มีนตรากำลังจดจ่ออยู่กับหน้าจอแท็บเล็ตเพื่อออกแบบตกแต่งห้องทำงานให้กับขุนเขา เมื่อถามแล้วว่าต้องการแบบไหน แต่เขากลับตอบว่าตามใจเธอ งานยากจึงตกมาอยู่กับคนที่กำลังนั่งทำหน้าเคร่งเครียดอยู่ตอนนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้
จากการสังเกตลักษณะท่าทางของขุนเขา เป็นผู้ชายวัยสามสิบห้า ท่าทางน่าเคารพและดูน่ากลัวในคราเดียวกัน แต่บางมุม เหมือนเขาจะเจ้าเล่ห์หน่อย ๆ อีกด้วย
ถ้าทำห้องให้ออกมาเป็นโทนอบอุ่นน่าจะดี อย่างน้อย ๆ จะได้ลดความน่ากลัวในตัวเขาเวลามีพนักงานโดนเรียกเข้าไปข้างใน
"น่าจะโอเคแล้วมั้ง” มีนตราพูดกับตัวเองแล้วก็กดส่งแบบร่างไปให้ขุนเขาดู วันก่อนเขาได้ให้อีเมล์มาแล้ว แถมยังกำชับไว้อีกว่ามีความคืบหน้าอะไรให้ส่งทางอีเมล์ได้เลย
ตื้ด ตื้ด..
หลังจากส่งอีเมล์ไปได้ไม่นาน เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น มองดูชื่อปลายสาย แต่กลับเป็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเอาเสียเลย
“สวัสดีค่ะ มีนตราพูดค่ะ”
ก็เพราะกลัวว่าจะเป็นลูกค้าติดต่อมา มีนตราจึงรีบกดรับสายทันที
“สวัสดีครับคุณมีนตรา ผมขุนเขาเองนะครับ พอดีภาพที่คุณส่งอีเมล์มาให้ผมมันไม่ชัดเลยครับ พยายามดูแล้วแต่ก็ไม่เห็นรายละเอียดเท่าที่ควร”
ได้ยินแบบนั้นมีนตราก็เริ่มรู้สึกร้อนใจ นี่เป็นครั้งแรกที่การส่งแบบร่างผ่านอีเมล์เกิดความผิดพลาด ปกติลูกค้าคนอื่นก็ได้รูปที่ชัดเจนตลอด
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวมีนส่งให้คุณใหม่นะคะ”
เธอรีบบอกออกไปทันที ส่วนสรรพนามที่ใช้ชื่อตัวเองแทนคำว่าฉัน ก็เพราะเขาเป็นคนสั่งให้พูดนั่นแหละ
“ผมว่าคุณมีนเอามาให้ผมดูที่บริษัทดีกว่าครับ เผื่อมีอะไรแก้ไขเพิ่มเติม ผมจะได้แจ้งคุณมีนทีเดียว”
“อะ เอาอย่างนั้นเหรอคะ”
“ครับ เจอกันบ่ายโมงนะครับ”
มีนตราถอนหายใจออกมายาว ๆ หนึ่งครั้ง เธอไม่ค่อยอยากจะไปเจอหน้าเขาบ่อย ๆ ก็เพราะวีรกรรมของตัวเองที่เมาจนต้องให้ขุนเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ถึงเธอจะยังไม่รู้สาเหตุว่าทำไมเขาต้องเปลี่ยนชุดให้เธอ ทั้งที่ปล่อยให้นอนไปแบบนั้นก็ได้ ถ้าจะอยากทำมิดีมิร้าย แต่ร่างกายก็ไม่มีอะไรผิดปกติ
“มีเวลาสามชั่วโมงเอง”
เมื่อยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู ทำให้ต้องรีบเก็บของทุกอย่างที่จำเป็นแล้วมุ่งหน้าไปยังบริษัท KK กรุ๊ป ให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องฝ่าฟันรถติดจนไปไม่ทันบ่ายโมงก็เป็นได้
/////
12 นาฬิกา 45 นาที มีนตราก็มายืนอยู่หน้าบริษัทแล้วเรียบร้อย สองขาเรียวรีบก้าวเดินไปทางลิฟต์ที่พนักงานเคยพาเธอขึ้นเมื่อครั้งก่อน เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ก็เห็นพนักงานบริการคนเดิมอยู่ในนั้น
“ไปห้องท่านประธานค่ะ” เสียงหวานเอ่ยบอกคนที่อยู่ด้านใน พร้อมกับก้มหัวลงเล็กน้อย ใช้เวลาไม่นานนัก ตอนนี้ก็มาหยุดยืนอยู่หน้าห้องของเขา แต่วันนี้ไม่มีผู้ชายที่เฝ้าหน้าห้องเหมือนคราวก่อน
หลังมือเล็กเคาะลงที่ประตูสามครั้งเช่นเดิมก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไป แล้วเธอก็เห็นว่าขุนเขากำลังจดจ่ออยู่กับกองเอกสารบนโต๊ะ ขนาดเธอหยุดยืนอยู่ตรงหน้าแล้ว เขาก็ยังไม่เงยหน้าขึ้นมามอง
“รอสักครู่นะครับคุณมีน ผมขออ่านเอกสารแผ่นนี้ครู่เดียวครับ”
แต่ถึงไม่มอง คนตัวโตตรงหน้าก็ยังเอ่ยพูดกับเธอ ราวกับกลัวว่าเธอจะทำตัวไม่ถูกหากเขายังนั่งอยู่เงียบ ๆ
มีนตราหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาเพื่อรออีกฝ่าย สายตากวาดมองไปรอบ ๆ ห้อง ที่จริงห้องนี้ก็ยังดูใหม่มาก เหมือนเพิ่งจะตกแต่งใหม่ได้ไม่นาน การออกแบบและสีก็ดูลงตัว ไม่เห็นจำเป็นต้องทำใหม่เลยสักนิด
“มองอะไรอยู่เหรอครับ” เพราะมัวแต่มองห้องนี้เพลิน เลยทำให้ไม่รู้ว่าขุนเขาลุกจากโต๊ะทำงานมายืนตรงหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่
“มีนกำลังมองการตกแต่งของห้องนี้ค่ะ ทุกอย่างก็ดูใหม่มาก ทำไมคุณขุนถึงอยากตกแต่งใหม่ล่ะคะ” มีนตราเอ่ยบอกไปตามตรง จากที่มอง ทุกอย่างก็ดูเหมาะกับท่านประธานอย่างเขาดี
“มันก็สวยครับ แต่ผมแค่ไม่ถูกใจ พอดีเห็นไอ้เคนบอกว่าคุณมีนเป็นคนออกแบบร้านให้มัน ผมก็เลยอยากให้คุณมีนมาออกแบบตกแต่งให้ครับ” ขุนเขาตอบกลับ แล้วก็หย่อนตัวลงนั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้าม เห็นแบบนั้น มีนตราจึงรีบเปิดแท็บเล็ตของตัวเองทันที เพื่อจะให้เขาได้ดูภาพที่ร่างไว้
ขุนเขารับแท็บเล็ตมาจากมือของอีกฝ่าย แล้วก็จ้องมองหน้าจอนิ่ง ๆ นิ่งจนมีนตรารู้สึกกังวลใจ
“เป็นยังไงบ้างคะ ชอบมั้ยคะ”
ได้ยินคำถาม ขุนเขาก็เงยหน้าขึ้นมา นัยน์ตาสีฟ้าจ้องมองหญิงสาวนิ่งเงียบ ก่อนที่จะเอ่ยบอกคำตอบ
“ชอบครับ ชอบมาก” เขาตอบออกมาทั้ง ๆ ที่สายตายังมองอยู่ที่เธอไม่ละไปไหน
“เอ่อ ถ้าอย่างนั้นมีนลงรายละเอียดตามแบบนี้เลยนะคะ” มีนตรารีบบอกแล้วรับแท็บเล็ตกลับมา นัยน์ตาคู่สวยหลุบมองต่ำ เธอไม่กล้าสบสายตากับเขาเอาเสียเลย แม้จะไม่ได้กลัว ไม่ได้แพนิค แต่มันมีความรู้สึกบางอย่างที่บอกไม่ถูกเกิดขึ้น
“ครับ เอาตามนี้เลยครับ แล้วนี่คุณมีนกินข้าวเที่ยงมาหรือยังครับ”
“คะ?” มีนตราขานรับด้วยความแปลกใจ จู่ ๆ เขาถามเรื่องข้าวเที่ยงทำไม
“ผมคิดว่าคุณคงรีบมาที่นี่จนยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงน่ะครับ” พูดเสร็จก็ยกนาฬิกาที่สวมบนข้อมือขึ้นมาดู ตอนนี้บอกเวลาเกือบบ่ายสองเข้าไปแล้ว
“ที่จริงก็ยังไม่กินค่ะ แต่เดี๋ยวกลับจากที่นี่ค่อยไปกินค่ะ” มีนตราตอบตามความจริง ใครจะไปกินทัน เขาบอกให้เธอเข้ามาที่นี่ตอนบ่ายโมง จากคอนโดของเธอมาถึงนี่ใช้เวลาตั้งชั่วโมงกว่า ๆ
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกินด้วยกันนะครับ พอดีผมจองร้านอาหารไว้แล้ว ไม่อยากกินคนเดียว”
“คะ?”
เป็นอีกครั้งที่มีนตราขานรับด้วยความแปลกใจ จู่ ๆ ก็มาชวนไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน เธอกำลังลังเล และขุนเขาก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกนั้น
“ถือซะว่าผมเลี้ยงตอบแทนที่คุณอุตส่าห์เอาแบบมาให้ผมดูถึงที่ทำงาน ได้มั้ยครับ” ในขณะที่พูด สายตาก็ยังจ้องอยู่ที่เธอตลอดเวลา
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ” สุดท้ายมีนตราก็ตอบตกลง หากจะปฏิเสธก็คงดูไม่ดี เขาเป็นลูกค้าใหม่ แถมยังเป็นประธานของบริษัทชื่อดัง เผื่อเอาเธอไปพูดในทางไม่ดีจะแย่เอา
“ไปรถผมนะครับ”
“ค่ะ”
ตอนนี้จะทำอะไรได้มากกว่าพูดคำว่า ค่ะ แล้วก็เดินตามเขาออกมาขึ้นรถเงียบ ๆ มีนตรามองแผ่นหลังกว้างของคนที่เดินอยู่ข้างหน้าก็ยิ่งทำให้แปลกใจ มันแปลกมากจริง ๆ เวลาที่อยู่ใกล้ขุนเขา เธอไม่มีอาการหวาดกลัวผู้ชายเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้จะเจอหน้ากันแค่ 3 ครั้ง
รถยนต์คันหรูวิ่งมาตามท้องถนน มีนตราได้แต่เหลือบมองคนที่ทำหน้าที่ขับรถเป็นระยะ บางทีเขาก็ดูเงียบ ๆ แต่บางทีก็เหมือนคนเจ้าเล่ห์แพรวพราว แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่มีทีท่าจะละลาบละล้วงเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่นักรถก็มาจอดหน้าร้านอาหารที่ขุนเขาจองเอาไว้
ตื้ด ตื้ด...
ขณะที่กำลังจะเปิดประตูลงจากรถ โทรศัพท์ของขุนเขาก็ดังขึ้น ชายหนุ่มหยิบขึ้นมาดูชื่อปลายสายเล็กน้อย ก่อนที่จะหันไปบอกคนที่นั่งอยู่ข้างกัน
“คุณมีนเข้าไปข้างในก่อนได้เลยนะครับ แจ้งพนักงานว่าจองไว้ในชื่อขุนเขา ผมขอรับโทรศัพท์เรื่องงานสักครู่ แล้วจะรีบตามเข้าไปครับ”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวมีนเข้าไปรอด้านในนะคะ” ตอบเสร็จเธอก็เปิดประตูลงจากรถ จะให้มานั่งรอฟังเขาคุยเรื่องงานอยู่ก็ใช่ที่
มีนตราเดินเข้าในร้าน ทันทีที่ก้าวพ้นประตู พนักงานก็รีบเดินเข้ามาสอบถาม
“ได้จองไว้มั้ยคะ”
“จองไว้ในชื่อของคุณขุนเขาค่ะ”
“สักครู่นะคะ”
พนักงานตอบกลับแล้วก็เปิดรายการจองขึ้นมาดู
มีนตรามองดูบรรยากาศรอบ ๆ ร้านระหว่างที่รอพนักงานดูรายชื่อการจอง เธอรู้จักร้านนี้เพราะค่อนข้างมีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจ นักธุรกิจมักจะนัดกันมากินข้าวที่นี่เพื่อคุยเรื่องงาน นอกจากบรรยากาศที่เงียบสงบแล้ว การตกแต่งร้านยังดูสวยงามแปลกตาอีกด้วย
“มีน มาทำอะไรที่นี่”
ทันทีที่ได้ยินเสียงเรียก มีนตราก็หันไปมองทันที เธอใจสั่นเล็กน้อย รู้สึกไม่ปลอดภัย เมื่อเห็นว่าคนที่เรียกคือ พิภพ
“พะ พอดีมีนมากินข้าวกับลูกค้าค่ะ”
“ลูกค้า?”
พิภพทวนคำตอบของเธอ แล้วเลิกคิ้วสูงด้วยความแปลกใจ ปกติมีนตราไม่ชอบออกมากินข้าวกับลูกค้า เหตุผลก็เพราะโรคกลัวผู้ชายของเธอ
“ลูกค้าผู้หญิงเหรอมีน”
“เอ่อ คือ...”
เสียงหวานติดขัดอยู่ในลำคอ เธอไม่อยากจะตอบคำถามของพิภพ ที่จริงคือ ไม่อยากพูดกับเขาเลยด้วยซ้ำ ทั้ง ๆ ที่ตอนเลิกกันก็เพราะเรื่องใหญ่ขนาดนั้นแท้ ๆ แต่ทำไมผู้ชายคนนี้กล้าพูดกับเธอราวกับไม่เคยทำความผิดเลยแม้แต่น้อย
“ยังไม่ไปที่โต๊ะอีกเหรอครับคุณมีน”
ระหว่างที่กำลังกระอักกระอ่วนใจกับผู้ชายตรงหน้า ก็เหมือนมีเสียงสวรรค์ดังขึ้นมาช่วยเธอพอดี
“ยังค่ะ พอดีพนักงานกำลังเช็ครายชื่ออยู่ค่ะ” มีนตราตอบคำถาม พอดีกับที่ขุนเขาเดินมาหยุดอยู่ข้างเธอ
“อ๋อ ที่กล้าบอกเลิกพี่ง่าย ๆ ขนาดนั้น ก็เพราะมีผู้ชายคนใหม่นี่เอง ส่วนไอ้โรคกลัวผู้ชายที่เคยเอามาอ้าง ก็คงเป็นแค่คำโกหกสินะ”
จู่ ๆ พิภพก็พูดขึ้น มีนตราหันไปมองหน้าเขาทันที พยายามส่งสายตาให้พิภพหยุดพูด เพราะไม่อยากจะมีปัญหากับขุนเขา เธอเพิ่งได้งานชิ้นใหม่ ขืนขุนเขาไม่พอใจขึ้นมาคงเป็นเรื่องใหญ่
“ผมว่าคุณไม่ควรที่จะพูดแบบนี้กับคุณมีนนะครับ ผมไม่รู้หรอกว่าพวกคุณเป็นอะไรกัน แต่วันนี้คุณมีนมากับผม รบกวนให้เกียรติเธอด้วยครับ”
น้ำเสียงทุ้มต่ำพูดขึ้น นัยน์ตาสีฟ้าจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้า พร้อมกับเขยิบตัวเองเข้าไปใกล้มีนตรามากยิ่งขึ้น ท่าทางของเขายิ่งทำให้พิภพไม่พอใจมากกว่าเดิม
“มึงเป็นใคร เสือกอะไรด้วย” พิภพตอบกลับด้วยคำถามหยาบคาย ความจริงก็เพราะยังรู้สึกเสียดายที่เห็นแฟนเก่าของตัวเองควงผู้ชายคนใหม่
มุมปากของชายหนุ่มผมสีทองโค้งขึ้นเล็กน้อย สองมือล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วก็ก้าวออกมาประจันหน้ากับคนที่กำลังหาเรื่อง
“ขุนเขา ฌอน เบอร์เรล มึงอยากรู้อะไรอีกมั้ย”
คำตอบของขุนเขาทำเอามีนตราที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เบิกตาโตอ้าปากกว้าง เธอไม่คิดว่าชายหนุ่มจะตอบกลับพิภพด้วยคำพูดแบบนี้ แต่มันก็สะใจดี เพราะตอนนี้พิภพดูจะตกใจมาก
“คุณลูกค้าคะ เชิญที่โต๊ะด้านนี้เลยค่ะ” ก่อนที่จะเกิดการปะทะ พนักงานสาวก็เอ่ยขึ้น พร้อมกับผายมือให้ขุนเขากับมีนตราตามไปอีกด้านของร้าน
“ไปเถอะครับคุณมีน ผมหิวข้าวแล้ว”
“ค่ะ”
มีนตราตอบรับแค่เพียงสั้น ๆ แล้วก็เดินตามขุนเขาไปนั่งยังโต๊ะที่จองไว้อย่างว่าง่าย และทุกการกระทำก็มีพิภพมองอยู่อย่างไม่ละสายตา เขาไม่ได้สนใจเธอ แต่สนใจขุนเขาต่างหาก
///////////////////////////////////////////////////////
เจอพี่ขุนในมุมดุ ๆ หน่อยนะคะ