บ้านโฮป
"ไปคุยเรื่องงานแต่งงานกับหนูวาววาหรือยัง?" โฮปเดินเข้าบ้านก็ได้ยินเสียงของฮับเปอร์พูดเดินขึ้น เขาแอบถอนหายใจก่อนจะหันไปตอบคำถามของฮับเปอร์
"มีอะไรต้องคุยด้วยเหรอครับผมว่าเราไม่ได้มีเรื่องอะไรต้องตกลงกันนะ" โฮปพูดออกมาราบเรียบ
"เรื่องการแต่งงานแกเป็นออแกนไนซ์จัดงานแต่งมาก็เยอะไม่รู้หรือยังว่าต้องคุยเรื่องอะไร?"
"ผมไม่ได้อยากแต่งงาน" เขาเหนื่อยที่จะอธิบายแล้วนะ
"สถานที่จะใช้ที่ไหน ธีมงานวันนั้นของแกกับหนูวาวจะเอายังไงหรือว่าชุดแต่งงานไปดูกันมาหรือยัง?" ฮับเปอร์ไม่ได้สนใจและถามออกไปรัว ๆ
"เหมือนว่าพ่อแม่จะอยากให้ผมแต่งงานกับวาววามากเลยนะครับ มันดูแปลก ๆ อะ" โฮปหลี่ตามองอย่างจับผิดไม่ใช่แค่เขาแต่วาววาเองก็สงสัยเหมือนกัน
"จะไม่ให้อยากได้ยังไงละในเมื่อเราไปสร้างไวแบบนั้นแล้วขอแบบนี้มันต้องรีบรับผิดชอบไม่อย่างนั้นเราจะเสียชื่อเสียงไหนจะครอบครัวหนูวาววาอีก พ่อแม่ของเขาจะคิดยังไงที่เราไปสร้างเรื่องไว้แบบนั้นอะโฮป? วิเวียนกับวศินเป็นเพื่อนพ่อกับแม่นะลูกชายตัวเองไปทำแบบนั้นกับลูกสาวของเพื่อน พ่อแม่เองก็มองหนูวาวเป็นลูกสาว...พ่อแม่เลยอยากโฮปรับผิดชอบน้องไว ๆ นะลูก" นับพลอยพยายามพูดด้วยเหตุผล โฮปพยายามคิดบางอย่างในหัวก่อนจะพูดออกไป
"เฮ้ออ! งั้นพ่อแม่ก็ไปคุยกับลุงวศินป้าวิเวียนเถอะว่าต้องการอะไร...เราต้องให้สินสอดเขานิ" โฮปพูดออกไปอย่างนั้นแต่เขากลับมีแผนบางอย่างในใจอยู่
"เรื่องนั้นมันไม่ใช่ปัญหาหรอกโฮป..."
"ไปคุยก่อนเถอะครับจะได้เข้าใจให้ผมจองร้านอาหารไว้ไหมครับร้านที่พ่อแม่ชอบไปกัน?" โฮปเสนอตัวแต่ว่าฮับเปอร์กับรู้สึกแปลก ๆ ที่วันนี้โฮปจะดูพูดง่ายกว่าปกติ
"เดี๋ยวพ่อให้เลขาจองวันนี้ทำงานมาเหนื่อย ๆ แล้วก็ไปพักผ่อนเถอะ" ฮับเปอร์พูดกับลูกชาย
"ก็ได้ครับและถ้าได้ความว่ายังไงก็มาบอกด้วยนะครับ งั้นผมขึ้นก่อนนะ" โฮปพูดจบก็เดินขึ้นห้องและกโทรศัพท์หาวาววาคู่กรณีของเขา
ห้องนอนโฮป
ตรู๊ดดดด~~ ตรู๊ดดดดดด~~
"ทำห่าอะไรอยู่วะ...ไม่รับสายหรือว่ากำลังทอดรักกับไอ้หน้าฝรั่งนั้น?" เขาได้แต่สงสัยแต่ก็ไม่ยอมวางสายจากวาววา
(โอ๊ยยยย~~โทรมาทำไมตอนนี้ฮะ?!)
"ทำไมกำลังทำอะไรกับไอ้ฝรั่งนั่นอยู่เหรอ??" เขาถามกลับไป
(ทำบ้าอะไรละฉันนอนแล้ว! นี่ถ้าธุระของนายไม่สำคัญนะจะตายไปเผาบ้านให้ดู!) วาววาข่มขู่ผ่านโทรศัพท์เพราะว่าเธอนอนแล้วจริง ๆ แม้ว่าเธอจะทำงานหนักแต่เธอต้องได้นอน 8 ชั่วโมงขึ้นไปเท่านั้น เพราะงั้นถ้าวันไหนเธอว่างจะรีบนอนตั้งแต่สองสามทุ่มเพื่อชาร์จพลังงานชีวิตและวันนี้เธอก็นอนแล้ว
"สำคัญสิเพราะว่ามันอาจจะทำให้เราไม่ต้องแต่งงานกันก็ได้"
(พรึ่บ! จริงเหรอ?!) เสียงวาววาลุกเด้งจากที่นอนดังเข้ามาในสาย
"เออสิ...ทีนี้จะฟังได้ยังแผนการของฉันเพื่อล้มล้างการแต่งงานครั้งนี้!" โฮปพูดอย่างมั่นใจ
(ก็พูดมาสิ)
"เธอก็คิดว่าพ่อแม่ของเรามีแผนการอะไรบางอย่างใช่ไหม?" เขาถามเธออีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าคิดตรงกันอย่างแน่นอน
(ใช่ เพราะว่าพ่อแม่ของนายและฉันต่างบังคับออกแนวไม่ยอมอย่างเดียวเลย เรื่องแบบนี้มันควรจะตรวจความจริงก่อนแต่พ่อฉันเอาแต่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็นเท่านั้นและไม่ยอมรับหลักฐานอย่างอื่นเลยแบบนี้มันน่าสงสัยสุด ๆ )
"ใช่ พ่อแม่ฉันก็เหมือนกันถามเรื่องงานแต่งทุกวันเร่งให้หาสถานที่ ธีมงาน ชุดแต่งงานอะไรก็ไม่รู้"
(แล้วแผนนายละ?)
"ฉันให้พ่อแม่ไปนัดลุงวศินกับป้าวิเวียนแล้วให้พวกเขาไปเจอกัน แล้วถ้าทุกอย่างเป็นแผนของพ่อแม่จริงพวกเขาต้องหลุดพูดออกมาแน่นอน"
(ก็คือจะไปแอบฟัง??) วาววาถามกลับไป
"ใช่ ในเมื่อหลักฐานไม่ได้ผลไม่ยอมรับก็ต้องฟังจากปากนี่แหละ!!"
(คิดได้ยังไงเนี่ย?)
"สุดยอดใช่ป่ะ?" เขาถามเธออย่างภูมิใจ
(แผนตื้น ๆ)
"ก็ยังดีกว่าไม่มีแผนอะไรเลยแบบเธอผ่านมาตั้งนานแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าเลยอยากแต่งงานกับฉันอะดิ?" โฮปแกล้งแซว
(อยากจะบ้าถ้าต้องแต่งงานกับนายขอตายดีกว่า!)
"อย่าเว่อร์!!แล้วจะทำไม?"
(เออ ๆ มันไม่มีทางเลือกแล้วนิ!!)
หลายวันต่อมา...
ร้านอาหารไม่ประจำ
"แน่ใจว่าร้านนี้อะ?" วาววาถามโฮปที่พาเธอมาร้านอาหารไม่คุ้นเคยเพราะว่าพ่อแม่ของพวกเขาจะไปร้านเดิมที่ชอบไปกันประจำ
"ฉันคิดว่าพ่อฉันน่าจะรู้ทันอะเลยเปลี่ยนร้านแต่ว่าฉันสั่งให้คนติดตามพ่อเรียบร้อยแล้วและมันก็มาจบที่ร้านนี้แถมฉันยังเตรียมเซทห้องที่ติดกันเอาไว้ด้วยถ้าพูดอะไรเราก็จะสามารถได้ยินทันที"
"หืม? มีสมองเหมือนกันนะเนี่ย" วาววามองหน้า
"ฉันมีสมองเลยใช้ไง ส่วนเธอใช้บางเถอะสมองอะจะโดนผู้ชายหลอกเอา!"
"คนอย่างฉันไม่มีทางโดนผู้ชายหลอกหรอกย่ะ!"
"เลิกพูดมากและเข้าไปรอด้านหน้าพ่อแม่เราน่าจะมากันแล้วละ" หมับ! โฮปคว้ามือของวาววาไปจับเอาไว้เธอก็พยายามจะสะบัดออก
"จับทำไม?"
"โทษทีปกติชอบเดินนำหน้าหมาและมันมีสายจูง"
"ก่อนเข้าไปต่อยกันสักหมัดไหมหลายรอบแล้วนะวันนี้อะ!"
"ล้อเล่น ๆ มา ๆ " และเขาก็เดินนำเข้าไปและนั่งห้องอาหารที่เตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเขาให้คนไปถามเลขาฮับเปอร์มาว่าไปร้านไหนกันก่อนจะจองอีกห้องเพื่อแอบฟัง
ห้อง VIP
"อ้าว!มาพร้อมกันเลย" อีกด้านทั้งสี่ก็มาเจอกันที่หน้าห้องขณะที่กำลังเข้า
"งั้นเชิญ ๆ เลย" วศินเปิดประตูเข้าห้องอาหารเชิญทั้งสามเข้าห้อง ตอนนี้โฮปกับวาววาที่อยู่อีกห้องก็ได้ยินเสียงของพ่อแม่ตัวเองมาเข้ามาและเงียบตั้งใจฟังว่าทั้งสี่คนจะพูดอะไรกันบ้าง
"สั่งอะไรกันก่อนแล้วกันเนอะและค่อยพูดเรื่องนั้น" ฮับเปอร์พูดและเรียกพนักงานเข้ามารับเมนู
"ฉันละหัวปวดจริง ๆ เลยช่วงนี้พลอยยัยวาวเอาแต่ถามเรื่องนั้นและบอกว่าจะหาหลักฐานฉันกับศินไม่รู้ว่าจะพูดยังไงแล้ว หลักฐานคาตาขนาดนั้นยังจะเอาอะไรมายืนยันอีก" เสียงของวิเวียนบ่นกับเพื่อนสาว
"ใจเย็นเถอะวันนี้เรามาคุยเรื่องนั้นท่าทางโฮปจะยอมแล้วแหละวันนี้เลยให้มาคุยด้วยน่ะ" นับพลอยปลอบใจเพื่อน
"เผลอ ๆ มันอาจจะมีแผนอะไรก็นะลูกเราไม่ได้โง่" ฮับเปอร์พูดขึ้น
"เอาอาหารตามนี้แล้วกัน...นั่นสิวาววาเองก็เหมือนกันรายนั้นจะไม่ยอมท่าเดียวตัวเองเสียตัวแท้ ๆ" วศินเป็นคนสั่งอาหารแทนทั้งหมดเพราะรู้ว่าทุกคนจะทานอะไรก่อนจะหันมาตอบกลับฮับเปอร์
"ขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมกันเลยคิดดูถ้าเราบอกตรง ๆ ว่าจะให้ทั้งสองแต่งงานกันจะขนาดไหน?" นับพลอยส่ายหัว
"เพราะงั้นเราเลยต้องคิดแผนขึ้นมาไงละแต่ขนาดวางแผนขนาดนี้ยังแทบเอาไม่ลงเลย เฮ้ออออ!!" ฮับเปอร์ถอนหายใจออกมาแรง
"นั่นสิ...ฉันละเหนื่อยกับลูกทั้งสองคนจริง ๆ เลยไม่รู้เกลียดอะไรกันมาทำไมถึงได้เป็นแบบนี้ก็ไม่รู้"
ทั้งสองที่แอบฟังอยู่ก็มองหน้ากันและเริ่มมั่นใจว่าพ่อแม่ของพวกเขาร่วมมือกันวางแผนทั้งหมดเพื่อให้ทั้งสองแต่งงานกัน
"แต่ที่ทำเราก็เพื่อทั้งคู่คนนะ..." วิเวียนบอก
"ถ้าไม่ได้แต่งงานกันคงไม่ดีกันง่าย ๆ เพราะงั้นทางเดียวจะที่ทำให้ญาติดีได้คือต้องแต่งงานกันเท่านั้น.."
"ไม่ค่ะ!!!" วาววาส่งเสียงออกไป
"เฮ้ย!! ยัย...!!"
"วะวาว..."
"ต่อให้แต่งงานกันอยู่ร่วมกันเราไม่มีทางญาติดีกันนนนนนนน!!!ม่ายยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!"