นึกถึงช่วงเวลาที่น่าเศร้าใจในอดีต เขาประชดประชันภรรยาสารพัดเพื่อเรียกร้องความสนใจจากหล่อน มารู้ตัวอีกทีก็สายไปแล้ว กษิดิสนั่งกุมมือภรรยาอยู่ไม่ห่าง แม้มีเงินทองมากมายแค่ไหนเขาก็ไม่อาจฉุดรั้งเธอเอาไว้ได้ต่อ อาการของภรรยาแย่ลงทุกที หล่อนมักจะมองเขาด้วยสายตาเจ็บปวดโดยที่ไม่พูดอะไร แต่วันนั้นก่อนจะเสียชีวิตแพรเพชรยอมเอ่ยขอร้องเขา เธอฝากฝังลูกสาวให้เขาดูแลก่อนจะกระอักเลือดออกมาแล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา เขาร้องไห้โฮออกมาเสียงดัง เสียใจมาก เสียใจมากจริงๆ แต่แล้วเสียงโวยวายด้านนอกก็ทำให้สติของกษิดิสกลับมายังปัจจุบัน พอได้รู้ความจริงว่าภรรยาต้องจากไปเป็นฝีมือของลินลดาความรู้สึกในใจก็ชัดเจนมากขึ้นว่าเขาไม่เคยรักลินลดาเลย ที่ต้องรับมาอยู่ด้วยกันนั้นก็เพราะความผิดพลาด เขายกมือขึ้นปาดน้ำตาออกแล้วทำตัวปกติเหมือนอย่างเคย ลินลดาเดินตามหาผู้เป็นสามีเพราะต้องการให้เขาลงไปทานอาหารเย็นด้วยกัน เมื่อลินลดาเห็นว่าเขาเดินออกมาจากห้องของแพรเพชรก็รู้ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“นี่ คุณผู้ชายไปไหน” ลินลดามออกไปเสียงดัง หลังจากที่กลับมาจากสปาผิวแล้วก็หาสามีของตนเองไม่เจอ
“คุณผู้ชายอยู่ข้างบนค่ะคุณลินลดา” สาวใช้ตอบกลับน้ำเสียงแผ่วเบา
“คุณพี่ คุณพี่อยู่ไหน” จบประโยคของแม่บ้านลินลดาก็ก้าวเดินขึ้นมาบนบันไดช้าๆ พร้อมทั้งตะโกนเรียกหาผู้เป็นสามี
“คุณเข้าไปในห้องนั้นทำไมคะ” หญิงสาวถามออกไปเสียงดัง
“ไม่ว่าจะเป็นห้องไหนผมก็เข้าไปได้ทั้งนั้นแหละ ตั้งโต๊ะแล้วใช่ไหม” กษิดิสถามออกไปเสียงเข้มเสียจนลินลดาไม่กล้าต่อปากต่อคำแม้จะรู้สึกไม่พอใจมาก
“ใช่ค่ะ วันนี้มีเมนูโปรดคุณด้วยนะคะ ลดาตั้งใจให้แม่ครัวทำให้คุณพี่โดยเฉพาะเลยนะคะ” ลินลดาพยายามเอาอกเอาใจสามี หล่อนตั้งใจยกมือขึ้นมาควงแขนคนข้างกายแต่เขากับเบี่ยงตัวไปอีกทาง
“แคนดี้ล่ะ บ้านช่องไม่เคยอยู่ติดบ้างเลย” เมื่อกวาดสายตามองไปรอบๆแล้วก็พบว่าเขาไม่ค่อยได้พบหน้าและพูดคุยกับลูกคนเล็กมากเท่าที่ควรตั้งแต่ที่พิชชาหายตัวไป
“ลูกออกไปหาเพื่อนน่ะค่ะ เดี๋ยวแกก็คงทานข้าวเย็นมาเลย คุณพี่ไม่ต้องรอหรอกนะคะ” ลินลดาบอกปัดออกไป วันนี้ลูกสาวไม่มีทางกลับมาทันได้ทานอาหารพร้อมกันแน่
“อืม บอกให้ยัยแคนดี้เตรียมตัวเอาไว้บ้างนะ จบแล้วก็ต้องทำงานหาเงิน” เขาเริ่มไม่อยากจะหายใจร่วมกับลินลดาแล้วมันอึดอัดไปหมดที่ต้องแสร้งเหมือนเป็นคนโง่อย่างเช่นที่ผ่านมา
“แต่ว่าลูกคงยังไม่พร้อมหรอกนะคะ” เธอไม่อยากให้ลูกของเธอต้องปวดหัว แค่อยู่บ้านรับเงินปันผลสวยๆมันก็พอแล้วไม่ใช่หรอ
“เอาอย่างนี้ดีไหมคะ คุณก็หาผู้ชายสักคนให้ยัยแคนดี้ ผู้ชายคนนั้นจะได้ดูแลแคนดี้ตลอดไปไงคะ”
“คำว่าตลอดไปมันไม่มีจริงหรอกนะ” กษิดิสตอบกลับน้ำเสียงราบเรียบ
“หมายความว่ายังไงคะ”
“ก็หมายความว่าทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอไงล่ะ คนรู้จักสักวันอาจจะกลายเป็นคนแปลกหน้าก็ได้ ถึงจะเกิดเป็นผู้หญิงก็ต้องหัดยืนด้วยตัวเองให้ได้” กษิดิสบอกออกไปด้วยความหวังดีต่อลูกสาวคนเล็ก งแม่จะเลวขนาดไหนแต่ว่าแคนดี้ก็คือหนึ่งในเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาอยู่ดี
“คุณพี่พูดอะไรก็ไม่รู้ลดาไม่รู้เรื่องด้วยหรอกค่ะ เราอย่าพูดเรื่องนี้เลยดีกว่าค่ะ ดูนี่สิคะ กระเป๋าคอลเลคชั่นนี้ออกใหม่น่าซื้อมากเลยค่ะ น่าสนใจมากเลยใช่ไหมคะ”
“ไม่” เขาปฏิเสธออกไปทันทีอย่างไม่คิดจะรักษาน้ำใจ
“อะ อ้าว” ลินลดาหน้าเสีย ปกติสามีจะบอกกลับมาว่าอยากซื้อก็ซื้อสิ จากนั้นรอไม่นานกระเป๋าราคาแพงก็จะถูกจัดส่งมาถึงบ้าน แต่ทำไม ทำไมครั้งนี้เขาถึงปฏิเสธเธอล่ะ
“ผมมีเรื่องสำคัญต้องทำ อย่าให้ใครเขาไปรบกวนผมในห้องทำงานล่ะ”
“อะ เอ่อ...ได้ค่ะ” ลินลดาตอบกลับน้ำเสียงแผ่วเบาทั้งที่ในใจไม่อยากจะพูดแบบนี้ออกไปเลย เธอต้องคล้อยตามเขาทุกอย่าง ต้องทำอย่างไรก็ได้ให้เขาพอใจ เธอถึงจะสามารอยู่ข้างๆเขาต่อไปได้
ข้าวของบางส่วนในห้องทำงานของผู้เป็นพ่อูกย้ายมารวมเอาไว้ที่ห้องทำงานของเขา เขารู้สึกว่าท่านต้องรู้อะไรมามากกว่าเขาแน่ๆ ถึงได้กล้ายกสมบัติมูลค่ามหาศาลที่มีให้กับหลานสาวคนโตจนหมด เขาเริ่มจากตู้กระจกหนังสือด้านซ้ายมือ ภายในมีหนังสือเล่มโปรดที่คนเป็นพ่อชอบและมีรูปถ่ายของพิชชาสมัยยังเป็นเด็กตั้งอยู่ สาวน้อยสวมชุดกระโปรงลายดอกไม้ฉีกยิ้มกว้างนั่งอยู่บนตักของผู้เป็นแม่ที่ก็กำลังยิ้มหวานมองกล้องเช่นเดียวกัน มุมปากกษิดิศยกยิ้มขึ้นอัตโนมัติ ยิ่งมองก็ยิ่งมีความสุข เวลานั้นเขากับภรรยายังไม่มึนตึงกันเลยและเป็นเขาเองที่เป็นคนถ่ายภาพนี้เอาไว้เอง
“สักวันผมจะตามคุณไปนะเพชร คุณให้อภัยและรอผมด้วยนะ” กษิดิสบอกออกไปน้ำเสียงอ้อนวอน หวังว่าสักวันภรรยาผู้ล่วงลับจะรู้ว่าที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะเธอกับลูกมากเกินไปนั่นเอง