1.1 เหตุเกิด ณ สวนสาธารณะ

1360 Words
ตอนที่ 1 : เหตุเกิด ณ สวนสาธารณะ “อัณ ไปที่สนามบาสฯ กับพี่หน่อยได้ไหม” เสียงอันน่ารำคาญของพี่เอ็น เอ็น มาเอดะ พี่ชายคนโตที่หน้าตาค่อนข้างจะดีของฉันอ้อนวอนขึ้นทันทีที่ฉันกลับมาถึงบ้าน นี่ฉันยังไม่ทันได้ถอดรองเท้าเลยนะเนี่ย พี่เอ็นเป็นพี่ชายคนโตของครอบครัว ตอนนี้เรียนอยู่ชั้นม.6 ทำไมฉันต้องไปด้วยล่ะ” ฉันถามกลับไปอย่างเซ็งๆ ถอดรองเท้าออกแล้วเดินเข้ามาในตัวบ้านที่ไม่ค่อยจะใหญ่โตเท่าไร สาเหตุนั่นก็เพราะว่าที่บ้านของฉันมีฐานะอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ในห้องนั่งเล่นปูเสื่อทาทามิ ในห้องน้ำมีอ่างโอฟุโระตามสไตล์เชื้อสายญี่ปุ่นที่สืบทอดมาจากปู่ แต่นอกจากนั้นก็ธรรมดาทั่วไป ไม่ได้รวยเว่อร์จนมีบ้านหลังใหญ่ๆ เหมือนกับนักเรียนคนอื่นๆ ในเซนต์ เฟรย่า “อะไรกัน เธอก็เป็นหนึ่งในกลุ่ม Silver Cross นะ แถมยังเป็นควีนด้วย” “หึ” ฉันหัวเราะออกมาในลำคอเมื่อพี่เอ็นพูดถึงแก๊งที่ดูเหมือนจะเป็นแก๊งอันธพาลมากกว่าแก๊งนักกีฬาที่พี่เขาตั้งขึ้นมาในตอนแรก ถ้าจะพูดถึงแก๊ง Silver Cross ฉันขออธิบายสั้นๆ ว่ามันเป็นแก๊งที่อยู่ในความดูแลของพี่เอ็นและพี่อิน ต่อมาด้วยฝีมือการต่อสู้และความสามารถทางด้านกีฬาของฉัน พวกเขาก็เลยลากฉันเข้าไปในแก๊งด้วย แถมยังมอบตำแหน่งควีนซึ่งเป็นตำแหน่งที่รองลงมาจากพี่เอ็นซึ่งเป็นคิงให้อีกต่างหาก แต่ฉันขอพูดคำเดียวว่า ฉันไม่ได้เต็มใจรับตำแหน่งพวกนี้เลยสักนิด พี่เอ็นมอบตำแหน่งนี้ให้ฉันตั้งแต่ฉันยังเรียนอยู่ ม.2 จนป่านนี้ฉันอยู่ม.4 พี่เขาก็ยังคงไม่รู้ตัวเลยว่าฉันไม่อยากมีส่วนรู้เห็นใดๆ กับแก๊งนั้นทั้งสิ้น! “นะๆ ไปเป็นเพื่อนพี่หน่อย วันนี้มีแข่งนัดสำคัญด้วย พี่อยากพาน้องสาวแสนสวยของพี่ไปอวดให้พวกมันน้ำลายไหลเล่นอ่ะ!” ดูสิ...นี่หรือเหตุผลของคนที่ขึ้นชื่อว่าพี่ “ถ้าอยากได้สาวๆ สวยๆ ไปอวดพี่ก็หาผู้หญิงที่เก็บเอาไว้ในโกดังของพี่ไปสักคนสิ มีเป็นขโยงไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องเป็นฉันด้วย” “ก็แหม คนในแก๊งเราบ่นว่าอยากเห็นควีนนี่นา ตั้งแต่เธอเข้าแก๊งของเรามา เธอไปที่นั่นนับครั้งได้เลยนะ” “งั้นเหรอ แล้วกี่ครั้งล่ะ” ฉันเลิกคิ้วถามกลับไปอย่างกวนๆ เชื่อสิว่ามันเป็นเลขเดี่ยวที่สวยงามที่สุดเลยในความเห็นของฉัน ส่วนพี่เอ็นก็ทำท่านับนิ้วอย่างขะมักเขม้นจนได้คำตอบออกมาในที่สุด “...ศูนย์” “ถูกต้องแล้วพี่ชาย ดังนั้นฉันจะคงสถิตินั้นไว้เป็นอนุสรณ์ให้กับตำแหน่งควีนผู้เลอค่าของแก๊งพี่ต่อไป” ฉันกระตุกยิ้มมุมปากอย่างผู้กำชัยแล้วเดินตรงไปที่บันได “หา! แต่ว่า...!” “อัณ” เสียงเรียบๆ ของพี่ชายคนที่สองทำให้ฉันถึงกับถอนหายใจเฮือก พี่อิน พี่ชายที่เรียนอยู่ ม.6 เหมือนกับที่เอ็นที่ตอนนี้แต่งกายในชุดนักกีฬาสุดเท่เดินลงมาจากบันไดด้วยมาดนิ่งๆ เหมือนกับคุณชาย พี่ชายคนนี้ของฉันก็หน้าตาดีไม่แพ้พี่เอ็นหรอก แต่พี่อินมีผมและดวงตาสีดำสนิท ผิดกับพี่เอ็นที่มีผมสีน้ำตาลไหม้เหมือนกันกับฉัน ทุกคนคงสงสัยนะว่า ทำไมพี่อินถึงได้เรียนอยู่ชั้นเดียวกันกับพี่เอ็น คำตอบก็คือพวกเขาเกิดหัวปีท้ายปี ส่วนพี่อินนั้นก็คลอดก่อนกำหนดประมาณหนึ่งเดือนกว่าๆ แถมยังมีผลการเรียนดีเยี่ยม ไม่แปลกเลยที่เขาจะเรียนตามพี่เอ็นทัน “...” ฉันไม่ได้ตอบรับเสียงเรียกของพี่อิน แต่กลับยืนสบตาเขานิ่งเป็นเชิงแสดงออกว่าฉันพร้อมที่จะฟังในสิ่งที่เขาจะพูด พี่ชายคนนี้มีนิสัยนิ่งๆ ติดจะเย็นชาไปบ้าง แต่เขาก็เป็นพี่ชายที่ดีคนหนึ่ง ไม่แน่ว่าอาจจะดีกว่าพี่ชายคนโตของบ้านตระกูล ‘มาเอดะ’ เลยก็ได้ “ไปกับพวกพี่หน่อยเถอะ พรุ่งนี้เป็นวันหยุดไม่ใช่เหรอ” “แต่...” “...” หน้านิ่ง No.1 “...” หน้านิ่ง No.2 ฉันกับพี่อินต่างก็ชักสีหน้าเนือยๆ ใส่กันราวกับว่ามันเป็นการแข่งขันที่เดิมพันด้วยสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ชนิดที่ว่าควรจะบันทึกเอาไว้ในหนังสือกินเนสบุ๊ค แน่ละสิ ก็มันเดิมพันด้วยอิสรภาพของฉันในค่ำคืนนี้ กับความพอใจของพี่ชายทั้งสองคนนี่นา “...” พี่อินเวอร์ชันหน้านิ่งกดดันมากกว่าเดิม “ไปก็ได้” และผู้ที่ผ่ายแพ้...ก็คือฉันเอง U_U ณ สนามบาสฯ แห่งหนึ่ง ใต้ทางด่วน เอี๊ยด! มอเตอร์ไซค์คันเก่งของพี่อินส่งเสียงก้องไปทั่วถนนราวกับตั้งใจประกาศศักดาความยิ่งใหญ่ของแก๊งผ่านทางเสียงเบรกโดยมีมอเตอร์ไซค์ของพี่เอ็นขับมาจอดเทียบข้างๆ กันด้วยเสียงเบรกที่ดังไม่แพ้กัน ฉันซึ่งนั่งซ้อนท้ายพี่อินถอดหมวกกันน็อคสีดำสนิทออก ส่งผลให้ผมสีน้ำตาลไหม้ปล่อยสยายเต็มแผ่นหลัง เรียกเสียงผิวปากจากไอ้พวกผู้ชายวอนเท้าในบริเวณรอบสนามบาสฯ ได้เป็นอย่างดี ตอนบ่ายเจอเสียงกรี๊ด ตอนเย็นเจอเสียงผิวปาก ชีวิตมีแต่เรื่องดีๆ ทั้งนั้น! “ไงจ๊ะน้องสาว จบงานแล้วไปต่อกับพี่ไหมจ๊ะ” เสียงหื่นๆ ของพวกลูกน้องแก๊ง Manteria ทำให้ฉันหันไปมองด้วยสีหน้านิ่งๆ ดูเหมือนพวกมันจะคิดว่าเธอเป็นเพียงผู้หญิงในโกดังของพวกพี่ชายมากกว่าที่จะเป็นควีนของแก๊ง Silver Cross ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นของที่นี่ ก็แน่ล่ะ...ฉันเคยมาปรากฏตัวให้พวกมันเห็นซะที่ไหนกันล่ะ “สนใจไปต่อที่เมรุเผาศพหรือป่าช้าไหมล่ะ” ฉันตอบเสร็จเดินตามหลังพี่เอ็นเข้าไปนั่งบนเก้าอี้โซฟาที่ถูกจัดเตรียมไว้สามที่ตรงบริเวณริมขอบสนาม “=[]=!!” อาการอึ้งของพวกมันทำให้ฉันเหยียดยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี ‘Cause I don’t care-e-e-e-e-e I don’t care-e-e-e-e-e…[1]’ ในระหว่างที่คนในแก๊งกำลังพูดคุยกันอย่างเมามัน เสียงเรียกเข้าของมือถือฉันก็ดังขึ้นมา ฉันเมินเฉยต่อคนในแก๊งที่พยายามชวนฉันคุย ไม่ก็เหล่มองแต่รูปร่างหน้าตาของฉันตั้งแต่ฉันนั่งลงบนโซฟาประจำตำแหน่ง ฉันหยิบมันขึ้นมาช้าๆ พอมองดูสายเรียกเข้า ปากมันก็แสยะยิ้มออกมาโดยอัตโนมัติ ‘Control’ ไม่กดรับสาย แต่เลือกที่จะมองตรงไปยังฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นที่นั่งของหัวหน้าแก๊ง Manteria แทน ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีดำแซมเทากำลังมองตรงมาที่ฉันเช่นเดียวกัน ใบหน้าของเขายังคงดูดีและคมคายจนชวนให้ผู้หญิงต่างพากันหลงใหลเหมือนเดิม ดวงตาสีเทาเข้มดูหงุดหงิดมากเพราะฉันไม่ยอมรับสายของเขาสักที ฉันชูโทรศัพท์มือถือของตนเองไปข้างหน้าเพื่อให้เขาได้เห็นมัน ก่อนจะกดตัดสายทิ้งอย่างไม่ใยดี ติ๊ด! นายคอนโทรลเหมือนจะอารมณ์เสียมากกว่าเดิมหลายเท่าที่เห็นว่าฉันตัดสายเขาไปแบบนั้น แต่ฉันไม่สนหรอก แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ! ‘Cause I don’t care-e-e-e-e-e I don’t care-e-e-e-e-e…’ เขากดโทรฯ เข้ามาอีกครั้ง แต่คราวนี้ฉันไม่ได้กดทิ้งแต่อย่างใด ปล่อยให้มันร้องไปอย่างนั้น ราวกับว่าเสียงของมันเป็นเสียงลมที่ไม่น่ารำคาญเลยสักนิด [1] ท่อนฮุค จากเพลง I don’t care ศิลปิน 2NE1 ปี ค.ศ. 2009
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD