6

1494 Words
“อุ๊ย!!!” หญิงสาวอุทานอย่างตกใจ รีบผลักอกเขาเอาไว้ แต่เหมือนผลักกำแพงอิฐที่หนาหนัก เพราะมันกลับไม่ขยับเขยื้อนเลย รามาวดีทราบว่าเขาเจ้าชู้แต่ไม่คิดว่าเขาจะต้อนรับเธอเช่นนี้ “ปล่อยค่ะพี่วา เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า” รามาวดีผลักไสแต่เขาไม่ยอมปล่อยง่ายๆ ยิ่งหวงเนื้อหวงตัวเขาก็ยิ่งอยากเอาชนะ “ไม่มีใครเข้ามาหรอก ห้องนี้มีเพียงแค่เราสองคน” ชายหนุ่มพูดอย่างเจ้าเล่ห์ “อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ รินกลัว” หญิงสาวพูดออกไปตามตรงอย่างที่คิด วายุหัวเราะในลำคอเบาๆ  “กลัวพี่ทำไม พี่ไม่ใช่เสือสักหน่อย” ชายหนุ่มพูดอย่างอารมณ์ดี คิดในใจว่าดูๆ ไปเธอก็น่ารักเหมือนกัน แตกต่างจากผู้หญิงที่เขาเคยควงอย่างสิ้นเชิง ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น คงจะออดอ้อนเขาไม่พยายามหนีเขาแบบคนในอ้อมแขนที่เป็นคู่หมั้นกับเขาก็ยังหวงตัวเหมือนคนไม่ได้เป็นอะไรกัน “แต่ร้ายกว่าเสือค่ะ” หญิงสาวโต้กลับ “ร้ายตรงไหน” วายุแกล้งถาม กระชับร่างบอบบางเอาไว้แนบร่างแกร่งของตัวเอง หญิงสาวดิ้นเต็มที่เพื่อให้หลุดจากพันธนาการที่แน่นหนาของคู่หมั้นหนุ่ม แต่เธอสู้แรงเขาไม่ไหว และเขาก็ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ “พี่ขอชื่นใจนิดหน่อยได้ไหม รับรองว่าคราวนี้จะปล่อย” วายุทำตาเจ้าเล่ห์ ความคิดว่าถ้าได้ทำงานกับคู่หมั้นสาวคงเซ็งน่าดูได้หายไปจากใจเขาเมื่อได้เห็นรามาวดีอีกครั้งอย่างชัดเจน เพราะตลอดระยะเวลาที่เขากลับมาจากต่างประเทศ เขาไม่เคยสนใจไยดีเธอเลย และทำตัวโสดเหมือนตัวเองไม่เคยมีคู่หมั้นคู่หมายมาตลอด “ไม่ได้ค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธเสียงแข็ง เธอส่ายหน้าไปมาหน้ายุ่ง แต่เขากลับมองว่าเธอน่ารัก “เราเป็นคู่หมั้นกันไม่ใช่เหรอ” วายุพูดอย่างเห็นแก่ตัว เขาเองไม่เคยสนใจไยดีคู่หมั้นสาว แต่พอได้ใกล้ชิดหญิงสาวอีกครั้งก็อดใจไม่ไหวซะเอง เอาคำว่าคู่หมั้นขึ้นมาอ้างเพื่อเอาเปรียบเธอซะอย่างนั้น “คู่หมั้นที่ไม่เคยสนใจน่ะเหรอคะ” รามาวดีถามกลับเพราะเธอทราบมาโดยตลอดว่าเขากลับมาจากต่างประเทศนานแล้ว แต่ไม่เคยไปมาหาสู่เธอเลยสักครั้ง ทั้งๆ ที่บ้านอยู่ใกล้กันแค่ประตูรั้ว แถมเขายังไปทำเจ้าชู้กับผู้หญิงคนอื่นทั่วบ้านทั่วเมือง จนเป็นข่าวฉาวไปหมด แล้วจะยังมีหน้ามาทวงความเป็นคู่หมั้นกับเธออีก ชายหนุ่มไม่สนใจคำพูดของคนในอ้อมแขน เพราะตอนนี้เขากำลังจ้องมองเรียวปากบางน่าจูบนั้นอย่างไม่วางตา ถ้าเขาจะจูบเธอสักครั้งจะเป็นไรไป อยากรู้ว่าปากเรียวนั้นจะหวานเหมือนหน้าของเธอหรือเปล่า  “ขอจูบหน่อย สัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเกินเลย” เร็วเท่าความคิด วายุเอ่ยขอในสิ่งที่เขาต้องการและไม่รอฟังคำตอบ รามาวดีได้แต่ตกใจ เธอไม่เคยโดนผู้ชายสัมผัสมาก่อน เจอสายตาเว้าวอนของเขาเข้าก็รู้สึกหัวใจเต้นแรง แต่พยายามปัดความรู้สึกหวั่นไหวนั้นทิ้งไป “ไม่ได้ค่ะ” รามาวดีได้สติเริ่มผลักไสดิ้นรนจากอ้อมแขนของเขา เธอพยายามเอาตัวรอด เตือนตัวเองว่าเขาอันตรายมากแค่ไหน “สัญญาว่าแค่จูบแล้วจะปล่อย จะไม่ทำอะไรเกินเลย” วายุก้มหน้าไปพูดใกล้ใบหูเล็กน่ารัก เมื่อเห็นหญิงสาวต่อต้านเขาไม่ไหว “อุ๊ย!” รามาวดีดึงใบหน้าหนี ใจดวงน้อยๆ สั่นไหวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “พี่วาสัญญาก่อนนะคะว่าแค่...เอ่อ...” หญิงสาวอึกอัก เพราะรู้สึกกระดากที่จะเอ่ยคำนั้นออกมาแต่เธอก็ดูออกว่าถ้าเขาไม่ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ วันนี้ดูท่าว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยเธออย่างแน่นอน ถ้าไม่ได้จูบอย่างที่บอก เพราะเขายิ่งรัดจนเธอแทบจะจมหายเข้าไปในร่างของเขาแล้วตอนนี้ “สัญญา...” ชายหนุ่มตอบอย่างมีเลศนัย รามาวดีไม่ทันได้สังเกตเพราะมัวแต่ก้มหน้าก้มตาด้วยความอายและหวาดหวั่น วายุตวัดแขนแข็งแรงขึ้นอุ้มรามาวดีไปที่โซฟา หญิงสาวตกใจดิ้นรนเพื่อให้หลุดแต่ไม่ถึงอึดใจแผ่นหลังของเธอก็สัมผัสกับโซฟานุ่ม วายุทาบทับลงมา รามาวดีตาโตมองการกระทำของเขาอย่างหัวใจสั่นไหว เขาทำอะไรเร็วมาก เธอเหมือนเต่าคลานต้วมเตี้ยมตามเขาไม่ค่อยทัน “พี่สัญญาแล้วว่าจะแค่จูบเรารับขวัญ จริงๆ นะ” ยังไม่ทันที่รามาวดีจะกล่าวว่าอะไรเสียงประท้วงของเธอก็ขาดหายเข้าไปในปากของชายหนุ่ม เธอตาโต ในขณะที่เขาลูบไล้เส้นผมนุ่มสลวยของเธอไม่วาง มันเป็นจูบที่ดูดดื่ม เรียกร้อง อ่อนหวานและวาบหวามสำหรับคนไร้ประสบการณ์ เธอไม่เคยต้องมือชายมาก่อน เลยอ่อนระทวยอยู่ใต้ร่างของเขา ฝ่ายวายุ...ในตอนแรกเขาแค่อยากสัมผัสคู่หมั้นสาวเท่านั้น แต่เมื่อได้จูบเธอจริงๆ กลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะเขาสัมผัสความหวานละมุนจากโพรงปากของเธอ ความไม่ประสีประสาของเธอกับเรื่องอย่างนี้ ทำให้เขาอยากสอนสาวน้อยในอ้อมแขนที่นอนระทดระทวยอยู่ใต้ร่างคล้ายจะยั่วเขามากกว่าหมดแรงให้ได้สัมผัสกับคำว่า ‘จูบ’ อีกหน่อย เขาคงได้จูบเธอทุกวันไม่เว้นวาง เธอช่างมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเขาอย่างล้นเหลือ ช่างน่ารักน่าใคร่อะไรปานนี้ “อุ๊ย!!! พี่วา อย่าค่ะ รินกลัว” หญิงสาวกระถดถอยอุ้งมือใหญ่ของคู่หมั้นหนุ่ม เมื่อเขาสอดมือเข้าไปใต้กระโปรงดึง ชั้นในตัวจิ๋วออกมาถึงหัวเข่า และสัมผัสเนินเนื้ออ่อนละมุนอย่างรวดเร็วไม่ทันให้เธอได้ตั้งตัว “อย่าค่ะ...พี่วา” หญิงสาวครางเสียงสั่น เมื่อเขามุดหน้าเข้าไปกลางเรียวขาของเธออย่างรวดเร็วไม่ทันให้เธอได้เตรียมตัวเตรียมใจเลย กระโปรงถูกเลิกขึ้นไปถึงเอวคอดกิ่ว ชั้นในตัวจิ๋วโดนเขาถอดไปถึงข้อเท้า “ขอพี่นะน้องริน พี่จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว น้องรินช่างเย้ายวนใจพี่เหลือเกิน” ชายหนุ่มพูดเสียงแหบพร่า เขาพยายามควบคุมอารมณ์เต็มที่แต่ไม่สำเร็จ มันไม่ใช่แค่จูบแต่มันเลยเถิด วายุซบหน้าลงกับเนินเนื้อสาวที่เปล่งปลั่ง หญิงสาวผวาเยือก กระถดหนีตามสัญชาตญาณ แต่ก็หนีไม่พ้นปากร้อนที่ตอนนี้ทำหน้าที่ได้ดีเหลือเกิน “พี่วา อื้อ...ไม่ได้ค่ะ ทำอะไรน่าเกลียดแบบนี้ คนผิดสัญญา ไม่รักษาสัจจะ” หญิงสาวประท้วงเสียงหลงอย่างตกใจในการกระทำของเขา ความรู้สึกประหลาดเกิดขึ้นอย่างไม่สามารถหักห้ามได้ หญิงสาวใช้นิ้วสอดเข้าไปใต้กลุ่มผมบนศีรษะของวายุเพื่อจะดึงหน้าเขาออก แต่ร่างกายเธอทรยศกลับแอ่นสะโพกให้กับสัมผัสที่เขามอบให้อย่างไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เผลอกดใบหน้าเขาให้เชยชิมเนินเนื้อสาวถนัดถนี่ยิ่งขึ้น วายุครางเบาๆ ในลำคอ รับรู้ถึงรสชาติความหวานและบริสุทธิ์ของคู่หมั้นสาว น้ำหวานหลั่งรินออกมาให้เขาได้เชยชิมไม่เว้นวาง “รามาวดีทำไมเธอถึงได้...พี่ทนไม่ไหวแล้ว” เขาพูดเสียงแหบพร่า เจ็บปวดรวดร้าวด้วยความทรมานไปหมดทั้งร่าง อยากเข้าไปอยู่ในร่างกายของเธอเหลือเกินในขณะนี้ ลิ้นหนาสากร้อนดุนดันเข้าไปตามซอกลับของหล่อน เป็นจังหวะรักที่เร่งเร้าเพื่อปรนเปรอความสุขที่เธอไม่เคยพานพบมาก่อนในชีวิต หญิงสาวครวญครางส่ายสะโพกไปมาอย่างรัญจวนใจ แต่พยายามกัดริมฝีปากเพื่อหักห้ามอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านอย่างกู่ไม่กลับ “กริ๊งๆ” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มชะงักไปนิดหนึ่งแต่เพียงนิดหนึ่งเท่านั้น เขาก็ดำเนินกิจต่อ แต่รามาวดีกลับได้สติกลับคืนมา หญิงสาวออกแรงทั้งหมดผลักร่างหนาของคู่หมั้นหนุ่มออกเต็มแรง ได้ผล...วายุเสียหลักล้มลงข้างโซฟาอย่างไม่เป็นท่า เพราะเขาไม่ทันตั้งตัว รามาวดีรีบวิ่งไปยืนหอบอยู่อีกฟากหนึ่งของห้องเสียงโทรศัพท์ยังคงดังอยู่ไม่ขาดสาย วายุสบถออกมาอย่างขัดใจที่โทรศัพท์เกิดดังขึ้นขัดอารมณ์เช่นนี้ ชายหนุ่มเดินไปรับโทรศัพท์อย่างหงุดหงิดเพราะอารมณ์ค้าง สายตาของเขายังคงมองคนตัวเล็กที่ยืนหอบหน้าแดงอยู่อีกฟากหนึ่งของห้องไม่วางตา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD