเมื่อคุณปู่ยกให้ลีที่เป็นหลานสาวเพียงคนเดียวของท่าน"
ฉันพูดใส่หน้านางอย่างเยาะเย้ย และมันก็จริงอย่างที่ฉันพูด เรื่องมรดกมันไม่เกี่ยวอะไรกับนางเลยสักนิดเดียว
เอมอรหน้าเจื่อนลงไปนิดนึงก่อนจะปรับสีหน้าเป็นยิ้มแย้มเหมือนเดิม หน้าหนาหน้าทนไม่มีใครเกินจริงๆ
"ก็นี่ยังไงล่ะคะสาเหตุที่น้าต้องมา น้าได้ข่าวมาว่าหนูลีจะไม่ได้อะไรเลยถ้าหนูลียังไม่แต่งาน..."
ฉันหน้าไปมองนางทันทีอย่างเอาเรื่องที่นางรู้ลึกรู้จริงขนาดนี้ นี่คงไปถามลุงทนายมาหมดแล้วล่ะสิ ลุงทนายก็อีกคนซื่อเหลือเกินใครถามอะไรก็บอกเขาหมด
"ก็แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่น้าเอมมาหาลี?"
ฉันถาม บอกตรงๆว่ายังไม่เข้าใจว่านางต้องการอะไรกันแน่
"นี่อมรเทพจ้ะหลานชายน้าเอง"
แล้วนางก็เปลี่ยนเรื่องหันไปแนะนำหลายชายของตัวเองให้ฉันรู้จักซะงั้น งงใจ
"อมรเทพช่วยหนูลีได้นะจ๊ะ...เรื่องแต่งงาน...."
อ๋ออออ...
ฉันส่งเสียงครางยาวๆในลำคอ ถึงบางอ้อเลยทีนี้ ที่แท้ก็เสนอตัวผู้ชายมาให้ฉันพิจารณานี่เอง
ฉันหันไปมองหน้านายอมรเทพอย่างพิจารณาอีกครั้ง เจาเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีนะ แต่ฉันไม่ชอบสายตาเหมือนแมวจ้องตระครุบหนูของเขา เห็นแค่นี้ก็รู้แล้วว่าเคมีของฉันกับเขาไม่มีทางเท่ากันได้
"ตกลงว่ายังไงจ๊ะหนูลี?"
"แล้ว...ทำไมถึงคิดจะช่วยลีล่ะคะ?"
ฉํนถามกลับเพราะไม่คิดว่าคนอย่างนางจะคิดช่วยเหลือใครโดยไม่หวังผลตอบแทน
"แหม...เรามันก็คนคุ้นเคยกันอยู่นะหนูลี...น้าไม่หวังอะไรมากหรอกจ้ะแค่อยากช่วย แต่อมรเทพน่ะสิจ๊ะเขาเป็นเเฟนคลับของหนูลี ถ้าอนาคตความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะคืบหน้าน้าก็ดีใจด้วยค่ะ"
เอมอรพูดอะไรอีกยืดยาว มันวกวนจนฉันเริ่มปวดหัวเพราะฟังนางไม่รู้เรื่อง
"หนูลีตกลงใช่ไหมจ๊ะ?"
เอมอรถามอีกครั้งพร้อมกับส่งยิ้มให้ฉันอย่างมีความหวัง และบังเอิญว่าฉันมันเป็นประเภทชอบดับความหวังคนอื่นซะด้วยสิ โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ชอบขี้หน้า
"ไม่ดีกว่า...เหลือเวลาอีกตั้งเป็นปี ลีคิดว่า...ลีคงหาผู้ชายดีๆสักคนมาแต่งงานด้วยไม่ยากหรอก ขอบคุณในความหวังดีครั้งนี้นะคะ"
ฉันพูดเสียงเรียบก่อนจะก้มหน้าลฃซ่อนรอยยิ้มสะใจแบบร้ายกาจของตัวเองเอาไว้
"แต่ว่า...."
"ลีต้องออกไปพบลูกค้าแล้วค่ะ ขอตัวนะ..."
พูดจบฉันก็เดินไปคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายบ่าแล้วรีบเดินออกจาหห้อฃทำงานไปไม่สนใจเสียงร้องเรียกของนางที่ดังตามหลังมาเลยสักนิด แค่ที่เสียเวลาคุยด้วยตั้งนานสองนานก็เกินพอแล้ว
"น้อยหน่า..."
พออกมานอกห้องฉันก็ตรงไปที่โต๊ะทำงานของน้อยหน่าทันที
"คะ...พี่ลี"
"พี่จะออกไปข้างนอกฝากทางนี้ด้วย มีอะไรด่วนโทรหาพี่นะ"
และไม่รอให้น้อยหน่าตอบรับฉันก็เดินออกมาทันที จนเกือบถึงบันไดเลื่อนตรงหน้าตึกเสียงแหลมๆของน้าอรก็ดังขึ้นอีกครั้ง
''ตามติดเป็นเจ้ากรรมนายเวรเลยนะ"
ฉันถึงกัลกรอกตามองบนก่อนจะรีบสาวเท้าลงบันไดเลื่อน แต่ด้วยความรีบร้อนอยากจะไปให้พ้นๆสองคนนั่นทำให้ฉันไม่ทันได้มองว่าบันไดเลื่อนที่ก้าวเท้าเหยียบลงไปนั้นมันเป็นบันไดขาขึ้น!
"กรี๊ดดดดด!"
ฉันกรีดร้องเสียงหลงเมื่อตัวเองเซถลาหน้าทิ่ม ก่อนจะหลับตาปี๋เพราะคิดว่ายังไงก็ต้องล้มหน้าทิ่มแน่ๆ(เสียโฉมแน่ๆอีลี!)
มีอะไรจะซวยไปกว่านี้อีกไหม?
ตุ้บ!
มีความรู้สึกว่าร่างกายของฉันกระแทกเข้ากับอะไรสักอย่างที่อุ่นๆไม่ถึงกับแข็ง แต่ก็ไม่นิ่มจนเกินไป?(มันคืออะไรหว่า)
แต่....
"ทำไมไม่รู้สึกเจ็บ?"
ฉันพึมพำเบาๆเพราะไม่รู้สึกเจ็บอย่างที่คิดไว้
"ก็ลืมตาขึ้นมาดูสิจะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร"
"!"
PART : ลีลา
************************