7

1516 Words
“ครับ” เขารับคำสั้น ปลายสายเป็นวิชิตบอกว่าวันนี้เขาต้องไปประชุมกับหุ้นส่วน และเพื่อแนะนำรามาวดีให้รู้จักกับทุกคนด้วย ชายหนุ่มมองคู่หมั้นหน้าหวานที่ขณะนี้หญิงสาวทำตัวเบียดอยู่ริมฝาผนังเหมือนกับจะมุดเข้าไปในนั้น ใบหน้าของหญิงสาวแดงซ่านไปถึงใบหู กำลังมองมาที่เขาเช่นกัน แต่เป็นไปอย่างหวาดกลัว รามาวดีขาสั่นน้อยๆ กลัวว่าเขาจะทำอะไรเธออีก แค่เขาขยับเธอก็ผวา ทำตัวไม่ถูก “น้องริน” ชายหนุ่มเรียกเบาๆ เสียงแหบพร่าเพราะยังไงเขาก็ยังอารมณ์ค้างอยู่ดี แต่เวลานี้มันไม่เหมาะที่เขาจะลากเธอขึ้นเตียงหรือจัดการอะไรสักอย่าง “เราต้องประชุมด่วน” หญิงสาวยังยืนเฉย มองชายหนุ่มอย่างระแวดระวัง วายุเดินไปหยิบชั้นในตัวจิ๋วขึ้นมา เดินเข้าไปหาคนตัวเล็กอย่างรวดเร็วจนเธอไม่ทันตั้งตัว “ใส่ซะ” วายุยื่นชั้นในตัวจิ๋วให้รามาวดี เขาชะงักเพราะเปลี่ยนใจกะทันหัน  “พี่ใส่ให้ดีกว่า” เขาจุดยิ้มที่มุมปาก ก่อนที่รามาวดีจะทันตั้งตัวอีกครั้ง เขาก็อุ้มเธอตัวลอยไปวางร่างน้อยไว้บนโซฟายกขาเรียวสวยขึ้นและสอดชั้นในตัวจิ๋วเข้าทางปลายเท้า หญิงสาวเบิกตากว้างกับการกระทำของคู่หมั้นหนุ่ม ก่อนที่เธอจะได้ทันพูดอะไร เพราะมัวแต่อึ้งเขาก็ใส่ซับในสีหวานให้เธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว แถมยังดึงกระโปรงและจัดเสื้อผ้าเธอจนเข้าที่เข้าทาง และจัดการกับผมยุ่งๆ ของเธออย่างรวดเร็ว “รีบหน่อย น้องรินอย่ามัวแต่ยั่วให้พี่ไปประชุมสาย” แล้วเขาก็หันมาดึงแขนเรียวให้ตามเขาไป ‘บ้าที่สุด’ หญิงสาวคิดในใจ นี่เขาหาว่าเป็นความผิดของเธออย่างนั้นเหรอที่ทำให้เสียเวลา เธอไม่ได้ยั่วเขาสักนิด แต่เขานั่นแหละ ลากเธอมาลวนลามหน้าตาเฉย หลังจากที่วายุทำงานกับคู่หมั้นสาวมาเป็นอาทิตย์ทำให้เขาทึ่งในความสามารถของรามาวดี เธอทำงานได้ดีเรียบร้อยและเก่ง บางเรื่องยังเก่งกว่าเขาด้วยซ้ำ จนชายหนุ่มรู้สึกเกรงใจหญิงสาวขึ้นมาบ้าง และเริ่มจะเห็นคุณค่าของคู่หมั้นว่าเธอก็เก่งอย่างที่บิดาชื่นชม เขามีความรู้สึกว่าเริ่มจะหลงรักคู่หมั้นหน้าหวานที่ไม่เคยใส่ใจคนนี้เข้าแล้ว ส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาติดต่องานด้วย ตกลงเซ็นสัญญาทันทีที่เจรจาเรียบร้อย วันนั้นหลังจากเกิดเรื่อง เขาคิดว่าเธอจะหนีหน้า แต่เธอก็ยังมาทำงาน นั่นทำให้เขาโล่งใจ เพราะถ้าหนีหายไป บิดาก็คงจะบ่นเขาจนหูชาอีกแน่ๆ “น้องรินไปทานข้าวกันดีกว่า พี่หิวจะแย่อยู่แล้ว” วายุทำหน้าอ้อนๆ ใส่คู่หมั้นสาว “รินจะรีบกลับบ้านค่ะพี่วา” หญิงสาวปฏิเสธอย่างนิ่มนวล เพราะไม่ค่อยไว้ใจเขาเลย ตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่เคยล่วงเกินเธออีก เธอคิดทบทวนหลายตลบหลังจากกลับบ้านวันที่เขาล่วงเกินเธอว่าจะมาทำงานกับเขาต่อดีไหม แต่หากไม่มาทุกคนก็จะสงสัย เธอเลยต้องมา แต่แอบพกอุปกรณ์ป้องกันตัวมาด้วย ปรากฏว่าเขากลับเฉยเสีย ไม่รุกหรือลวนลามอีก เธอเลยค่อยเบาใจขึ้น เพราะไม่อยากมีปัญหาให้พี่ชายและคุณวีรยุทธ์ต้องมาซักไซ้กันใหญ่โต “จะรีบกลับไปไหนล่ะ บ้านไม่หายไปไหนหรอก” ชายหนุ่มพูดดักคอ เขาเองก็เห็นว่าเธอระวังตัวแจ เลยไม่อยากบุ่มบ่ามทำให้เธอหวาดกลัวจนหนีหายไปจริงๆ “จะกลับไปดูน้องรันค่ะ เห็นว่าไม่ค่อยสบาย” เธอหาทางเลี่ยงจนได้ เพราะไม่อยากไปกับเขา ตลอดเวลาที่ทำงานด้วยกันหญิงสาวพยายามหลีกเลี่ยงเขาอย่างเต็มที่ นึกถึงเหตุการณ์วันนั้นทีไรก็หน้าแดงทุกที รามาวดีพยายามเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าเขาเป็นตัวอันตรายเพียงใดสำหรับเธอ  “ว้า...เสียดายจัง” เขาทำหน้าเสียดายจนน่าสงสารแต่เธอไม่สงสารด้วยหรอก คนเจ้าเล่ห์อย่างเขาไม่น่าไว้ใจ หญิงสาวคิดในใจ “งั้นพรุ่งนี้พี่ไปรับมาทำงานด้วยกันนะครับ” ชายหนุ่มยังตื้อไม่เลิก ยิ่งเธอหนีเขาก็ยิ่งอยากเอาชนะ “ไม่ได้หรอกค่ะ รินต้องไปส่งน้องรันที่มหาวิทยาลัยค่ะ” หญิงสาวหาทางปฏิเสธโดยเอาน้องสาวคนเล็กมาอ้าง “ทำไมต้องหาทางเลี่ยงพี่ด้วย” วายุพูดอย่างรู้ทันปนน้อยใจเพราะตลอดเวลาที่ทำงานร่วมกัน ดูเหมือนเธอจะพยายามไม่เข้าใกล้เขา เหมือนเขาเป็นตัวอันตรายอย่างนั้น “เปล่านะคะพี่วา แต่รินมีธุระจริงๆ” หญิงสาวพยายามปฏิเสธกลัวเขาจะโกรธแล้วเกิดหน้ามืดทำอะไรเธอขึ้นมา เธอก็สู้เขาไม่ได้อยู่ดี “ให้นายภัทรไปรับน้องรันก็ได้ พี่เห็นเจ้ารามให้นายภัทรไปรับน้องรันประจำอยู่แล้ว” วายุพยายามต้อนเธออย่างเต็มที่ “เกรงใจพี่ภัทรค่ะพี่วา มีอะไรก็รบกวนเสียทุกครั้ง” รามาวดีปฏิเสธเสียงนิ่มนวล แต่เธอก็เกรงใจณภัทรจริงๆ นั่นแหละ “งั้นพรุ่งนี้พี่ไปรับห้ามปฏิเสธนะคนดี พี่ไปส่งน้องรันที่มหาวิทยาลัยด้วยก็ไม่เป็นไร พี่ยินดีอยู่แล้ว” วายุตัดบทเพราะกลัวหญิงสาวจะปฏิเสธอีก “วันนี้พี่จะไปส่งที่บ้านห้ามปฏิเสธนะครับ เมื่อเช้ามากับเจ้ารามไม่ใช่เหรอ เราไม่ได้ขับรถมาเอง แต่ถึงขับรถมา พี่ก็อยากไปส่ง ไม่อยากให้น้องรินขับรถคนเดียว อันตรายออกครับ”วายุไม่ฟังเสียงรามาวดี มือหนาจับแขนเรียวดึงร่างบางให้เดินตามเขาไป “เมื่อก่อนรินก็ขับรถคนเดียวนี่คะ ไม่เห็นจะอันตรายอะไรเลย” เธอพูดอย่างน้อยใจ “แหม...ก็นั่นเมื่อก่อนนี่ครับ แต่ตอนนี้น้องรินมีพี่ทั้งคน เราเป็นคู่หมั้นกันนะ ไม่ต้องน้อยใจไปนะครับ ต่อไปนี้พี่จะดูแลน้องรินเอง” “รินไม่ได้น้อยใจเสียหน่อย” “ปากแข็ง” เขายื่นหน้าเข้าไปหา “อุ๊ย!” เธอเบี่ยงหลบ เขาน่ะไว้ใจไม่เคยได้เลยจริงๆ แถมยังคิดเองเออเองหลงตัวเองที่สุด ชายหนุ่มขับรถมาได้ครึ่งทาง แต่เขากลับเลี้ยวรถไปอีกทางที่ไม่ใช่ทางกลับบ้าน “พี่วาคะ นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านนี่คะ” รามาวดีมองรอบข้างทางก็รู้สึกว่าเขาพาเธอออกนอกเส้นทางกลับบ้าน ชักเริ่มไม่ไว้ใจเขาเสียแล้ว “ก็ไม่ใช่น่ะสิครับ” วายุพูดอย่างอารมณ์ดี ไม่ได้ทุกข์ร้อน เห็นอาการของเธอก็นึกอยากแกล้ง รามาวดีมักหวงตัว เธอเป็นผู้หญิงเรียบร้อยอย่างที่บิดาเขาพูดจริงๆ แค่รสชาติหวานละมุนของเธอในวันนั้นยังติดลิ้นเขาไม่หาย เขาแอบเอาเธอไปฝันหาอยากเชยชิดเธอแบบนั้นอีก “พี่วาจะพารินไปไหนคะ” รามาวดีเริ่มมองคู่หมั้นหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจมากขึ้น “ก็บอกแล้วไงว่าหิว หิวก็ต้องไปทานข้าวสิครับน้องริน” วายุขับรถไปเรื่อยๆ อย่างไม่รีบร้อน “ไหนบอกว่าจะพารินไปส่งบ้านยังไงคะ” หญิงสาวทวงคำสัญญาที่เขาบอกว่าจะพาเธอกลับบ้าน “ใช่ครับ แต่หลังจากที่พี่ทานข้าวเสร็จแล้ว” หญิงสาวจึงนั่งเงียบมาตลอดทางจนถึงร้านอาหาร เธอไม่กล้าขัดใจเขาหรอก เพราะถ้าเกิดเขาไม่พอใจขึ้นมาไม่เพียงแค่ทานข้าวกันเฉยๆ เขาอาจจะทำอะไรเธอเกินเลยไปมากกว่านี้ก็เป็นได้ วายุเลี้ยวรถเข้ามาที่ร้านอาหารประจำ ก่อนลงมาเปิดประตูให้คู่หมั้นหน้าหวานที่ตอนนี้หน้างออย่างขัดใจ “ลงมาได้แล้วครับน้องริน พี่หิวแล้ว” วายุเอามือค้ำไปที่ประตูรถ มองคู่หมั้นคนสวยที่ยังไม่ยอมลงมาจากรถสักที ถึงเธอจะงอนเขาก็ชอบง้อ นานๆ จะเจอผู้หญิงเมินบ้าง เกิดมาไม่เคยเจอแบบรามาวดีมาก่อน “พี่วาถอยไปก่อนสิคะ” รามาวดีเงยหน้ามองชายหนุ่มที่มายืนค้ำประตูรถอยู่ วายุจึงถอยหลังออกมาตามคำขอของหญิงสาว พอเธอลงมาจากรถเขาก็จับมือเธอเดินเข้าไปในร้านอาหาร รามาวดีดึงมือหนีแต่เขากุมเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย “จับเอาไว้แบบนี้ดีแล้วครับ จะได้ไม่หลง” “แน่ะ...รินไม่ใช่เด็กนะคะ” “แต่พี่เป็นห่วงนี่ครับ” วายุก้มลงมากระซิบริมหู ลมหายใจร้อนๆ ของเขาทำให้เธอหน้าแดง ขัดเขาไม่ได้ก็เลยต้องยอมให้เขาจูงมือเข้าไปในร้านอาหาร
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD