ปัง!!
"หยุดโวยวายเดี๋ยวนี้นะ!!วาววา!!" วศินตบโต๊ะเสียงดังเพื่อหยุดการแหกปากของวาววาลูกสาวของเขาไม่รู้ว่าทำไมถึงได้เป็นแบบนี้ไปได้
"ไม่หยุดค่ะ!!ถ้าพ่อแม่ไม่หยุด!วาวก็ไม่หยุดเหมือนกัน!!ทำไมต้องการให้วาวไปแต่งงานกับมันด้วย?!" วาววาถามเสียงดังและชี้หน้าของโฮปที่ยืนอยู่เขาเองก็อยากแหกปากโวยวายเหมือนวาววานั่นแหละ แต่เขาคิดว่าไม่ดีกว่าไม่ได้ปัญญาอ่อนเหมือนเธอ
"อยากรู้ก็นั่งลงและพวกเราจะบอกทุกอย่างเองในเมื่อมันเป็นแบบนี้แล้วก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากบอกความจริงกันไปตรง ๆ" นับพลอยเห็นท่าไม่ดีเท่าไหร่เลยพูดขึ้นอย่างใจเย็นเธอเองก็รู้ว่าการจับทั้งคู่มาแต่งงานกันนั้นไม่ใช่เรื่องงง่าย แต่ว่าพวกเขาสี่คนต้องการให้เป็นแบบนั้นจริง ๆ
"ครับแม่...นั่งลง!!" หมับ! โฮปคว้าตัวของวาววาให้นั่งข้างเขาและผู้ใหญ่ทั้งสี่ก็ลงนั่งด้วยตอนนี้เรื่องอาหารไม่ได้สำคัญอะไรแล้วละ
"พวกเราต้องการให้ทั้งคู่แต่งงานกันเพื่อหนึ่งเลย....ดัดสันดาน" ฮับเปอร์เป็นคนพูดขึ้นก่อนเพราะว่าเขาเป็นคนวางแผนตั้งแต่ต้นและเป็นคนเสนอเรื่องนี้
"ดัดสันดาน?!" ทั้งคู่มองหน้ากัน
"ใช่ไง...ดัดสันดานของทั้งคู่นั่นแหละโตด้วยกันมา เรียนด้วยกันมา พ่อแม่ก็เป็นเพื่อนกันมาทำไมลูกทั้งสองถึงได้ทะเลาะกันและทำท่าทางเกลียดกันได้ขนาดนี้ฮะ?" วิเวียนพูดถามออกไปเธอไม่เข้าใจลูก ๆ จริง ๆนะ
"แม่คะเรื่อง..."
"ฟังก่อนวาววาผู้ใหญ่กำลังอธิบายนี้ไงว่าพ่อแม่ถึงต้องวางแผนมากมายเพื่อจับคู่ทั้งสอง ถ้าอยากรู้ก็ฟัง" วาววากำลังจะพูดแต่โดนวศินตัดบทซะก่อน
"ค่ะ ขอโทษค่ะ" วาววาเลยต้องก้มหน้าและยอมปิดปากตัวเองก่อน
"แล้วไม่มีแค่ทะเลาะเหมือนเด็ก ๆ ตอนนี้เป็นคู่แข่งกันทำงานเปิดบริษัทท้าทายกันแทนที่จะช่วยเหลือกัน พ่อไม่เข้าใจว่าความสัมพันธ์ของพวกลูก ๆ เปลี่ยนไปตอนไหน?"
"บวกกับว่าแม่ไม่ไว้ใจใครให้ดูแลวาววานอกจากโฮปเพราะงั้นเลยคิดว่าถ้าได้แต่งงานกับโฮปแม่คงจะสบายใจในวันที่ต้องจากโลกนี้ไป"
"แม่คะ..." วาววาเธอไม่ชอบให้แม่พูดเรื่องความตายเธอยังไม่พร้อมที่จะสูญเสียคนที่รักไป
"อีกเรื่องจะเรียกว่าล้าสมัยก็ได้นะแต่ว่าพ่อแม่เคยสัญญากันเอาไว้ว่าถ้าลูกของเราเป็นชายหญิงจะให้แต่งงานกัน"
"ใช่โบราณล้าสมัยสุด ๆ เลยค่ะไอ้เรื่องสัญญาอะไรนั่นอะ" วาววาพูดขึ้นทันที
"ฟังก่อนสิแต่นั่นเพราะว่าพวกเราต่างไม่ไว้ใจคนอื่นให้มาดูแลลูก ๆ นะ"
"บางทีผมอาจจะหาภรรยาได้ดีกว่าวาววาก็ได้นะครับ" ขวับ! เมื่อได้ยินอย่างนั้นวาววาก็หันมองหน้าของโฮปอย่างไม่พอใจทันที
"แม่รู้แต่ว่าลูกจะปล่อยให้น้องเผชิญกับโลกนี้คนเดียวเหรอ?"
"มันไม่เป็นอย่างนั้นแน่นอนค่ะคุณป้านับพลอยเพราะว่าตอนนี้วาวมีผู้ชายที่ดีกว่าโฮปเป็นร้อยเท่าเลยค่ะ! เพราะฉะนั้นปล่อยให้พวกเราเลือกคู่ครองเองดีกว่านะคะ" วาววาพูดออกไป
"นี่ลูกมีแฟนแล้วเหรอ?!" วศินตกใจมากเพราะว่าไม่เคยรู้มาก่อนว่าลูกสาวมีแฟน
"ยังไม่ได้เป็นแฟนค่ะแค่คุย ๆ กันมาเกือบปีแล้ว ถ้าคุยแล้วสามารถไปกันได้ก็ว่าจะลองคบดูค่ะพ่อ" วาววาบอกตามความจริงไม่มีปิดบัง
"เฮ้อออ!!แม่จะเป็นลมนี่ลูกให้พ่อแม่ผิดคำพูดกันเหรอทั้งที่สัญญากันเอาไว้แล้ว" วิเวียนพูดเอามือทาบอกส่วนวาววาก็เม้มปากแน่น
"ก็ได้...ในเมื่อลูก...ไม่ยอมแต่งงานกับโฮปและยืนยันว่าอย่างนั้น" วศินเอ่ยขึ้นมา
"พ่อคะขอบคุณนะคะที่เข้าใจ..."
"มรดกทุกอย่างของครอบครัวเราพ่อจะยกให้แผ่นดินบริจาคหลวงไปแล้วกัน" วศินเอ่ยขึ้นมาก่อนวาววาจะพูดจบ
"วะว่าไงนะคะ?!"
"ก็ในเมื่อลูกสาวคนเดียวแต่งงานตามความต้องการพ่อแม่ไม่ได้งั้นก็ไม่ต้องเอาสมบัติอะไรไปให้ไอ้คนคุยนั่นมันเลี้ยงแล้วกัน"
"พ่อคะ?! ทำงานมาทั้งชีวิตจะเอาไปให้แผ่นดินทำไมอ่าาา?!" วาววาโวยวายอย่างไม่ยอมเธอเป็นลูกคนเดียวทั้งหมดก็ต้องเป็นของเธอสิ!!
"ก็ในเมื่อไม่แต่งงานพ่อก็ไม่บังคับไงจบเนอะลูกสาว วันนี้พวกเรากลับก่อนนะฮับเปอร์...นับพลอยเดี๋ยวค่อยนัดทานข้าวกันใหม่วันนี้ต้องกลับไปเปลี่ยน...พินัยกรรม" ประโยคสุดท้ายหันมามองหน้าของวาววา
"พะพ่อคะ...แม่คะ!!!" วาววารีบตามพ่อแม่ออกไปเพื่อคุยเรื่องพินัยกรรม
ภายในห้องอาหารเลือกเพียงครอบครัวของโฮปเท่านั้นตอนนี้เขาค่อนข้างโล่งใจนะที่ฝั่งนั้นไม่ต้องมาแต่งงานกับเขาแล้ว
"ทีนี้ผมก็ไม่ต้องแต่งงานกับวาววาแล้วใช่ไหมครับเพราะฝั่งนั้นไม่ได้อยากแต่งเอง" เขาถามพ่อแม่ตัวเอง
"ถ้าไม่อยากแต่งงานก็ไปง้อสิเอาหนูวาวมาแต่ง"
"พ่อผมไม่ตลกด้วยนะทำไมต้องให้แต่งงานด้วยไม่เข้าใจเลยให้ผมเปิดธุรกิจใหม่เริ่มจากศูนย์ยังง่ายกว่าอีกอะ!!" โฮปก็เริ่มเสียงดังขึ้นมาแล้ว
"เหตุผลง่าย ๆ คือพ่ออยากได้หนูวาววาเป็นสะใภ้คนอื่นไม่เอา"
"พ๊ออออออออ!!ยัยนั่นมันปีศาจน้อยเลยนะวีรกรรมโคตรปวดประสาทเลยพ่อรู้ป่ะ?!"
"รู้เพราะงั้นพ่อแม่เลยคิดว่าไม่มีใครเหมาะสมกับลูกเท่าหนูวาววาอีกแล้ว ในเมื่อยังไม่แต่งงานกันตอนนี้ก็ไม่เป็นไรพ่อแม่ไม่รีบ...คุณคะเราเองก็ไปเปลี่ยนพินัยกรรมกันบ้างเถอะค่ะบางทียกมรดกให้แผ่นดินอาจจะมีประโยชน์กว่าให้ลูกชาย" และทั้งสองก็พากันเดินออกไปจากห้องอาหารของวันนี้โดยที่ยังไม่ได้แตะอาหารสักจานเดียว...
"แม่ครับ!!แม่!!"
อาทิตย์ต่อมา
ห้อง VIP
Bar, Drink and Restaurant
"พวกเราอยากได้งานแต่งงานริมทะเลชายหาด ไม่ได้ต้องการพิธีการมากมายเน้นปาร์ตี้ให้เพื่อน ๆ ได้สนุกกันแต่ก็ไม่ลืมพิธีสู่ขอผู้ใหญ่ไม่เอางานเช้าตื่นไม่ทัน ไม่เอางานบ่ายด้วยร้อน"
"งานแต่งริมทะเลที่ไหนจัดตอนบ่าย?" วาววาถามเพื่อนที่กำลังบอกความต้องการในงานแต่งงาน
"ก็บอกไปก่อนน้าาา~~ เชื่อสิรายละเอียดมันเยอะ!" วันนี้คู่ของการ์ดกับเมฆนัดทั้งสองมาคุยเรื่องการจัดการงานแต่งกัน
"พูดต่อสิ" วาววาบอกและกำลังตั้งใจฟัง
"เน้นความเป็นส่วนตัว"
"แขกกี่คน?" โฮปถามขึ้นบ้างเพราะว่าจากที่ฟังงานมันไม่ได้ใหญ่ที่จะใช้งบร้อยล้านเลย
"อืม...ไม่เยอะหรอกแค่ 2500 คนน่ะ^^"
"สองพันห้า?!" โฮปกับวาววาพูดออกมาพร้อมกัน
"ทำไมอะมันน้อยใช่ป่ะฉันก็ว่างั้นแหละแต่จะทำยังไงได้ฉันกับพ่อแม่แล้วก็ครอบครัวเมฆรวมรวบแล้วได้แค่นี้อะ" การ์ดทำหน้าเศร้า
"สองพันห้านั่นไม่ใช่งานส่วนตัวแล้วยัยการ์ดมันงานช้างเลยนะน่ะ!"
"คงไม่มีหาดไหนที่จะสามารถรองรับคนได้ขนาดนั้นหรอก นอกจากปิดเกาะไปเลยแต่ก็ต้องมีห้องด้วยเพื่อพัก" โฮปเสนอขึ้นมา
"เน้นความเป็นส่วนตัวคือเกาะส่วนตัวสินะ...แกมีสถานที่ในหัวบ้างไหม?" วาววาถามเพื่อน
"ไม่มีงะ"
"ธีมงานละ?" โฮปถามบ้าง
"ตามที่บอกไปตอนแรก"
"ไม่มีอะไรนอกจากนั้นแล้วเหรอ?"
"ไม่มีนะ"
"...." โฮปและวาววาเงียบพร้อมกันเพราะว่างั้นแบบนี้มันยากมาก!!!ถ้าเจ้าภาพไม่มีอะไรในหัวเลยมันต้องคิดใหม่ทั้งหมด
"ร้อยล้านงบไม่น่าพอนะถ้าต้องปิดเกาะ?" เมฆว่าที่เจ้าบ่าวพูดขึ้น
"เออน่ะสิ!!" / "ใช่ย่ะ!!" โฮปกับวาววาพูดพร้อมกันอีกแล้ว
"งั้นไม่จำกัดงบแล้วกันเท่าไหร่ก็เท่านั้นเดี๋ยวฉันจ่ายเอง" เมฆพูดด้วยท่าทางสบาย ๆ เพราะว่าเขาเป็นลูกชายเจ้าของห้างทอง ห้างเพชรและพลอยเพราะงั้นเงินแค่นี้สบายมาก
"งั้นต้องการให้งานเป็นธีมสีอะไร?" วาววาถามออกไป
"มินิมอลลลล~~เอาเป็นแดง เขียว เหลือง"
"นั่นมันไม่ใช่มินิมอลเมียมึงจะประสาทปะเนี่ย?" โฮปถามเพื่อน
"ก็ทำให้มันเป็นพาสเทลสิ...นายประสาทป่ะเนี่ย?" วาววาด่า
"ช่ายยยย~~เพื่อนฉันเก่งม๊ากกกกก!!" แปะ! แปะ! แปะ! การ์ดตบมืออย่างชอบใจที่เพื่อนรู้ใจ
"เหอะ! ใครมันจะไปรู้ละวะบอกแม่สีมาขนาดนั้น!!"
"ก็ใช้สมองบ้างสิ!!ใครมันจะใช้แม่สีจัดงานแต่งงานวะ?"
"พูดให้มันเข้าใจง่าย ๆ สิแบบนี้ไม่เข้าใจเว้ย!!" โฮปตะโกน
"กล้าตะโกนใส่ฉันเหรอไอ้โฮป?!" หมับ!! กระชากหัว
"เออ!!" หมับ!! กระชากผม
"เฮ้ย ๆ ๆ ๆ ใจเย็นกันโว้ยยยยยยยยย!!"
"อย่าพึ่งตีกัน >_<"