ตอนที่ 3
ฮัมดีนเหยียดยิ้มขณะเดินเข้าไปใกล้ปัณฑารีย์ ก่อนจะเท้ามือคร่อมร่างบางเอาไว้
“ที่เธอเจอสองสามวันนี้ยังน้อย กว่าจะถึงบ้านของฉัน เธอยังจะต้องโดนอีกเยอะ เตรียมตัวไว้ได้เลย พรุ่งนี้เธอได้เจอบทเรียนของจริงจากทะเลทรายบ้านฉันแน่ ปั้นหยา!”
“คุณทำอย่างนี้ทำไมคุณฮัมดีน ฉันไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจ ถึงได้แกล้งและทรมานฉันแบบนี้”
“เปล่า...เธอไม่ได้ทำ แต่เผอิญว่าเธอดันเข้ามาในจังหวะที่ฉันอารมณ์ไม่ค่อยดี แล้ววิธีที่จะทำให้ฉันอารมณ์ดีขึ้นมาก็คือ การหาเรื่องแกล้งใครสักคน แล้วที่ว่าก็คือ...เธอ!”
ฮัมดีนมองไปบนหน้านวลที่แม้ว่ามันจะแดงก่ำเพราะร้องไห้ ทว่าความสวยงามและบริสุทธิ์ยังคงมีให้เห็น ในรูปเขาก็ว่าน่ารักแล้วนะ แต่พอได้มาเห็นตัวจริง...ทำเอาผู้หญิงที่ได้เห็นในรูปชิดซ้ายไปเลย
มิน่าล่ะ พ่อเขาถึงได้หลงเพ้อชะเง้อคอ เฝ้ารอคอยให้หญิงสาวเรียนแทบทนไม่ไหว เพียงเพื่อที่จะกลายมาเป็นโสเภณีบำรุงบำเรอชายชราตัณหากลับ ริอ่านจะมีเมียอายุอ่อนกว่าลูกชายอย่างเขาเสียอีก แม่ง...มันน่าฆ่าแม่นี่ฝังใต้พื้นทรายให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
“แต่สิ่งที่คุณทำ มันไม่ใช่พฤติกรรมของผู้ชายที่จะทำกับผู้หญิงไม่มีทางสู้นะ” ปัณฑารีย์ต่อว่าเสียงสั่น ด้วยหวังว่าคำพูดที่ออกไปจะทำให้ชายหนุ่มเปลี่ยนใจปล่อยเธอกลับบ้าน กลับไปอยู่ตามลำพังประสาคนถูกทอดทิ้ง
“แล้วไง ผู้ชายต้องทำยังไงกับผู้หญิงละ ต้องทำแบบนี้หรือไง” ฮัมดีนโน้มใบหน้าลงไปจนปากหนาแนบบนเรียวปากนุ่มอย่างแม่นยำ เขากดย้ำลงไปอย่างหนักหน่วงและรุนแรงด้วยต้องการโทสะที่มีและอารมณ์บางอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ในใจ
ปัณฑารีย์ทั้งกลัวและตกใจแต่เพราะยังไม่เคยได้ใกล้ชิดชายใดเช่นนี้มาก่อน เลยทำให้เกิดอารมณ์บางอย่างที่ไม่อาจจะฝืนได้ สัมผัสที่ทำให้เธอถึงกับเข่าถึงกับอ่อนยวบ แต่ดีว่าได้อ้อมแขนแข็งแรงรัดเอวไว้ เธอยกมือยันอกกว้างสลับกับดันใบหน้าคมให้ถอยห่าง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องถอยไปทางไหนดี ด้านหลังก็ติดกับกำแพงหนา แล้วตัวเธอยังตกอยู่ในอ้อมกอดของชายที่นิสัยไม่ดี หยามเกียรติวนเวียนมอบจุมพิตเร่าร้อนและดูดดื่ม ดูดกลืนเอาลมหายใจของเธอออกจากปอด
จนตอนนี้ปัณฑารีย์รู้สึกเหมือนกับว่า เธอกำลังจมลงไปในน้ำ หายใจไม่ออกเพราะขาดออกซิเจน ปากเล็กอ้าออกเพื่อสูดเอาลมหายใจเข้าปอด แต่กลับเป็นการเปิดทางให้ชายนิสัยไม่ดีที่เฝ้ารออยู่ก่อนแล้ว ส่งลิ้นสากร้อนล่วงล้ำเข้ามาภายใน
แม้จะหวั่นไหวไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อต้าน อีกทั้งยังคิดอะไรไม่ออก แต่ปัณฑารีย์ก็ยังพยายามที่จะพาตัวเองให้หลุดจากอ้อมกอดและสัมผัสของฮัมดีน แต่เธอกลับไม่รู้เลยว่า ยิ่งต่อต้าน กลับยิ่งก่อเกิดความปรารถนามากยิ่งขึ้น
คิดไม่ถึงว่าสัมผัสที่ได้รับจากปัณฑารีย์จะหวานขนาดนี้ ยิ่งทำให้อยากใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ปากเขาขบเม้มดื่มด่ำกับจุมพิต ขณะมือก็นวดคลึงไปทั่วกายอรชรอย่างย่ามใจ
สัมผัสที่มีทั้งเราร้อนและอ่อนหวาน อีกทั้งยังเรียกร้องให้ตอบสนองทำให้ปัณฑารีย์เริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง ยิ่งเธอพยายามผลักไสมากเท่าไหร่ กลับยิ่งทำให้ตัวเองตกลงในห้วงสัมผัสที่ฮัมดีนมอบให้มากเท่านั้นและเธอก็เผลอตอบสนองไป
มือที่เคยวางเฉยเริ่มเคลื่อนไหวไปอย่างเชื่องช้า กล้าๆ กลัวๆ สองแขนเรียวโอบรอบลำคอแกร่ง นิ้วเรียวยาวสอดแทรกไปตามเส้นผมหนานุ่ม
ใบหน้าคมเคลื่อนไปทั่วใบหน้านวลและหยุดที่ใบ ขบเม้มพลางหยอกล้อกับช่องหูเล็ก
“ก็เธอมันเร่าร้อนและง่ายแบบนี้นี่เองปั้นหยา ผู้ชายถึงอยากได้มานอนด้วย”
เพี๊ยะ!! เพี๊ยะ!!
“ท่านอิบรอนคงจะคิดว่าถ้าให้ลูกสาวเป็นเมียพ่อฉัน ตัวเองจะได้มีอำนาจเหนือสองแคว้น ต้องการสิ่งใดก็จะได้ทุกอย่าง เลยยอมขายลูกสาวของตัวเองให้กับผู้ชายแก่คราวพ่อ”
ปัณฑารีย์เข่าอ่อนยวบ กายบางทรุดลงกองกับพื้นด้วยหมดเรี่ยวแรงที่จะยืน น้ำตาไหลอาบสองแก้ม ในที่สุดเธอก็ได้รู้ ทำไมพ่อถึงให้คนพวกนี้มาเอาตัวเธอไป ไม่ใช่เพราะรัก ไม่ใช่เพราะคิดถึง ไม่ใช่เพราะห่วงใย แต่เป็นเพราะผลประโยชน์อันมหาศาลที่จะได้รับ
เสียงคุยจากห้องข้างๆ เงียบไปแล้ว แต่ปัณฑารีย์ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น จนแสงอาทิตย์เริ่มเคลื่อนคล้อยลาลับทิวไม้ใหญ่ เธอถึงได้รู้สึกตัวว่าได้ปล่อยให้ความเศร้า เสียใจและเจ็บปวดในสิ่งที่ได้รู้เกาะกินหัวใจ
ปัณฑารีย์ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้า ยันตัวลุกจากพื้นที่นั่งอยู่ ในขณะที่สมองก็พยายามครุ่นคิดหาทางออกจากเรื่องที่ได้รับรู้มา แต่ความกลัวที่ซ่อนอยู่ในใจก็ดึงรั้งให้เธอไม่กล้าที่จะทำอะไร เพราะกลัวพายุอารมณ์ของผู้ชายที่ชื่อ...ฮัมดีน อิลลา ซยานีน
เพียงแค่คิดว่าจะต่อกรก็เริ่มมีก็ลดลงจนแทบไม่มีเหลือยิ่งถูกชายหนุ่มทำตาดุใส่ ใช้กำลังเล็กน้อย เธอก็หวาดผวาแล้ว แต่ที่ทำให้ตกใจจนตัวสั่นก็น้ำเสียงที่ทั้งดุและแข็งกร้าวที่พูดกรอกหูอยู่ทุกคืนก่อนนอน ว่าจะปล่อยเธอทิ้งไว้ในทะเลทรายเพียงลำพังนั่นแหละ
แต่สิ่งที่ได้ยินในวันนี้ ไม่ต้องให้เขาปล่อยเธออยู่กลางทะเลทรายหรอก เพราะตอนนี้ก็เท่ากับเธอยืนอยู่ปากเหวลึก ที่พร้อมจะตกลงไปทุกวินาที
“เป็นไงปั้นหยา ได้ยินแล้วรู้สึกยังไงบ้าง เจ็บไหม”
ปัณฑารีย์ผงะ ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะรู้ว่าเธอแอบฟังเรื่องที่เขาและลูกน้องพูดกัน ถ้าเป็นเช่นนั้น...ฮัมดีนอาจจะไม่พูดความจริงก็ได้นะสิ เขาอาจจะแกล้งหาเรื่องเธอก็ได้นี่น่า แกล้งเหมือนกับที่แกล้งมาทุกวัน
ตอนเช้าปลุกเธอจากที่นอนพาตะเลงๆ ไปไหนมาไหนด้วย ตกเที่ยงก็บังคับให้ทานอะไรต่ออะไรก็ไม่รู้ที่เธอไม่คุ้นเคย กินไปก็เกือบจะอาเจียนไปก็หลายรอบ พอตกเย็นแทนที่จะได้พักผ่อน ยังบังคับให้เธอเรียนเต้นอะไรก็ไม่รู้ ส่ายเอวส่ายสะโพกกระยึกกระยือจนเอวเธอแทบจะหักออกเป็นสองท่อน
ฮัมดีนเหยียดยิ้มขณะเดินเข้าไปใกล้ปัณฑารีย์ ก่อนจะเท้ามือคร่อมร่างบางเอาไว้
“ที่เธอเจอสองสามวันนี้ยังน้อย กว่าจะถึงบ้านของฉัน เธอยังจะต้องโดนอีกเยอะ เตรียมตัวไว้ได้เลย พรุ่งนี้เธอได้เจอบทเรียนของจริงจากทะเลทรายบ้านฉันแน่ ปั้นหยา!”
“คุณทำอย่างนี้ทำไมคุณฮัมดีน ฉันไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจ ถึงได้แกล้งและทรมานฉันแบบนี้”
“เปล่า...เธอไม่ได้ทำ แต่เผอิญว่าเธอดันเข้ามาในจังหวะที่ฉันอารมณ์ไม่ค่อยดี แล้ววิธีที่จะทำให้ฉันอารมณ์ดีขึ้นมาก็คือ การหาเรื่องแกล้งใครสักคน แล้วที่ว่าก็คือ...เธอ!”
ฮัมดีนมองไปบนหน้านวลที่แม้ว่ามันจะแดงก่ำเพราะร้องไห้ ทว่าความสวยงามและบริสุทธิ์ยังคงมีให้เห็น ในรูปเขาก็ว่าน่ารักแล้วนะ แต่พอได้มาเห็นตัวจริง...ทำเอาผู้หญิงที่ได้เห็นในรูปชิดซ้ายไปเลย
มิน่าล่ะ พ่อเขาถึงได้หลงเพ้อชะเง้อคอ เฝ้ารอคอยให้หญิงสาวเรียนแทบทนไม่ไหว เพียงเพื่อที่จะกลายมาเป็นโสเภณีบำรุงบำเรอชายชราตัณหากลับ ริอ่านจะมีเมียอายุอ่อนกว่าลูกชายอย่างเขาเสียอีก แม่ง...มันน่าฆ่าแม่นี่ฝังใต้พื้นทรายให้มันรู้แล้วรู้รอดไป