เวลาต่อมาในโรงแรมห้าดาว
“คืนนี้ช่วยทำให้ฉันประทับใจที”
เสียงหวานเขย่งเท้าขึ้นมากระซิบเสียงพร่าบอกคนตัวสูง โดยที่แขนเรียวเล็กทั้งสองข้างคล้องลำคอแข็งแรงของเขาเอาไว้ ส่วนเอวเล็กก็ถูกแขนใหญ่โอบกระชับเข้ามาหาตัวเช่นกัน ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆโน้มลงมาใกล้ๆใบหน้างาม ก่อนที่หญิงสาวจะค่อยๆปิดเปลือกตาลง
วินาทีต่อมา มาริการับรู้ได้ถึงปากร้อนๆของอีกฝ่ายประทับลงมาบนกลีบปากอวบอิ่มของเธออย่างแผ่วเบา เป็นจูบแรกที่เธอเต็มใจจะมอบให้เขาได้เชยชิมมันอย่างไม่คิดจะขัดขืน จากจูบที่อ่อนโยนก็ค่อยๆร้อนแรงขึ้นโดยที่เธอพยายามตอบสนองเท่าที่พอจะทำได้ เมื่อความวาบหวามหอมหวานแผ่ซ่านไปทั่วทั้งเรือนร่าง
ชายหนุ่มจัดการกับชุดเดรสสั้นรัดรูปออกจากร่างอรชร ก่อนจะเผยให้เห็นถึงเรือนร่างได้สัดส่วน อกเป็นอก เอวเป็นเอว ผิวขาวอมชมพูน่าสัมผัสจนแทบไม่อยากถอนสายตาออกไปไหน ภูดิสเผลอกลืนน้ำลายยลงคออึดใหญ่ ก่อนจะรั้งร่างบางลงบนเตียงหนานุ่มเมื่อไม่สามารถอดใจได้อีกต่อไป
มาริกาเองก็ค่อยๆปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเพลงรักอ่อนโยนที่หนุ่มหล่อมอบให้ จากที่ค่อยเป็นค่อยไปก็เริ่มที่จะร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเธอไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายที่ท่าทางสุภาพและเจ้าของรอยยิ้มหวานบาดใจคนนี้ เวลาอยู่บนเตียงจะรักได้อย่างดิบเถื่อนบ้าคลั่งราวกับอดหยากปากแห้งมาเป็นชาติได้ขนาดนี้
…………………………………………………..
เช้าวันใหม่…
“มันหมายความว่าไงครับ”
เสียงทุ้มเอ่ยถามขณะที่ร่างสูงสง่าในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำตัวใหญ่นั่งอยู่ปลายเตียง นัยน์ตาคมหวานจับจ้องอยู่ที่รอยเปื้อนสีแดงๆบนผ้าปูที่นอนนิ่ง ใบหน้าหล่อเหลาตอนนี้ดูเครียดขรึมจนน่าตกใจ
มาริกาค่อยๆขยับลงจากเตียง จากนั้นก็จัดการสวมเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นด้วยความเร่งรีบเพราะวันนี้เป็นวันจันทร์ซึ่งไม่ใช่วันหยุด เธอลืมแม้กระทั่งว่าต้องไปเปลี่ยนในห้องน้ำ ก่อนจะบอกกับเขาด้วยน้ำเสียงขอร้องว่า
“อย่าบอกใครนะคะว่าฉันเสียซิงครั้งแรกให้กับคุณ”
“ทำไม?”คิ้วหนาเข้มขมวดเข้าหากันยุ่ง
“ข้อแรกฉันอายุสามสิบแล้วแต่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ ถ้าหากมีคนรู้ฉันคงโดนหัวเราะแย่ ส่วนข้อสองฉันโดนแฟนบอกเลิกเพราะไม่เคยมีเซ็กส์กับเขา ฉันก็เลยคิดว่าผู้ชายคงชอบคนที่มีประสบการณ์มากกว่าเก็บความซิงให้เขาในวันแต่งงาน”
“ใครเป็นคนบอกคุณว่าผู้ชายชอบผู้หญิงมีประสบการณ์”
ชายหนุ่มย้อนถามด้วยเสียงทุ้มต่ำบ่งบอกถึงอารมณ์ขุ่นๆในน้ำเสียงนั้น ทว่ามาริกากลับไม่ยอมตอบคำถาม หากแต่ย้อนถามกลับไปเพราะเธอเชื่อแบบนั้นไปแล้ว
“หรือไม่จริงละคะ ขนาดคุณรู้ว่าฉันยังไม่เคยมีประสบการณ์คุณยังอารมณ์เสียเลย”
ที่พูดไปแบบนั้นก็เพราะใบหน้าหล่อเหลาตอนนี้บูดสนิทหลังจากที่ตื่นมาแล้วพบกับความจริงที่เธอพยายามปกปิดเอาไว้
“ฉันขอตัวก่อนนะคะ นี่เป็นค่าตัวของคุณ”
มาริกาหยิบธนบัตรสีเทาออกจากกระเป๋าห้าใบ โดยหลงเหลือไว้ในกระเป๋าเผื่อค่าโรงแรมกับค่าแท็กซี่กลับบ้าน ก่อนจะส่งมันมาตรงหน้าชายหนุ่ม แต่เขากลับปัดมือเล็กออกอย่างไม่ใส่ใจ
“ผมไม่เอา”
“ทำไมละคะ?”
“ถ้าผมเดาไม่ผิด คุณคงไม่คิดจะหาประสบการณ์แค่ครั้งแรกแน่ๆ มันจะต้องมีครั้งที่สองสามและต่อๆไปกับผู้ชายคนอื่นอีก”
“ค่ะ! แต่ก็คงไม่ใช่เร็วๆนี้ อย่างน้อยก็คงต้องรอให้ร่างกายฟื้นดีก่อน”
มาริกาตอบอย่างไม่ต้องคิดให้เสียเวลา เพราะตอนนี้ร่างกายของเธอบอบช้ำจากบทรักร้อนแรงของเขาเมื่อคืนเกินกว่าจะคิดถึงเรื่องหาประสบการณ์ใหม่ในเร็ววันนี้ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าคำตอบของเธอจะไปกระตุกต่อมอารมณ์หงุดหงิดของเขาเข้าอย่างจัง
“ให้ตายเถอะ!”ชายหนุ่มสบถออกมาอย่างหงุดหงิดหัวเสีย ไม่คิดว่าการพูดประชดของเขา จะทำให้เธอคิดทำแบบนั้นจริงๆ
“เอาไปเถอะนะคะ ถึงมันจะไม่มากมายเท่าที่ผู้หญิงคนอื่นให้ แต่คุณทำงานแล้วก็ควรได้รับค่าตอบแทน ว้าย!!”
พูดยังไม่ทันจบ ข้อมือเล็กก็ถูกคว้าพร้อมกระชากให้ล้มมานั่งกองอยู่บนตักกว้างแข็งแรง ก่อนที่ปากหยักได้รูปจะประกบลงมาบดเบียดปากอวบอิ่มของเธออย่างรวดเรียว มาริกาที่ตอนแรกจะต่อต้าน แต่พอคิดว่านี่คงเป็นจูบลาเธอก็ไม่ได้ขัดขืน ตรงกันข้ามกลับปล่อยให้เขาตักตวงความหอมหวานละมุนเนิ่นนานจนพอใจ กระทั่งใบหน้าหล่อเหลายอมถอนออกปล่อยให้เธอเป็นอิสระ
“ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ครั้งแรก มันดีมากค่ะ ฉันสัญญาว่าจดจำบทรักที่คุณสอนให้ดี ลาก่อนนะคะพ่อรูปหล่อ”
มาริกาควบคุมเสียงไม่ให้สั่น วางธนบัตรลงบนเตียข้างๆเขา ทำราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับการเสียความสาวครั้งแรก แล้วก็เดินจากห้องไป ปล่อยให้นัยน์ตาคมหวานมองตามกระทั่งประตูปิดลง
ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาแรงๆด้วยความหงุดหงิด เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกผู้หญิงที่มีเซ็กส์ด้วยจ่ายเงิน เขาไม่รู้ว่าไปทำอีท่าไหนเธอถึงเข้าใจว่าเขาเป็นหนุ่มบาร์โฮส รู้แต่เพียงว่าเธอเข้าใจมันแบบนั้น และเธอก็เลือกเขาเพื่อประสบการณ์ครั้งแรกของเธอ
…………………………….…………………..
“เป็นไงบ้างเจ๊ กลับมาเช้าเลย”
เสียงของอารยาทักขึ้นมาหลังจากที่เมื่อคืนเธอกับเมธีมานอนรอเพื่อนสาวรุ่นพี่ด้วยควาเป็นห่วง แต่ดูเหมือนมาริกาจะกลับมาพร้อมความสดใสในเช้าวันใหม่ ไม่ได้มีทีท่าของความทุกข์ระทมแต่อย่างใด
“ครั้งแรกมันเจ็บมาก แต่ก็ดีมาก ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี”
“แล้วผู้ชายคนนั้นหล่อไหม หน้าตาเป็นยังไงบ้าง”
เมธีที่กำลังสะบัดแปรงอยู่ตรงหน้ากระจก เตรียมตัวแต่งหน้าไปทำงาน หันมาถามด้วยอีกคน
“หล่อมาก หล่อจนใจจะละลาย ตัวก็หอมยังติดจมูกอยู่เลย”
“ไหนเจ๊ลองบรรยายผู้ชายรูปหล่อในแบบของเจ๊ดูสิ ชักอยากจะรู้แล้วสิว่าหล่อของเจ๊ต้องระดับไหน เพราะในบาร์โฮสเมื่อคืนมีแต่ผู้ชายหล่อๆยังไม่เข้าตาเจ๊เลยสักคน”
“คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ตาคมหวาน ยิ้มกว้างแลดูหวานปนอบอุ่น หุ่นล่ำ รวมๆแล้วแลดูสะอาดหล่อแบบคุณชาย ที่พูดมาคือเขาคนนั้นเลย และไม่รู้สึกเสียใจเลยกับประสบการณ์ครั้งแรก”
“เห็นไหมล่ะ ติดใจเลย”
“แต่ฉันไม่รู้หรอกนะว่าจะมูฟออนจากใบหน้าหล่อๆ รอยยิ้มพิฆาตหุ่นล่ำๆ กลิ่นหอมๆ ของเขาได้เมื่อไหร่”
มาริกาพูดขณะที่ทำสีหน้าเคลิ้ม เดินเข้าห้องน้ำเพราะต้องรีบอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน แต่แล้วก็ต้องหันมาบอกกับเพื่อนรุ่นน้องอีกครั้งเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้
“อ้อ…ลืมบอกไปว่าบทรักเขาดิบเถื่อนมาก ราวกับอดอยากปากแห้งมาเป็นสิบชาติ ทำเอาฉันระบมไปหมดแล้ว ปากก็ยังเจ็บเพราะจูบดุเดือดของเขาไม่หายเลย”
“แซ่บ!!”
สองสาวรุ่นน้องสรุปให้สั้นๆ หลังจากที่ฟังอีกฝ่ายเล่าจบ โดยที่มาริกาไม่คิดจะโต้แย้งใดใด เพราะนิยามของบทรักเมื่อคืน นอกจากคำว่าแซ่บแล้วก็คงไม่สามารถหาคำไหนมาเปรียบเปรยได้อีกแล้วนั่นเอง