บทที่ 3 อาละวาด

1808 Words
บทที่ 3 อาละวาด ที่ค่ายทหาร.. คนขับรถของตระกูลหลิวมาจอดรถที่หน้าค่ายทหาร หลิวอ้ายเหรินที่นั่งอยู่เบาะหลังนั้นก็มองเข้าไปในบริเวณค่ายทหาร ซึ่งคนขับรถนามว่าลุงจือ ก็รีบร้อนลงจากรถเพื่อไปเปิดประตูให้คุณหนูกลาง “ลุงจือกลับไปก่อนเถอะ ไม่ต้องรอฉัน” หลิวอ้ายเหรินบอกในขณะที่ก้าวออกจากรถ โดยไม่มองหน้า ชายชราที่ดูว่าจะอายุมากกว่าพ่อหลิวเสียด้วยซ้ำ ซึ่งหลิวอ้ายเหรินไม่ได้แสดงความเคารพผู้ที่มีอายุเยอะกว่าเลย “ครับ” ลุงจือรีบก้มหัวให้ แล้วแอบมองคุณหนูกลางเดินเข้าไปในค่าย ด้วยท่าทางมั่นใจ ด้านลุงจือไม่อยากถามอะไรคุณหนูกลางมาก เพราะกลัวจะถูกตำหนิ ว่าเสียๆ หายๆ.. หลิวอ้ายเหรินเป็นสาวสวยเซ็กซี่และมีความมั่นใจตัวเองสูง จึงสร้างความสนใจให้กับคนในกองทัพเป็นอย่างมาก และหลายคนก็จำเธอได้ ว่าเธอคือน้องสาวของหลิวจี้หยวน หลายคนก็จำได้ ว่าเธอเคยมาตามตื๊อ ฉางเฉินหลงหลายครั้งหลายครา.. หลิวอ้ายเหรินเดินเชิดหน้าขึ้นไปยังตึกอาคารทหาร โดยที่มีสายตาหลายคู่พากันแอบมอง เธอไม่สนใจมองคนพวกนั้น เธอเดินมาที่หน้าห้องทำงานของฉางเฉินหลง และเธอไม่ได้เคาะประตูห้อง แล้วเปิดประตูเข้าไปด้วยความเคยชิน แต่ภาพที่เห็น ทำให้หลิวอ้ายเหรินปรี๊ดแตกโกรธจัด ฉางเฉินหลงที่เธอปักใจรักตั้งแต่เด็กนั้น เขากำลังยืนโอบกอดผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ ซึ่งเธอรับไม่ได้จึงส่งเสียงร้อง “กรี๊ดด!!” หลิวอ้ายเหรินกรีดร้อง แล้วเดินตรงไปแยกทั้งคู่ออกจากกัน แล้วเธอได้ผลักหล่อนคนนั้นออก แล้วดึงแขนของฉางเฉินหลงให้มายืนข้างเธอ ซึ่งเหตุการณ์ก่อนหน้าที่เธอจะเข้ามา คือฉางเฉินหลงได้ประคอง ถังลี่ชิงที่กำลังจะล้มลงเอาไว้ จึงทำให้อ้ายเหรินเข้ามาเห็นแล้วเข้าใจผิด “นังลี่ชิง” เพียะ!.. ด้วยความโมโห ทำให้หลิวอ้ายเหรินจับแขนของลี่ชิงกระชากกลับมาแล้วฟาดฝ่ามือลงบนหน้าของลี่ชิง เมื่อเห็นหล่อนคนนั้นเป็นใคร เพราะ ลี่ชิงคือศัตรูอันดับหนึ่งของเธอเลยก็ว่าได้ “โอ๊ย!” ถังลี่ชิงร้องกรี๊ดเมื่อถูกตบจนหน้าหัน ซึ่งเธอเซถอยหลังจนหลังของเธอชนกับผนังห้องอย่างจัง “ลี่ชิง” ฉางเฉินหลงเห็นดังนั้นก็รีบเข้าไปประคองถังลี่ชิง และหันมามองอ้ายเหรินด้วยสายตาดุดัน และด้วยความโกรธแค้นมาก “พี่เฉินหลง” ลี่ชิงน้ำตาไหล เหมือนจะร้องไห้เมื่อชายหนุ่มเข้ามาประคองกอด “ทำบ้าอะไรของเธอ” ฉางเฉินหลงตะคอกใส่หลิวอ้ายเหรินเสียงดังอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน “…” เสียงดังน่ากลัวของเฉินหลงทำให้อ้ายเหรินตกตะลึง เธอ อ้าปากค้างไปชั่วขณะ “พะ พี่เฉินหลง” ลี่ชิงเรียกชายหนุ่มเสียงสั่นเครือ เป็นเพราะเธอหวาดกลัว จึงซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดของฉางเฉินหลงมากขึ้น “พี่เฉินหลงปล่อยมันนะ” อ้ายเหรินหน้าตาแดงก่ำ เมื่อเห็นฉางเฉินหลงโอบกอดเอาใจถังลี่ชิง เธอจึงเดินตรงเข้าไปจะแยกพวกเขาทั้งสองออกจากกัน แต่ฉางเฉินหลงยกมือขึ้นผลักอ้ายเหรินออก ถึงจะผลักเพียงเบาๆ แต่ด้วยแรงของผู้ชาย จึงทำให้หญิงสาวตัวเล็กถึงกับ เซถลาหกล้มก้นจ้ำเบ้านั่งบนพื้นปูน “พี่เฉินหลง” อ้ายเหรินเจ็บหัวใจมากกว่าเจ็บตัว จนน้ำตาแห่งความน้อยใจไหลอาบแก้ม เธอค่อยๆ หันหน้านองน้ำตามองชายหนุ่มที่เธอรักด้วยสายตาเจ็บปวดหัวใจ “เลิกบ้าได้แล้วอ้ายเหริน” เพียงแต่เฉินหลงไม่สนใจ เขาตะคอกเสียงเหี้ยมใส่เธอด้วยความโมโห “พะ พี่เฉินหลง” หลิวอ้ายเหรินไม่เคยถูกฉางเฉินหลงมองเธอด้วยสายตาดูแคลนแบบนี้มาก่อน ก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดหัวใจเป็นอย่างมาก เสียงเอะอะที่ดังลั่นห้องทำงานของฉางเฉินหลง ทำให้คนเริ่มสนใจและเดินมาชะเง้อคอมอง พอเห็นว่ามีเรื่องอะไรกัน ก็เล่าลือต่อกันไป “เป็นบ้าอะไรมาทำร้ายชิงชิง” เฉินหลงทำท่าทางรังเกียจ และตะคอกเสียงดังใส่อ้ายเหริน “พี่อย่าเรียกมันแบบนั้นนะ” อ้ายเหรินรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก ที่ ได้ยินเฉินหลงเรียกผู้หญิงคนอื่นอย่างสนิทสนม “ทำไม ฉันจะเรียกใครแบบไหนมันก็สิทธิ์ของฉัน แล้วฉันต้องให้เธอมาบอกด้วยหรือยังไง ว่าต้องไม่เรียกลี่ชิงว่าชิงชิง” ฉางเฉินหลงไม่สนใจท่าทีของอ้ายเหริน เขาถามเธอกลับเสียงเยือกเย็น และสายตาเย็นชาของเขาก็จ้องหน้าของอ้ายเหรินตาเขม็ง คำพูดของฉางเฉินหลงทำให้อ้ายเหรินหน้าชา เธอสะอึกจนน้ำตาร่วงเผาะ แล้วค่อยๆ ยกมือปาดน้ำตาออกจากแก้ม พร้อมเอ่ยชื่อเขาเสียงเบาหวิว “พะ พี่เฉินหลง นี่พี่ว่าฉันเหรอ” “ฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้ว ว่าอย่ามาก่อเรื่องที่นี่อีก” ฉางเฉินหลงพูดกับเธออย่างไม่รักษาน้ำใจและไว้หน้าอ้ายเหรินเลยสักนิด “พะ พี่พูดกับฉันแบบนี้ได้ยังไง” อ้ายเหรินพยายามจะไม่ร้องไห้ และพยายามพูดไม่ให้เสียงสั่นเวลาถามเขา “ทำไมจะพูดไม่ได้ อย่ามาก่อเรื่องที่นี่อีก ฉันเตือนเธอเป็นครั้งสุดท้าย และอย่ามายุ่งกับฉัน แล้วก็ออกจากห้องทำงานของฉันได้แล้ว” เฉินหลงชี้หน้าเตือนอ้ายเหริน โดยไม่สนใจว่ามีผู้คนมองอยู่ที่หน้าประตูห้อง หลิวอ้ายเหรินรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เธอร้องไห้กรี๊ดๆ ออกมาแล้วมองเขาทั้งน้ำตา ที่เขาหักหาญน้ำใจและปฏิเสธเธออย่างไม่ไยดีเลยสักนิด “แต่ฉันมาหาพี่นะ” อ้ายเหรินปาดน้ำตาออกจากแก้ม เวลาเชิดหน้ามองฉางเฉินหลง “ฉันขอให้เธอมาหรือยังไง” เฉินหลงสวนกลับโดยไม่สนใจความรู้สึกของอ้ายเหรินเลยสักนิด และคำพูดของชายหนุ่มก็ยิ่งทำร้ายจิตใจของเธอมาก อ้ายเหรินเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นที่ออกจากปากชายหนุ่ม เธอก็ร้องไห้หนักขึ้น โดยที่เขาไม่สนใจเธอเลย “กรี๊ดด พี่เฉินหลง พี่จะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้” อ้ายเหรินร้องกรี๊ดๆ ไม่หยุด เสียงร้องไห้กรี๊ดผสมเสียงสะอึกสะอื้น ทำให้จี้หยวนที่เดินมาดูนั้น ได้ยิน ซึ่งเขาจำได้ว่าเป็นเสียงของน้องสาวคนกลาง เขาจึงเข้าไปดู “อ้ายเหริน” ภาพที่เห็นคือน้องสาวนั่งร้องไห้อยู่กับพื้น หัวใจคนเป็นพี่อย่างเขา ก็เหมือนมีมีดแหลมคมทิ่มแทงจนใจเหวอะหวะเลือดไหลซิบ “พี่ใหญ่” ด้านอ้ายเหรินยิ่งร้องไห้เมื่อเห็นพี่ชาย “นี่มันเกิดอะไรขึ้น" หลิวจี้หยวนเรียกน้องสาว แล้วเดินไปนั่งประคองกอดน้องไว้ “ฮืออ” อ้ายเหรินร้องไห้โฮ เมื่อได้อยู่ในอ้อมแขนของพี่ชาย “เฉินหลงนี่มันอะไร แกทำอะไร” หลิวจี้หยวนถาม เมื่อหันไปมองเพื่อนที่ยังยืนประคองโอบกอดถังลี่ชิง ซึ่งถังลี่ชิงเธอเป็นนายทหารหญิงที่เป็นรุ่นน้อง “แกก็ถามน้องสาวของแกดูสิ” ฉินหลงสวนกลับแล้วทำหน้าเอือมระอาในนิสัยของอ้ายเหริน “อ้ายเหริน” จี้หยวนจึงมองน้องสาวด้วยสายคาดคั้น “พี่จี้หยวน คือหลิวอ้ายเหรินเข้ามาเห็นฉันอยู่กับพี่เฉินหลงค่ะ” ถังลี่ชิงที่ยืนร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของเฉินหลง ซึ่งหล่อนเป็นฝ่ายตอบแทน “…” คำพูดของถังลี่ชิงทำให้จี้หยวนเข้าใจทันที ว่าน้องสาวของเขาเป็นอะไร ซึ่งเขาไม่พูดอะไร เขาทำเพียงแค่พยักหน้ารับรู้ “พี่ใหญ่ พี่ต้องช่วยฉัน” อ้ายเหรินบอกพี่ชายเมื่อถูกพยุงให้ลุกขึ้นยืน “อ้ายเหริน กลับเถอะ” จี้หยวนกล้ำกลืนชวนน้องสาวกลับบ้าน เนื่องจากตอนนี้ทุกคนกำลังมามุงดูกันมากขึ้น และคนที่เสียหายก็คือน้องสาวของเขาที่มาก่อเรื่องถึงในกองทัพ “…” อ้ายเหรินไม่ตอบโต้ เธอมองเฉินหลงด้วยสายตาตัดพ้อและน้อยใจที่สุด ซึ่งเขาไม่หันมามองเธอเลยสักนิด นั่นยิ่งทำให้หลิวอ้ายเหรินร้องไห้หนักกว่าเดิม… หนึ่งชั่วโมงต่อมา.. หลิวอ้ายเหรินยอมกลับมาบ้านพร้อมพี่ชายแต่โดยดี และเมื่อรถจอดที่หน้าบ้าน อ้ายเหรินก็หยุดสะอื้นไห้ แล้วเปิดประตูด้วยตัวเอง พร้อมทั้งก้าวออกจากรถ “อ้ายเหริน” ด้านหลิวจี้หยวนเรียกน้องรอง แต่ก็ไม่ทัน เมื่อน้องรองเปิดและปิดประตูรถเสียงดัง ปัง!.. หลิวจี้หยวนจึงได้แต่นั่งอยู่ในรถหายใจแรงๆ มองน้องคนรองวิ่งเข้าบ้าน ถึงอยากตามไปปลอบใจน้อง แต่เขาก็มีงานต้องทำ จึงต้องรีบกลับไปที่กองทัพเสียก่อน… ด้านแม่หลิวที่นั่งเล่นอยู่กับลูกสาวคนเล็ก ซึ่งเธอทั้งสองได้ยินเสียงรถขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน จึงพากันเดินออกมาดู และแม่หลิวก็ตกใจมาก ที่เห็นลูกสาวคนรองวิ่งร้องไห้เข้ามาในบ้าน “อ้ายเหริน เกิดอะไรขึ้น” แม่หลิวถามลูกสาวรอง แต่สายตาหวั่นๆ กลับมองหน้าลูกสาวคนเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆ “…” เพียงแต่หลิวอ้ายเหรินไม่ตอบ เธอวิ่งหนีผ่านหน้าผู้เป็นแม่ไป แต่เป็นหลิวเหม่ยเหมยน้องเล็กที่ยืนอยู่ตรงนั้นได้จับและดึงแขนพี่สาวเอาไว้ “พี่รอง เกิดอะไรขึ้นคะ” หลิวเหม่ยเหมยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง “ไม่ต้องมายุ่ง” แต่อ้ายเหรินไม่รับรู้ถึงความเป็นห่วงของใคร เธอสะบัดแขนออกจากมือน้องเล็ก แล้วผลักน้องสาวออกแล้ววิ่งขึ้นห้องไปทันที “เหม่ยเหมย” แม่หลิวร้องเสียงตกใจ เมื่อลูกสาวคนเล็กถูกผลักจนล้ม ซึ่งนางรีบเข้ามาดูลูกสาวคนเล็กด้วยความเป็นห่วง “หนูไม่เป็นไรค่ะ” หลิวเหม่ยเหมยบอกแม่ แต่สายตาเป็นห่วงและกังวลกับมองตามหลังพี่สาวคนรองที่เอาแต่ร้องไห้วิ่งหนีขึ้นไปบนห้อง…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD