7 ~ ยิ่งเกลียดก็ยิ่งเจอ…

2038 Words
ราเมศกลับไปทำงานควบคุมสั่งงานที่ไซต์งานก่อสร้างต่อจนเกือบ 2ทุ่ม เขามายืนดักรอมาริสาที่หน้าคลินิก จนมาริสาเลิกงาน เธอเดินออกมาจากคลินิกกำลังจะกลับบ้าน ราเมศที่ยืนดักรอเธออยู่ก็เอ่ยทักขึ้น... “ให้ผมไปส่งนะครับ คุณหมอ” “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกลับเองได้” มาริสารีบเดินหนีราเมศ เธอรู้สึกระแวงไม่ไว้ใจเขานัก เขาชักจะรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเธอมากเกินไปแล้ว เมื่อเธอเดินหนี ราเมศก็เร่งฝีเท้าก้าวตามเธอไป มาริสามัวแต่หันมองด้านข้างเพราะระแวงราเมศจนเธอไม่ได้มองทาง เมื่อเธอหันไปมองทางอีกทีก็มีรถมอเตอร์ไซค์ขับขึ้นมาบนทางเท้า เธอจึงรีบเบี่ยงตัวหลบ “ว้าย!” มาริสาอุทานออกมาเพราะเธอเสียการทรงตัวกำลังจะล้ม ราเมศเห็นมาริสาเซจะล้มลงบนพื้นก็รีบก้าวเท้ายื่นแขนไปรับตัวเธอเอาไว้ คุณหมอสาวจึงล้มทับลงมาบนตัวของชายหนุ่ม เขาใช้แขนโอบตัวเธอไว้ได้ทันแต่ตัวเองต้องกลายเป็นเบาะรองรับตัวเธอไว้ เมื่อมาริสาได้สติหายตกใจ เธอก็รีบยันตัวลุกขึ้นยืนทรงตัวได้แล้วก็เอ่ยขอบคุณราเมศเก้อๆ ในความซุ่มซ่ามไม่ดูทางของเธอ “เอ่อ..ขอบคุณค่ะ” “เห็นมั้ย..ผมบอกจะไปส่งก็ไม่ยอม คุณหมอเกือบจะเจ็บตัวเลย” ราเมศลุกขึ้นแล้วบ่นออกมาก่อนที่จะเดินตามไปส่งมาริสาขึ้นรถไฟฟ้าMRT เพราะเธอไม่ยอมให้เขาขี่รถไปส่งที่บ้าน มาริสากลับมาถึงบ้านอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เธอนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนจะดึงลิ้นชักเปิดออกและหยิบกล่องไม้เล็กๆขนาด3นิ้วออกมา เธอเปิดกล่องไม้ช้าๆอย่างเบามือแล้วหยิบสร้อยข้อมือเงินเส้นเล็กๆที่อยู่ภายในกล่องออกมาถือไว้อย่างทะนุถนอม..(ป่านนี้พี่ชายจะเป็นยังไงบ้างนะ พี่ชายจะยังจำเธอได้อยู่หรือเปล่า พี่ชายจะกลับมาประเทศไทยหรือยัง หรือว่าพี่ชายจะมีครอบครับมีลูกอยู่ที่นั่นไปแล้ว) มาริสานั่งมองสร้อยข้อมือในมือแล้วคิดถึงอดีต ถ้ามีพี่ชายอยู่ด้วยเธอคงจะปลอดภัย เธอนั่งคิดแล้วภาพเหตุการณ์ที่ราเมศช่วยเธอเอาไว้เมื่อค่ำก็แทรกเข้ามาในความคิดของเธอ เขาทำให้เธอรู้สึกคิดถึงพี่ชายที่แสนดีขึ้นมา เธอจะมีโอกาสได้เจอพี่ชายอีกไหม..? ราเมศส่งคุณหมอคนสวยขึ้นรถไฟฟ้าMRTกลับบ้านแล้วเขาก็แวะมาหาเพื่อนนักดนตรีที่ผับแห่งหนึ่ง “ไงไอ้เสือ! ไม่แวะมาหลายวันเลยนะ” นิติหรือนิวนักดนตรีหนุ่มเซอร์เพื่อนสมัยม.ต้นและเรียนปริญญาตรีที่อังกฤษมาด้วยกัน นิวตบบ่าทักทายเพื่อน “ฉันงานยุ่งน่ะ แล้วนายเป็นไงบ้าง” “งานยุ่งหรือไปติดหญิงที่ไหน เราก็เรื่อยๆเหมือนเดิม” “นี่นายก็เป็นไปด้วยอีกคนหรือไง นายก็รู้ดีว่าฉันจริงจังกับงาน ตั้งหน้าตั้งตาทำแต่งานจะเอาเวลาที่ไหนไปเที่ยวผู้หญิง ถ้าไม่กลับบ้านดึกเพราะงานก็มานั่งฟังดนตรีและคุยกับนายนี่แหล่ะ แต่ทำไมข่าวถึงประโคมกันนักหนาว่าฉันเจ้าชู้” ราเมศบ่นออกมาอย่างหัวเสียและรู้สึกเซ็งๆ “ก็ความเป็นสุภาพบุรุษของนายล่ะมั้ง ผู้หญิงมาขอนั่งขอดื่มด้วยนายก็ไม่เคยปฏิเสธน่ะ” “แล้วฉันผิดด้วยเหรอ ฉันไม่ได้ไปจีบไปเกี้ยวพาราสีหรือหลอกฟันพวกเธอแล้วทิ้งซะหน่อย ผู้ชายมันก็ต้องมีเรื่องแบบนี้บ้างเป็นธรรมดา แต่ฉันก็ไม่เคยบังคับข่มเหงขืนใจใคร มันเกิดจากความเต็มใจทั้งสองฝ่าย จบแล้วก็แยกย้ายต่างคนต่างไป” “ก็นั่นแหละ นายไม่คิดอะไร แต่ฝ่ายหญิงกับคนอื่นๆที่เขาเห็นน่ะ เขาคิด!” “เลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะว่ะ พูดแล้วยิ่งเครียด แม่จะจับฉันคลุมถุงชนกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ เพราะเรื่องนี้แหละ” “ขนาดนั้นเลยเหรอวะ” “ก็ใช่น่ะสิ! ดูแม่จะจริงจังกว่าทุกครั้งซะด้วย” “แล้วนายจะทำยังไง” “ฉันก็จะรีบหาแฟนไปแสดงตัวกับแม่น่ะสิ” “หาแฟน! คนหวงความโสดอย่างนายเนี่ยนะจะหาแฟน จ้างสาวๆคาราโอเกะไปเป็นแฟนยังง่ายกว่ามั้ง” “นี่ฉันจริงจังกับเรื่องนี้นะ” “ทำไมคนที่หวงชีวิตโสด หวงความเป็นส่วนตัวอย่างนายถึงดูจริงจังขนาดนี้..หรือว่านาย..เจอคนที่ใช่แล้ว!” “อืม..ฉันก็คิดว่าฉันเจอแล้ว” “เธอเป็นใครวะ ไม่เห็นพามาแนะนำให้เรารู้จักบ้าง หวงเหรอวะ” “หวงน่ะหวง แต่จะพามาแนะนำยังไง เธอยังบึ้งตึงแม้แต่หน้าฉันก็ยังไม่อยากจะมอง” “อ้าว! ไหงเป็นงั้นไป นายไปทำอะไรให้เธอโกรธ เธอไม่พอใจล่ะ” “ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรนะ ก็ตามจีบปกติแต่ดูเธอจะแปลกๆ ดูเย็นชาเหมือนไม่ชอบอยู่ใกล้ผู้ชายอย่างนั้นน่ะ” “เธอมีแฟนอยู่แล้วหรือเปล่า” “เธอบอกว่าไม่มี แต่ก็มีผู้ชายมาจีบนะ ดูท่าทางเธอก็ไม่สนใจ หนุ่มตี๋คนนั้นพยายามจะจับมือแต่เธอก็รีบดึงมือออกเหมือนรังเกียจ” ราเมศเล่าสิ่งที่เขาได้สังเกตมาให้เพื่อนฟัง “ที่นายเล่ามา..เธอเป็นดี้หรือเปล่าวะ” “ฉันก็ไม่แน่ใจนะ หรือว่าเธอจะไม่ชอบผู้ชาย เห็นมีแต่เพื่อนและผู้ช่วยผู้หญิง” “หรือว่าเธอจะเป็นดี้ ชอบผู้หญิงด้วยกันวะ” “หรืออดีตอาจจะเคยผิดหวังบางอย่างกับผู้ชายเพราะแววตาเธอเศร้าๆเหมือนระแวงหรือมีความเจ็บปวดแฝงอยู่” “นายก็พิสูจน์เลยสิวะ จะมัวรออะไร” “นายจะให้พิสูจน์ยังไง” “นายเนี่ยนะไม่มีวิธีพิสูจน์ ผ่านผู้หญิงมาก็ไม่น้อย จะมาจนปัญญาอะไรเอาตอนนี้วะเพื่อน” นิวนึกขำราเมศ ท่าทางเพื่อนของเขาจะหลงรักผู้หญิงคนนั้นเข้าจริงๆ “ฉันคิดไม่ออกจริงๆ” “นายก็หาวิธีพิสูจน์ว่าเธอจะไม่มีอารมณ์กับผู้ชายจริงมั้ย ความรู้สึกจะเย็นชาหรือด้านชากับผู้ชายจริงหรือเปล่าน่ะ” ราเมศคิดตามที่เพื่อนแนะนำ เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าจิตใจของคุณหมอคนสวยจะเป็นผู้หญิงเหมือนร่างกายหรือเปล่า.. เช้าวันใหม่.. วันนี้วันอาทิตย์เป็นวันหยุดของราเมศ เขาตั้งใจจะแวะไปที่คลินิกทันตกรรมตอนเช้า เพราะเสาร์-อาทิตย์ หมอคนสวยทำงานที่คลินิกทั้งวัน 9โมงครึ่งได้เวลาคลินิกเปิดราเมศก็ขี่รถบิ๊กไบค์มาจอดหน้าคลินิก เขาเดินเข้ามาภายในคลินิกซึ่งยังไม่มีคนไข้เขาจึงเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ “สวัสดีครับ คุณหมอมาริสามาหรือยังครับ” ราเมศถามพนิดาพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ “มาแล้วค่ะ น้องริสาเตรียมตัวอยู่ในห้องพักยังไม่เข้าห้องตรวจ คุณราเมศนั่งรอสักครู่นะคะ” “ครับ ขอบคุณครับ” ราเมศนั่งรอไม่ถึง 5นาที พนิดาก็เรียกให้เขาเข้าไปในห้องตรวจ ราเมศเปิดประตูเข้ามาในห้องทันตกรรม มาริสาก็เอ่ยขึ้น “คุณอีกแล้ว..จะมาทำไมอีกคะ” “ผมมาหาคุณหมอ” ราเมศตอบออกมาตรงๆ “แต่นี่มันเป็นเวลาทำงานของฉัน” “ผมรบกวนเวลาคุณหมอไม่นานหรอก” “คุณมีอะไรก็รีบๆพูดมาเถอะค่ะ ฉันจะได้ทำงาน”?มาริสาถอนหายใจกับความตื้อของราเมศ “ผมขอถามคุณหมอตรงๆเลยนะ..คุณเป็นดี้หรือเปล่า” “นี่คุณ!” มาริสามองราเมศตาขุ่น “ถ้าคุณหมอไม่ตอบ ผมก็ไม่กลับ จะนั่งอยู่อย่างนี้แหละ” “เปล่า!” มาริสาตัดสินใจตอบๆไป ราเมศจะได้เลิกกวนเธอเสียที “งั้นก็เป็นทอม” “เปล่า!” “ถ้าอย่างนั้นก็เคยอกหักถูกผู้ชายทิ้ง คุณถึงได้ปิดกั้นตัวเองแบบนี้น่ะ” ราเมศพูดจี้ใจเข้าจุดอ่อนของมาริสาโดยไม่รู้ตัว หมอสาวลุกพรวดขึ้นด้วยความโกรธ ทันใดนั้นฝ่ามือเรียวก็ฟาดฝ่ามือตบหน้าราเมศ “เพี้ยะ!?? อย่ามาพูดจาแบบนี้กับฉันอีก!” เธอจะเดินหนีออกจากห้อง แต่ชายหนุ่มจับต้นแขนของเธอบีบไว้เสียก่อน “นี่คุณกล้าตบหน้าผมแล้วจะเดินหนีอย่างนั้นเหรอ..ไม่เคยมีใครเคยตบและปฏิเสธผมแบบนี้มาก่อน” ราเมศบีบแขนมาริสาแล้วดึงเธอเข้ามาใกล้และพูดออกมาด้วยอารมณ์โกรธ “ปล่อย! ก็คุณมาปากเสียกับฉันก่อน” “ปากเสียอย่างนั้นเหรอ งั้นคุณหมอคนสวยก็ช่วยรักษาปากให้ผมหน่อยก็แล้วกันนะ” ราเมศบอกก่อนจะก้มหน้าลงบดริมฝีปากจูบปากนุ่มของมาริสาอย่างดุดันลงโทษ “ฮื้อออ! อ่อยฮันฮะ” ชายหนุ่มจูบบังคับให้เธอเผยอปากรับลิ้นอุ่นๆของเขา เธอจึงได้โอกาส.. “โอ๊ย!” มาริสากัดลิ้นของราเมศที่เขาบังอาจมาล่วงล้ำเธอ จนเขาต้องรีบผละปากออก “ฟันของคุณหมอฟันนี่คมจริงๆ! ผมอยากจะลองฟันอย่างอื่นบ้างซะแล้วสิ!” ราเมศพูดออกมาแล้วจับไหล่มนทั้งสองข้างกระชากร่างบางเข้ามาประกบริมฝีปากจูบบดขยี้ปากนุ่มอีกครั้ง.. “อ่อยฮันฮะอนอ่าเอื่อน(ปล่อยฉันนะคนป่าเถื่อน)” มาริสาพยายามทั้งทุบอกทั้งผลักไหล่ราเมศเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล เมื่อเธอรู้สึกว่าเธอหายใจไม่ออกเริ่มอ่อนแรงก็นึกน้อยเนื้อต่ำใจทำไมผู้ชายมักเห็นผู้หญิงเป็นสิ่งไร้ค่าไม่มีศักดิ์ศรีแบบนี้.. พลันน้ำตาของเธอก็ค่อยๆไหลออกมาเพราะทำอะไรเขาไม่ได้ ราเมศรับรู้ได้ถึงหยดน้ำตาและรสชาติเค็มนิดๆ เพราะน้ำตาของเธอไหลลงมายังริมฝีปากของทั้งคู่ เมื่อสติกลับมา..ราเมศค่อยๆผละริมฝีปากออกอย่างรู้สึกผิด “ผมขอโทษ..” “คุณไม่ต้องมาตบหัวแล้วก็ลูบหลังฉัน! คุณไม่เห็นศักดิ์ศรีของความเป็นคนของผู้หญิง แค่สิ่งที่คุณทำก็ทำให้ฉันรู้สึกเป็นผู้หญิงไร้ค่ามากพอแล้ว”? “ผมไม่ได้ตั้งใจ” “ไม่ต้องแก้ตัวให้ตัวเองดูดีขึ้นมาหรอกค่ะ คนแบบคุณก็เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น เป็นแค่ดอกไม้ริมทางที่คุณนึกจะเด็ดมาเชยชมก็เด็ด พอเบื่อนึกจะปาทิ้งเมื่อไหรีก็ทิ้งอย่างไม่แยแส” มาริสาระบายความรู้สึกอัดอั้นออกมา “ผมขอยืนยันว่าผมไม่เคยคิดอย่างนั้น..” “ฉันเกลียดผู้ชาย!..ก็เพราะผู้ชายมักจะเป็นแบบนี้!..” “แต่ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนจะเป็นอย่างที่คุณเคยเจอ คุณจะปิดกั้นตัวเองจากคนรอบข้างไปถึงไหน” “นั่นมันก็เรื่องของฉัน ได้โปรดอย่ามายุ่งวุ่นวายกับฉันอีกเลย คุณกลับไปเสียเถอะค่ะ อย่ามาที่นี่อีก” “ยังไงผมก็ไม่ยอมถอดใจง่ายๆหรอก สักวันผมจะทลายกำแพงที่คุณสร้างขึ้นมาให้ได้ ผมไม่รู้หรอกนะว่าเพราะอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกอย่างนี้.. แต่สักวันผมจะทำให้คุณเข้าใจและรู้สึกดีกับความรักให้ได้ ความรักไม่ได้ทำให้เราเจ็บ แต่เราเจ็บเพราะเราคาดหวังกับคนที่เรารักต่างหาก” ราเมศพูดจบก็เปิดประตูก้าวออกไปจากห้อง ราเมศกลับไปแล้วแต่เขาได้ทิ้งความรู้สึกหลายสิ่งหลายอย่างไว้กับมาริสา เธอนั่งครุ่นคิดว่าทำไมเธอยิ่งเกลียดก็เหมือนจะยิ่งเจอหรือชีวิตของเธอจะหนีความรู้สึกนี้ไม่พ้น.. “ความรักไม่ได้ทำให้เราเจ็บ แต่เราเจ็บเพราะคนที่เรารัก” คำพูดของราเมศยังคงดังก้องอยู่ในความคิดของเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD