สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นฉันขอแนะนำตัวเองก่อน ฉันชื่อเชียร์ เรียนปี 4 ปีสุดท้ายแล้ว ฉันและเพื่อน ๆ เรามีกันทั้งหมด 7 คน
แรก ๆ มีกัน 5 คน มีฉัน น้ำหวาน ขุนพล ชานนท์ และสงครามเพื่อนเพียงคนเดียวที่ทำใจฉันสั่นได้ พอปี 3 ถึงมาเพิ่มอีก 2 คน คือ ออสตินและมาโคร
งั้นฉันขอแนะนำทีละคนเลยคนแรกเลย น้ำหวานเพื่อนผู้หญิงเพียงคนเดียวของฉัน ฉันและน้ำหวานเราสนิทกันมาก คุยกันทุกเรื่อง เพื่อนฉันคนนี้นางเป็นคนเก่ง ฉลาดทันคน บางครั้งอาจจะดูแรง ๆ ด้วยซ้ำ แต่นางก็ไม่ทำใครก่อนหรือหาใครก่อนเลยนะ แต่ถ้าใครมาหาเรื่องนางก่อน นางเอาคืนแบบชะตาขาดเลยแหละ
คนที่ 2 ขุนพล ขุนพลมันเป็นคนที่ดีที่สุดในกลุ่มแล้ว เป็นคนสุขุม ใจเย็น แต่ถ้ามันได้โกรธขึ้นมาก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ที่สำคัญบ้านมันรวยมาก หน้าตาก็หล่อมาก มันนี้คือโอป้าตัวจริงเลย
คนที่ 3 ชานนท์ ชานนท์มันเป็นตลก กะล่อนๆ หน่อย เป็นคนคารมดีมาก จึงไม่แปลกที่สาวๆ จะติดมันเยอะ แต่ความจริงพวกเพื่อนฉันมันก็สาว ๆ เยอะทุกคนแหละ
คนที่ 4 ออสติน ไอ้นี่มันคือมาเฟียเลยแหละ ธุรกิจที่บ้านมันมีทั้ง บ่อนกาสิโน ผับ ธุรกิจบ้านมันส่วนใหญ่จะเป็นประเภทสีเทาจนถึงดำเลย
คนที่ 5 มาโคร มาโครมันเป็นคนขี้แกล้ง มันเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุด มันเป็นคนประเภทมองทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายที่สุด และเป็นคนที่รักน้องสาวมาก
คนที่ 6 สงคราม สงครามจะเป็นคนนิ่ง ๆ ความจริงมันคล้ายๆ ขุนพลนะ แต่สงครามจะเป็นคนดุๆ และอารมณ์ร้อนมากกว่าขุนพล แต่มันเป็นคนรักเพื่อนมากนะ ใครมาหาเรื่องพวกเรานะ มันบวกก่อนเลย สงครามมันเป็นลูกเจ้าสัวใหญ่ของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ และบ้านมันก็เป็นมาเฟีย ไม่ต่างจากออสตินหรอก ตอนนี้มันก็กำลังคบกันกับเจ้ เพ-ลิน ทำให้หลังๆ มานี้ มันไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนกับเพื่อนอย่างเคย แทบจะหายออกไปจากกลุ่มเลยก็ว่าได้
ส่วนฉัน เชียร์ เป็นคนที่จนสุดในกลุ่มเลยก็ว่าได้ บ้านฉันก็มีธุรกิจฐานะดีนะ แต่คงไม่ใช่กับฉันที่เป็นแค่ลูกเมียนอกสมรส พ่อฉันมีเมียสองคน เมียคนแรกของพ่อ ซึ่งคือบ้านใหญ่ที่มีสิทธิ์ทุกอย่างในบ้าน และมีลูกสองคนคือเฮียเตชินและเจ๊เพ-ลิน ใช่ค่ะ..เพื่อนฉันคบกันกับพี่สาวต่างมารดาของฉัน
เจ๊เพ-ลิน เป็นคนสวยมาก เก่ง และฉลาดมากเลยแหละ สมกับเป็นคุณหนูใหญ่ของบ้าน (ลืมบอกบ้านฉันเป็นคนจีนนะ) ยิ่งกับฉันนะเทียบกันไม่ติดเลยแหละ แต่เจ๊แกก็ค่อนข้างเอาแต่ใจนะ
ส่วนแม่เป็นเมียคนที่สองและมีลูกเพียงคนเดียวคือฉัน ความจริงฉันกับเจ๊เพ-ลิน เราอายุเท่ากันนะ แต่ฉันต้องเรียกเจ๊และต้องให้ความเคารพเพราะถือว่าเป็นคุณหนูใหญ่ของบ้าน และฉันต้องเรียกเมียคนแรกของพ่อว่าแม่ใหญ่
ฉันไม่ได้พักที่บ้านหรอก ฉันออกมาเช่าคอนโดอยู่แต่ก่อนฉันก็อยู่ที่บ้านนั่นแหละ เพิ่งออกไปอยู่ข้างนอกได้ 2-3 ปีเอง ทุกคนคงพอจะเข้าใจ ปัญหาเรื่องเมียหลวงเมียน้อยรวมมาถึงลูกด้วย หลายครั้งที่ฉันโดนบ้านใหญ่กลั่นแกล้ง ส่วนใหญ่ฉันก็ทน ยกเว้นบางเรื่องที่มันไม่ไหวจริงๆ ไม่ใช่ว่าฉัน ไม่สู้คนนะ แต่หลายครั้งที่เกิดปัญหาแล้วแม่ปกป้องฉันจากแม่ใหญ่ไม่ได้ แม่จะร้องไห้คนเดียว เพราะแม่รู้ว่าตัวเองปกป้องลูกไม่ได้ ฉันเลยเลือกที่จะเลี่ยงการปะทะมากกว่า เพราะไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจเลยขอออกมาอยู่ข้างนอกแทน และแม่ก็เห็นด้วย
คงจะสงสัยกันใช่ไหมว่าป๊าของฉันไม่จัดการอะไรเลยเหรอ ป๊าไม่ค่อยยุ่งกับเรื่องในบ้านหรอก ป๊าจะให้ความสนใจกับธุรกิจมากกว่า เรื่องภายในบ้านจะเป็นแม่ใหญ่เป็นคนจัดการแทนรวมถึงค่าใช้จ่ายภายในบ้านด้วย ค่าใช้จ่ายของฉันก็อยู่ที่แม่ใหญ่ จะให้ฉันได้แค่เดือนละ 20,000 บาท ต่อเดือน ถามว่าพอไหมก็ไม่พอหรอก เพราะแค่ค่าเช่าคอนโดก็ปาไปเป็นหมื่นแล้ว แต่แม่ฉันก็ให้ฉันทุกเดือน ท่านก็มีเงินเดือนเหมือนกัน และท่านยังทำงานที่บริษัทด้วย แม่ฉันทำบัญชีนะ บางเดือนฉันก็รับจ้างทำรายงาน
หลายคนคิดว่าฉันเป็นลูกนักธุรกิจคงสุขสบาย ใครจะรู้ ฉันเนี่ย ลำบากกว่าลูกพนักงานในบริษัทของที่บ้านซะอีก
แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีอะไรดีนะ ความจริงก็ยังมีอะไรดีๆ อยู่บ้าง เช่น ป๊าไม่ได้ให้พวกเรากับบ้านใหญ่อยู่บ้านหลังเดียวกันหรอกนะ ป๊าสร้างบ้านแยกให้เราอยู่กันคนละหลัง แต่อยู่ในเขตบริเวณพื้นที่เดียวกัน หลังใหญ่สุดที่ป๊าจะอยู่ประจำ มีแม่ใหญ่และลูกๆ ทั้ง 2 อาศัยอยู่ด้วยส่วนฉันกับแม่จะอยู่อีกหลังถัดมา
และป๊ากับเฮียเตชินพี่ชายคนโตของฉัน ก็ให้ของขวัญเป็นเช็คเงินสดจำนวนมากในแต่ละเทศกาลหรือโอกาสพิเศษอยู่บ่อยๆ เงินส่วนนี้ฉันฝากประจำไว้ในธนาคาร เผื่อไว้ใช้ในโอกาสจำเป็นเท่านั้น และตอนนี้มันก็มีมากจนถ้าแม่ใหญ่หรือเจ้เพ-ลินรู้เข้ามีหวังบ้านแตกแน่ ๆ
แต่ใครแคร์ ถ้าบ้านแตกจริงๆ ฉันก็แค่พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส พาแม่ออกมาจากขุมนรกนั่นสักที