บทที่ 3 : ท่านประธานคนใหม่ 1

1287 Words
“นี่พวกแกเห็นท่านประธานคนใหม่หรือยัง หล่อมาก ก ล้านตัวเลย พระเอกแถวหน้าของเมืองไทยชิดซ้ายไม่มีใครเทียบติด” เสียงชะนีหนึ่งในกลุ่มสาวๆที่เกาะกลุ่มเม้าท์มอยกันแต่เช้าเอ่ยขึ้น ก่อนที่จะได้รับเสียงสนับสนุนจากเสียงของคนที่บังเอิญได้เจอท่านประธานคนใหม่ที่มารับตำแหน่งวันนี้ “ใช่ๆ หล่อมาก และตอนนี้ท่านก็กำลังจะมาตรวจแผนกของเราด้วย” “แก…ขอตลับแป้งหน่อย เอาลิปสติกมาด้วย” เมื่อได้ยินคำว่าหล่อ เมธีก็สะกิดเพื่อนสาวคนสนิทอย่างไว ก่อนที่อารยาจะส่งตลับแป้งให้ แล้วหันมาถามคนข้างๆที่ยังทำสีหน้าเคลิ้มราวกับไม่สนใจสิ่งรอบข้าง “เจ๊ไม่เอาเหรอ?” “ไม่เอาหรอก เพราะคงไม่มีใครหล่อเท่าชายเมื่อคืนอีกแล้ว” “ย่ะ!” อารยาว่าให้อย่างหมั่นไส้ เพราะตั้งแต่กลับมาจากการไปเปิดซิงเมื่อคืน เจ๊ของเขาก็เปลี่ยนไปราวกับคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขนาดมาถึงที่ทำงานแล้วยังจูนสติกลับมาไม่ติด “นั่นไง มาแล้ว หล่อออร่ามาแต่ไกลเลย” น้ำเสียงตื่นเต้นของสาวๆในแผนก ทำให้มาริกาต้องหันไปมองตามสายตาของทุกคน แต่เมื่อเห็นร่างสูงสง่าในชุดสูทเกาหลีพอดีตัว อย่างมีสไตล์ หัวใจดวงน้อยก็หล่นวูบไปอยู่ตาตุ่มทันที แค่เห็นเลขาของท่านประธานคนเก่าที่เดินเคียงข้างบุรุษหนุ่มที่มีเค้าโครงหน้าของท่านประธานคนเก่า มาริกาก็รับรู้ได้ในทันทีว่าเขาเป็นใคร “ซวยแล้วอารยา!” มาริกาอุทานออกมาเสียงหลง ด้วยความตกใจสุดขีด ก่อนจะรีบหาที่หลบเมื่อร่างสูงสง่าพร้อมด้วยเลขาส่วนตัวเดินตรงมาที่แผนก “มีอะไรเจ๊ แล้วนั่นทำไมต้องไปมุดอยู่ใต้โต๊ะด้วยล่ะ” “ผู้ชายเมื่อคืนในโรงแรม คือท่านประธาน!” “เจ๊นี่สงสัยจะอาการหนักนะ เห็นใครก็เป็นเขาไปหมด” อารยาบ่นพึมพำกับเมธีเบาๆ แต่ก็ดังพอที่จะทำให้มาริกาได้ยิน เลยสวนกลับไปทันควัน “ฉันไม่ได้ตาฝาดนะ แต่เป็นเขาจริงๆ” “เจ๊จะบอกว่าเจ๊ได้กินท่านประธานแล้วอย่างนั้นเหรอ” คราวนี้เมธีถึงกับทำตาโต ก่อนที่ทั้งสองคนจะรีบก้มถามคนที่หลบอยู่ใต้โต๊ะด้วยน้ำเสียงรัวเร็ว แต่ให้ได้ยินกันเพียงสามคน “ก็เอ่อนะสิ!” “เป็นไปได้ไง ผู้ชายที่เจ๊ไปด้วยเมื่อคืนไม่ใช่หนุ่มบาร์โฮสหรอกเหรอ” “ฉันไม่รู้ ก็เห็นเขาอยู่หน้าบาร์โฮสก็นึกว่ากำลังจะเข้าไปทำงาน ฉันก็เลยเรียกเขาไปต่อเลย” “เอาแล้วไงเจ๊ คิดเองเอ่อเองอีกแล้ว” เมธีและอารยาต้องกุมขมับ เมื่อเรื่องทุกอย่างกลับตาลปัตรเพราะความชอบคิดเองเออเองของสาวรุ่นพี่ ทำให้มาริกาต้องรีบเถียงกลับไป “ก็เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรนี่” “แล้วจะทำไงดีล่ะเจ๊ วันนี้ผู้จัดการไม่อยู่ ในฐานะที่เจ๊เป็นรองผู้จัดการแผนกก็ต้องพาท่านประธานเดินดูงานนะ” “ทำไมไอ้ตาก้องเกียจนั่นต้องมาลางานวันนี้ด้วยนะ” เป็นอีกครั้งที่มาริกาอยากจะจับอดีตคนรักมาทุ่มลงพื้นแล้วกระทืบซ้ำๆให้จมดิน “คิดเร็วสิเจ๊ ท่านมาจะถึงที่เราแล้ว” “ขอยืมหมวกหน่อย ขอผ้าปิดปากด้วย” มาริกาคิดอะไรออกในตอนนั้นก็รีบๆบอกไป โดยมีรุ่นน้องทั้งสองคอยจัดการสิ่งที่เธอขอให้ และเพียงเสี้ยวนาทีเธอก็สามารถพรางตัวได้อย่างรวดเร็ว แล้วค่อยๆโผล่ออกมาจากที่หลบซ่อนเป็นจังหวะเดียวกับที่ร่างสูงสง่าเดินมาถึงที่เธออยู่พอดี “สวัสดีค่ะ ดิฉันมาริกาเป็นรองผู้จัดการแผนกฝ่ายการตลาดค่ะ” ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีที่เมื่อคืนเธอไม่ได้แนะนำชื่อให้อีกฝ่ายได้รู้จัก และก็น่าเสียดายที่เธอเองก็ไม่รู้จักชื่อของเขาเช่นกัน เพราะถ้าหากรู้เร็วกว่านี้ก็จะได้มีเวลาเตรียมรับมือ “แล้วผู้จัดการแผนกไปไหนล่ะ?” ภูดิสเอ่ยถามเสียงเรียบ พลางหรี่ตาแคบมองรองผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่ทำตัวแปลกๆตรงหน้าด้วยความรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “ผู้จัดการลาค่ะ เตรียมตัวจะเป็นเจ้าบ่าว” มาริกาตอบไปตามที่ตนคาดคิด เพราะอีกไม่กี่สัปดาห์อีกฝ่ายก็จะแต่งงานแล้ว ซึ่งก็คงยุ่งหนักในช่วงเตรียมงาน “อืม…คุณไม่สบายหรือเปล่า คุณมาริกา” ท่านประธานพยักหน้าเป็นอันรับทราบ ก่อนจะเอ่ยถามในสิ่งที่ตนสงสัย เพราะคนตรงหน้าใส่หมวก ปิดหน้ามิดชิดราวกลัวเชื้อหวัดจะแพร่กระจาย “ปะ…เปล่าค่ะ ฉันสบายดี” ปฏิเสธยังไม่ทันไรก็ต้องร้องออกมาเสียงหลง เมื่อเดินชนเข้ากับร่างสูงใหญ่เพราะเอาแต่ก้มมองเท้าตังเอง เดินตามเขา “ว้าย!!” “เป็นไงบ้าง คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” ภูดิสหันมารั้งร่างอรชรไว้ได้ทันก่อนที่เจ้าหล่อนจะได้ล้มไปกองกับพื้น เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง แต่แล้วนัยน์ตาคมกริบก็สะดุดเข้ากับรอยจ้ำแดงๆบนลำคอระหงที่โผล่ออกมาจากคอเสื้อของหญิงสาว มาริการีบตั้งสติก่อนจะผละออกจากอ้อมกอดของเขาอย่างรวดเร็วแล้วก็ถอยห่างอย่างอัตโนมัติ “มะ…ไม่ค่ะ ไม่เจ็บเลย” ‘มาริกา’ ภูดิสต้องทวนชื่อนี้ซ้ำอีกครั้ง เมื่อกวาดสายตามาที่ข้อมืออีกฝ่ายแล้วพบว่ามีรอยช้ำแดงๆอยู่ คิ้วหนาเข้มกระตุกขึ้นเล็กน้อยเมื่อพบว่าร่องรอยทั้งสองจุดตรงตามที่เขาได้ฝากไว้บนตัวหญิงสาวปริศนาเมื่อคืน แต่กระนั้นก็ยังคงวางใบหน้าเรียบเฉย เก็บซ่อนความตื่นเต้นไว้ภายใต้ท่าทางสุขุมได้อย่างมิดชิด ………………………………………………… “คุณภาคภูมิ รบกวนเอาประวัติของคุณมาริกา รองหัวหน้าแผนกฝ่ายการตลาดมาให้ผมที” ทันทีที่ขึ้นมาถึงห้องทำงานส่วนตัวที่ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของตึก ภูดิสประธานหนุ่มวัยสามสิบสองปี ทายาทเพียงคนเดียวของบริษัทยักษ์ใหญ่ ก็รีบออกคำสั่งกับเลขาหนุ่มทันที ตอนนี้เขาชักอยากจะรู้แล้วว่าผู้หญิงที่จ่ายค่าตัวให้กับเขาในการหลับนอนด้วยเมื่อคืนเป็นเธอหรือเปล่า “ครับท่านประธาน” ภาคภูมิรับคำก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานหรู เพื่อไปปฏิบัติตามคำสั่งของผู้เป็นนาย เพียงไม่นานก็กลับมาพร้อมแฟ้มเอกสารในมือ “ประวัติคุณมาริกา ได้แล้วครับท่าน” ภูดิสรับแฟ้มเอกสารมาเปิดดูอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ใบหน้างดงามที่ยังตราตรึงอยู่ในจิตไม่เลือนหายจะปรากฏขึ้นบนแฟ้มประวัติของเธอ “ใช่เธอจริงๆด้วย” ชายหนุ่มพึมพำออกมาด้วยความยินดี ทว่าคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลต้องเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ เพราะท่านประธานคนใหม่เพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่งในบริษัทวันนี้เป็นวันแรก “ท่านประธานรู้จักคุณมาริกาด้วยเหรอครับ” “เรียกเธอขึ้นมาหาผมที่ห้องหน่อย” ภูดิสไม่ยอมตอบคำถาม หากแต่กลับออกคำสั่งกับเลขาเก่าของบิดา ซึ่งตอนนี้ภาคภูมิกลายมาเป็นเลขาของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “ครับท่าน” ………………………………………………
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD