ณ บาร์โฮสหรู ใจกลางกรุง
“เป็นไงบ้างเจ๊ เจอคนที่ถูกใจหรือยัง”
เมธีหันมาถามเพื่อนสาวรุ่นพี่หลังจากที่นั่งกวาดสายตามองหาหนุ่มๆสักคนมาเกือบครั่งชั่วโมงแล้ว ไม่มีทีท่าว่าจะถูกใจสักที
“ยังเลย”
“คนนั้นดีไหม รูปหล่อล่ำบึก”
อารยาชี้ไปทางหนุ่มบนเวทีที่ตอนนี้มีเพียงกางเกงยีนส์ตัวเดียวบนกาย อวดหุ่นล่ำและรอยสักตรงหัวไหล่ให้สาวๆน้ำลายหกเล่น ทว่ามาริกากลับส่ายหน้าไปมาอย่างไม่ชอบใจ
“ไม่เอา เขาดูโหดเกินไป”
“หรือว่าคนนั้นดีเจ๊ หน้าตี๋ๆขาวๆก็ไม่เลวนะ”
เมธีนำเสนอหนุ่มหน้าตี๋ผิวขาวที่ยืนอยู่มุมหนึ่งของห้อง กำลังอยู่ในชุดกางเกงยีนส์สีเข้มกับเสื่อเชิตสีขาวปลดกระดุมออกสองสามเม็ดเผยแผงอกขาวๆชวนมอง
“ฉันไม่ชอบผู้ชายตาตี่”
“แล้วผู้ชายแบบไหนล่ะที่เจ๊ชอบ พวกฉันสองคนดื่มรอจนปวดฉี่แล้วเนี่ย!”
ยังไม่ทันตอบ เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายของมาริกาก็สั่นขึ้น เหมือนมีสายเรียกเข้า
“ใครโทรมา?”
หญิงสาวว่าพลางเปิดกระเป๋าควานหาอุปกรณ์สื่อสารเครื่องเล็ก ก่อนจะทำตาโตเมื่อพบว่าสายเรียกเข้าเป็นมารดาของตน
“ฉันขอไปรับโทรศัพท์ก่อนนะ แม่โทรมา ที่นี่เสียงมันดังเกินไป เดี๋ยวฉันจะโดนแม่ด่า”
“แล้วรีบกลับเข้ามานะเจ๊”
“อืม”
มาริกาครางเสียงตอบในลำคอ ก่อนจะลุกจากที่นั่งเพื่อเดินออกไปนอกบาร์ ทว่าพอออกมาถึงข้างนอกสายก็ตัดไปเสียแล้ว
“อ้าว! วางสายไปเสียแล้ว”
หญิงสาวบ่นพึมพำ ขณะที่มือกดโทรศัพท์และเดินหามุมโทรกลับสายที่เพิ่งตัดไป แต่แล้วก็เดินชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ของใครบางคนเข้าอย่างจัง
“อุ้ย! ขอโทษค่ะ พอดีฉันไม่ทันมอง”
“ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถามคนในอ้อมกอด ที่เขาคว้าตัวไว้ได้ทันก่อนที่เธอจะเซล้มไปกองกับพื้น ทว่าพอใบหน้างดงามเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องอึ้งไปครู่ใหญ่
‘ผู้ชายอะไรหล่อวัวตายควายล้ม ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยพบเคยเจอเลย’
“คุณครับ”
ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลา ตาคมหวาน จมูกโด่งคมสัน ริมฝีปากหยักได้รูปเรียกซ้ำอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าดวงตากลมโตเอาแต่จ้องหน้าเขา ไม่ยอมตอบคำถามสักที
“คะ…คะ ว่าไงนะคะ”
มาริกาที่เพิ่งได้สติรีบถามด้วยความเขินอายเล็กน้อย ที่เผลอจ้องอีกฝ่ายอย่างเสียมารยาท ก่อนจะผละออกจากอ้อมกอดแข็งแรง
“ผมถามว่าคุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”
“ไม่ค่ะ ไม่เจ็บเลย”ปฏิเสธไป ทั้งที่กลิ่นหอมๆของอีกฝ่ายยังคงติดจมูกเธอไม่หาย จนอดไม่ได้ที่จะพึมพำชื่อชมอีกฝ่ายในใจ
‘นอกจากจะหล่อแล้วยังตัวหอมอีก’
“ถ้าไม่เป็นไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวก่อนค่ะ”
“ครับ”ชายหนุ่มขานรับก่อนจะหันกลับมาเผชิญหน้า
“ฉันอยากจะทำความรู้จักกับคุณ”
“ผม?”ชายหนุ่มชี้มาที่หน้าอกของตัวเอง พลางเลิกคิ้วสูงเป็นคำถาม
“ใช่ค่ะ คุณนั่นแหละ พ่อรูปหล่อ”
มาริกาสาบานกับตัวเองว่าคืนนี้จะไม่ปล่อยให้พ่อรูปหล่อปานเทพบุตรหลุดมือไปได้ เธอยอมทิ้งความคิดโบราณ ทิ้งควาเขินอาย เชิดหน้าขึ้นโดยยึดคติว่าด้านได้อายอด เหมือนอย่างที่พลอยสวยทำไว้กับเธอ
“ถ้าคุณไม่รีบไปไหนต่อ เราไปดื่มกันสักหน่อยไหมคะ”
หญิงสาวเอ่ยเชิญชวนทั้งน้ำเสียงและสายตา เธองัดจริตมารยาที่ผู้หญิงพึงจะมีมาใช้เพื่องานนี้ และดูเหมือนชายหนุ่มจะขมวดคิ้วเข้มๆขึ้นครู่หนึ่งอย่างใช้ความคิด ก่อนจะตอบตกลง
“ครับ ดีเหมือนกัน”
“งั้นคุณเลือกร้านเลยค่ะ”
“รอผมสักครู่นะครับ ผมขอไปเอารถก่อน”
ชายหนุ่มบอก ก่อนจะคลี่ยิ้มหวานบาดใจชวนละลายเดินจากไป ปล่อยให้หญิงสาวมองตามราวกับต้องมนตร์ แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ในมือก็ดังขึ้นเรียกสติมาริกาให้กลับคืนมา
“เจ๊ไปไหน ทำไมหายไปนานจัง”
เมธีกรองเสียงถามมาตามสาย หลังจากที่คนขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์หายไปนาน
“ฉันได้ผู้ชายมาแล้วนะ และตอนนี้เรากำลังจะไปต่อกัน”
“ว่าไงนะ!”
ปลายสายอุทานออกมาดังลั่น ราวกับไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ก่อนที่มาริกาจะกล่าวด้วยน้ำเสียงใส
“ขอบใจมากนะที่พามาเจอเทพบุตรรูปงาม ราวกับเทวดาตกสวรรค์ แค่นี้ก่อนนะ เขามาแล้ว ไว้จะกลับไปเล่าให้ฟังตอนถึงบ้าน”
พูดจบมาริกาก็กดวางสายจากเพื่อนรุ่นน้อง ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นสูง เมื่อเห็นรถสปอร์ตคันหรูที่อีกฝ่ายมาจอดเทียบฟุตบาท
“อันนี้รถขอคุณเหรอคะ?”
“ครับ ขึ้นมาสิ”
‘ทำอาชีพนี้ก็ไม่เลวแฮะ มีทั้งรถหรู นาฬิกาโลเลต การแต่งตัวก็แบรนด์เนมดังทั้งตัว’
มาริกาพึมพำกับต้องเองในใจ หลังจากได้เห็นไลฟ์สไตล์หรูหราของอีกฝ่าย พลางคิดไปว่าเพราะนิสัยติดหรูสินะถึงต้องมาทำอาชีพที่หาเงินได้เยอะๆแบบนี้ แต่อีกใจก็แย้งขึ้นมาว่า ถ้าไม่หล่อจริงก็คงไม่สามารถทำให้ผู้หญิงเปย์ได้มากขนาดนี้แน่
………………………………………………
ยี่สิบนาทีต่อมา ณ ไนต์คลับหรูที่ชายหนุ่มเป็นคนเลือก สองหนุ่มสาวเดินเข้ามาหามุมนั่งแบบส่วนตัว
“คุณจะดื่มอะไรสั่งเลยนะคะ เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง”
คืนนี้มาริกาขอเป็นสาวสายเปย์แบบไม่คิดถึงยอดเงินในบัญชี ถึงแม้จะต้องกลับไปนั่งปัดเหงื่อทีหลังก็ตามที ทว่าชายหนุ่มกลับมีความเป็นสุภาพบุรุษมากกว่าการคิดจะเอาเปรียบเธอ
“ไม่เป็นไรครับ ผมเลี้ยงคุณดีกว่า”
“เอาตรงๆนะคะ ฉันไม่ได้แค่อยากจะดื่มกับคุณ แต่อยากจะซื้อคุณให้อยู่กับฉันในคืนนี้ด้วย”
“ซื้อผม?”
ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นสูง ก่อนจะย้อนถามด้วยความไม่เข้าใจ เมื่อเห็นดังนั้นมาริกาเลยเลือกที่จะไขความกระจ่างให้อีกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา
“ใช่ค่ะ คุณจะคิดราคาเท่าไหร่ก็ว่ามาเลย คิดให้สูงกว่าทุกครั้งที่คุณรับงานก็ได้”
“รับงาน?”
“คุณไม่ต้องอายหรอกนะคะ ฉันไม่รังเกียจอาชีพผู้ชายบาร์โฮสหรอก เพราะมันเป็นอาชีพสุจริตไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน”
“ผู้ชายบาร์โฮส?”
ดูเหมือนเขาจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้อย่างแนบเนียน ทว่ามาริกาก็ไม่ได้หลงกล เพราะนี่อาจจะเป็นการอัพเกรดของเขาก็เป็นได้
“ค่ะ คุณเป็นหนุ่มบาร์โฮสที่หล่อที่สุด เท่าที่ฉันเคยเจอ ไปต่อกันนะคะคืนนี้ ถ้าคุณตกลง ฉันจะจ่ายให้กับคุณทันทีเลย”
“ผมว่าคุณเมาแล้วนะ หน้าคุณแดงไปหมดแล้ว”
ชายหนุ่มไม่ได้ตอบตกลงทันที หากแต่กลับเปลี่ยนเรื่องคุย เมื่อเริ่มเข้าใจว่าสาวสุดเซ็กซี่ตรงหน้ากำลังเข้าใจเขาผิดอย่างแรง อีกทั้งยังต้องการซื้อเขาไปแซ่บต่ออีกด้วย
ภูดิสไม่รู้ว่าไปทำอีท่าไหนเธอถึงเข้าใจว่าเขาเป็นหนุ่มบาร์โฮส นี่ถ้าหากเขาไม่ถูกใจ รูปร่างหน้าตา และทรวดทรงองเอวของเธอแล้วละก็ เขาคงบอกความจริงไปกับเธอแล้วลุกเดินหนีไปแล้ว ไม่นั่งทำใจเย็นปล่อยให้เธอเข้าใจเขาผิดอยู่แบบนี้หรอก
“ก็นิดหน่อย แต่ก็พอมีสติ”
มาริกาตอบอย่างไม่คิดปิดบัง ก่อนจะขยับมานั่งเบียดแขนใหญ่แข็งแรงของเขา พลางช้อนสายตาสุดหวานเชื่อมออดอ้อนเขาด้วยจริตมารยาทั้งหมดที่เธอมี มือเล็กวางลงบนต้นขาแข็งแรงของชายหนุ่มภายใต้กางเกงสแล็คเนื้อดี ค่อยๆลูบขึ้นมาช้าๆ จนคนถูกสัมผัสเผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง
‘ยั่วขนาดนี้ ถ้าปฏิเสธก็โง่แล้วไอ้ภู’
……………………………………………..