Excuse Me คุณครับมารักกันไหม? 4
“สวัสดีค่ะ Happy Café ค่ะ”
(สั่งเครื่องดื่มหน่อยครับ) ปลายสายที่โทรเข้ามาเอ่ยบอก
“ได้ค่ะ รับอะไรดีคะ”
(อเมริกาโน่เย็น มัชฉะปั่นหวานน้อย ช็อกโกแลตเย็น ลาเต้เย็น อย่างละหนึ่งแก้วครับ แล้วก็เค้กนมสดสองชิ้น ส่งที่ Graph X3 Studio พร้อมกับมื้อเที่ยงครับ) อ้อ ที่นี่หลัง ๆ มาสั่งของบ่อยมาก น้องที่ไปส่งบอกว่าเจ้าของหล่อมากอาสาไปส่งกันอยู่แต่น้องทิวที่ทำหน้าที่ส่งเดลิเวอรี่ส่ายหน้าบอกจะส่งเองไม่ต้องไปสักคน ทำเอาสาว ๆ เสียใจอยู่มาก แต่ก็นั่นแหละทุกคนไม่ได้จริงจังอะไรขนาดนั้นออกจะคิดแซวๆ กันเท่านั้น
“ได้ค่ะ รับพร้อมมื้อเที่ยงนะคะ”
(ครับ เอ่อ คุณฟินใช่ไหมครับ)
“ใช่ค่ะ ฟินเอง”
(วันนี้คุณฟินมาส่งได้ไหมครับ พอดีมีของอยากฝากให้เจ้าตัวเล็กด้วย)
“ไม่มั่นใจเลยค่ะว่าจะไปได้ไหม ถ้าไม่ได้ไปฝากมากับน้องที่ไปส่งก็ได้ค่ะ”
(แบบนั้นก็ได้ครับ ไม่รบกวนแล้วครับ)
“ค่ะ ขอบคุณที่ใช้บริการค่ะ”
ไม่รู้ว่าแฟนไปตกลูกค้ามาได้ยังไงเพราะลูกค้าคนนี้ดูท่าจะสนใจแฟนอยู่มาก ชอบซื้อของเล่นมาให้อยู่บ่อย ๆ บางวันมาก็นั่งมุมร้านกินข้าวกินขนมและลอบมองมาทางฉันและแฟนอยู่บ่อยครั้ง แม้จะไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเขายังไม่ได้ทำอะไรให้ฉันรู้สึกอึดอัดใจ หากมันล้ำเส้นเกินไปคงต้องบอกเขาตรง ๆ ว่าฉันเองไม่สบายใจที่เขามายุ่งเกี่ยวกับลูกฉันแบบนี้
“ออเดอร์น้ำเยอะมากเลยนะ” พี่บุษเดินเข้ามาส่องดูเมนูที่ฉันจดไว้เมื่อสายเมื่อสักครู่โทรเข้ามา
“เยอะค่ะ ดีแล้วลูกค้าเราเยอะ ๆ หนูชอบ” ฉันยิ้มทีเล่นทีจริงกับพี่บุษ
“พี่ก็ชอบค่ะ” พี่บุษป้องปากบอกกลับมา เราสองคนหัวเราะอย่างรู้ทันกัน ก่อนจะแยกกันไปทำงาน เมื่อถึงเวลาส่งของก็เตรียมเป็นชุดให้น้องทิวเตรียมไปส่ง มื้อเที่ยงมีผูกส่งอยู่สองสามที่ ส่วนมากจะโทรมาจองโต๊ะนั่งที่ร้านรวมถึงสั่งอาหารไว้ล่วงหน้า
“สั่งข้าวแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“สั่งแล้วแต่อยากมา”
“อยากกินตำบักหุ่งแหมอ้าย”
อยากกินส้มตำอะพี่
“ขอร้องพูดภาษากลางกับกู กูปล่อยมึงอยู่กับแม่บ้านเยอะเกินไปใช่ไหม”
“กูส่อแมแน่”
กูฟ้องแม่แน่
“ขอร้องเกรย์ บางคำกูก็ไม่รู้เรื่อง กลับมาพูดกลางกับกู” สองพี่น้องที่เดินผ่านหน้าไปนั่งโต๊ะมุมหนึ่งพร้อมกับเถียงกันอย่างไม่ยอมแพ้ คนหนึ่งพูดอีสานอีกคนพูดไทยคล้ายกับจะบอกให้อีกคนหยุดพูดอีสานและที่สำคัญพวกเขาหน้าตาเหมือนกันมากคาดว่าน่าจะเป็นฝากแฝดก็ได้ หน้าตาดีมากเลยนะและเขาคนนี้นี่แหละที่ชอบสั่งมื้อเที่ยง เครื่องดื่มและขนมจากร้าน สายเมื่อช่วงสายก็เป็นสายของเขา สั่งไปแล้วก็ไม่เข้าใจว่าเขาจะมาที่นี่ทำไมหรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศก็ไม่รู้
“หล่อมากเลยค่ะพี่ฟิน หนูเขิน” น้องอรเดินเข้ามากระซิบหน้าแดงหลังจากเดินออกไปรับเมนูจากโต๊ะของผู้ชายสองคนนั้น
“ใจเย็น ทำงานก่อนอย่าเพิ่งเขินหน้าแดงแบบนี้” แกล้งแซวน้องกลับไป อรหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเดินเลยเข้าไปในห้องครัว
“โต๊ะเจ็ดเช็กบิลค่ะพี่ฟิน” น้องวิวเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับรอยยิ้ม
“สักครู่ค่ะ”
“รับอะไรดีคะ? น้องพิมพ์ มาได้ยังไง” ฉันเงยหน้ามองลูกค้าก็เจอเข้ากับคนรู้จัก น้องพิมพ์อยู่บ้านหลังข้าง ๆ ฉันนี่เอง แต่น้องชอบใช้ชีวิตเงียบ ๆ สโลว์ไลฟ์มาก บางทีแฟนร้องไห้งอแงฉันก็เกรงใจน้องอยู่มากแต่กลายเป็นว่าน้องเข้าใจและชอบมาเล่นกับแฟนเสียอย่างนั้น
“คิดถึงขนมพี่ฟินเลยมาหา”
“อ้อนเก่งจังเลยนะเนี่ย” ฉันส่งยิ้มให้น้องพิมพ์ จากนั้นเจ้าตัวก็เลือกเค้กมาหลายชิ้นรวมถึงเครื่องดื่มที่อยากจะดื่ม
“ออกจากบ้านเป็นด้วย?” น้ำเสียงแกล้งยียวนดังขึ้นข้างน้องพิมพ์ระหว่างรอฉันนำขนมลงกล่อง เป็นร่างสูง ๆ ของคนที่ฉันคิดว่าเป็นแฝดคู่นั้น แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้เหมือนกันจนแยกไม่ออกนะ เหมือนแต่ก็ไม่เหมือนเสียทีเดียว เพราะฉันแยกคุณกราฟกับผู้ชายคนนั้นได้
“เฮ้อ อากาศเสียขึ้นมาทันที”
“นี่ยัยรังไก่”
“อ้าว ปากเหรอนั่นน่ะ” สองคนตรงหน้าเคาน์เตอร์เริ่มเสียงดังจนใครคนหนึ่งเดินมาห้ามทัพ
“เกรย์หยุด ขอโทษแทนน้องผมด้วยนะครับ” คนมาใหญ่เอ่ยบอก
“แต่...”
“หยุด ไปนั่งกินข้าว น้อง น้องพิมพ์ใช่ไหม ไปนั่งด้วยกันไหมถือว่าไถ่โทษ” คุณกราฟชวนน้องพิมพ์
“ขอบคุณค่ะ แต่ว่าไม่สะดวกกลัวกินไม่ลง” ท้ายประโยคน้องพิมพ์ปรายมองเกรย์อย่างไม่ยอม
“ดูสิ” เกรย์ฟ้องพี่ชาย แต่พอถูกมองดุ ๆ ก็ยอมเงียบเดินกลับไปที่โต๊ะ
“ได้แล้วน้องพิมพ์”
“เท่าไหร่คะ” ฉันบอกราคาไปพร้อมกับน้องพิมพ์ยื่นเงินมาให้เมื่อทอนเงินเสร็จน้องพิมพ์ก็ออกจากร้านไปทันทีคล้ายกับไม่อยากอยู่นาน ฉันปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปสักพักน้องทิวก็กลับมาถึงบ้าน
“ทิวพักกินข้าวเลยนะ”
“ครับพี่ อ้อพี่ฟิน มีคนฝากของเล่นมาให้เจ้าแฟนด้วยนะครับ ผมขอบคุณแทนไปแล้ว”
“ขอบใจจ้า ไป ๆ รีบไปกินข้าวก่อน”
“คุณฟิน...”
“คะ?” ลูกค้าเจ้าเดิมที่พักหลังชอบเข้ามาทักทายเอ่ยเรียก
“ผมมีเรื่องอยากจะคุยด้วย ตอนเย็นว่างไหมครับ?”
“ช่วงนี้ไม่มีวันว่างเลยค่ะ มีอะไรด่วนหรือเปล่าคะ” ช่วงนี้ฉันต้องเคลียร์หลาย ๆ อย่างเพื่อที่จะได้ไปเที่ยวกับเพื่อนและพี่ ไม่อยากทิ้งงานให้หนักเพียงแค่พี่บุษคนเดียว
“เอ่อ เอาไว้วันว่างเราค่อยคุยกันก็ได้ครับ”
“ได้ค่ะ ขอตัวทำงานก่อนนะคะ”
ความสงบสุขเกิดขึ้นอีกครั้งหลังจากผู้ชายคนนั้นเดินออกจากร้านพร้อมกับคนเป็นน้องชายฝาแฝด ฉันนั่งทำงานอยู่สักพักก็ถึงเวลาไปรับลูกชายที่โรงเรียน ดีที่ว่าร้านกับโรงเรียนแฟนอยู่ไม่ไกลกันมากทำให้ใช้เวลาเดินทางไม่นาน
“พี่บุษหนูไปรับลูกก่อนนะคะ”
“ค่า จะเข้ามาอีกไหมคะ?”
“ไม่แล้วค่ะ คงกลับบ้านเลยพี่ลิลลี่อยากโชว์ฝีมือทำเมนูใหม่” ฉันเล่าให้พี่บุษฟังพร้อมกับหัวเราะอย่างเอ็นดูเมื่อถึงนึกแม่บ้านที่บ้าน
“ฮ่า ๆ ๆ น่าเอ็นดูเขานะคะ”
“น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ”
“ขับรถดี ๆ นะคะ”
“ค่า กลับแล้วนะคะ” ฉันสะพายกระเป๋าโบกมือลาพี่บุษและน้อง ๆ ในร้าน ใช้เวลาเดินทางสักพักก็มาถึงโรงเรียนฉันหยิบบัตรผู้ปกครองจากนั้นก็เดินลงจากรถไปตามทางเพื่อไปรอที่จุดรอรับลูกกลับบ้าน ตอนนี้มีผู้ปกครองเข้ามารออยู่บ้างประปราย
“อ้าวคุณแม่น้องแฟนมาแล้วเหรอคะ?” คุณครูที่รออยู่จุดด้านหน้าเอ่ยทักทาย
“มาแล้วค่ะคุณครู” ฉันตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้กับคุณครูที่คุ้นเคยหน้าตากัน
“รอสักครู่นะคะ”
“ได้ค่ะ” คุณครูหยิบวอร์ขึ้นมาส่งสัญญาณให้พี่เลี้ยงด้านในพาแฟนออกมา พักสักก็มีเจ้าตัวเล็กวิ่งหน้าตั้งผมชี้มาตามทางเดิน ก่อนจะหยุดหัวคะมำข้าง ๆ คุณครู
“ซนเหรอเนี่ย” ฉันถามลูก
“ไม่ซน เด็กดี” แฟนตอบกลับมาด้วยใบหน้าดื้อดึง
“ครับ ๆ งั้นเด็กดีลาคุณครูก่อนเร็ว” บอกลูกชายมือก็ยื่นไปรับกระเป๋าสะพายหลังของลูกจากพี่เลี้ยงมาถือเอง
“สวัสดีครับคุณครู”
“สวัสดีค่ะ เจอกันพรุ่งนี้นะ”
“ครับ”
แฟนเดินมาจับมือฉันไว้จากนั้นเราสองแม่ลูกก็เดินออกจากโรงเรียนมาขึ้นรถที่ลานจอดรถ ฉันอุ้มแฟนขึ้นไปนั่งบนคาร์ซิทที่ถูกติดตั้งไว้เบาะด้านหลัง จัดการรัดเข็มขัดให้ลูกชายกระทั่งเสร็จเรียบร้อย
“พี่แฟนกลับบ้านกันครับ” เอ่ยบอกลูกชาย
“กลับบ้านกันครับ!”
รถค่อย ๆ เคลื่อนออกจากลานจอดรถ ฉันใช้ความระมัดระวังในการขับรถมากกว่าปกติเพราะมีลูกชายนั่งมาด้วย ขับมาได้สักพักเจ้าตัวเล็กที่ทำหน้านึกคิดอะไรอยู่ก็เอ่ยถามสิ่งที่ฉันไม่คาดคิด
“ม๊า พี่แฟนไม่มีพ่อเหรอ?”
“พี่แฟนมีพ่อครับ แต่พ่อพี่แฟนไม่ได้อยู่ที่นี่แค่นั้นเองลูก”
“แล้วทำไมพ่อไม่อยู่กับเราครับม๊า” แฟนยังถามต่อด้วยความสงสัย
“พ่อเขาต้องทำงานอยู่ไกล ๆ ครับ ม๊าเองก็ต้องทำงานเราเลยไม่ได้อยู่ด้วยกัน”
“แล้วพ่อรักพี่แฟนไหม ทำไมคุณครูบอกว่าพี่แฟนไม่มีพ่อ พ่อไม่รัก”
“พ่อรักพี่แฟนค่ะ ม๊าเองก็รักพี่แฟน คุณครูคนไหนคะที่ว่าแบบนั้น” กล้าดียังไงมาว่าลูกฉันแบบนั้น ฉันไม่ได้ให้ลูกฉันเข้าไปเรียนฟรีเสียหน่อย ฉันเสียเงินไม่ใช่น้อย ๆ ส่งให้ลูกเรียนที่นั่น ต้องเจอกันหน่อยแล้ว
“คุณครูมนครับ”
“ครับ ม๊าเข้าใจแล้ว หนูไม่ต้องกลัวนะม๊ารักหนู พ่อเองก็รัก ที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันเพราะเหตุผลของผู้ใหญ่รอหนูโตมากกว่านี้ม๊าจะบอกทุกอย่างเลยนะ พี่แฟนเข้าใจม๊าใช่ไหมลูก”
“ครับ แค่ม๊ารักพี่แฟนก็พอแล้ว”
“ม๊ารักหนูนะแฟน”
“หนูก็รักม๊า”