ตอนที่ 4

1033 Words
            แม้สิ่งที่คนงานพูดกันจะไม่จริง แต่ที่เขาแอบสูดดมความหอมจากเรือนร่างนั้นทุกครั้งที่มีโอกาส นั่นเขาก็ปฏิเสธความคิดหื่นของตัวเองไม่ได้เลย             “ว่าไง สรุปเอ็งคิดอะไรกับหนูหน่อยหรือเปล่า”               สายตารู้ทันของเพื่อนกับพี่ชายเพื่อน ทำให้ไวทย์ทนไม่ไหวต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่             “เออ… ยอมรับก็ได้ ก็คิดอยู่”             “ก็แค่เนี้ย! เป็นไรไปวะ ก็แค่ยอมรับว่าอยากกินหญ้าอ่อน ถ้าเอ็งจะคิดก็ไม่ผิดหรอกว่ะ เอ็กซ์ เซ็กซ์ อึ๋มขนาดนั้น เป็นข้า ข้าก็…”             “หยุดเลยนะไอ้ปัถย์ เอ็งห้ามคิด”             “พี่ปูรณ์ดูมันสิ มันห้ามผมคิด แต่มันก็คิดเอง พี่ปูรณ์คิดมั้ย”             ทั้งไวทย์และปัถย์จ้องหน้าปูรณ์ต้องการคำตอบ “คิดว่ะ”             “พี่ปูรณ์!”             ปัถย์ทุบโต๊ะขำกับท่าทางหน้าเฉยของปูรณ์ แต่ไวทย์นั้นโอดครวญราวคนชอกช้ำ ก่อนจะเข้าสู่โหมดกลุ้มใจตามเดิม             ดวงตากลัดกลุ้มมองแก้วบรรจุน้ำสีอำพันในมือ เพราะใครล่ะจะไม่คิด ขนาดว่าปัถย์กับพี่ปูรณ์ยังคิดเลย แล้วเขาต้องอยู่ใกล้หล่อนทุกวันจะทนได้ยังไง             “ข้ากลัวตบะแตกว่ะ”             “หือ… ขนาดนั้นเชียวเหรอไวทย์”             “ครับพี่ปูรณ์ ผมควรทำยังไงครับ แกว่าไงว่ะปัถย์”             น้ำเสียงคือกลุ้มใจเต็มที่ เพราะนี่อาจเรียกว่าเสียฟอร์มก็ได้ จู่ๆ เขาก็มาตกม้าตาย หวั่นไหวกับเด็กในปกครอง             “ง่ายๆ เอ็งก็แค่ส่งหนูหน่อยกลับไป นอกเสียจากว่าเอ็งอยากเก็บหนูหน่อยไว้ใกล้ตัว ว่าไงล่ะ ถ้าเอ็งทนไม่ได้เอ็งก็ต้องทำ เพราะรู้ใช่มั้ยว่าถ้าพลาดไปนั่นคือเข้าแผนพี่วิวเลย”             “แผนอะไรวะ”             ไวทย์มองเพื่อนกับพี่ชายของเพื่อนสลับกัน สองคนสบสายตากันเหมือนรู้อะไรบางอย่างที่เขาไม่รู้ และปูรณ์ก็เป็นคนเฉลย             “ก็แผนให้นายตบะแตกปล้ำยายหนูหน่อยน่ะสิ”             “เฮ้ยพี่! ไม่จริงหรอก ผมเป็นน้องแท้ๆ ของพี่วิวนะ พี่วิวจะทำแบบนั้นทำไม จู่ๆ ก็ส่งลูกสามีมาเป็นเหยื่อผม ยังไงผมก็ไม่เชื่อ พี่วิวไม่ทำอะไรแบบนั้นแน่”             ไวทย์ครุ่นคิด นึกถึงใบหน้าที่แสนจะอ่อนโยนของพี่สาวทุกครั้งที่เจอกัน วิเวียนจะพูดถึงลูกติดของสามีอยู่เสมอ เด็กหญิงที่ตอนนั้นวัยเพียง 10 ปี แต่ก็มีเค้าว่าจะสวยขึ้นตอนโต             วิเวียนดูแลหนูหน่อยทุกอย่างทั้งเสื้อผ้าหน้าผม โรงเรียนประจำ โรงเรียนกวดวิชา ทุกสิ่งที่เด็กในช่วงวัยนั้นจะต้องมี วิเวียนก็ดูแลไม่ขัดคล่อง ไม่อย่างนั้นหนูหน่อยคงจะไม่รักดีจนถึงขนาดสอบเข้าเรียนต่อคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ได้หรอก แล้วเจ้าตัวก็แสนจะร่าเริงสุดๆ จึงเป็นไปไม่ได้ที่วิเวียนจะมีปมกับหนูหน่อยจนอยากให้เขาทำลาย เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่วิเวียนจะส่งหนูหน่อยมาเพื่อให้เขาตบะแตก ให้เขาทนไม่ไหวจนต้องครอบครองเรือนร่างสวยงามนั้น เพราะนั่นเท่ากับฆ่าหนูหน่อยทั้งเป็น             และอีกสิ่งที่ยืนยันว่าไม่มีทางที่วิเวียนจะทำเช่นนั้นก็คือ พี่โน้ตพ่อของหนูหน่อยเองก็สนับสนุนที่จะให้หนูหน่อยมาอยู่กับเขา ซ้ำยังคอยสอบถามเขาตลอดว่าหนูหน่อยทำอะไรให้เขาไม่พอใจบ้างหรือเปล่า เชื่อฟังคำสั่งเขาดีไหม หรือหนูหน่อยสร้างความลำบากใจอะไรให้เขาบ้าง             ทั้งหมดนั้นเขาจับใจความได้ว่าเป็นการเกรงใจ ไม่มีการเสแสร้งแกล้งทำเด็ดขาด ดังนั้นไอ้เรื่องที่ว่าวิเวียนจะส่งหนูหน่อยมาเพื่อบำเรอกามเขาจึงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะพี่โน้ตคงไม่มีทางไว้ใจแน่             “เป็นไปไม่ได้หรอกครับพี่ พี่วิวรักหนูหน่อยมากเกินกว่าจะทำลายได้ และพี่โน้ตก็ทั้งรักทั้งไว้ใจให้พี่วิวดูแลลูกสาวยังกับอะไรดี ไม่มีทางที่พี่วิวจะคิดร้ายกับหนูหน่อยหรอก”             แค่เขาพูดเสียงหัวเราะสอดประสานของสองคนพี่น้องก็ดังขึ้น ซ้ำยังมองหน้ากันไปมาและหัวเราะร่วนขึ้นอีก             “ขำอะไรว่ะปัถย์ พี่ปูรณ์ขำอะไรผมเนี่ย”             ไวทย์ตาขวาง ยิ่งกลุ้มใจ ดันมาเจอสองหน่อฟาร์มปศุสัตว์หยอกเย้าเข้าอีก ไม่รู้รึไงว่าเขากลุ้ม             “โอเคๆ พอๆ ปัถย์ อย่าไปล้อไวทย์มันมาก ดูหน้ามันสิ นี่ถ้ามันตะบันหน้าเอ็ง พี่ไม่ช่วยนะโว้ย!”             “ได้ไง พี่อ่ะต้องโดนพร้อมกับผม”             พูดแล้วปัถย์ก็ขำอีกจนปูรณ์ต้องห้าม ก่อนจะเฉลยคำตอบที่ทำให้ไวทย์ร้องเสียงหลง             “ทั้งคู่อยากได้เอ็งเป็นเขย”             “เฮ้ย! เป็นไปไม่ได้หรอกพี่”             “เป็นไปได้และก็เป็นไปแล้ว ทั้งพี่สาวและพี่เขยเอ็ง ตั้งใจจับเอ็งทำลูกเขยว่ะ”             “ผมไม่เชื่อพี่หรอก นี่มันเรื่องบ้าไปแล้ว พี่วิวผมยังพอเข้าใจ แต่พี่โน้ตนี่… ผมไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด จะมีพ่อที่ไหน ส่งลูกสาวมาเข้า…”             “ปากหมา”             ปัถย์ตอบโดยเร็วยิ่งทำให้ไวทย์หน้ามุ่ย “เออว่ะ ข้ามันปากหมา แต่ถึงเป็นหมาก็หมาป่านะโว้ย! แล้วพ่อที่ไหนวะจะส่งลูกสาวมาให้ข้าเคี้ยว”             “มีสิวะ ก็หมาอย่างเอ็งมันธรรมดาซะที่ไหน ทายาทโรงแรมห้าดาวประจำจังหวัดเชียวนะโว้ย! ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตก็เหมือนกันเปี๊ยบ สัตวแพทย์หนุ่มรูปหล่อผู้กินอุดมการณ์แทนอาหาร คนดีศรีชาวบ้าน คนดีของหมูหมากาไก่วัวควายแพะแกะม้า ยกเว้นขัดใจแม่เท่านั้น”             “ไอ้บ้า! ข้าไม่เชื่อเอ็งหรอก พี่โน้ตเขาก็รวยมากนะโว้ย! ไหนจะธุรกิจนำเข้า ไหนจะเฟรนไชส์ร้านอาหารอีกเป็นร้อยสาขา แค่ธุรกิจพวกนี้ยายหนูหน่อยก็เหมือนขี้ให้แมลงวันมาตอมอยู่แล้ว และหนูหน่อยก็ไม่ได้ขี้ริ้ว…”  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD