ตอนที่ 4 ศรรักปักใจ (2)

1263 Words
“แกนี่มันไม่ไหวเลยจริงๆ ทำไมแกไม่โทรมาบอกแม่บ้างว่าจะไปไหนมาไหน อายุแค่นี้ทำตัวเหลวไหล อย่าให้พี่รู้ว่ามีครั้งหน้านะ พี่จะส่งแกไปอยู่ที่อังกฤษกับลุงพลแน่” เสียงเข้มกล่าวจบพลางหันหลังเดินจากไปทันที ก่อนที่จะอดใจไม่ไหวฟาดกบาลน้องชายซักป้าบ บอกแล้วมันเคยกลัวที่ไหน ดื้อรั้นไม่มีใครเกิน ดีที่มันยังฟังเวลาที่เขาดุหรือปรามบ้าง ไม่อย่างนั้นเขาไม่ยอมแน่ นพภิชัยทำหน้ายุ่งหลังจากโดนพี่ชายขู่เรื่องที่เขาไม่ปรารถนา ถ้าต้องไปอยู่ที่อังกฤษกับลุงพล ให้เขาไปไถนายังจะดีซะกว่า เรื่องอะไรจะไปอยู่ไกลพ่อไกลแม่ให้ลำบากกายลำบากใจ ลุงเขายิ่งโหดๆ อยู่ด้วย ขนาดพี่ชายเขายังไม่กล้าหือ ถ้าไปอยู่กับลุงมีหวังโดนลุงโขกสับจนหงอแน่นอน เขาไม่มีทางไปเด็ดขาด เฮ้อ อุตส่าห์ปีนกำแพง เพื่อหลบเข้ามาไม่ให้ใครเจอ ก็ยังโดนจนได้ หนุ่มน้อยเบะปากอย่างเซ็งๆ ก่อนจะกระเผลกเดินไปต่อ กำลังจะก้าวขาขึ้นบันได เพื่อไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ก็ต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานของมารดา ที่กำลังคุยกับผู้หญิง ใครกันนะ เสียงไม่เหมือนป้าบัวผันเลย “แม่คร้าบบบ” หนุ่มน้อยเอ่ยเสียงอ้อน พลางถลาเข้าไปกอดเอวจากด้านหลัง พร้อมกับหอมแก้มมารดาฟอดใหญ่อย่างออดอ้อน “นี่แน่ะ! พ่อตัวดี กลับมาแล้วเหรอลูก ไปไหนมาฮึ รู้มั้ยว่าแม่เป็นห่วง” ตีแขนลูกชายเบาๆ ก่อนจะค้อนให้เขาประหลับประเหลือกที่ปล่อยให้เธอรอค่อนคืน ติดต่อก็ไม่ได้ ไม่โทรมาบอกอีกต่างหากว่าไปไหน กว่าจะโผล่กลับมาได้ก็ปาเข้าไปจนเที่ยงแล้ว “ขอโทษครับแม่ ไปนอนบ้านเพื่อนมาครับ แม่อย่างอนน้า ทีหลังไม่ทำแล้วครับผม” เอ่ยพลางโอบเอวท้วมของมารดาแน่น ซบหน้าลงกับไหล่บางของมารดาอย่างประจบ คุณครวญจิตถอนหายใจ พลางส่ายหน้าอย่างระอา ลองพ่อลูกชายสุดที่รักมามุขนี้เธอเป็นต้องใจอ่อนทุกที ไม่เคยจะดุได้จริงจังเลยซักครั้ง “พอแล้วไม่ต้องมาอ้อนแม่เลย อ้อ แม่เกือบลืม นพลูก นี่พี่กล้วยเป็นน้องสาวของพี่อิฐ เพื่อนพี่ชายเราน่ะ พี่เขามาพักบ้านเราสองวันนะลูก มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” หันไปกล่าวแนะนำหญิงสาวอีกหนึ่งคนที่ยืนยิ้มถือทัพพีมองสองแม่ลูกออเซาะกัน “สวัสดีครับพี่กล้วย” ยกมือไหว้ผู้อาวุโสกว่าอย่างนอบน้อม แสดงว่ายัยเด็กนั่นมากับพี่กล้วยสินะ “สวัสดีค่ะน้องนพ” เธอยิ้มให้อย่างเอ็นดู เคยมีแต่พี่ชาย ไม่เคยมีน้องชายเลย ถ้ามีน้องชายหล่อแบบนี้ก็คงดี แต่หัวกะไดบ้านคงจะไม่แห้งแน่ๆ ฉายแววหล่อแต่เด็กเชียว “เดี๋ยวนพไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะลูก แล้วลงมาทานบัวลอยไข่หวานฝีมือแม่กับพี่กล้วยกัน พอดีป้าบัวผันไม่ค่อยสบายแม่เลยลงมือเอง” “เหรอครับ แล้วป้าบัวผัน เป็นอะไรมากไหมครับ” เอ่ยถามอย่างกังวล พักนี้เขายุ่งๆ ไม่ค่อยได้ถามไถ่ ดูแลป้าบัวผันเลย ทั้งๆ ที่เขาและพี่ชายค่อนข้างสนิทกับป้าบัวผันมาก เนื่องจากท่านเป็นคนเลี้ยงเขาและพี่ชายมาตั้งแต่เล็กๆ พวกเขาจึงรักและเคารพป้าบัวผันเหมือนคนในครอบครัว มิได้คิดว่าเป็นแค่แม่บ้านหรือแม่ครัวแต่อย่างใด “ไม่เป็นอะไรมากหรอกลูก แค่เพลียๆ แม่ให้สมใจพาไปหาหมอให้ตรวจแล้ว ให้ป้าเค้านอนพักผ่อนเยอะๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้นจ้ะ” บอกลูกเสียงอ่อนโยนพลางดันร่างสูงที่กำลังเป็นหนุ่มให้ขึ้นบันไดไป ก่อนจะกำชับให้ลงมาทานข้าวกลางวันและของหวานด้วยกัน พลันที่ชายหนุ่มเดินมาถึงห้องอาหารก็ต้องชะงักประสานสายตากับยัยเด็กแก่แดดเข้าอย่างจัง ก่อนจะเสมองไปทางอื่น แล้วเดินมานั่งลงที่เก้าอี้ประจำของตนเอง ที่มีแม่และพี่ชายนั่งอยู่ก่อนหน้า โดยที่แขกของบ้านทั้งสองคนนั่งอยู่ตรงข้าม “นพลูก นี่น้องตาหวาน เป็นหลานของพี่กล้วยเค้า รู้จักกันไว้นะลูก” เสียงมารดาเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ “ตาหวาน นี่อานพ น้องชายของอาพงศ์นะลูก” บอกสาวน้อยเสียงนุ่ม ขณะที่คนเป็นอาหมาดๆ ได้แต่สะดุ้ง และบ่นอยู่ในใจ นี่อยู่ๆ เขาต้องกลายมาเป็นอาของยัยเด็กนี่ด้วยเหรอเนี่ย เป็นพี่ยังพอทน นี่ถึงขั้นเป็นอา รอให้เขาเป็นหนุ่มกว่านี้ก่อนได้มั้ย จะรีบให้แก่ไปถึงไหน “หวัดดีค่ะอานพขา” สาวน้อยกระพุ่มมือไหว้เขาและเอ่ยทักเสียงหวาน พร้อมทั้งยิ้มกว้างส่งให้เขาอย่างยินดี ที่ได้รู้ว่าพี่ชายคนที่เธอชอบเป็นน้องของอาพงศ์ แถมยังเป็นอาคนใหม่ของเธอด้วยในตอนนี้ “เอ่อ ครับ…โหกับข้าวน่าทานทั้งนั้นเลยครับแม่ ผมลุยล่ะนะ” เด็กหนุ่มรู้สึกพูดไม่ออกเอาดื้อๆ เลยแสร้งเป็นให้ความสนใจกับอาหารตรงหน้า “หึ กินอย่างกะตายอดตายอยาก ที่บ้านเพื่อนแกไม่มีข้าวให้กินหรือไง” พี่ชายอดไม่ได้ที่จะประชด ก่อนที่คนเป็นแม่จะปรายตามอง เป็นสัญญาณให้หยุด ด้วยเกรงว่าพงศกรจะจัดกัณฑ์เทศน์ชุดใหญ่ใส่ลูกรัก ใช่ว่าไม่อยากให้ตักเตือน แต่ขอเป็นหลังไมค์ดีกว่าต่อหน้าต่อตาหญิงสาวและเด็กน้อยที่นั่งมองอย่างเกร็งๆ ตอนนี้ ชายหนุ่มยักไหล่อย่างไม่สนใจ ก่อนจะก้มหน้าสนใจทานอาหารในจานของตน ระหว่างที่กำลังจะเอื้อมมือไปตักไข่เจียวกุ้งสับ ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่นวียาเอื้อมมือมาพอดี นวียารีบหดมือกลับไป พร้อมทั้งก้มหน้าหลบสายตาที่กำลังยิ้มได้ ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยของเขา ก่อนที่จะแอบเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะทำตัวเป็นสุภาพบุรุษตักไข่เจียวใส่จานให้เธอ “ขอบคุณค่ะ” เอ่ยขอบคุณจากใจจริง พร้อมส่งยิ้มให้เขา ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะจางหายกลายเป็นรอยแยกเขี้ยว เมื่อได้ยินประโยคถัดมาของชายหนุ่มที่เธอคิดว่าเขาน่าจะกลับตัวกลับใจได้แล้ว แต่เปล่าเลย “ทานเยอะๆ นะครับไข่ดาว เอ๊ย! ไข่เจียวอร่อยดีครับ” ชายหนุ่มแกล้งเปรยกระทบพาดพิงถึงเรื่องวันก่อน ที่เขาหวังดีเช็ดกาแฟออกจากหน้าอกเธอ แต่กลายเป็นต้องโดนกล่าวหาว่าเป็นผู้ชายฉวยโอกาส ฮึ่ม! ไม่รู้หรือไงว่าผู้หญิงไม่ชอบให้ใครมาดูถูกสัดส่วน โดยเฉพาะส่วนบน อกหักยังเรื่องเล็ก ใครมาว่าอกเล็กนี่มันเรื่องใหญ่นะเว้ย หญิงสาวรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อคุณครวญจิตหันมาสนทนาอย่างคนชอบพูดชอบคุย ก่อนจะแอบถลึงตาใส่ชายหนุ่มที่กวนอารมณ์เธอจนแทบจะกระเดือกข้าวไม่ลงคอ ‘ฝากไว้ก่อนเถอะ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน คุณพงศกร’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD