ตอนที่ 12 : รู้สึกชนะ
มือเรียวเล็กถือใบเกรดที่พึ่งได้จากร้านสั่งทำถึงกับเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ก่อนหน้านี้เธอได้จ้างคนที่เกรดเฉลี่ยน้อยทำเรื่องขอใบเกรดจากมหาวิทยาลัย เพื่อเอามาเปรียบเทียบ ต้องใช้มารยาหญิงพร้อมกับใช้เงิน และมันน่าตกใจตรงที่ทุกอย่างเหมือนกันอย่างกับถ่ายเอกสาร กว่าจะได้เห็นธาตุแท้ของชาวินท์หมดเงินไปหลายบาท
นี่มันอะไรกัน คนเราสามารถปลอมเอกสารได้แนบเนียนขนาดนี้เลยเหรอ แม้แต่ลายเซ็น ไม่แปลกใจเลยทำไมคนโกงยังมีอยู่ทั่วประเทศ ต่อให้เป็นแค่ใบเกรดแต่มันคือการทุจริตอย่างหนึ่ง แล้วชาวินท์สามารถทำมันได้อย่างหน้าตาเฉย เหมือนไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนอะไร ฟังจากน้ำเสียงดูภูมิใจด้วยซ้ำ
ถ้านายเป็นมาเฟียเหมือนรุ่นพ่อ นายคงใช้เล่ห์เหลี่ยมพวกนี้หาทางออกได้ แต่ตอนนี้นายเป็นนักศึกษา ไม่รู้ด้วยว่าเอาใบเกรดปลอมไปทำไม
"หมอนั่นต้องการให้ใครดูเกรดถึงยอมจ่ายเงินขนาดนี้เพื่อกระดาษใบเดียว" อันดาพึมพำกับตัวเอง และชำเลืองมองเจ้าของร้านที่สั่งให้ทำงานให้
ใบหน้าหวานกลับมาเรียบนิ่งและส่งยิ้มบางๆให้เจ้าของร้าน
"เหมือนดีนะคะ ค่อยคุ้มกับเงินที่จ่ายไปหน่อย"
"ก็ต้องเหมือนสิ ถ้าไม่เหมือนใครจะจ้างละ"
"ผู้ชายที่ชื่อชาวินท์มาทำใบนี้ตั้งแต่ปีหนึ่งเลยเหรอคะ"
"เป็นอะไรกับไอ้หนุ่มนั่นล่ะ ถึงอยากรู้เรื่องนัก"
อันดาไม่ได้ตอบแต่เลือกที่จะหยิบแบงก์ห้าร้อยส่งให้เจ้าของร้าน แต่มองหน้าก็ดูออกว่าหน้าเงินแค่ไหน ไม่ยากที่จะใช้เงินแก้ปัญหา เพราะกระดาษแผ่นนี้ยังใช้เงินแก้ปัญหามาแล้ว
"เด็กสมัยนี้มันรวยกันจริงเว้ย...ไอ้หนุ่มนั่นมันทำมานานแล้วตั้งแต่ปีหนึ่ง และคิดว่าคงทำยาวยันจบ ลูกค้ากระเป๋าหนักต้องเก็บไว้"
"ยันจบเลยเหรอคะ"
"เกรดเฉลี่ยไม่ถึงหนึ่งคิดว่ามันจะจบไหมล่ะ แต่ไอ้หนุ่มนั่นมันเก่งนะ ขนาดได้เกรดเฉลี่ยแค่นี้ทุกเทอมยังเลื่อนชั้นได้"
เกรดเฉลี่ยไม่ถึงหนึ่งเนี่ยนะ ควายยังฉลาดซะกว่า ปกติแล้วเกรดของมหาวิทยาลัยจะเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษในแต่ละรายวิชา และมีเกรดเฉลี่ยเป็นตัวเลข ถ้าชาวินท์ได้ไม่ถึงหนึ่งงั้นแสดงว่าต้องมีรายวิชาติดเอฟ(ที่แปลว่าตก) แต่ทำไมชาวินท์ยังได้เลื่อนชั้นมาจนถึงปีสามเทอมสอง
หรือว่า...ไอ้หมอนั่นมันให้ใต้โต๊ะอาจารย์ที่สอน ใช้อำนาจอาชาร์ลงั้นเหรอ เพราะอาชาร์ลบริจาคให้มหาวิทยาลัยปีละหลายล้าน ทุกคนให้ความเคารพนับถือ เลยไม่มีใครกล้าหือกับชาวินท์ ทุกคนเลยยอมชาวินท์ไม่ว่าชาวินท์จะทำอะไร
"ขอบคุณนะครับลูกค้าคนสำคัญอีกคน เทอมหน้าให้พี่ช่วยอะไรก็บอก พี่พร้อมช่วยเหลือลูกค้าวีไอพีเสมอ"
อันดาเดินออกมาจากร้านและขึ้นรถสปอร์ตคันหรู พลางนึกคิดเรื่องของชาวินท์
"หวังว่านายคงไม่เอาใบเกรดปลอมไปให้อาชาร์ลกับอาลินดูหรอกนะ ถ้านายทำแบบนั้นคงเลวน่าดู ยังไงซะวันหนึ่งความจริงก็ต้องปรากฏคนที่เสียใจที่สุดก็คือพ่อแม่นาย ที่เชื่อใจลูกทุกอย่าง เลี้ยงดูลูกมาอย่างดี ถ้าวันนั้นมาถึงฉันสงสารอาทั้งสองคนที่มีลูกอย่างนาย"
เธอไม่ได้จะวิ่งแจ้นไปบอกเรื่องนี้กับผู้ใหญ่ที่เคารพรัก ถึงจะอยากบอกแต่เธอไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหาของชาวินท์ แต่การที่เธอทำแบบนี้เพราะต้องการปั่นประสาทชาวินท์ก็เท่านั้น
จากที่คิ้วขมวดเป็นปมแปลเปลี่ยนเป็นเส้นตรงแต่เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
"เริ่มจากอะไรดี รถดีไหมนะ เหมือนเห็นภาพคนแพ้รางๆ"
วันต่อมา…
ในช่วงบ่ายของวันรถสปอร์ตคันหรูของอันดาขับเข้ามาจอดในลานจอดรถของมหาวิทยาลัยอย่างเช่นเคย วันนี้อันดามีเรียนภาคบ่ายทำให้มาถึงมหาวิทยาลัยสายได้ และตั้งใจจะมาเวลานี้เพราะรู้ว่าอีกคนชอบมาเรียนช่วงนี้ ต่อให้มีเรียนเช้าก็ตาม
ดวงตากลมโตมองกระจกหลังเห็นรถสปอร์ตคันเป้าหมายขับตามเข้ามา และมาจอดอยู่เคียงข้างเนื่องจากมีที่ว่างพอดี ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงทำให้อันดาหงุดหงิด แต่วันนี้รู้สึกถูกใจที่รถสปอร์ตของชาวินท์มาจอดอยู่ใกล้ๆ
ชาวินท์มองรถสปอร์ตที่เหมือนกับของตัวเองอย่างกับแกะพลางถอนหายใจออกมา ที่ว่างดันเหลือแค่ช่องเดียวยิ่งเบื่อหน่าย
ร่างสูงลงจากรถของตัวเองเป็นจังหวะเดียวกันกับเธอที่ลงมาจากรถเหมือนกัน สายตาคมมองคนตัวเล็กด้วยสายตาไม่พอใจ แต่สีหน้าของเธอแตกต่างจากทุกครั้งที่เจอกัน สีหน้าของเธอกำลังแสดงถึงความยินดีหรือมีความสุขบางอย่าง ปกติแล้วทุกครั้งที่เจอกันหน้าเธอจะไม่ต่างจากยักษ์
"อารมณ์ดีที่เจอฉันเหรอไง หลงเสน่ห์ฉันเข้าให้แล้วสินะ"
อันดาหัวเราะกับคำพูดของชาวินท์ ถ้าเป็นทุกครั้งเธอคงหมั่นไส้ และทำท่าทีขยะแขยง แต่วันนี้ไม่เป็นแบบนั้น ริมฝีปากบางฉีกยิ้มกับคำพูดของชาวินท์และเดินเข้าไปหา
"อารมณ์ดีที่เจอนายจริงๆแหละ แต่มันมีเรื่องให้อารมณ์ดีกว่านั้น"
คิ้วหนาเลิกขึ้นเป็นเชิงคำถาม เมื่อเห็นคนตัวเล็กมีท่าทีแปลกๆจนน่าสงสัย
"เมื่อเช้าลืมกินวิตามินหรือไงถึงไม่มีอะไรบำรุงสมอง"
"นายนั่นแหละที่ควรกินวิตามินบำรุงสมองเยอะๆ ยิ่งถ้าสอบได้เกรดเฉลี่ยไม่ถึงหนึ่งก็ควรกินนะ สงสารสมองที่ไม่มีอะไรเติมเต็มเลย"
"พูดอะไรของเธอ" ชาวินท์ทำสีหน้าเรียบนิ่งแต่ข้างในกำลังรู้สึกแปลกใจกับคำพูดของเธอ มีแค่เรนกับต้นกล้าเท่านั้นที่รู้เกรดที่แท้จริง และเชื่อว่าทั้งสองคนไม่มีทางปากโป้งไปบอกยัยนี่แน่
"เกรดของนายสวยดีเลยชม ศูนย์จุดเก้าหก ติดเอฟรัวๆ แต่เลื่อนชั้นได้ เก่งดีนะ แต่เก่งแบบไหนล่ะ เก่งแบบเอาใบเกรดปลอมหรือเก่งแบบยัดเงินให้อาจารย์พร้อมกับข่มขู่ด้วยอำนาจของพ่อ"
"เธอไปรู้อะไรมา" ชาวินท์กัดฟันแน่นและถามเธอด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
"ว้าว...โกรธเหรอ นายมีความรู้สึกนี้ด้วยเหรอ ที่ฉันพูดก็เป็นความจริงนะสิ" อันดาใช้น้ำเสียงตื่นเต้นยียวนเมื่อชาวินท์หน้าถอดสี
พรึบ
ฝ่ามือหนากระชากข้อมือเรียวเล็กและบีบรัดแน่นด้วยความโกรธ สายตาคมกริบจ้องมองดวงตากลมโตคู่นั้นอย่างคาดโทษ
ทำไมเธอถึงรู้ทั้งที่เขาทำแบบนี้มาตั้งแต่ปีหนึ่ง สิ่งที่เธอพูดถูกหมดทุกอย่าง ยัดเงินอธิการบดีของมหาวิทยาลัยให้เลื่อนชั้นทั้งที่เกรดติดเอฟหลายตัว รวมถึงอาจารย์รายวิชาทุกคนที่สอน ถ้าเป็นคนอื่นจะตกซ้ำชั้นเรียนกับรุ่นน้อง เขาไม่มีทางยอมอายขายขี้หน้ารุ่นน้องแน่ และเรื่องนี้พ่อกับแม่ต้องไม่รู้ด้วย
"อย่ามาปากดีกับฉัน"
"กลัวสินะ ฉันพอจะเดาออกแล้วล่ะ อาชาร์ลกับอาอลินดาไม่รู้เรื่อง ใบเกรดที่นายจ้างทำเพื่อเอาไปตบตาพ่อแม่ตัวเอง อยากให้พ่อแม่ภูมิใจสินะ"
"ฉันจะทำอะไรก็เรื่องของฉัน เธออย่ามาเสือกเรื่องของฉัน"
"ถ้าไม่ให้ฉันเสือกเรื่องของนายก็ยอมเปลี่ยนไปใช้รถคันอื่นที่ไม่เหมือนฉันสิ ยอมรับความพ่ายแพ้ไปซะ ยังไงฉันก็ชนะนาย นายมันไม่ต่างจากลูกไก่ในกำมือ"
พรึบ
อันดาสะบัดมือออกจากฝ่ามือหนาอย่างแรง แรงบีบถึงแม้จะเจ็บปวดเข้ากระดูกแต่เธอไม่แสดงอาการเจ็บปวดให้เขาได้เห็น ดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้าคมคายพร้อมกับยกยิ้มมุมปากอย่างเหนือกว่า
ถ้าเขายอมเปลี่ยนรถ เพื่อนสนิทของเขาจะรู้ทันทีว่า เขายอมอ่อนข้อให้เธอ
"ยอมฉันทุกอย่างแลกกับเรื่องใบเกรด เป็นผู้แพ้ซะชาวินท์ นายไม่มีวันชนะฉันหรอก นายเป็นผู้นำที่ไม่ได้เรื่อง โง่แต่อวดฉลาด"
"อันดา!" ชาวินท์ตะคอกเสียงดังลั่นอย่างเหลืออด นัยส์ตาคมเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดอยากจะบีบคอเธอให้ตายคามือ
"อย่ามาปากดีกับฉัน ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดี" ชาวินท์ชี้หน้าอันดาอย่างคาดโทษ
อันดาไม่ได้หวาดกลัวกับคำขู่แต่จ้องมองใบหน้าคมคายอย่างสู้ไม่ถอย
"นายควรยอมรับว่าตัวเองไม่มีภาวะการเป็นผู้นำ ไม่ว่าจะตอนเด็กหรือตอนนี้ ลองนายไม่มีเงินฟาดหัวคนพวกนั้นดูสิ จะไม่มีใครหน้าไหนยอมก้มหัวให้นายเลยชาวินท์ ฉันไม่มีเวลามายืนเถียงกับนาย เพราะเวลาของฉันมีค่ามากกว่าเที่ยวเล่นไปวันๆ เอาข้อเสนอของฉันไปคิด แค่เปลี่ยนรถหรือจะเปลี่ยนมหาวิทยาลัย" อันดาเบะปากและทำเชิดหน้าท้าทายก่อนจะเดินกระแทกไหล่ชาวินท์
ชาวินท์มองตามคนตัวเล็กที่เดินห่างออกไป มือหนากำหมัดแน่นด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น ตลอดเวลาที่ผ่านเพราะเห็นแก่อาจัสตินอานับดาวเลยไม่อยากทำอะไรเธอ แต่หลังจากนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยให้เธอเชิดหน้าชูตาเยาะเย้ยเหนือกว่าแบบนี้อีกแน่
"เธอเชิดหน้าได้แค่วันนี้วันเดียวเท่านั้นแหละอันดา ฉันจะทำให้เธออยู่ภายใต้การควบคุมของฉัน มันถึงขีดจำกัดแล้ว"