bc

รักละลายใจ

book_age16+
282
FOLLOW
1K
READ
HE
bxg
kicking
campus
office/work place
tricky
addiction
like
intro-logo
Blurb

“รักละลายใจ”...เรื่องราวรักโรแมนติกระหว่างวิศวกรหนุ่มเจ้าเล่ห์กับทันตแพทย์สาวเย็นชา

………………

“ตัวเล็กรอพี่นะ..แล้วพี่จะกลับมา..”

“ตัวเล็กจะรอพี่ชายค่ะ..”

………………

“แม้วันเวลาและระยะทางจะพรากเขาและเธอให้ห่างจากกัน แต่ความผูกพันกลับนำพาให้เขาและเธอได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง...”

“...ความผูกพันความทรงจำในวันเด็ก จะทำให้หัวใจสองดวงกลับมาผูกพันกันเหมือนเดิมได้หรือไม่..เมื่อสถานะของทั้งคู่เปลี่ยนแปลงไป...”

………………

”นี่คุณกล้าตบหน้าผมแล้วจะเดินหนีอย่างนั้นเหรอ..ไม่เคยมีใครเคยตบและปฏิเสธผมแบบนี้มาก่อน” ราเมศบีบแขนมาริสาแล้วดึงเธอเข้ามาใกล้และพูดออกมาด้วยอารมณ์โกรธ

“ปล่อย! ก็คุณมาปากเสียกับฉันก่อน”

“ปากเสียอย่างนั้นเหรอ งั้นคุณหมอคนสวยก็ช่วยรักษาปากให้ผมหน่อยก็แล้วกันนะ” ราเมศบอกก่อนจะก้มหน้าลงบดริมฝีปากจูบปากนุ่มของมาริสาอย่างดุดันลงโทษ

“ฮื้อออ! อ่อยฮันฮะ” ชายหนุ่มจูบบังคับให้เธอเผยอปากรับลิ้นอุ่นๆของเขา เธอจึงได้โอกาส..

“โอ๊ย!” มาริสากัดลิ้นของราเมศที่เขาบังอาจมาล่วงล้ำเธอ จนเขาต้องรีบผละปากออก

“ฟันของคุณหมอฟันนี่คมจริงๆ! ผมอยากจะลองฟันอย่างอื่นบ้างซะแล้วสิ!” ราเมศพูดออกมาแล้วจับไหล่มนทั้งสองข้างกระชากร่างบางเข้ามาประกบริมฝีปากจูบบดขยี้ปากนุ่มอีกครั้ง..

……….

“เพี้ยะ!”

“ตบหน้าผมอีกแล้วนะคุณหมอ เอาสิ..คุณตบ! ผมจูบ!” ราเมศกระชากไหล่มนเข้าหาตัว ประกบปากลงจูบปากเธออีกครั้งและเมื่อมาริสาผลักเขาออกได้สำเร็จเธอก็ตบเขาอีก..

“เพี้ยะ!” เขาก็จูบเธออีกเช่นกัน เธอตบแก้มซ้าย เขาก็จูบแรงกว่าเดิม เธอตบแก้มขวา เขาก็จูบเธออีก จนกระทั่งมาริสาจะง้างมือตบราเมศ แต่เขาเอ่ยเตือนเธอออกมา

“เอาสิครับ..ตบอีกผมก็จูบอีก!”

chap-preview
Free preview
1 ~ หวงความโสด!
บทนำ... “รักละลายใจ”...เรื่องราวรักโรแมนติกระหว่างวิศวกรหนุ่มเจ้าเล่ห์กับทันตแพทย์สาวเย็นชา ……………… “ตัวเล็กรอพี่นะ..แล้วพี่จะกลับมา..” “ตัวเล็กจะรอพี่ชายค่ะ..” ……………… “แม้วันเวลาและระยะทางจะพรากเขาและเธอให้ห่างจากกัน แต่ความผูกพันกลับนำพาให้เขาและเธอได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง...” “...ความผูกพันความทรงจำในวันเด็ก จะทำให้หัวใจสองดวงกลับมาผูกพันกันเหมือนเดิมได้หรือไม่..เมื่อสถานะของทั้งคู่เปลี่ยนแปลงไป...” ……………… เธอมีอดีตฝังใจที่เจ็บปวดในวัยเด็กจนต้องปิดกั้นหัวใจ ไม่เคยรักใครและไม่คิดที่จะมีครอบครัว กลัวการผิดหวังและเสียใจเพราะความรัก เขาจะมาทลายความเจ็บปวดในใจของเธอได้หรือไม่ หรือจะยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดในอดีตของเธอ ในเมื่อใจของเขาก็ไม่เคยเปิดรับใครเข้ามา มีเพียงเด็กหญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่อยู่ในใจเขาเสมอมา... ……………… “อยากให้คุณหมอฟัน..ผมจะต้องทำยังไงครับ” ……………… ”นี่คุณกล้าตบหน้าผมแล้วจะเดินหนีอย่างนั้นเหรอ..ไม่เคยมีใครเคยตบและปฏิเสธผมแบบนี้มาก่อน” ราเมศบีบแขนมาริสาแล้วดึงเข้ามาใกล้และพูดออกมาด้วยอารมณ์โกรธ ”ปล่อย! ก็คุณมาปากเสียกับฉันก่อน” ”ปากเสียอย่างนั้นเหรอ..งั้นคุณหมอคนสวยก็ช่วยรักษาปากให้ผมหน่อยก็แล้วกันนะ” ราเมศบอกก่อนจะก้มหน้าลงบดริมฝีปากจูบปากนุ่มของมาริสาอย่างดุดันลงโทษ ………………… ​มาริสา(ริสา/นิ) .. ทันตแพทย์สาววัย 25 เย็นชา​ หน้านิ่ง ไม่บ่งบอกอารมณ์ความรู้สึก แววตาเศร้า เธอ..ถูกขนานนามว่าเป็นหมอฟันแสนเย็นชา ไร้อารมณ์ ปราศจากความรู้สึก ภายใต้ท่าทางนิ่งๆนั้น เก็บซ่อนอะไรบางอย่างไว้ภายในใจ ..เธอพยายามสร้างเกราะป้องกันตัวเองจากผู้ชายทุกคนโดยเฉพาะคนกะล่อนเจ้าชู้แบบเขา “อย่าทำให้ฉันรู้สึกเกลียดรู้สึกไม่ดีกับผู้ชายมากไปกว่านี้อีกเลยค่ะ..เรื่องระหว่างคุณกับฉัน มันไม่มีทางจะเป็นไปได้” …………………… ​ราเมศ(เมศ) .. วิศวกรหนุ่มวัย 29 อารมณ์ดี ทะเล้น เจ้าเล่ห์ กะล่อน คารมเป็นต่อ เขา..ถูกมองว่าเป็นไฮโซหนุ่มจอมเจ้าชู้กะล่อน รักชีวิตอิสระและหวงความโสด ..เขาจะทลายกำแพงที่เธอสร้างขึ้นได้หรือไม่ ในเมื่อเธอเกลียดและพยายามอยู่ให้ห่างคนอย่างเขาให้ไกลที่สุด! “เธอจะไม่มีอารมณ์หรือไร้ความรู้สึกผมก็ไม่สน ผมจะพิสูจน์จะทำให้เธอมีอารมณ์กับผมให้ได้!” …………………… ​ไอรดา(ไอซ์) .. สาวไฮโซวัย 23 เอาแต่ใจ มั่นใจในตัวเอง “ฉันอยากได้อะไรก็ต้องได้! ไม่เคยมีใครกล้าปฏิเสธฉัน” …………………… อานัส(นัส) .. ชายหนุ่มวัย 25 สู้ชีวิต​ “ชีวิตของผมน่ะเหรอ..มีครอบครัวก็เหมือนไม่มี ชีวิตนี้คงจะไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว แต่ผมก็ต้องสู้เพื่อความอยู่รอด” …………………… ​รวิวรรณ(คุณหญิงรวิ) .. แม่ผู้กำหนดบงการชีวิตลูกอย่างที่ตัวเองเห็นว่าเหมาะสม “ฉันมีสิทธิ์ที่จะสั่งให้แต่งหรือหย่า ลูกไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ!” …………………… ​มัทนา(มัท) .. หญิงผู้อาภัพ ทุกทรมานเพราะคนที่รัก “เพราะความผิดหวังเจ็บปวดกับความรักของฉัน ทำให้ลูกต้องกลายเป็นคนเย็นชาไม่มีความสุขแบบนี้...” …………………… บทที่ 1...หวงความโสด! ราเมศจัดอยู่ในไฮโซรุ่นใหม่ไฟแรง หนุ่มหล่อวัย 29ปี ที่ทั้งโสดทั้งรวยเป็นที่หมายปองของสาวๆทั้งหลาย ดีกรีจบปริญญาโทด้านวิศวกรรมโยธาสาขาก่อสร้างมาจากอังกฤษ เขากลับมาทำงานให้กับบริษัทเอกชนรายใหญ่ได้เกือบหนึ่งเดือนแล้ว ด้วยความเก่งมีความสามารถและมุ่งมั่นตั้งใจในอาชีพทำให้ลูกค้ารายใหญ่ต่างจองคิวรอให้เขาเป็นคนออกแบบอาคารและคุมงานก่อสร้าง อย่างเช่นงานล่าสุดนี้เขาเพิ่งจะเซ็นสัญญาออกแบบและควบคุมการก่อสร้างให้กับโครงการคอนโดมิเนียมหรูในย่านใจกลางเมืองให้กับคุณพงษ์เทพเศรษฐีระดับต้นของประเทศ ราเมศกลับมาประเทศไทยบ้านเกิดของเขาในรอบ 15ปี ตั้งแต่ท่านพ่อของเขาจากไป คุณหญิงรวิวรรณแม่ของราเมศก็ส่งเขาไปศึกษาต่อและอาศัยอยู่ที่ประเทศอังกฤษ แต่คุณหญิงรวิอาศัยอยู่กับลูกชายที่นั่นได้แค่ 5ปี จากที่ท่านตั้งใจจะไปลงหลักปักฐานที่นั่นเป็นการถาวร แต่ด้วยสุขภาพร่างกายของท่านไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศที่นั่นได้ เมื่อราเมศโตพอที่จะรับผิดชอบตัวเอง คุณหญิงรวิจึงให้ลูกชายอาศัยอยู่กับพ่อแม่อุปถัมภ์ที่นั่นตามลำพัง ท่านก็กลับมาตั้งหลักปักฐานที่กรุงเทพฯ นานทีปีหนท่านถึงจะกลับไปดูบ้านเรือนไทยที่อัมพวา ส่วนราเมศนั้นศึกษาอยู่ที่อังกฤษไม่ได้กลับมาประเทศไทยเลยสักครั้งจนกระทั่งเขาเรียนจบปริญญาตรีและเรียนต่อปริญญาโทที่นั่นควบคู่กับการทำงานอยู่ที่อังกฤษระยะหนึ่ง แม้ว่าคุณหญิงรวิจะไม่ให้ราเมศเดินทางไปๆมาๆ ด้วยเหตุผลที่ว่า..ท่านกลัวเครื่องบินจะตกแล้วลูกชายเพียงคนเดียวจะจากท่านไปอีกคน แต่ท่านก็เดินทางไปเยี่ยมลูกชายทุกปี จนกระทั่งมาถึงตอนนี้..คุณหญิงรวิเรียกตัวราเมศกลับมาด้วยเหตุผลที่ว่า..กลัวเขาจะมีเมียฝรั่ง! ท่านไม่อยากได้ลูกสะใภ้เป็นฝรั่ง ราเมศจึงต้องลาออกจากงานที่บริษัทก่อนจะเดินทางกลับมาที่นี่ ประเทศไทยเปลี่ยนไปเยอะมากในสายตาของชายหนุ่ม กรุงเทพฯกลายเป็นสังคมเมืองที่แออัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการจราจร บวกกับอากาศที่ร้อนมาก ร้อนโคตรๆจนทำให้เขาย้อนคิดถึงวัยเด็ก ชีวิตที่บ้านสวนร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าอากาศเย็นสบายคิดแล้วเขาก็อยากจะกลับไปที่นั่นอีก.. “เมืองไทยร้อนมากเลยนะครับแม่” “ก็ร้อนเป็นปกตินั่นแหละลูก” “บ้านเรือนไทยของคุณยายที่อัมพวายังอยู่ไหมครับแม่ ผมอยากไปอัมพวา อยากกลับไปเที่ยวบ้านสวนของคุณยาย แม่พาผมไปหน่อยได้ไหมครับ” นี่คือวันแรกที่ราเมศเอ่ยขอคุณหญิงรวิเมื่อเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยที่แสนจะร้อนอบอ้าว “ช่วงนี้แม่งานยุ่งต้องคุมงานไม่มีเวลา ให้คนขับรถพาไปสิลูก” ด้วยความร้อนบวกกับความคิดถึงบ้านเรือนไทยของคุณยายและคิดถึงวัยเด็กที่เขามีความสุขที่นั่น.. และแล้วราเมศก็ได้กลับมาอัมพวาอีกครั้ง..กลับมาบ้านสวน มายังสถานที่เดิมๆ แม้ว่าบ้านของคุณยายจะถูกดูแลรักษาคงสภาพเดิมไว้ บรรยากาศโดยรอบภายในรั้วบ้านก็ยังคงร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้เหมือนอย่างตอนที่เขายังเด็ก แต่สิ่งแวดล้อมภายนอกทั้งถนนหนทางและบ้านเรือนหลังอื่นๆ เปลี่ยนแปลงไปจนเขาจำแทบไม่ได้ แต่ก็น่าแปลกใจที่ราเมศมองไปยังท้ายสวนทีไรภาพของเด็กผู้หญิงที่มีรอยยิ้มสดใสก็ยังปรากฏเด่นชัดขึ้นมาในความทรงจำของเขา.. ราเมศได้พักอยู่ที่บ้านสวนไม่กี่วันก็ถูกคุณหญิงรวิเรียกตัวกลับบ้าน ชายหนุ่มเริ่มทำงานตั้งแต่สัปดาห์แรกที่กลับมา เขาไปทำงานตั้งแต่เช้าและกลับบ้านดึก บางวันก็นอนค้างที่ไซต์งานไม่กลับบ้านเพราะเร่งงานให้ตรงตามกำหนด บางวันงานเรียบร้อยดีไม่มีปัญหาอะไรให้แก้ เขาก็แวะไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อนๆบ้างตามปกติตามประสาหนุ่มโสด เขายังโสดก็มีสิทธิ์ที่จะเที่ยวสนุกบ้างก็เป็นธรรมดา แต่คุณหญิงรวิไม่ได้คิดเหมือนอย่างราเมศ หัวอกคนเป็นแม่กำลังหวั่นใจกับข่าวที่เธอได้ยินมา เช้านี้รวิวรรณถึงกับต้องมาดักรอคุยกับบุตรชายเพียงคนเดียวของท่านตั้งแต่เช้าก่อนที่เขาจะออกไปทำงาน “ตาเมศมาคุยกับแม่หน่อยสิลูก” คุณหญิงรวิวรรณเรียกบุตรชายเมื่อเห็นเขาเดินลงมาจากชั้นบนกำลังจะออกไปทำงาน “ครับแม่” ราเมศก้าวมานั่งข้างๆผู้เป็นแม่ “ช่วงนี้แม่ไม่ค่อยได้เห็นหน้าเห็นตาเลยนะลูก” “ผมงานยุ่งน่ะครับ” “งานยุ่งหรือว่าไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์ติดผู้หญิงคาราโอเกะกันแน่” “ผมไปทำงานจริงๆครับแม่ อาจจะแว๊บไปผับบ้างคลายเครียดก็เป็นเรื่องปกติของผู้ชาย โดยเฉพาะหนุ่มโสดอย่างผม” “แต่ข่าวที่แม่ได้ยินมา ทำให้แม่เครียดจนนอนไม่หลับ แม่กลัวว่าลูกจะไปพลาดท่าคว้าผู้หญิงอย่างว่ามาเป็นเมีย หรือไปทำพวกหล่อนท้องขึ้นมา แม่ไม่หัวใจวายเหรอลูก” “โธ่! แม่จะกังวลอะไรกันครับ ผมโตแล้วนะครับแม่ ผมรู้จักป้องกัน” “แต่แม่ไม่ไว้ใจไม่เชื่อใจหนิลูก แม่อยากให้เมศหยุดเที่ยวเสเพลผู้หญิงไปทั่วจนเป็นข่าวแบบนี้ มันดูไม่ดี ลูกก็โตพอจะออกเรือนมีครอบครัวเป็นของตัวเองได้แล้วนะ” “ผมยังไม่คิดถึงเรื่องมีครอบครัวเลยนะครับแม่” “เอาอย่างนี้มั้ยลูก เพื่อนสนิทของแม่มีลูกสาวอยู่คนนึงเป็นหมอ นิสัยดีเก่งน่ารักมากเชียวล่ะ แม่จะทาบทามขอมาเป็นคู่ครองให้ลูก” “ผมไม่เอาครับแม่ ผมจริงจังกับเรื่องนี้นะครับ ถ้าไม่ใช่คนที่ผมรัก ยังไงผมก็ไม่แต่ง ผู้หญิงคนนั้นหาแฟนไม่ได้หรือไงครับ เป็นถึงหมอ หรือว่าจะอ้วนฉุหน้าตาจืดชืดเหมือนเต้าหู้ยี้ แค่คิดผมก็ไม่มีอารมณ์แล้วล่ะครับ" “แล้วลูกจะควงผู้หญิงรายวันอยู่แบบนี้ให้แม่หัวใจวายไปก่อนอย่างนั้นเหรอลูก” “ข่าวก็แค่ข่าวน่ะครับแม่ ผมไม่ได้สำส่อนไม่เลือกถึงขนาดนั้นซะหน่อย” “ลูกจะลองนัดเจอน้องก่อนมั้ย เย็นนี้แม่นัดกับเพื่อนไว้พอดี จะได้ให้น้องมาเจอเราด้วย” “อย่าเลยครับแม่ ผมต้องทำงาน ผมไปทำงานก่อนนะครับ” ราเมศหอมแก้มคุณหญิงรวิแล้วรีบก้าวออกไปจากบ้าน นี่เธอคิดถูกหรือคิดผิดนะเนี่ยที่ส่งลูกไปเรียนไปอยู่ต่างประเทศ นิสัยและพฤติกรรมลูกชายของเธอจะเป็นอย่างฝรั่งหรือเปล่า เมื่อนึกถึงเรื่องนี้แล้วเธอก็อดที่จะคิดถึงสามีไม่ได้ ถ้าเขายังอยู่ลูกชายก็คงจะดูเขาเป็นแบบอย่างในเรื่องรักเดียวใจเดียวมั่นคงกับความรักเหมือนอย่างพ่อ รวิวรรณครุ่นคิดหาวิธีจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง.. ราเมศกลับมาถึงบ้านไม่ถึงเดือนเขาก็ถูกบังคับให้หาคู่ครอง อย่าคิดว่าจะจับเขาคลุมถุงชน ถ้าเขายอมก็บ้าแล้ว ให้แต่งกับใครหน้าตานิสัยใจคอเป็นยังไงก็ไม่รู้ เขาไม่แต่ง! หัวเด็ดตีนขาดเขาก็ไม่แต่ง! เขารักชีวิตโสด มีอิสระไม่อยากผูกมัดกับใคร เขาไม่เคยรักหรือคิดจะมีใครจริงจัง ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร เขาอาจจะยังไม่เจอคนที่คิดว่าใช่ หรือเพราะในใจลึกๆแล้วเขายังรู้สึกผูกพันมีสัญญาใจกับเด็กผู้หญิงคนนั้นอยู่ในใจมาตลอด เขาก็ตอบไม่ได้ ที่เขาเที่ยวกลางคืนบ้างก็เป็นเรื่องปกติตามประสาชายโสดและเพื่อผ่อนคลายจากงาน แต่เขาก็ไม่เคยมั่วหรือว่ามีความสัมพันธ์อะไรลึกซึ้งมากกว่านั้น..” ราเมศขี่รถไปทำงานก็คิดไปตลอดทาง เช้าวันนี้คุณหญิงรวิวรรณแต่งตัวเตรียมจะออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้า เมื่อราเมศออกมาเห็นก็เอ่ยถามแม่ด้วยความแปลกใจ “แม่จะออกไปไหนตั้งแต่เช้าครับ” “แม่จะไปดูบ้านสวนหน่อยน่ะลูก งานยุ่งๆ แม่ไม่ได้ไปบ้านสวนมาหลายเดือนแล้ว ไปกับแม่มั้ยล่ะ ตาเมศ” “ผมก็อยากกลับไปบ้านสวนอีกเหมือนกัน แต่วันนี้คงจะไม่ได้ครับ น่าเสียดายที่ผมติดนัดกับผู้รับเหมาไว้ที่ไซต์งานพอดี ผมไปทำงานก่อนนะครับแม่” ราเมศหอมแก้มแม่ เขารู้สึกเสียดายที่ช่วงนี้งานเขายุ่งมากจนไม่สามารถไปบ้านสวนกับแม่ได้ “จ้ะลูก ไว้โอกาสหน้าค่อยไปก็แล้วกัน” ราเมศขี่รถบิ๊กไบค์คู่ใจออกจากบ้านไปที่ไซต์งาน ระหว่างทางเขาก็นึกถึงอดีต 15ปีที่เขาจากบ้านสวนไป ป่านนี้เด็กผู้หญิงคนนั้น..”ตัวเล็ก” เธอยังอยู่ที่บ้านสวนหรือเปล่านะ เมื่อเดือนก่อนที่เขาเพิ่งเดินทางกลับมาถึงเมืองไทย มีโอกาสได้ไปบ้านสวนของคุณยายในคราวนั้น เขาถามจากลุงกับป้าที่เฝ้าบ้านก็ไม่มีใครรู้ หรือว่าเธอจะแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วตามประสาคนชนบทที่มักจะแต่งงานเร็วกว่าคนเมือง คิดแล้วเขาก็อยากกลับไปซึมซับบรรยากาศดีๆที่นั่นอีก เขาจะต้องหาเวลาไปบ้านสวนอีกครั้ง เขาอยากรู้ว่าเธอยังอยู่ที่นั่นเหมือนเดิมหรือเปล่า.. ก่อนเดินทางไปอัมพวา คุณหญิงรวิวรรณสั่งให้คนขับรถพาเธอไปยังร้านอาหารแห่งหนึ่ง.. เมื่อเธอมาถึงร้านอาหารที่นัดหมายกับเพื่อนเอาไว้ มัทนาก็นั่งรอเธออยู่ก่อนแล้ว รวิวรรณกลับมาอยู่ประเทศไทยก็ได้มัทนาเป็นเพื่อนคู่ใจ เธอพบปะพูดคุยกับมัทนาและลูกสาวของเพื่อนทุกสัปดาห์ “มาถึงนานหรือยัง มัท” รวิวรรณเอ่ยถามทักทายมัทนา “ฉันเพิ่งมาถึงเมื่อสักครู่นี่เอง วิ” “เธอสั่งอาหารหรือยัง” รวิวรรณนั่งลงก่อนจะเอ่ยถามเพื่อน “ยังเลย วันนี้เธอจะทานอะไรดี” “วันนี้ฉันรู้สึกเครียดๆ ขอเป็นสเต็กปลากับสลัดผักผลไม้จะดีกว่า” รวิวรรณบอกกับเพื่อนรัก “ขอสเต็กปลากับสลัดผักผลไม้อย่างละ 2ที่นะคะ” มัทนาหันไปสั่งอาหารกับบริกรแล้วหันมาคุยกับรวิวรรณ “เธอเครียดเรื่องอะไรกัน วิ” มัทนาเอ่ยถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง “จะเรื่องอะไร ก็เรื่องพ่อลูกชายตัวดีของฉันนั่นแหละ” “ลูกชายของเธอก็เรียนจบกลับมาทำงานแล้วไม่ใช่หรือ มีเรื่องอะไรให้เธอต้องเครียดให้กังวลใจอีก” “ฉันอยากให้ลูกได้คู่ครองที่ดีน่ะ ฉันกลัวว่าลูกจะไปคว้าผู้หญิงไม่ดีหรือฝรั่งมาเป็นสะใภ้ฉันน่ะสิ ฉันทำใจไม่ได้” “แล้วเธอจะทำยังไง” “ฉันขอพูดตรงๆเลยนะมัท ถ้าฉันจะขอหนูริสาให้ตาเมศ เธอจะว่ายังไงมั้ย หนูริสาก็เรียนจบทำงานแล้ว” รวิวรรณเอ่ยทาบทามลูกสาวของมัทนาให้กับลูกชายของเธอทันที “เธอว่าอะไรนะ วิ..” มัทนาตกใจ อึ้งจนพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าจะตอบเพื่อนยังไง “ฉันน่ะเห็นหนูริสามาตั้งแต่เล็กแต่น้อย เธอก็รู้ว่าฉันรู้สึกถูกชะตาและรักหนูริสามากเหมือนกับลูกคนนึง” “ฉันรู้และเข้าใจและขอบใจเธอมากที่รักและเมตตาลูกสาวของฉัน” “แล้วเธอคิดยังไง เธอว่าหนูริสาจะยอมมั้ย" “แล้วลูกชายของเธอ เขาจะยอมให้เธอหาคู่ให้อย่างนั้นเหรอ” “ก็นี่แหละที่ฉันกำลังกลุ้มใจ” “ฉันน่ะไม่ขัดหรอก แต่เรื่องใหญ่แบบนี้..เราก็ต้องถามความสมัครใจของลูกๆ ปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่ ปลูกอู่ตามใจผู้นอน ฉันขอถามลูกสาวก่อนนะ วิ” บริกรนำอาหารมาเสิร์ฟ รวิวรรณกับมัทนาต่างคนต่างทานเงียบๆและครุ่นคิดไปด้วย รวิวรรณคิดหาวิธีให้ราเมศยอมทำตามในสิ่งที่เธอหมายมั่นปั้นมืออย่างที่คิดไว้ ส่วนมัทนานั้นวิตกกังวลว่าเธอจะเอ่ยปากพูดกับลูกยังไง ในเมื่อเธอรู้ดีว่าลูกสาวของเธอปิดกั้นและเกลียดผู้ชายเพราะเจ็บปวดฝังใจกับเรื่องชีวิตคู่ของแม่แค่ไหน เมื่อทานอาหารเสร็จแล้วต่างคนก็แยกย้ายกันไปหาวิถีหว่านล้อมลูกๆ มัทนากลับมาบ้าน รอจนมาริสาเลิกงานกลับมาบ้านในตอนค่ำก็ไม่กล้าพูดกับลูก แต่เธอรู้ว่าลูกไม่เคยขัดใจเธอ เธอจึงตัดสินใจโทรไปหารวิวรรณ “วิ..ฉันโทรมาบอกเธอเรื่องนั้นน่ะ” “ว่าไง หนูริสายอมตกลงมั้ย” “เธอมีบุญคุณกับเราสองคนแม่ลูกขนาดนี้..ลูกสาวของฉันไม่ปฏิเสธหรอก” มัทนาบอกรวิวรรณแล้วนึกขอโทษลูกในใจ รวิวรรณมีบุญคุณกับเธอและลูกมากจนเธอไม่รู้จะตอบแทนยังไง และเพื่อนของเธอก็ไม่เคยปริปากทวงบุญคุณเลยสักครั้ง ตรงกันข้ามคือเธอยังให้ความเป็นกันเองไม่เคยดูถูกเหยียดหยามหรือทำให้เธอกับลูกต้องลำบากใจเลยสักครั้ง รวิวรรณอยู่ที่บ้านสวน เธอวางสายจากมัทนาก็รีบต่อสายไปหาราเมศด้วยความดีใจ “ตาเมศ..” “ครับแม่” “เรื่องที่แม่คุยกับเมศไว้เมื่อหลายวันก่อนน่ะ ฝ่ายหญิงเขาไม่มีปัญหาอะไรนะ ก็เหลือแต่ลูก” “เรื่องอะไรครับแม่” “ก็เรื่องแต่งงานของลูกไง แม่หาลูกสะใภ้ที่ถูกใจได้แล้ว” “ผมไม่เอาด้วยหรอกครับแม่ ผู้หญิงอะไร ยุคนี้แล้วยังจะยอมให้คลุมถุงชน ให้เธอแต่งไปคนเดียวเถอะ ไม่มีความคิดเป็นของตัวเองหรือไง หรือว่าหน้าตาจะขี้เหร่มากจนหาแฟนเองไม่ได้แน่เลย ถึงแม้ว่าผมไม่ได้ยึดติดกับหน้าตาก็จริงแต่รูปร่างหน้าตาก็เป็นความประทับใจแรกนำไปสู่การคบหาศึกษาจิตใจกันนะครับ” “แต่คนนี้เป็นคนดีสวยน่ารักจริงๆนะลูก แม่เห็นมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว” “ถึงหน้าตาจะดี แต่ผมก็คิดว่าเธอต้องมีอะไรบางอย่างผิดปกติอย่างแน่นนอน ยังไงผมก็ไม่ยอม ถ้าแม่จะโทรมาคุยเรื่องนี้ก็แค่นี้นะครับ สวัสดีครับ” พูดจบราเมศก็กดวางสายในทันที “ตาเมศ! เดี๋ยวก่อน ฟังแม่ก่อนสิลูก เฮ้อ!”?คุณหญิงรวิวรรณถอนหายใจออกมาเมื่อราเมศไม่ยอมฟังเธอ และวางสายไปเสียแล้ว “นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันวะ” ราเมศพึมพึมออกมาอย่างหัวเสีย “ฉันจะทำยังไงให้ลูกคนนี้ยอมแต่งงานนะ” คุณหญิงรวิวรรณบ่นออกมาอย่างหนักใจ..

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

สะใภ้ขัดดอก

read
39.1K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.5K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.0K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.0K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.5K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook