‘ว่าไงล่ะขวัญ เธอจำได้หรือเปล่า ว่าทำไมเธอถึงมานอนกับฉันที่นี่ จำได้ไหม!’
เขาแทบจะถลาไปกระชากหล่อนมาเค้นถาม ถ้าไม่เห็นสายตาเอาเรื่องของภาพตะวันก่อน
‘ขวัญไม่รู้ค่ะ ขวัญตื่นมา ขวัญก็เห็นพี่เหนือแล้ว’
‘โธ่โว้ย! ทำไมจำอะไรไม่ได้เลย’
เวลานั้นเขาสบถออกมาอย่างหัวเสียสุด จนขวัญตะวันสะดุ้ง ก่อนจะเป็นเขาที่ทั้งสะดุ้งและเย็นวาบไปถึงไขสันหลัง ในสิ่งที่ภาพตะวันพูดออกมา
‘มึงไม่ต้องมาตวาดน้องกูไอ้เหนือ มึงเป็นผู้ชาย มึงสิ! ต้องเป็นฝ่ายจำได้ ไม่ใช่น้องกู! แล้วถ้าน้องกูจำอะไรไม่ได้ มันก็เป็นเพราะมึง ไม่ใช่เรื่องที่มึงจะมาคาดคั้นน้องกูเลย’
ภาพตะวันเข้าไปโอบกอดน้องสาวที่โผเข้าซุกหน้ากับอก
ขวัญตะวันสั่นสะอื้นร้องไห้จนหอบตัวโยน ทำให้เขาไปต่อไม่เป็น พยายามนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน แต่มันก็เลือนรางนัก คลับคล้ายคลับคลาแต่ฟันธงไม่ได้
‘แล้วมึงก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่มึงทำกับน้องกูด้วย’
‘กูไม่รับ กูกับขวัญไม่ได้รักกัน เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นอุบัติเหตุ หรือไม่ก็มีคนจัดฉาก ถ้ามึงเก่งจริงไอ้ตะวัน มึงก็ไปหาคนที่มันทำร้ายกูกับขวัญมาสิ ไม่ใช่มาคาดคั้นให้กูแต่งงานกับขวัญ’
‘เรื่องนั้นกูต้องจัดการแน่ แต่เรื่องของมึง กูก็ต้องจัดการ ในเมื่อมึงพรากความสาวไปจากน้องกู มึงต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงานเท่านั้น’
‘พี่ตะวันไม่เอานะ ขวัญไม่แต่งนะ ขวัญไม่แต่ง’
‘ไม่เอาไม่ได้ขวัญ พี่จะไม่ให้มันมาเจาะไข่แดงขวัญฟรีๆ หรอก พี่ไม่ยอมแน่’
เขามองสองพี่น้องด้วยความสมเพช นึกรู้แล้วว่าคนจัดฉากมันเป็นใคร เมื่อภาพตะวันเรียกร้องให้เขาแต่งงานกับขวัญตะวัน คงคิดว่าเขาไม่รู้
‘เลิกเล่นละครได้แล้ว ขี้เกียจดูว่ะ’
‘ละครอะไรของมึงไอ้เหนือ’
‘ก็บทพี่ชายแสนดี กับน้องสาวแสนจะอาภัพที่ถูกผู้ชายเจาะไข่แดงแล้วไม่รับผิดชอบไง’
‘ไอ้เหนือ มึงแม่งโคตรเลว มึงเจาะไข่แดงน้องกู แล้วยังมาพูดเหี้ยๆ แบบนี้อีกเหรอ’
‘เจาะไข่แดงอะไรของมึง กูไม่ใช่ควายนะโว้ย! กูเอาผู้หญิงมาเป็นร้อย กูรู้ว่าอันไหนของจริง อันไหนย้อมแมว’
‘ย้อมแมวเหรอ งั้นมึงดูนี่เลย’
‘ว้าย! พี่ตะวันไม่เอานะ! อย่านะ!’
เวลานั้นเขายิ้มกว้างอย่างสมเพชที่เห็นสองพี่น้องฉุดกระชากผ้าห่มกันไปมา ขวัญตะวันร้องวี้ดว้าย มือหนึ่งยื้อผ้าห่มที่ภาพตะวันพยายามกระชากออก อีกมือก็กำผ้าห่มที่ช่วงอกแน่น
‘ว้าย! ไม่นะ!’
ก่อนที่หล่อนจะร้องเสียงหลง ส่วนเขาก็ยิ้มค้างไปต่อไม่เป็น
หยาดหยดสีแดงเปรอะเปื้อนผ้าปูที่นอนเป็นด่างดวงเล็กบ้างใหญ่บ้าง รวมทั้งเปื้อนอยู่ตามต้นขานวลเนียนที่เห็นเพียงหมิ่นๆ เพราะขวัญตะวันรีบคว้าผ้าห่มมาปิดไว้ได้ทัน
สิ่งที่เห็นจะให้เข้าใจเป็นอื่นได้ยังไง ถ้าไม่ใช่เขาเป็นคนเปิดบริสุทธิ์ขวัญตะวันจริงๆ แต่ทำไมเขาจำช่วงเวลานั้นไม่ได้ จำได้แต่เสียงร่ำร้องครางกระเส่าให้เขาเร่งเร้า และเขาก็มันเหลือเกิน
แต่เขาจำได้นะว่าผู้หญิงที่เขาตักตวงเอาความสุขครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ได้ขาวอมชมพูไปทั้งร่างเหมือนคนตรงหน้า ไม่ได้มีผมดำยาวสยายยุ่งๆ เหมือนตอนนี้ และทรวดทรงก็ไม่ใช่
หรือทั้งหมดนั้นมันมาจากฤทธิ์ยา มันทำให้เขาไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดของขวัญตะวัน
ทำให้เขาปฏิเสธไม่ได้
จึงทำให้มีวันนี้ วันที่เขาเป็นเจ้าบ่าวแล้วหล่อนเป็นเจ้าสาว
เจ้าสาวที่เขา ‘ชิงชัง’ น้ำหน้าหล่อนนัก
โดยเฉพาะงานแต่งในค่ำคืนนี้ ‘พ่อเลี้ยงชัยสิทธิ์’ พ่อของหล่อนกับแม่ของเขาเป็นเจ้าภาพ โดยมารยาททำให้เขาต้องไหว้พ่อเลี้ยงชัยสิทธิ์เพราะเป็นพ่อเจ้าสาว ทั้งที่เกลียดเข้าไส้
เกลียดมากเมื่อชายวัยกลางคนแต่ยังดูสมาร์ต นั่งอยู่เคียงคู่กับแม่ของเขา และพากันพูดคุยกันกะหนุงกะหนิง คนทั่วไปอาจจะมองว่านั่นคือมิตรภาพอันดีงามระหว่าง 2 ครอบครัวที่มีมาช้านาน แต่เขากลับรู้ว่าไม่ใช่
แต่ทั้งหมดจำต้องข่มใจไว้ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม เขาทำให้แม่เสียหน้าไม่ได้ และเขาก็เป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่ประจานใคร โดยเฉพาะที่ใครคนนั้นเป็นเจ้าสาวในค่ำคืนนี้
แค่เขาก็รู้ว่าจะต้องระบายความโกรธกับใครก็พอ
เพราะใครเล่าจะทำให้พ่อเลี้ยงชัยสิทธิ์เจ็บปวดได้เท่าลูกสาวสุดที่รัก
“พี่เหนือจะอาบน้ำก่อนหรือเปล่าคะ”
“ถามทำไม”
เสียงห้วนถามกลับไป ก่อนจะกลายเป็นยิ้มเยาะ เมื่อเห็นเจ้าสาวทำหน้าเอียงอาย
เหนือสมุทรก้าวเข้าไปหาและก็เห็นขวัญตะวันมองเขาแบบเขินๆ เล็กน้อย รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้า เมื่อพาตัวเองไปยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าสาวร่างเล็กเหมือนตุ๊กตา ค้อมร่าง ก้มหน้าลงไปหา ค่อยๆ เอื้อมมือประคองไหล่ทั้งสองข้างของขวัญตะวันเอาไว้ ขืนร่างเล็กให้ยืนประจันหน้ากับเขา แค่นั้นหล่อนสะท้านขึ้นอีก
เหนือสมุทรยิ้มกว้างเคลื่อนใบหน้าลงไปจนแทบชิดติดปลายจมูกน้อยๆ
“กลัวเหรอ”
“เอ่อ... ไม่ค่ะ ไม่กลัว”
“แล้วทำไมตัวสั่น”
“ก็...”
“ไม่ต้องกลัวหรอกนะ”
เสียงทุ้มเอ่ยออกไป เจ้าสาวแสนสวยช้อนดวงตาสุกใสขึ้นมองเขา เหนือสมุทรยิ่งยิ้มกว้างมากขึ้นอีก เขาเห็นแววรักในดวงตาคู่นั้น ไม่ผิดแน่ นั่นคือ ‘ความรัก’
ขวัญตะวัน ‘รัก’ เขา
ฝ่ามือข้างหนึ่งเคลื่อนขึ้นประคองใบหน้าสวย อีกข้างแตะบั้นเอวและลูบไล้ไปที่แผ่นหลัง สัมผัสอ่อนโยนแบบนั้น เจ้าสาวก็ยิ่งเขินมากขึ้นอีกจนไม่กล้าสบสายตา
“ไม่ต้องกลัวหรอกนะ” นิ้วเคลื่อนมาที่ปลายคางเล็ก เชยใบหน้าจิ้มลิ้มให้มองเขา
“เพราะเธอน่ะ มันก็แค่ลูกฆาตกร ต่อให้มันนอนแบตรงหน้า ฉันก็เอาไม่ลง อย่าฝันว่าจะได้เห็นขาอ่อนฉันเลย”