รถญี่ปุ่นสีขาวคันเล็กน่ารักเหมือนกับเจ้าของที่เมาหลับอยู่ตรงเบาะหลัง กำลังมุ่งหน้าไปตามทางที่ GPS ในโทรศัพท์บอก โดยคนขับคือผู้ชายผมสีทอง นัยน์ตาสีฟ้า ที่ตอนนี้กำลังทำหน้าบอกบุญไม่รับขั้นสุด
เหนื่อยก็เหนื่อย ยังต้องมารับผิดชอบคนเมาที่ไม่ได้รู้จักกันเลยสักนิด
ใช้เวลาอยู่เกือบสองชั่วโมงก็มาถึงคอนโดวีเค ความจริงก็ควรที่จะมาถึงเร็วกว่านี้ แต่เพราะห่างเมืองไทยไปนาน ทำให้ไม่คุ้นกับถนนสักเท่าไหร่ ถึงแม้จะเปิด GPS แล้วก็ตาม การขับรถในตอนดึกเพื่อหาสถานที่ที่ไม่รู้จักเลยเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบากอยู่มาก
ขุนเขาหยิบคีย์การ์ดที่ได้มาจากกระเป๋าของมีนตราออกมาเตรียมไว้ แล้วก็อุ้มคนเมาที่ไม่ได้สติขึ้นมาข้างบน ดีหน่อยที่เธอตัวเล็ก ทำให้ไม่ลำบากสักเท่าไหร่ แต่สายตาของคนในบริเวณนี้ที่กำลังมองมานี่สิ จะมีใครคิดว่าเขามอมเหล้าเธอหรือเปล่าก็ไม่รู้
อยู่ในลิฟต์ไม่นานเท่าไหร่ก็มาหยุดอยู่ชั้น 11 ประตูเปิดออก ขุนเขาก็รีบอุ้มมีนตราเดินตรงมายังห้องของเธอทันที
“ห้องเล็กกว่าที่คิด” ขุนเขาพึมพำกับตัวเอง หลังจากที่เปิดประตูห้องเข้ามา สายตาคมมองซ้ายขวาเพื่อดูว่าจะวางเธอไว้ตรงไหนได้บ้าง แต่คงไม่มีที่ไหนดีเท่ากับโซฟาในห้องนั่งเล่นอีกแล้ว เพราะจะถือวิสาสะเข้าไปในห้องนอน ก็คงดูไม่ดีเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าเหตุผลที่มาที่นี่ก็เพื่อมาส่งคนเมาก็ตาม
“นี่”
หลังจากวางเธอไว้บนโซฟาเรียบร้อย ในขณะที่กำลังจะเดินออกจากห้อง ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับมือเล็กที่ดึงชายเสื้อของเขาเอาไว้
ขุนเขาหันกลับมามอง ก็เห็นมีนตราลุกขึ้นมานั่งด้วยท่าทางโอนเอน จะล้มแหล่มิล้มแหล่
“ผมจะกลับแล้วครับ คุณนอนไปเถอะ”
“อยู่ต่อก่อนสิ”
คนตัวสูงยืนมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความแปลกใจ เธอเมา เขารู้ดี แต่ทำไมสีหน้าของเธอตอนนี้ถึงได้ดูน่าสงสารนัก
“ผมแค่มาส่งคุณตามที่ไอ้เคนขอร้อง คงอยู่ด้วยไม่ได้ครับ” ขุนเขาตอบออกไปพร้อมกับพยายามแกะมือเธอออกจากชายเสื้อ แต่ยิ่งแกะ มือเล็ก ๆ นี่ก็ยิ่งกำแน่นเข้าไปใหญ่
“สอนหน่อยสิ”
“หืม...”
ยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าเธอต้องการอะไรตอนนี้ แต่ก็อย่างว่า อาการคนเมา คงแค่พูดไปเรื่อย
“เซ็กซ์น่ะ สอนให้หน่อย”
ขุนเขาได้แต่ยืนมองมีนตราเงียบ ๆ ที่ว่าอกหักคงจะเป็นเรื่องจริง และสาเหตุคงหนีไม่พ้นเรื่องที่เธอกำลังขอร้องเขาอยู่ตอนนี้
“คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา เมาแล้วก็นอนเถอะครับ”
เขาพยายามควบคุมสติอารมณ์ของตัวเองอยู่ ผู้หญิงตรงหน้าสวยน้อยเสียเมื่อไหร่ ยิ่งหน้าตาตอนเมาก็ยั่วอารมณ์ขนาดนี้ เสื้อผ้าที่ใส่ก็เว้าบนเว้าล่าง แถมจู่ ๆ ยังมาขอให้ช่วยเรื่องเซ็กซ์ ต่อให้เป็นพ่อพระก็ไม่รู้จะทนไหวหรือเปล่า
“อยากให้สอนเรื่องอะไรก่อนดีล่ะ”
ในเมื่อเธอเสนอ เขาก็มีหน้าที่ต้องสนอง ถึงจะบอกว่ากำลังเมา แต่ถ้าปกติไม่ใช่คนแบบนี้ ก็คงไม่พูดอะไรอย่างนี้ออกมาแน่ ๆ
“จูบ สอนจูบหน่อย” แต่คำตอบของเธอกลับยิ่งเพิ่มความแปลกใจมากขึ้นไปอีก
ผู้หญิงที่ไม่เคยรู้จักแม้กระทั่งการจูบ แต่กล้าชวนผู้ชายให้สอนเรื่องเซ็กซ์ พอเมาแล้วก็คงทำให้ใจกล้าขึ้นสินะ
“ได้สิ ผมจะสอนให้”
ขุนเขาหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาข้าง ๆ มีนตรา ฝ่ามือหนาสัมผัสหัวทุยแผ่วเบา ก่อนที่จะดันใบหน้าของเธอให้เข้ามาแนบชิด ริมฝีปากหยักกดจูบลงไปอย่างละเมียดละไม ดูดดึงปากบางเล็กของเธออย่างนุ่มละมุน
อึก อ่อก แหวะ...
แต่ยังไม่ทันถึงไหน หญิงสาวตรงหน้าก็ผลักเขาออกพร้อมกับอ้วกออกมา แน่นอนว่าอ้วกของเธอมันเปื้อนเสื้อผ้าของเขาเต็มไปหมด รวมถึงชุดที่เธอสวมอยู่ด้วย ไม่แค่นั้น พออ้วกเสร็จ มีนตราก็ล้มพับลงบนโซฟาแล้วก็หลับไปทันที
“อะไรวะเนี่ย”
ขุนเขายกมือขึ้นเสยผมด้วยความหงุดหงิด ก้มมองดูสภาพตัวเองกับเธอแล้วก็ยิ่งทำให้อารมณ์เสีย นี่มันคงจะเป็นวันที่ซวยที่สุดในปีนี้เลยก็ว่าได้ ต้องมาส่งคนเมาที่ไม่รู้จักกัน แถมยังมาอ้วกใส่อีก
แต่ว่า..ตัวเองก็ไม่ใช่ผู้ชายใจจืดใจดำอะไรขนาดนั้น จะปล่อยผู้หญิงที่เมานอนจมกองอ้วกเหม็น ๆ ทิ้งไว้แบบนี้ก็ไม่ได้ แล้วจะให้กลับออกไปด้วยสภาพที่เสื้อผ้าเลอะเปื้อนแถมมีกลิ่น ก็ยิ่งทำไม่ได้เข้าไปใหญ่
“เฮ้อ!”
ขุนเขาตัดสินใจอุ้มมีนตราเข้ามาในห้องนอนของเธอ วางคนที่ไม่ได้สติลงบนเตียง แล้วถือวิสาสะเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาชุดนอนแล้วเปลี่ยนให้
ได้ชุดมาแล้ว สิ่งที่ยากที่สุดในตอนนี้ก็คงเป็นการที่ต้องถอดเสื้อผ้าของเธอออก แล้วสวมชุดใหม่เข้าไป
“เอาวะ ก็ไม่ใช่ไม่เคยเห็นของผู้หญิงเสียหน่อย”
เขาค่อย ๆ ปลดชุดเดรสสายเดี่ยวสีดำของเธอออกจากตัว และนั่นก็ยิ่งทำให้อารมณ์ของเขามันควบคุมลำบากเข้าไปใหญ่ เพราะเธอสวย สวยไปทั้งตัวและทุกส่วน
“คิดอะไรอยู่วะเนี่ย” ขุนเขารีบสลัดความคิดนั้นออกจากหัว แล้วสวมชุดนอนให้เธอทันที
จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้มีนตราเสร็จแล้ว เขาก็เดินออกมานอกห้องเพื่อหาเครื่องซักผ้า อย่างน้อย ๆ พรุ่งนี้เสื้อแห้งแล้วจะได้ใส่กลับคอนโดตัวเอง
ร่างหนักทิ้งตัวลงบนโซฟาด้วยสภาพที่ท่อนบนเปลือยเปล่า ส่วนช่วงล่างมีแค่กางเกงขายาวสีดำ โชคดีที่มันไม่เปื้อนอ้วกของเธอไปด้วย
ด้วยความเหนื่อยจากการเดินทาง ทั้งยังต้องขับรถมาถึงที่นี่ ทำให้ขุนเขาหลับไปในเวลาไม่นาน
/////
รุ่งเช้า
อื้อ...
ร่างเล็กที่คุดคู้อยู่บนเตียง ค่อย ๆ ขยับร่างกายบิดขี้เกียจไปมา สองแขนพยายามยันตัวให้ลุกขึ้น แต่ในหัวกลับหนักอึ้งจนแทบจะลุกไม่ไหว ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบ ๆ ห้อง พร้อมกับก้มมองดูตัวเอง
“นี่กลับมาถึงห้องได้ยังไงนะ แล้วก็ยังเปลี่ยนชุดได้ด้วย ไม่น่าเชื่อ”
มีนตราพึมพำกับตัวเอง เธอจำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง ภาพจำสุดท้ายก็คือขวดเหล้าขวดที่สองที่พนักงานยกมาเสิร์ฟ ดื่มไปได้ไม่กี่แก้ว จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
“ช่างเถอะ อย่างน้อยก็กลับมาถึงห้องอย่าง ปะ ปลอด ปลอดภัย”
ในขณะที่กำลังพูดกับตัวเอง มันเป็นจังหวะเดียวกับที่มีนตราเปิดประตูห้องนอนออกมา และนั่นก็ทำให้คำพูดของเธอติดขัด เมื่อสายตามองเห็นผู้ชายตัวโตคนหนึ่งนอนอยู่บนโซฟา
“นี่เมาถึงขนาดหิ้วเด็กร้านคุณเคนกลับมาด้วยเลยเหรอ เชี่ย ทำไปได้ยังไงเนี่ย”
สองขาเรียวค่อย ๆ เดินเข้าไปดูคนที่นอนหลับอยู่ใกล้ ๆ แค่เห็นหน้าก็ทำเอาหัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะ ทั้งผมสีทอง ทั้งรูปร่างหน้าตาที่ออกไปทางลูกครึ่ง มันส่งให้เขาดูดีมากจริง ๆ ขนาดนอนหลับอยู่ก็ยังหล่อมาก
“อ๊ะ”
มีนตราอุทานออกมาด้วยความตกใจ พร้อมกับก้าวถอยหลังอัตโนมัติ เมื่อจู่ ๆ เขาก็ลืมตาขึ้นมา และนั่น มันก็ทำให้เธอเห็นว่า ผู้ชายคนนี้มีนัยน์ตาสีฟ้าที่ดูน่าหลงใหลมาก
“คะ คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ” น้ำเสียงที่ถามออกไปนั้นแผ่วเบาจนอีกฝ่ายแทบจะไม่ได้ยิน แต่ก็ยังพอจับใจความได้บ้าง
“ผมมาส่งคุณตามคำขอของเจ้าของร้าน แต่คุณรั้งให้ผมอยู่ต่อ” ขุนเขาตอบออกไปตามตรง พร้อมกับลุกขึ้นเดินไปหยิบเสื้อเชิ้ตสีดำที่ตากเอาไว้มาใส่
มีนตราเริ่มก้มมองสำรวจร่างกายตัวเอง ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าเสื้อผ้าชุดนี้...
“ผมเป็นคนเปลี่ยนให้คุณเอง”
เหมือนเขาจะรู้ทันความคิด เลยตอบคำถามในสิ่งที่เธออยากรู้ออกมา
“ค่าตัวคุณเท่าไหร่คะ”
“หืม...”
เมื่อได้ยินคำถาม ทำเอาขุนเขาหันขวับไปมองหน้าเธอ ซึ่งมีนตราก็กำลังจ้องหน้าเขาอยู่เช่นกัน
“คือฉันรู้ค่ะว่าคุณทำงานในร้านของคุณเคน แล้วการที่ต้องมาค้างกับลูกค้าแบบนี้ มันก็ต้องมีค่าตัว”
ในระหว่างที่พูด ดวงตาคู่สวยก็ก้มลงมองพื้น ยิ่งพูดก็ยิ่งอาย ไม่คิดว่าความเมาจะทำให้เธอหิ้วผู้ชายกลับมาที่ห้องด้วย แต่มุมปากของคนที่โดนถามกลับหยักโค้งขึ้นอย่างมีเลศนัย
“แล้วคุณคิดว่าต้องจ่ายผมเท่าไหร่ล่ะ ค่าตัวผมแพงมากด้วยนะ”
“คะ คือฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ไม่เคยพาใครออกมาแบบนี้จริง ๆ” ยิ่งเธอพูดเขาก็ยิ่งชอบใจ โดยเฉพาะไอ้อาการตัวสั่นเล็ก ๆ เหมือนกำลังกลัว หรือสับสนนั่นอีก ท่าทางน่าสนุก เล่นด้วยสักหน่อยคงไม่เป็นไร
“หนึ่งแสน สำหรับค่าตัวผมหนึ่งคืนที่ผ่านมา”
“คะ นะ หนึ่งแสนเลยเหรอ”
เมื่อได้ยินราคาที่เขาบอกมา ทำเอามีนตราถึงกับอ้าปากค้าง ก็คิดอยู่ว่าราคาคงไม่ใช่ถูก ๆ แต่ไม่คิดว่าจะแพงขนาดนี้ แต่พอมองดูเขาในตอนนี้ ก็คงไม่แปลกเท่าไหร่ที่เรียกราคาสูง ทั้งรูปร่างหน้าตาและบุคลิกของเขามันดูดีไปเสียทุกอย่าง นี่คงเป็นตัวท็อปของร้านแน่ ๆ
“หนึ่งแสนนี่ถือว่าผมคิดคุณราคาเป็นกันเองแล้วนะครับ เพราะปกติเวลาแต่ละนาทีของผมมีค่ามาก มากจนคุณคิดไม่ถึงเลยล่ะ แล้วอีกอย่าง ไอ้สิ่งที่ผมบริการคุณไปเมื่อคืน มันก็มากกว่าตอนที่ผมบริการคนอื่น ๆ เสียอีก”
ในขณะที่กำลังพูด ขุนเขาก็ก้าวเท้าเข้าไปใกล้เธอมากยิ่งขึ้น ดวงตาคู่นั้นจ้องมองคนตรงหน้า ราวกลับต้องการจะกลืนกินเธอลงไปทั้งตัว
“ถ้าอย่างนั้นก็บอกเลขบัญชีคุณมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวฉันโอนให้ ในกระเป๋าฉันไม่มีเงินสดมากขนาดนั้น”
“พูดง่ายจัง คุณเป็นลูกค้าที่น่ารักที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลยนะครับ”
ขุนเขาหยิบกระดาษกับปากกาที่วางอยู่บนโต๊ะมาจดเลขบัญชีธนาคารให้เธอ ไม่นานเสียงข้อความเตือนมีเงินเข้าในบัญชีก็ดังขึ้น
“ขอบคุณมากนะครับคุณลูกค้า แล้วเจอกันใหม่ครับ”
เขาพูดเพียงแค่นั้นแล้วก็หยิบกระเป๋าเงินกับโทรศัพท์ของตัวเองแล้วก็ออกจากห้องของเธอไป ทิ้งให้มีนตรายืนนิ่งคิดถึงเรื่องเมื่อคืนอยู่คนเดียว
“มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเราจำอะไรไม่ได้เลย หรือว่า เมื่อคืนจะมีอะไรกับผู้ชายคนนั้นจริง ๆ” เธอได้แต่พึมพำกับตัวเอง แต่มันก็แปลกอยู่อย่าง ขนาดอยู่ใกล้กันขนาดนี้แท้ ๆ ทำไมถึงไม่มีความรู้สึกนั้นออกมา ความรู้สึกที่หวาดกลัวผู้ชายที่ตัวเองไม่รู้จัก ทั้งที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อของเขาด้วยซ้ำ
/////
ขุนเขาเดินมาตามทางเดินเรื่อย ๆ ใบหน้าหล่อเหลาเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ในหัวกำลังคิดอะไรบางอย่าง ว่าแล้วก็ล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมา
// ไอ้ขุน มีอะไรวะ โทรมาทำไมแต่เช้า//
“แกช่วยส่งนามบัตรคุณมีนให้ฉันหน่อยสิ พอดีฉันอยากจะได้คนมาออกแบบตกแต่งห้องทำงานให้หน่อย”
// เรื่องแค่นี้เนี่ยนะ แกส่งข้อความทิ้งไว้ก็ได้หรือเปล่าวะ จะโทรมากวนทำซากอะไรตอนเช้า ๆ//
“เออ ๆ ขอโทษ รีบ ๆ ล่ะฉันรออยู่”
ขุนเขาวางสายไปแล้ว ไม่นานก็มีข้อความจากเพื่อนส่งมาหา พร้อมกับรูปภาพนามบัตรของมีนตรา เห็นเพียงแค่นั้น รอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์ก็ผุดขึ้นบนใบหน้าอีกครั้ง
“แล้วเจอกันนะครับคุณมีน”
///////////////////////////////////////////////////////