มีนตราทิ้งตัวลงบนที่นอน ดวงตาเอาแต่มองฝ้าเพดานแล้วพยายามนึกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่พยายามเท่าไหร่ก็จำอะไรไม่ได้เลย
มันมีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นกับร่างกายของเธอ ปกติเวลาอยู่ใกล้ผู้ชายที่ไม่รู้จักจะมีอาการแพนิค ตัวสั่น หายใจไม่ออก จนกว่าจะได้ทำความรู้จักสักพักถึงจะเริ่มดีขึ้น ขนาดกับพิภพ อดีตแฟนที่เพิ่งเลิกรากันไป กว่าจะได้คุยกันอย่างสนิทใจก็ใช้เวลาหลายเดือน
แต่กับผู้ชายผมสีทองที่อยู่ในห้องเธอเมื่อเช้า มีนตรากลับสามารถมองหน้าเขาใกล้ ๆ ได้โดยที่ไม่รู้สึกกลัวหรือแพนิคแม้แต่น้อย
“มันเพราะอะไรกัน” เธอพูดกับตัวเอง ฝ่ามือวางทาบลงบนหน้าอกด้านซ้าย ตอนนี้สัมผัสได้ว่าหัวใจเต้นแรงมาก มันเต้นแรงยิ่งกว่าตอนที่โดนพิภพขอเป็นแฟนเสียอีก
“หรือว่าจะหายแล้ว” มันเป็นสิ่งเดียวที่มีนตราคิดออก บางทีไอ้โรคกลัวผู้ชายแปลกหน้าของเธออาจจะหายเป็นปกติแล้วก็ได้
มือเล็กรีบควานหาโทรศัพท์ที่ทิ้งไว้บนที่นอน แล้วก็กดเบอร์โทรออกหาเพื่อนสนิททันที รอสายอยู่ไม่นานมีนาก็กดรับ
//ว่าไงมีน แกดีขึ้นบ้างหรือยัง//
เสียงปลายสายถามออกมาด้วยความเป็นห่วง เพราะเป็นเพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่ประถม ทำให้ทั้งคู่สนิทกันมาก
“มีนา ฉันมีเรื่องจะบอกแก”
//เรื่องอะไร ท่าทางตื่นเต้น ข่าวดีเหรอ//
พอได้ยินเพื่อนมีอะไรจะบอก ก็ทำเอามีนาตื่นเต้นไปด้วย
“คืองี้ ฉันว่า ฉันหายจากโรคกลัวผู้ชายแปลกหน้าแล้วล่ะ”
//จริงดิ แล้วแกรู้ได้ไง//
“ก็เมื่อคืนฉันไปกินเหล้าร้านคุณเคน เมามาก แล้วก็ไม่รู้ว่าหิ้วเด็กร้านคุณเคนกลับมาด้วยได้ยังไง”
//ห๊า!!//
ทันทีที่มีนตราพูดจบประโยค มีนาก็ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
//เดี๋ยวนะมีน ไอ้เรื่องโรคกลัวผู้ชายนั่นเอาไว้ก่อน ว่าแต่แกไปกินเหล้าท่าไหนถึงได้เมาขนาดหิ้วผู้ชายกลับมาด้วย//
“ไม่แน่ใจเหมือนกัน มารู้ตัวก็ตอนเช้าแล้วอะ”
//ละ แล้วได้ทำอะไรกันหรือเปล่า//
มีนายังคงถามต่อด้วยความสนใจ ถ้าเพื่อนหายจากโรคที่ว่ามันก็เป็นข่าวดีมาก ๆ แต่ที่ดีมากยิ่งกว่าก็คือ เพื่อนซี้ของเธอสามารถอยู่กับผู้ชายคนอื่นและไม่ฟูมฟายถึงไอ้ผู้ชายเฮงซวย
“คิดว่าไม่ เพราะเขานอนข้างนอก ส่วนฉันนอนในห้อง แต่เขาบอกว่าเป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉันนะ”
//เปลี่ยนเสื้อผ้า ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าเขาเห็นของแกหมดแล้วดิ//
พอได้ยินประโยคนี้ของเพื่อนก็ทำเอามีนตราหน้าแดงแจ๋ขึ้นมาทันที นั่นสินะ ทำไมเธอถึงลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย เขาถอดเสื้อผ้าเธอ ก็ต้องเห็นร่างกายเธอแล้วทุกส่วน
สองสาวคุยกันต่ออีกสักพักมีนาก็ขอวางสายก่อนเพราะต้องรีบทำงานส่งลูกค้า ส่วนมีนตราก็ยังนอนอยู่ที่เดิม นัยน์ตาคู่สวยมองไปยังเพดานห้องไม่ได้ขยับตัวไปไหน
ตื้ด...ตื้ด...
แล้วโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง แต่พอหยิบมาดูกลับเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเอาเสียเลย มีนตราตัดสินใจกดรับเพราะเกรงว่าอาจจะเป็นลูกค้าโทรมาติดต่อเรื่องงาน
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ คุณมีนตราหรือเปล่าครับ”
เสียงปลายสายที่โทรมาเป็นผู้ชาย แต่เธอก็ไม่คุ้นเสียงนี้เลยสักนิด
“ค่ะ มีนตราพูดอยู่ค่ะ” มีนตราตอบรับและแนะนำตัวเองสั้น ๆ ให้อีกฝ่ายรู้
“ผมชื่อณวัตครับ ติดต่อมาจากบริษัท KK กรุ๊ป พอดีว่าท่านประธานต้องการให้คุณมีนตรามาออกแบบตกแต่งห้องทำงานให้หน่อยครับ”
พอได้ยินธุระที่อีกฝ่ายโทรมา ก็ทำเอามีนตราได้แต่เบิกตาโตอ้าปากค้างอยู่คนเดียว จะไม่ได้ตกใจได้ยังไง ก็ KK กรุ๊ป ได้ชื่อว่าเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทยเชียวนะ แล้วจู่ ๆ ก็มีคนโทรมาบอกว่าต้องการให้เธอไปออกแบบตกแต่งห้องทำงานให้ท่านประธาน เรื่องนี้มันยิ่งกว่าฝันไปเสียอีก
ถึงจะยังสงสัยว่าคนระดับนั้นได้เบอร์นักออกแบบที่ไร้ชื่อเสียงอย่างเธอมาได้ยังไง แต่ก็ช่างมันเถอะ ตอนนี้ต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อน
สามวันต่อมา
มีนตรายืนอยู่ด้านหน้าตึกสูงเสียดฟ้า ที่มีป้ายขนาดใหญ่บอกเอาไว้อย่างชัดเจนว่าเป็นตึกของ KK กรุ๊ป ขาเรียวที่จะก้าวเข้าไปข้างใน จู่ ๆ ก็รู้สึกประหม่า ถึงจะเคยทำงานร่วมกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์มาบ้าง แต่ก็ไม่เคยทำงานให้กับบริษัทที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อน
ลมหายใจถูกพ่นออกมายาว ๆ หลายครั้งติดกัน เพื่อไล่ความตื่นเต้นที่อยู่ข้างใน
“เอาวะมีน ถ้างานนี้ผ่านไปด้วยดี โปรไฟล์ก็จะดีขึ้นอีกเยอะ” เธอพูดขึ้นเพื่อเรียกความมั่นใจให้กับตัวเอง สองเท้าก้าวเข้ามาข้างใน แล้วเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ที่อยู่ด้านหน้า
“สวัสดีค่ะ พอดีดิฉันมีนัดกับคุณณวัตค่ะ คุณณวัตแจ้งให้มาออกแบบตกแต่งห้องให้ท่านประธานค่ะ”
มีนตราแจ้งธุระของตัวเองให้พนักงานด้านหน้าฟัง หลังจากที่ค้นหาอะไรสักอย่างในคอมพิวเตอร์ พนักงานหญิงตรงหน้าก็ส่งยิ้มมาให้
“เช็คตารางนัดให้เรียบร้อยแล้วนะคะ เชิญคุณมีนตราทางนี้ได้เลยค่ะ” พูดเสร็จ คนที่อยู่ในเคาน์เตอร์ก็เดินนำเธอมายังลิฟต์ที่อยู่ไม่ไกล
ติ๊ง...
และทันทีที่ลิฟต์เปิดออก ก็เห็นว่ามีพนักงานอยู่ในนั้นคอยทำหน้าที่บริการอยู่คนหนึ่ง
“รบกวนพาคุณมีนตราไปส่งยังห้องท่านประธานด้วยนะคะ” พูดกับคนด้านในเสร็จ พนักงานหญิงคนเดิมก็เดินกลับไปยังเคาน์เตอร์ประจำตำแหน่งของตัวเอง
มีนตราก้าวเข้าไปยืนในลิฟต์ จากนั้นพนักงานก็กดไปยังชั้น 16 ใช้เวลาไม่นานนักลิฟต์ก็มาจอดยังชั้นที่ต้องการ
“ห้องท่านประธานเดินตรงไปจนสุดเลยนะครับ”
“ขอบคุณมากนะคะ”
เธอก้มศีรษะเพื่อเป็นการขอบคุณพนักงานในลิฟต์ แล้วก็เดินออกมาตรงไปยังห้องท่านประธาน
“สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อมีนตราค่ะ” มีนตราเอ่ยทักทายคนที่นั่งอยู่หน้าห้อง
“คุณมีนตรา มาแล้วเหรอครับ ผมณวัตนะครับ เอ่อ คนที่โทรไปหาคุณน่ะครับ”
“อ๋อค่ะ มีนจำได้ค่ะ” เธอพยักหน้าขึ้นลงเพื่อยืนยันว่าจำได้
“เชิญเข้าไปด้านในได้เลยครับท่านประธานรออยู่”
ได้ยินแบบนั้น มีนตราก็ก้าวไปหยุดยืนอยู่หน้าประตูบานใหญ่ ใช้หลังมือเล็กเคาะลงไปสามครั้งเพื่อเป็นการขออนุญาตคนที่อยู่ด้านใน
“สวัสดีค่ะท่านประธาน ดิฉันชื่อมีนตรา ค่ะ คนที่ท่านประธานนัดให้มา อะ ออก บะ แบบ”
เสียงหวานที่กำลังกล่าวแนะนำตัวเองติดขัดทันที เมื่อชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงานตัวใหญ่เงยหน้าขึ้นมามองเธอดวงตาคู่สวยเบิกโตแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
“สวัสดีครับคุณมีนตรา เจอกันอีกแล้วนะครับ”
ชายหนุ่มที่มีผมสีทอง นัยน์ตาสีฟ้า ตัวสูงล่ำ หน้าตาหล่อเหลาดูดีไปทุกส่วน เขาคือผู้ชายที่เธอหิ้วกลับห้องเมื่อครั้งก่อน
“คะ คุณ ไม่ใช่เด็กร้านคุณเคนเหรอคะ” คำถามออกจากปากไวตามใจคิด หากถ้าเขาไม่ใช่เด็กในร้าน แล้วทำไมถึงได้บอกว่าคุณเคนให้ไปส่งเธอ
“ที่จริงผมก็ไม่เคยบอกคุณเลยนะครับว่าผมเป็นเด็กที่ร้านไอ้เคน มีแต่คุณเออออไปคนเดียว อืม...ที่จริงวันนั้นคุณก็เมามาก บอกอะไรไปก็คงจำไม่ได้อยู่ดี”
ขุนเขาลุกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ แล้วหยัดยืนขึ้นเต็มความสูง นิ้วเรียวยาวจับอยู่ที่ปลายคางตัวเองคล้ายกำลังคิดอะไรอยู่
“แต่ว่า วันนั้นคุณดูจะถูกใจผมมากเลยนะครับ คุณมีน” คราวนี้ไม่เพียงแค่พูด แต่ขุนเขายังก้าวขายาว ๆ มาหยุดยืนข้างหน้าเธอเรียบร้อย แถมยังเรียกชื่อเล่นราวกับสนิทกันมานาน
“ละ แล้วถ้าคุณไม่ใช่เด็กร้านคุณเคน ทำไมคุณถึงเรียกค่าตัวตั้งแสนหนึ่งล่ะ” คราวนี้หญิงสาวถามด้วยเสียงคาดคั้น เงินหนึ่งแสนน่ะ เธอต้องนั่งหลังขดหลังแข็งออกแบบนานแค่ไหนถึงจะได้ เขารู้บ้างไหม
“ก็คุณเล่นพูดอยู่ฝ่ายเดียว ไม่ให้ผมปฏิเสธอะไรสักอย่าง ผมก็ต้องตามน้ำไปสิครับ แต่ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวผมโอนคืนให้ครับ” ขุนเขาพูดขึ้นพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาแล้วกดหน้าจออยู่ไม่กี่ครั้ง เสียงเตือนโทรศัพท์มือถือของมีนตราก็ดังขึ้น
เมื่อเปิดดูก็พบว่าเป็นข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าจำนวนหนึ่งแสนบาท
“เอาล่ะครับ ผมว่าเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ผมชื่อขุนเขาครับ ต้องการให้คุณมีนออกแบบตกแต่งห้องทำงานนี้ให้หน่อย” ขุนเขาเอ่ยบอกสิ่งที่เขาต้องการออกไป
“แล้วคุณอยากจะได้ประมาณไหนคะ ฉันจะได้ร่างแบบมาให้ดู”
ขุนเขาจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างกำลังใช้ความคิด พอเป็นเรื่องงาน ดูเธอนิ่งขึ้นมาทันที ไม่เหมือนกับคนเมาเละเทะคราวก่อนเลยสักนิด
“แบบไหนก็ได้ครับ เอาที่คุณมีนเห็นว่าเหมาะ ผมเชื่อใจคุณมีน” เขาเดินเข้ามาประชิด ใบหน้าหล่อ ๆ นั้นโน้มเข้ามาใกล้ มันใกล้จนได้กลิ่นหอม ๆ จากตัวของเขา
“ถ้าอย่างนั้นดิฉัน..”
“แทนตัวเองด้วยชื่อเล่นสิครับ ไหน ๆ เราก็สนิทกันขนาดนั้นแล้วแท้ ๆ”
คำพูดของเขาทำเอาใบหน้าของมีนตราร้อนฉ่า จริงสิ เธอลืมไปได้อย่างไรว่าผู้ชายคนนี้เคยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอมาแล้ว แต่พอนึกขึ้นมาได้ ก็ทำเอาจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวมีนร่างแบบแล้วส่งมาให้ดูนะคะ”
“รบกวนด้วยนะครับ คุณมีน”
///////////////////////////////////////////////////////
ชื่นชอบพี่ขุน อย่าลืมกดคอมเมนต์พูดคุยเป็นกำลังใจกันนะคะ ?