bc

ย้อนเวลาไปเป็นนางมารร้ายของจวินเหริน (นายทหารในยุค80s)

book_age12+
155
FOLLOW
1K
READ
HE
time-travel
heir/heiress
kicking
mystery
loser
soul-swap
like
intro-logo
Blurb

จางอ้ายเหม่ย หญิงสาวในยุค 2023 ที่มีร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก เธอป่วยด้วยโรคหัวใจรั่ว จนวันหนึ่งเธอจากไปอย่างสงบ วิญญาณที่ควรจะได้ต่อแถวไปเกิดใหม่ แต่กลับย้อนเวลามาเข้าร่างของคุณหนูตัวร้ายในยุค 70-80 เสียอย่างนั้น..

หลิวอ้ายเหริน คุณหนูตัวร้ายที่เทิดทูนความรัก เธอร้ายกับทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ครอบครัวตัวเอง วันหนึ่งเธอถูกชายคนที่เธอรักมาตั้งแต่เด็กพูดจาตัดสัมพันธ์ จนเธอตรอมใจหนักและเสียชีวิตลง

เขาชื่อ ฉางเฉินหลงเป็นนายทหารยศร้อยเอก ที่มีอนาคตไกล

จนจางอ้ายเหม่ยมาเข้าร่าง และสัมผัสความคิดของเจ้าของร่างได้ จางอ้ายเหม่ยจึงตั้งจิตไว้ว่า

“เอาละหลิวอ้ายเหริน เธอวางใจได้ ในเมื่อฉันมาอยู่ในร่างของเธอแล้ว ฉันจะใช้ชีวิตให้ดี และจะทำให้ผู้ชายคนที่ทำให้เธอตรอมใจตายต้องเสียใจและตามตื๊อเธอและรักเธอ และฉันจะสร้างชื่อเสียงที่เธอเคยทำไม่ดีให้กลับมาให้เป็นคนดีและมีคนรักเธอให้ได้”

ในชีวิตก่อนของจางอ้ายเหม่ยเปิดร้านอาหาร และชอบการออกแบบและวาดรูป แต่เธอไม่สามารถทำความฝันที่อยากจะเปิดแบรนด์เป็นของตัวเองได้ เพราะขีดจำกัดของร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวย แต่ตอนนี้เธอมาอยู่ในร่างที่แข็งแรง ไหนจะมิติร้านอาหารและบ้านหลังใหญ่ของเธอที่ติดตัวมาอีก ชีวิตใหม่ในยุคเจ็ดสิบนี้ เธอจะทำตามความฝันของตัวเองให้สำเร็จจงได้…

chap-preview
Free preview
บทที่ 1 ชีวิตของจางอ้ายเหม่ย
บทที่ 1 ชีวิตของจางอ้ายเหม่ย ปี 2023.. ‘จางอ้ายเหม่ย’ หญิงสาววัยยี่สิบปี ร่างกายของเธอผอมบางนอนป่วยขั้นโคม่าอยู่บนเตียงคนไข้ในห้องพักฟื้นวีไอพีของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แขนข้างหนึ่งของเธอยังมีเข็มน้ำเกลือ และที่จมูกก็มีเครื่องช่วยหายใจชนิดอ่อนๆ และข้างเตียงนั้น ก็มีชายหญิงวัยกลางคนและผู้ชาย ผู้หญิงวัยใกล้เคียงกันยืนร้องไห้กันอยู่ “ทำใจดีๆ ไว้นะคุณ ลูกของเราจะต้องปลอดภัยและหายดีแน่นอน” จางเวิ่นเจี้ยง หรือคุณจางกอดและปลอบใจภรรยาที่เอาแต่ร้องไห้อยู่ซึ่งเขาเองก็มีสีหน้าที่ไม่ค่อยจะดีนัก ที่เห็นลูกสาวมีสภาพร่างกายแบบนี้ “อึก คุณคะ ฉันสงสารลูกค่ะ ทำไมลูกของเราต้องเป็นแบบนี้ด้วย ทำไมโรคภัยไข้เจ็บถึงไม่มาเกิดกับฉันแทน” หลี่จินอีหรือคุณนายจาง ร้องไห้จนน้ำตาแห้งเหือด ดวงตาของนางพร่ามัว มองลูกสาวที่นอนหายใจรวยริน โดยมีเครื่องช่วยหายใจช่วยหายใจ เพราะถ้าถอดเครื่องช่วยหายใจตอนไหน ตอนนั้นเธอก็หมดลมหายใจทันที “คุณอย่าพูดแบบนั้นสิ ลูกเราต้องหาย” จางเวิ่นเจี้ยงกอดและลูบหลังภรรยา เมื่อพูดปลอบขวัญภรรยาไปแบบนั้น ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าลูกสาวคงอยู่ได้ไม่พ้นคืนนี้แน่ “จะให้ฉันวางใจได้ยังไง อ้ายเหม่ยลูกสาวของแม่ ฮืออ” คุณนายจางบอกสามีเสียงสั่นเครือ นางไม่อยากร้องไห้หรอก แต่พอเห็นสภาพของลูกสาวแล้วนางก็อดที่จะน้ำตาไหลเพราะสงสารลูกไม่ได้ “แม่ครับ ซิงซิง อย่าร้องไห้เลยครับ เดี๋ยวอ้ายเหม่ยตื่นขึ้นมาเห็น ทุกคนร้องไห้ จะทำให้อ้ายเหม่ยไม่สบายใจเอานะครับ” จางซีซวนเองก็พยายามปลอบแม่และน้องสาวคนเล็ก โดยอ้างว่าถ้าคนที่นอนป่วยติดเตียงตื่นขึ้นมาเห็นพวกเธอเอาแต่ร้องไห้ แล้วจะทำให้ น้องคนรองทรุดและไม่สบายใจขึ้นอีกกว่าเดิม ถึงจะรู้ว่าน้องคนรองไม่มีวันฟื้นคืนมาเหมือนเดิมก็ตาม “ทำไมกันคะพี่ใหญ่ ทำไมต้องเป็นพี่รองด้วย หนูสงสารพี่รองจังค่ะ อึกก” จางชิงชิงพูดทั้งน้ำตาไหลร้องไห้สะอึกสะอื้น “มันเป็นชะตาที่ฟ้าลิขิตมาแล้ว คงถึงเวลาที่พี่รองของลูกต้องพักผ่อนแล้วละ” พ่อจางหน้าเอ่ยบอกลูกสาวคนเล็กด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เขา สุดแสนจะเศร้าใจมาก เมื่อมองไปที่จางอ้ายเหม่ย ลูกสาวคนกลางที่นอนนิ่งไม่ขยับตัวอยู่บนเตียง.. จางอ้ายเหม่ยเป็นลูกสาวคนรองของจางเวิ่นเจี้ยงและหลี่จินอี มีพี่ชายคนโตหนึ่งคน คือจางซีซวน และน้องสาวคนเล็กหนึ่งคนคือจางชิงชิง ครอบครัวจางเป็นครอบครัวที่ร่ำรวย มีกิจการมากมายหลายอย่าง และเป็นครอบครัวที่อบอุ่น พ่อแม่และลูกๆ ซึ่งจางอ้ายเหม่ยใฝ่ฝันอยากจะเป็นเชฟ จึงร่ำเรียนและได้เปิดร้านอาหารเป็นของตนเอง อีกทั้งยังชอบการวาดภาพ และการออกแบบเสื้อผ้า และคนในบ้านจางต่างรักใคร่กลมเกลียวกันเป็นอย่างมาก และ รักเอาใจใส่จางอ้ายเหม่ยกันมากที่สุด เพราะเธอนั้นเกิดมา เธอก็เป็นโรคหัวใจตั้งแต่เกิด จึงทำให้ร่างกายของเธอไม่แข็งแรงมาตั้งแต่เด็กๆ และต้องคอยระวังอยู่ตลอดเวลา จางอ้ายเหม่ยใช้ชีวิตแบบเรียนหนังสือที่บ้าน เพราะร่างกายเธอ ไม่เอื้ออำนวยออกไปเรียนข้างนอกเหมือนทุกคน แต่การเรียนของเธอนั้นดีและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เธอเรียนจบเชฟ และสอบใบประกอบวิชาชีพได้ และยังเรียนจบการออกแบบ และยังเคยทำงานกับ แบรนด์ดังในประเทศฝรั่งเศส เพื่อออกแบบกระเป๋า เสื้อผ้า และรองเท้า จางอ้ายเหม่ยเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเองได้ไม่นาน ร่างกายที่ ไม่แข็งแรงก็มีอาการทรุดลง หมอประจำตัวที่รักษาเธอบอกว่าเธอหมดหวังแล้ว และเมื่อทุกคนในครอบครัวรู้ ต่างก็เสียใจกับข่าวร้ายนี้ แต่เจ้าตัวกลับยิ้มร่าและบอกให้ทุกคนว่าอย่าเสียใจ เพราะเธอมีร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็ก เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น ทำให้เธอ เบื่อหน่ายกับชีวิตของเธอเหลือเกิน เธอบอกกับทุกคนว่าอย่าเสียใจ เพราะเธอกำลังจะหลุดพ้นจากความเจ็บปวด เธอไม่อยากให้ทุกคนร้องไห้ อยากให้ทุกคนยิ้มดีใจกับเธอมากกว่า.. ติ๊ด ติ๊ดดดด.. เสียงสัญญาณดังขึ้น พร้อมกับกราฟบนหน้าจอคอมพิวเตอร์สีดำดิ่งลงไป ทำให้คนในครอบครัวจางตื่นตระหนกกันเป็นอย่างมาก “อ้ายเหม่ย” จางซีซวนเรียกน้องรอง และเมื่อตั้งสติได้ก็รีบวิ่งออกไปตามหมอทันที “อะ อ้ายเหม่ยลูกแม่” คุณนายจางน้ำตาไหลไม่ขาดสาย นางพยายามจะเข้าไปหาลูกสาว แต่สามีรั้งแขนเธอไว้เสียก่อน ด้านจางซิงชิงเองก็ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจและเจ็บปวดที่สุด ที่เห็นร่างพี่สาวคนรองกระตุก.. ไม่นานก็มีหมอและพยาบาลวิ่งกรูเข้ามาล้อมรอบจางอ้ายเหมยเอาไว้ พร้อมกับเชิญญาติให้ออกไปเสียก่อน ครอบครัวจางต่างกอดกันแล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ใจของพวกเขาวูบโหวงเหวงอย่างที่ไม่เคยเป็น แบบนี้มาก่อน.. เพียงครู่เดียว คุณหมอประจำตัวของจางอ้ายเหม่ยก็ออกมาแจ้ง ข่าวร้าย “คุณหมอ ลูกสาวผมเป็นยังไงบ้างครับ” พ่อจางหน้าเคร่งเครียด ถามหมอเสียงสั่นสะท้าน “หมอเสียใจด้วยนะครับ” คุณหมอทำหน้าเครียด และบอกทุกคน พรึบ!.. สิ้นเสียงของคุณหมอ แม่จางก็ทรุดฮวบหมดสติลงไปนอนบนพื้น “คุณแม่ คุณแม่ครับ” ทุกคนที่กำลังช็อกเรื่องของจางอ้ายเหม่ยอยู่แล้ว ก็ยิ่งตกใจและร้องเสียงหลงเมื่อเห็นแม่จางเป็นลม ซึ่งเป็นจางซีซวนเองที่เข้าไปประคองแม่ไว้ “พาแม่ไปนั่งตรงโน้นก่อนซีซวน” พ่อจางบอกลูกชาย แล้วเดินตามลูกๆ ไปนั่งที่เก้าอี้ “ครับ” ซีซวนอุ้มแม่ไปนั่งที่เก้าอี้ “จางอ้ายเหม่ยลูกแม่ ไม่จริงใช่ไหม ลูกแม่ยังไม่ตายใช่ไหม ฮืออ” แม่จางเมื่อฟื้นขึ้นมาก็ร้องไห้เรียกหาลูกสาวคนกลาง ซึ่งทุกคนในบ้านจาง ต่างพากันร้องไห้หนักกว่าเดิม เสียงร้องดังระงมที่หน้าห้องพักของจางอ้ายเหม่ย พยาบาลเดินออกมาแจ้งเวลาเสียชีวิตของจางอ้ายเหม่ยอย่างเป็นทางการ…

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook