'หลบ ๆ หุ้นส่วนหลักคนใหม่ของร้านมาถึงแล้ว...' เสียงหนึ่งในพนักงานในร้านเอ่ย ทำให้สองคนที่ยืนอยู่หันไปมองยังร่างสูงที่เข้ามาใหม่เดินตรงไปยังห้องรับแขก
'ใครกันอะพี่ทราย' วิกานดาหันไปถามรุ่นพี่ที่ทำงานอยู่ด้วยกัน
'หุ้นส่วนหลักคนใหม่ไง บินตรงมาจากอิตาลีเลยนะมึง'
'ถึงว่า หุ่นอย่างกับนายแบบ' โมนาพึมพำ
'ไม่ใช่แค่หุ่นนะแก หน้าก็หล่อมาก เห็นไม่ชัดกันละสิ ถ้าเห็นแล้วจะอึ้ง'
'ฝรั่งก็แบบนี้'
'ฝรั่งที่ไหน ลูกครึ่งต่างหาก อิตาเลียนผสมไทย หล่อมาก แถมยังโคตรรวย'
'แล้วทำไมอยู่ ๆ เจ๊ขวัญถึงได้ยอมให้หุ้น' วิกานดาถามด้วยความสงสัยหลังจากที่ฟังรุ่นพี่สองคนยืนคุยกัน
'ก็ผัวเจ๊เขาน่ะสิติดพนันบอลที่คุณคนนี้เป็นลูกเจ้าของ คุยกันยังไงไม่รู้ เจ๊แกเลยยอมขายหุ้นให้'
'ดูท่าไม่น่าธรรมดา'
'เห็นว่าพ่อเขาเป็นนักธุรกิจใหญ่อยู่ฝั่งยุโรป ตอนนี้คงน่าจะเริ่มหันมาลงทุนแถวบ้านเราบ้างแล้ว เพราะเมียเขาเป็นคนไทย'
'ก็คงพวกมาเฟียดี ๆ นี่เอง' โมนาเอ่ยตามประสาด้วยความไม่ได้สนใจอะไร ผิดกับร่างบางอีกคนที่เอาแต่เงียบคิด
'เขาอายุเท่าไรเหรอพี่ทราย'
'20 ได้มั้ง เห็นพวกมันคุยกัน'
'พวกมัน?'
'อีพวกเด็กในร้านนี้แหละ เห็นเจ๊ขวัญมาเดินเลือกพวกรับแขกวีไอพีไป น่าจะส่งไปต้อนรับแขกคนสำคัญคนนี้แหละ...เออ มัวแต่ยืนคุย ฉันเองก็ต้องไปจัดเตรียมของ ไปก่อนนะ' ว่าแล้ว ทรายก็เดินออกไปในทันที โดยมีวิกานดาที่ยังคงยืนนิ่งอยู่
'คิดจะทำอะไรของแก' โมนาหันถามรุ่นน้องคนสนิทแววตานึกรู้ทันในความคิดของหญิงสาวในตอนนี้
'เขาแก่กว่าวิสองปี'
'วิ! แกหยุดความคิดเลยนะ'
'ก็ดีกว่าเสี่ยป๋อนะพี่โม'
'มันก็ใช่ แต่...'
'วิทนได้ ถ้าเป็นคนนี้ วิว่าวิไหว'
'ตั้งสติหน่อยสิ นี่คือการเสียตัวครั้งแรกของแกเลยนะ ทำไมถึงพูดเหมือนมันเป็นเรื่องง่าย...'
'ชีวิตวิเคยจำเป็นต้องยากกับเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ'
'...'
'วิต้องทำงานดูแลแขกรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อกับใครมากมายตั้งแต่อายุสิบห้า ยังดีที่ร้านใจดีรอให้อายุสิบแปดก่อนถึงจะสามารถรับแขกได้ แล้ววันนี้มันก็มาถึง พี่โมไม่ได้ยินที่แม่บอกเหรอ ถ้าเขาไม่ได้เงินในวันนี้...'
'หนีไหม'
'ฮ...ฮะ?'
'หนีไปกัน พี่จะไปเป็นเพื่อนแกเอง'
'พี่โม'
'ฉันพูดจริงนะ'
'วิไม่อยากใช้ชีวิตแบบนั้น'
'ฉันไม่อยากเห็นแกต้องเป็นแบบนั้น แกเหมือนน้องสาวแท้ ๆ ของฉัน ฉันรู้ว่าแกไม่ได้อยากทำ'
'แค่ครั้งนี้'
'หือ?'
'วิจะยอมรับแขกแลกเงินให้แม่แค่ครั้งนี้ เงินก้อนนี้จะเป็นเหมือนอิสระของวิ'
'หมายความว่าไง'
'วิจะถือว่ามันเป็นการตอบแทนที่แม่ชุบเลี้ยงวิมา หลังจากนี้...เขาจะไม่ใช่แม่ของวิอีกต่อไป'
'แกคิดว่าน้าสุจะยอมเหรอ'
'ไม่รู้สิ แต่วิจะลอง ไหน ๆ ก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว'
'เฮ้อ! แล้วฝรั่งคนนั้น เขาจะรับข้อเสนอเหรอ ดูเหมือนก็ไม่ได้เข้าถึงง่าย ๆ '
'วิจะลองไปคุยกับเจ๊ขวัญดู ยังไง...วิก็ยังไม่เคยรับงานใคร' สิ้นเสียงวิกานดาเอ่ย โมนาก็นิ่ง ก่อนที่สุดท้ายจะจำใจพยักหน้ารับรู้
'อืม'
'งั้นเดี๋ยววิมานะ' พูดจบ สองเท้าเล็กก็เดินตรงไปยังห้องรับแขกที่อยู่ไม่ไกลทันที
'มีอะไร' บอดีการ์ดที่ยืนอยู่หน้าห้องเอ่ยถามร่างเล็กที่มาใหม่
'คือว่า ฉันอยากพบกับเจ๊ขวัญ'
'ตอนนี้เจ๊ไม่ว่าง'
'งั้นฉันขอรอ...'
'อย่ามายืนเกะกะ เจ๊เขากำลังคุยธุระอยู่กับแขกคนสำคัญ' แม้จะได้ยินแบบนั้น ทว่าวิกานดาก็ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
'ไม่ได้ยินที่ฉันบอกหรือไง ฉันบอกว่า...' ยังไม่ทันที่บอดีการ์ดร่างท้วมจะพูดจบ
แอดดด
เสียงประตูห้องถูกเปิดออกก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงเท้าหนักของใครบางคนที่เดินนำออกมาด้วยสีหน้าราบเรียบทว่าแววตาคมกริบนั้นกลับทำเอาหญิงสาวที่ยืนอยู่เผลอตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วครู่ ชายหนุ่มลูกครึ่งร่างสูงจ้องมองเข้าไปในนัยน์ตาสวยของคนที่เอาแต่ยืนจ้องมองเขาอยู่นิ่งก่อนจะสาวเท้าเดินผ่านไปด้วยท่าทีปกติ ขณะที่วิกานดาเองก็เริ่มได้สติ
'แกมาทำไม'
'เจ๊ขวัญ...'
'ฉันมีแขกคนสำคัญอยู่ มีอะไรก็รีบพูดมา'
'วิขอรับแขกคนนี้เองได้ไหมคะ'
'ฮ...ฮะ?'
'คือว่า...วิอยากรับแขกคนนี้เอง...ได้ไหม'