“เธียร เธียรจริงๆด้วย เดียร์ดีใจนะคะที่เจอคุณที่นี่” สาวสวยสุดเซ็กซี่บอกกับคนตัวโตน้ำเสียงตื่นเต้น เธอได้ยินว่าตอนนี้ธุรกิจของชายหนุ่มกำลังไปได้ดี ถ้าเธอได้เป็นแฟนกับเขาเธอก็จะสามารถควงเขาไปอวดเพื่อนๆได้
“ครับ”
“มากับใครคะเนี่ย หลานสาวหรอคะ” พิชชาหน้าตึงขึ้นมาทันที หญิงสาววางช้อนในมือลงแล้วขยับเข้าไปควงแขนคนตัวโตแทน
“เข้าใจผิดแล้วล่ะครับ นี่น่ะภรรยาของผมเอง พีชครับนี่เดียร์เพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยของพี่เอง” จบประโยคของชายหนุ่มเดียร์ก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ ชายหนุ่มครองโสดมาได้ตั้งหลายปี บทจะมีแฟนกับคว้ายัยเด็กที่ไหนไม่รู้มาเป็นแฟน
“สวัสดีค่ะพี่เดียร์ บังเอิญจังเลยนะคะที่พี่มาเจอพวกเราที่นี่”
“ใช่ค่ะบังเอิญมากเลย พี่ขอนั่งด้วยได้ไหมคะ” หญิงสาวเอ่ยขออนุญาตก่อนจะส่งยิ้มให้คนตัวโต พิชชาไม่มีทางยอมให้ผู้หญิงคนนี้ร่วมโต๊ะด้วยแน่นอน
“โอ๊ะ!” หญิงสาวยกมือขึ้นมากุมหน้าท้องของตัวเอง
“เป็นอะไรไปครับ” ชายหนุ่มถามออกไปน้ำเสียงห่วงใย
“รู้สึกไม่สบายตัวน่ะค่ะ พีชไม่อยากทานแล้ว” หญิงสาวบอกออกไปน้ำเสียงแผ่วเบา แม้จะแสนเสียดายแต่ไม่อาจทนอยู่ต่อแล้วจริงๆ คนตัวโตนึกถึงคนข้างกายเป็นอันดับแรก เมื่อเธอรู้สึกไม่ดีเขาจึงเอ่ยช่วยเธอกลับบ้านน้ำเสียงอบอุ่น
“งั้นเรากลับบ้านกันดีไหมครับ” หญิงสาวพยักหน้าหงึกๆ คนตัวโตเลยขอตัวจากหญิงสาวตรงหน้าอย่างสุภาพ เมื่อออกมานอกร้านหญิงสาวก็ปล่อยมือจากแขนแกร่งกลับมายืดตัวตรง
“ไม่ปวดแล้วหรอครับ”
“ไม่แล้วค่ะ พีชสบายดีมากๆ”
“เรานี่นะ ไม่เสียดายมื้อนี้หรือยังไง”
“เสียดายมากๆเลยค่ะ แต่ถ้าต้องทนเห็นผู้หญิงคนนั้นเอาแต่จ้องมองพี่เหมือนจะกลืนกินพี่ลงท้องไป พีชยอมเสียของหวานไปยังคุ้มค่ากว่า” หญิงสาวตอบกลับอย่างที่ใจคิด ชายหนุ่มส่ายหัวไปมาเบาๆ จากนั้นก็ใช้นิ้วชี้ปัดไปที่ปลายจมูกของหญิงสาวเบาๆ ด้วยความเอ็นดูในแผนการเจ้าเล่ห์ เธอจึงหัวเราะคิกคักออกมา ซึ่งทุกอย่างอยู่ในสายตาของเดียร์ หล่อนกำมือแน่นรู้สึกอยากจะเอาชนะพิชชาให้ได้
“ไปครับ กลับบ้านกัน”
“ค่ะ”
อีกด้านภาณุรุจผิวปากอย่างคนอารมณ์ดี ส่วนแคทได้แต่นั่งนิ่งไม่ไหวติง คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เมื่อได้รับสายจากพิชชาเรื่องขอให้เธอมาเป็นพยาน เธอก็ยิ้มกว้างและตอบตกลงออกไปอัตโนมัติ เธอดีใจกับพิชชาด้วยจริงๆ รู้สึกโล่งใจที่หญิงสาวมีคนคอยดูแลปกป้องจากอันตราย และเธอก็เชื่อว่าคนอย่างเธียรทรรศน์สามารถปกป้องพิชชาได้จริง ซึ่งมันมากกว่าคำพูดสวยหรูต่างๆ ความเงียบตลอดการเดินทางทำให้คนตัวโตต้องรีบพูดทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัดของหญิงสาวลง
“แอร์เย็นเกินไปไหมครับ” ชายหนุ่มถามออกไปน้ำเสียงกระตือรือร้น หวังเอาใจคนข้างกาย
“ไม่ค่ะ” หญิงสาวตอบกลับแทบจะทันที
“ว่าแต่จะไปผับนายอิฐิตั้งแต่ตอนนี้เลยหรอครับ”
“ใช่ค่ะ”
“แล้วยังต้องทำงานจนถึงเวลาผับปิดไหมครับ” ชายหนุ่มยังคงถามคำถามต่อ
“ไม่ค่ะ”
“เราไปแวะทานข้าวกันก่อนดีไหมครับ”
“ไม่ดีกว่าค่ะ ฉันยังมีเรื่องให้ต้องจัดการ” หญิงสาวปฏิเสธออกไปทันที
“แต่ว่าผมหิวแล้ว” ภาณุรุจบอกออกไปอย่างคนเอาแต่ใจไม่ได้สนใจเสียงของหญิงสาว หมุนพวงมาลัยรถขับเข้าไปยังร้านอาหารแห่งหนึ่งทันที นั่นทำให้หญิงสาวหน้างอขึ้นมาอัตโนมัติ หญิงสาวเปิดประตูรยนต์คันหรูออกมาแล้วก็เอ่ยกับชายหนุ่มน้ำเสียงราบเรียบว่า
“ถ้าคุณรุจหิวก็ทานได้เลยค่ะ ดิฉันขอตัวก่อน”
“เดี๋ยวสิครับ แค่นั่งเป็นเพื่อนผมมันน่าอึดอัดขนาดนั้นเลยหรอครับ”
“ใช่ค่ะ”
“โธ่! รักษาน้ำใจผมสักนิดก็ยังดีนะครับ มีใครเคยบอกกับคุณไหมว่าคุณพูดตรงเกินไป”
“อยากหาเพื่อนทานข้าวดิฉันคิดว่าคงมีสาวๆ อีกหลายคนที่พร้อมจะทำหน้าที่นี้นะคะ” หญิงสาวมองไปรอบๆร้านก็พบว่ามีสาวสวยจ้องมองมาที่ชายหนุ่มถึงสามคน
“แต่คนที่ผมอยากให้ทานข้าวด้วยยืนอยู่ตรงหน้าผมแล้วนี่ครับ นะครับถือว่าเห็นใจผมหน่อย” ในเมื่อคนตรงหน้าร้องขอขนาดนี้เธอจึงทำได้แค่นั่งลงตรงข้ามกับเขา ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากแล้วก็เรียกพนักงานมาสั่งอาหาร เมื่อได้ลิ้มลองรสชาติแสนอร่อยหญิงสาวก็เผลอตัวนั่งรับประทานอาหารที่วางอยู่ตรงหน้าด้วยความสุข
“เห็นตัวเล็กแบบนี้ก็กินเก่งเหมือนกันนะครับ” แคทกวาดสายตาไปรอบๆ ก็พบว่าอาหารที่สั่งมาถูกรับประทานไปจนหมดแล้ว
“อะ เอ่อ...”
“เห็นคุณทานได้ผมก็ยินดีมากครับ อย่าลืมสิครับว่าพวกเรายังต้องเจอกันอีกเพราะว่าเรารอคอยหลานตัวน้อยจากน้องพีช”
“ถ้าหลานคลอดออกมาแล้วฉันอยากเจอหลานเมื่อไรก็ติดต่อคุณเธียรไป ไม่เห็นจะเกี่ยวกับคุณตรงไหนเลย”
“หึๆ เกี่ยวไม่เกี่ยวเดี๋ยวก็ได้รู้กันครับ” ชายหนุ่มตอบกลับน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ หลังจากที่ส่งหญิงสาวที่ผับของเพื่อนแล้วเขาก็ตรงกลับไปยังบริษัททันที