1 นายใบ้ - 1

1469 Words
แสงตะวันที่ส่งผ่านแมกไม้ลงมาแยงตา ทำให้ร่างที่นอนหลับมาหลายสิบชั่วโมงค่อย ๆ รู้สึกตัวขึ้น เขาขยับตัวเล็กน้อย หลังจากพยายามลืมตาขึ้นให้เต็มที่แล้วชายหนุ่มก็พบว่า ที่นี่ไม่ใช่ที่คุ้นตาเอาเสียเลย จึงทำให้คิ้วเข้มที่พาดเหนือดวงตาคู่คมโศกนั้น ขมวดเข้าด้วยกันทันที                                                                             ที่นี่ที่ไหนกันนะ?                                                            แม้จะรู้สึกงุนงง และหนักอึ้งที่ศีรษะอยู่ แต่ด้วยความกระหายน้ำเต็มแก่ ทำให้เขาต้องเหลียวมองหาภาชนะที่บรรจุน้ำ จนเขาเห็นคนโทที่ใส่น้ำ ที่ตั้งไม่ห่างออกไปจากที่นอนอยู่ จึงหมายจะเอื้อมมือไปหยิบมาดื่มให้ลำคอที่แห้งผากราวผุยผงนี้ค่อยๆ ดีขึ้น ทว่า เสียงของการขยับตัวบนพื้นกระดานไม้ของเรือนทำให้เกิดเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดไปด้วย จนคนที่นั่งทำงานอยู่ไม่ห่างออกไปต้องเอี้ยวตัวกลับมามอง แล้วก็ได้เห็นแขนยาว ๆ นั้น พยายามคว้าคนโทที่อยู่ห่างจากปลายนิ้วมือเพียงนิดเดียว แต่ไม่ทันคว้าได้ คนโทนั้นล้มลงจนทำให้เกิดน้ำเจิ่งนองไปตามพื้น                                                                                    "ตาย! ดูสิ ระวัง ๆ หน่อยสิพ่อคุณ ทำหกน้ำเลอะเทอะหมดแล้วคนที่เช็ดถูก็ฉันคนเดียวนะ!" นางช้อยวางสะดึงที่ปักผ้าลง แล้วรีบลุกไปหยิบคนโทตั้งขึ้น ก่อนจะเหลียวกลับมาดูคนที่พยายามลุกนั่งและได้ทำให้น้ำหกด้วยสีหน้าหงุดหงิดไม่สบอารมณ์ทีเดียว ชายหนุ่มมองหน้าหญิงในวัยหกสิบปีตรงหน้า ด้วยสายตาแปลกประหลาด เพราะไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน และจากที่เกิดเสียงเอะอะนี่เอง ก็ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วที่ชั้นบนของบ้าน   จากนั้นได้มีเสียงใครคนหนึ่งเดินลงบันไดลงมา ทั้งชายหนุ่มและหญิงวัยหกสิบปีจึงพากันมองไปตามเสียงนั้นทันที              หญิงสาวที่สูงราวร้อยหกสิบเซนติเมตร กำลังเดินตรงมาทางนี้ พร้อมทั้งส่งสายตาอย่างไม่แน่ใจมองมาที่ชายหนุ่มด้วย หล่อนสวมเสื้อผ้าฝ้ายแขนสั้นสีกลีบบัวกับกระโปรงสีครีมอ่อน หล่อนมีผิวขาวผุดผ่อง ดวงตาเกือบเรียวรี ปากนิด และจมูกหน่อยได้รูป "นายใบ้ฟื้นแล้วหรือป้าช้อย" น้ำเสียงหวานหยดจนสามารถสะกดใจคนฟังได้ดีทีเดียว                                                                             ชายหนุ่มที่ลุกขึ้นมานั่งต้องตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วครู่ ทั้งรูปร่าง ใบหน้าและน้ำเสียงหวานหูของหล่อนนั้น ทำให้เขาลืมสิ้นว่าได้ยินอะไรบ้าง                                                                                             "ฟื้น ฟื้นแล้วค่ะ คุณขวัญ!"                                                           หญิงสาวมองชายหนุ่มที่มีหนวดเคราขึ้นตามคาง และรอบริมฝีปาก ดวงตากลมเกือบโต ผิวออกสีแทนไม่ขาวและไม่คล้ำจนเกินไป ใบหน้าคมคาย ริมฝีปากหยักสวย ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขานั้นมองหล่อนราวกับตกตะลึงไปเช่นกัน หล่อนจึงถามเขาไปว่า "นาย...ได้ยินฉันมั้ยนายใบ้"                                                                        เสียงหวานที่ถามกลับ ราวกับจะค่อย ๆ ปลุกให้เขารู้สึกตัว ชายหนุ่มเหลียวมองรอบ ๆ ตัวเพื่อให้มั่นใจว่า ใครกันคือ 'นายใบ้' ที่หล่อนหมายถึง                                                                                         "เอ้า! คุณขวัญถามเราน่ะ นายใบ้"                                       เขาอ้าปากจะเอ่ยอะไรออกมาคำหนึ่ง แต่แล้ว…ลำคอที่แห้งผากนั้นทำให้เสียงเขาหายไป จนต้องไอแค่ก ๆ อยู่สองสามทีก่อนจะหันไปมองคนโทน้ำและขันน้ำแทนการพูดเพื่อขอน้ำดื่ม                             "ป้าช้อย รินน้ำให้เขาสิ เขาคงหิวน้ำ" หญิงสาวสั่ง                                 "เอ่อ ค่ะ ๆ!" ช้อยรับคำก่อนจะรีบรินน้ำลงในขัน แล้วส่งให้ชายหนุ่มดื่ม     เขารับขันน้ำมาแล้วก็ยกน้ำขึ้นมาดื่มรวดเดียวจนหมด ก่อนจะยื่นขันใบเดิมกลับไปให้หญิงสูงวัยรินน้ำอีกรอบ จากนั้นก็ดื่มอีก แต่คราวนี้ไม่ได้ดื่มเร็ว ๆ อย่างรอบแรก เพราะความกระหายถูกดับลงตั้งแต่ได้ดื่มน้ำขันแรกแล้ว พอได้ดื่มน้ำจนชื่นใจหายอยากก็วางขันใบนั้นลง แล้วกลับมากลอกดวงตามองหญิงสาวตรงหน้าอีกที                        หล่อนชื่ออะไรนะ… อ้อ‘คุณขวัญ’ เขามองหล่อนอย่างเต็ม ๆ ตาอีกครั้ง อะไรก็ไม่น่าสะกดใจเขาได้เท่ากับ ดรุณีผู้นี้มีความงามผุดผาดเหลือเกิน                                                                                     "นายคือ นายใบ้หรือ" เสียงหวานนั้นถามกลับอีกครั้ง เพราะชายหนุ่มกำลังมองหล่อนอย่างสนเท่ห์    แต่...เขาพยายามเปล่งเสียงตอบกลับ ทว่า ความสากระคายคอ ทำให้คอแหบแห้งลงจนมีแต่ลมออกมา อาจจะเป็นเพราะหลายวันมานี้เขานอนซมเพราะมีพิษไข้ขึ้นสูง ไม่ค่อยได้ดื่มน้ำเท่าไหร่ก็เป็นได้ ชายหนุ่มพยายามไอเพื่อปรับกล่องเสียงให้เป็นปกติ แต่...       "ไม่ต้องฝืนพูดหรอก ใคร ๆ ก็รู้ว่านายเป็นใบ้"                                  เขาเงยหน้า พลางโคลงศีรษะมองหญิงสูงวัยกว่าตรงหน้า คล้ายไม่เข้าใจที่อีกฝ่ายพูด                                                  เขานี่นะ...เป็นใบ้!    "ท่าทางจะยังจำเรื่องอะไรไม่ได้…" หญิงสาวสวยคนเดียวหันไปพึมพำกับคนหญิงสูงวัยกว่า "…เพราะเขาถูกตีจนสลบน่ะ"       จากนั้นหล่อนก็หันใบหน้างามกลับมาถามชายหนุ่มต่อ "เอาล่ะ นายได้ยินที่ฉันพูดมั้ย ถ้าได้ยินแค่พยักหน้าก็พอ ฉันจะได้รู้ว่านายเป็นใบ้ แต่หูไม่ได้หนวก"                                                       เขาพยักหน้ารับเร็ว ๆ ...                                                                    คล้ายจะเห็นหล่อนถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วยิ้มออกมานิดพลางเอ่ยอีกว่า "ถ้าได้ยินอย่างนี้ก็ดีหน่อย ฉันจะได้เล่าให้นายฟังคร่าว ๆ ว่าทำไมนายถึงมานอนอยู่ที่นี่ เพราะนายน่ะสลบที่ได้รับบาดเจ็บตรงนี้..." หล่อนชี้ไปที่ท้ายทอยของตัวเองประกอบ  "...นายนอนสลบอยู่ในเรือของนาย และเรือลำนั้นก็ลอยมาติดท่าน้ำที่บ้านนี้พอดี"    "จากนั้น..." หล่อนจึงหันไปสบตากับหญิงสูงวัยแล้วเอ่ยต่อ "...ป้าช้อย เป็นคนไปเจอนาย จึงได้ตามฉันไปดู ฉันจึงให้ป้าช้อยและสามีของแก ช่วยกันพาตัวนายขึ้นมาไว้ที่นี่ รักษาให้ตามอาการ สามวันแล้วที่นายนอนอยู่ที่นี่ แทบจะไม่รู้สึกตัวเลย เพราะมีไข้ขึ้นสูง ต้องช่วยกันป้อนยารักษาอาการไข้ให้ตลอด พอวันนี้อาการคงดีขึ้นนายเลยรู้สึกตัวขึ้นมาได้"        อ้อ... เขาพยักหน้าคล้ายเข้าใจบางอย่างแล้ว แต่ก็ยังไม่ทั้งหมด ความสับสนงุนงง ในบางเรื่องทำให้เขายังไม่อาจจะพูดอะไรกับใครได้ เพราะเขาถูกตีจนสลบน่ะ ใช่ แต่เป็นมาอย่างไรกันถึงได้ไปนอนอยู่ในเรือที่หล่อนกล่าวถึง ที่สำคัญตอนนี้เขากลายมาเป็น นายใบ้ ขึ้นมาเสียแล้วนี่                                                                     "ไข้เขาคงลดลงแล้วค่ะป้าช้อย ถ้าอย่างนั้นป้าก็ช่วยทำข้าวต้ม แล้วหากับข้าวที่รสจืด ๆ อ่อน ๆ ให้เขากินหน่อย เขาเพิ่งฟื้นไข้ ไม่ได้กินข้าวมาหลายวัน ยังไม่ควรให้กินอาหารรสจัดค่ะ"                               ชายหนุ่มกลอกดวงตาทั้งสองมองดูความสัมพันธ์ของผู้หญิงทั้งสองคนตรงหน้า หญิงสาวผู้งดงามทั้งกาย วาจา และจิตใจคนนี้และหญิงชราท่าทางใจร้ายหน่อย ๆ  คงอยู่ในฐานะของบ่าวและนายอย่างไม่ต้องสงสัยทีเดียว     "ค่ะ คุณขวัญ"                                                                            "พอหาข้าว หาน้ำให้เขาแล้ว ป้าช้อยก็ตามขวัญขึ้นไปข้างบนนะ ไปช่วยขวัญวัดและตัดผ้า"    "ได้ค่ะ"                                                                                    หญิงสาวหันกลับมามองชายหนุ่มตรงหน้า แล้วก็ผุดลุกขึ้น ก่อนจะเดินกลับขึ้นไปยังชั้นบนของตัวบ้าน ส่วนป้าช้อยที่หล่อนเรียกก็มองหน้าชายหนุ่มอีกเล็กน้อย แล้วก็ลุกไปทางครัวที่อยู่ไม่ห่างออกไป เพื่อหากับข้าวตามคำสั่งหญิงสาว ทิ้งให้ชายที่ถูกขนานนามว่า ‘นายใบ้’ ได้นั่งตรึกตรองอะไรเพียงลำพัง                                          เมื่อกี้ หล่อนว่าเขาได้มานอนอยู่ที่นี่เป็นเวลาสามวันสามคืนแล้วหรือ เขานอนสลบอยู่ในเรือ และเรือลำนั้นได้ลอยมาติดที่ท่าน้ำบ้านหลังนี้ ชายหนุ่มเกาขมับของตนเองอย่างครุ่นคิดและหงุดหงิดเล็กน้อย พลางพ่นลมหายใจยาวเหยียด พยายามนึกถึงความทรงจำครั้งล่าสุดก่อนที่ตนจะกลายมาเป็นนายใบ้แบบนี้ และแล้วเขาก็นึกออก ว่า ใช่! ก่อนที่สติทั้งหมดของเขาจะดับวูบลง จนมารู้สึกตัวอีกครั้งที่นี่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD