ทางด้านประชาสัมพันธ์
"แกโอเคป่ะยันวัชพืชมงคล" เพื่อนสาวที่สังเกตการณ์และรู้ดี ยิ่งกว่าตัวเธอทักถามขึ้นมาทันทีเมื่อ คนไข้สองชายหญิงเดินจากไป
"ชื่อใบหม่อน เรียกดี ๆ ดิ ยัยโคลน ทำไม่จะไม่โอเคละ คนอย่างใบหม่อนเลิกคือเลิกไง" หญิงสาวพูดด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจว่าจะไม่มีทางกลับไปคืนดีกับอดีตแฟนหนุ่มอย่างสกาย
"ชื่อชาโคลเหอะ แล้วทำไมถึงเลิกกันได้วะเห็นแกสองคนรักกันออก ขนาดนั้นไม่คิดว่าจะมีวันที่ต้องเลิกลากัน คนเชียร์อย่างฉันยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเลยนะ" ชาโคลยักคิ้วกวน ๆ ส่งไปให้เพื่อนสาว
"อืม ก็ไม่คิดเหมือนกัน เขาไม่ง้อจะหน้าด้านกลับไปขอคืนดีก็ไม่ได้แล้วป่ะเป็นคนบอกเลิกเองก็ต้องทำใจอยู่ดีว่ะ" ใบหม่อน พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าใจ เพราะความที่เธอปากไว(พล่อย)ไปหน่อย เลยขอเลิกไปอย่างนั้นและไม่คิดว่าจะต้องเลิกกันจริง ๆ
"ถามจริง! แกได้พกสมองมาด้วยป่ะเนี่ย~" ชาโคลมองเพื่อนสาวตัวเองอย่างอึ้ง ๆ รักกันปานจะกลืนกินจะเลิกก็เลิกกันง่าย ๆ ขนาดนี้เลยหรอวะ คนสวยไม่เข้าใจ!
"ถ้าไม่พกมาจะเรียนจนจะจบแล้วต้องมาฝึกงานอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ไหมล่ะ ถามอะไรโง่ ๆ ไม่สมกับชาโคลเลยนะ" ก็ไม่ต้องแปลกใจหรอก ที่คบกันอยู่แค่สองคนก็เพราะปากหมาด้วยกันทั้งคู่นี่แหละ
"โอ๊ยย ยัยซื่อบื้อเอ๊ย ช่างมันเถอะ สมองมันคนละส่วนกัน แกเข้าใจไหมว่าสมองความรู้สึกกับสมองการเรียนมันคนละส่วนกัน ฉันอยากจะกรี๊ด ถามจริงเหอะใบหม่อนแกยังรักเขาอยู่หรือเปล่า" ชาโคลมองเพื่อนตัวเองพร้อมกับระบายอารมณ์ออกมาทันทีด้วยความที่เธอเป็นคนเก็บอารมณ์ไม่อยู่อยู่แล้วยิ่งมาเจอเพื่อนที่ไม่รู้ว่าฉลาดเฉพาะแค่การเรียนหรือเปล่าเพราะเรื่องอื่นก็คือดูมันโง่ไปหมดเลย ช่างหัวมันเถอะ
"รักสิ รักมากด้วย" ใบหม่อนหันไปยิ้มบอกกับเพื่อนสาวแม้ใจข้างในจะรู้สึกปวดร้าวมากก็ตามไม่เป็นไรเธอทนได้เจ็บแค่นิดเดียว ทนไหวอยู่แล้ว
.
.
ห้องตรวจ
"คุณสกาวฟ้า เชิญค่ะ ห้องตรวจสองนะคะนายแพทย์รออยู่" ผู้ช่วยพยาบาลเดินออกมาเรียกคนไข้ที่มีคิวรอ ตรวจและฝากครรภ์ ทันทีหลังจากที่คนไข้รายก่อนหน้านี้ได้ตรวจและทำการฝากครรภ์กับคุณหมอจนมาถึงคิวของสกาว
"สกาวเขาเรียกแล้ว ให้พี่เข้าไปด้วยไหม" สกายถามน้องสาวทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกของผู้ช่วยพยาบาล
"ไม่เป็นไรพี่รออยู่ข้างนอกนี่แหละหนูเข้าไปเองไม่ต้องห่วงหรอกน่าแค่นี้สบาย ๆ เดี๋ยวเอารูปอุลตร้าซาวด์ยายจิ๋วมาฝาก" สกาวส่งยิ้มให้พี่ชายก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องตรวจสอง
.
.
"สวัสดีค่ะคุณหมอมาฝากครรภ์ค่ะ" สกาวเข้าไปถึงในห้องก็กล่าวสวัสดีทักทายคุณหมอเจ้าของไข้ทันที เธอไม่รู้ว่าคุณหมอเป็นใครเนื่องจากเขาหันหลังให้เธอและเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้างก็ไม่รู้ข้างๆเตียงนอน คนไข้
"เชิญครับ" หลังจากเตรียมอุปกรณ์เสร็จทักษ์ก็หันกลับมามองคนไข้ของตัวเองก็แอบตกใจนิดหน่อยแต่ก็ยังคงนิ่งเฉย เพราะเขาเจอผู้หญิงคนนี้เมื่อวาน! เธอท้อง!!
"คะ..ค่ะคุณหมอ" สกาวเองก็แอบตกใจไม่ต่างกันเพราะเธอไม่คิดว่าจะเจอเขาอีกในวันนี้ ตอนที่เธอเข้ามาในโรงพยาบาลแห่งนี้ก็ไม่ได้สังเกตเพราะโรงพยาบาลที่ไหนมันก็คล้าย ๆ กัน สรุปก็คือไม่ใช่คล้ายกันแต่มันคือโรงพยาบาลที่เธอมาเมื่อวาน เพื่อมาตามคุณยายกลับบ้าน!
"ประจำเดือนไม่มากี่เดือนแล้วครับ" ทักษ์ ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีแม้จะยังสงสัยเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานแต่เขาเองก็ทำตัวปกติไม่ได้มีพิรุธอะไร
"เอ่อ สะ..สองเดือนค่ะ" สกาวตอบเสียงดวงตาแอบเลิ่กลักไม่น้อย เธอเองก็พยายามปรับลมหายใจของตัวเองให้มันอยู่ในอาการปกติไม่ตื่นเต้นจนเกินไปกว่านี้
"แล้วประจำเดือนมาครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ครับ พอจะจำได้ไหม" ผมมองคนไข้ที่เข้ามาฝากครรภ์ไม่คิดว่าจะเป็นเธอเจอกันอีกแล้วสินะเธอคือความวุ่นวายของผม ความจริงแล้วมันอาจจะไม่เกี่ยวกับเธอก็ได้แต่ว่า ตั้งแต่เมื่อวานที่ผมเจอเธอก็มีแต่เรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นไม่หยุด
"จำวันที่ ที่แน่นอนไม่ได้ค่ะคุณหมอแต่มันมาช่วงประมาณต้นเดือนเมื่อ สองเดือนที่แล้วแล้วก็ขาดหายไปเลย พอตรวจครรภ์ดูก็ขึ้น สองขีด" สกาวเริ่มปรับจูนอารมณ์ของตัวเองให้มาเป็นปกติได้แล้วก็อธิบายไปตามความจริง
"ครับ งั้นเดี๋ยวผมจะโทรวันกำหนดคลอดคร่าวให้ก่อนแล้วกันคุณพอจะจำวันที่ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายได้หรือเปล่า" หมอทักษ์ถามอีกครั้ง เพื่อความชัวร์ในการคาดคะเนวันกำหนดคลอดก่อนที่จะไปอุลตร้าซาวด์ ดูเด็กในท้องของเธอ
"จำวันที่ที่แน่นอนไม่ได้ค่ะคุณหมอแต่ว่ามัน คงช่วงประมาณวันที่ 7-12 กุมภา ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะเพราะมันหลายเดือนแล้ว" สกาวตอบหมอออกไปพร้อมกับเห็นคุณหมอกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ตรงหน้าเธอซึ่งเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่เขาเลื่อนกระดาษกลมๆนั้นมันคืออะไร
"ถ้าประจำเดือนคุณหมดประมาณช่วงนั้นกำหนดคลอดก็จะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนน่าจะเป็นช่วงปลายๆเดือนเพราะตอนนี้ มันก็ใกล้ช่วงซัมเมอร์แล้วเดี๋ยวลองไปอุลตร้าซาวด์ดูอีกทึแล้วกัน" ทักษ์บอกกับหญิงสาวก่อนจะเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้อย่างเป็นที่เป็นทาง
"เดี๋ยวคนไข้ขึ้นไปนอนบนเตียงเลยนะครับ" หมอทักษ์ บอกเธออีกครั้งก่อนที่เขาจะหยิบเจลแล้วก็มองอุปกรณ์ทั้งสองอย่างตรงหน้า ว่าเขาจะเลือกใช้ตัวอุลตร้าซาวด์แบบสอดหรือแบบซาวหน้าท้องดีนะ ซึ่งแน่นอนว่าคุณหมอดี ๆ แบบเขาก็ต้องใช้อุลตร้าซาวด์ ตรงหน้าท้องอยู่แล้วสิ!
"เดี๋ยวคนไข้ดึงเสื้อขึ้นไปถึงใต้หน้าอกเลยนะครับ หมอจะอุลตร้าซาวด์ให้เห็นภาพและให้ฟังเสียงหัวใจเด็กแล้วกันนะครับ" เขาบอกเธอเพียงให้คนไข้ได้ทำตามจะได้ไม่เสียเวลาไปมากกว่านี้
"ค่ะคุณหมอ" สกาวพยักหน้าตอบรับก่อนจะทำตามอย่างว่าง่าย จนถึงตอนที่เจลเย็น ๆ ถูกทาทาบลงบนหน้าท้องที่ยังไม่นู้นออกมาแทบดูไม่ออกเล่นด้วยซ้ำว่าเธอกำลังจะเป็นคุณแม่มือใหม่ป้ายแดง
"เฮือก!" เสียงตกใจทำเอามือหมอที่กำลังถึงเจลบีบลงหน้าท้องถึงกระชะงักและมองคนที่สะดุ้งตกใจอยู่
"___"
"เฮ้อ~ มันเย็นนิดหนึ่งนะครับโทษทีทีหมอไม่ได้บอกไม่คิดว่าคนไข้จะเป็นขี้ตกใจขนาดนี้" หมอทักษ์ก็อดใจได้ได้ที่จะต้องอธิบายให้เธอฟัง ทั้งชีวิตแทบไม่ต้องอธิบายอะไรเลยส่วนใหญ่นางพยาบาลจะคอยอธิบายให้ แต่ไม่รู้ตอนนี้ไปติดธุระที่ไหน ออกไปเรียกคนไข้แล้วก็หายจ๋อมไปเลยไม่บอกกล่าวสักคำ กลับมาละน่าดู
"ค่ะ" สกาวพยักหน้ารับทำความเข้าใน
"ดูที่จอนะครับ อาจจะเจ็บท้องนิดหน่อยหมอต้องกดหาตัวอ่อนน้องนะครับ" เป็นอีกครั้งที่เขาต้องมาอธิบายอะไรแบบนี้ให้คนไข้ แต่เรื่องนี้ช่างมันเถอะถือว่าเพิ่มงานให้ตัวเองแล้วกัน
เพียงไม่นานจอมองมิเตอร์ ก็มีรูปเมล็ดถั่วอันเล็ก ๆ จะว่าเป็นเพียงเมล็ดถั่วก็ไม่ได้เพราะเหมือนเริ่มมีแขนขางอกออกมานิด ๆหน่อย ๆ มอง ๆ ไป ๆ ก็เหมือนปลาดาวที่ยังไม่สมบูรณ์
"เอ๊ะ โห่อเมชิ่งมากครับคุณแม่" หมอทักษ์ตาโตมองจอมอนิเตอร์คอมค้างด้วยความตกใจ ซึ่งคนที่ฟังเสียงของคุณหมอก็ไม่รู้เรื่องได้แต่ขมวดคิ้วมองหน้าคุณหมอสลับกับมองจอมอนิเตอร์คอม
"อะไรคะคุณหมอ" ฉันมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้านบนปลายเตียงนอน กลับมองหน้าหมอสลับกันเหมือนว่าหมอจะดูอึ้งและสติสตางค์หลุดออกจากพะวงไปแล้วหรือเปล่านะ
"มันอเมชิ่งมาก! คุณแม่รู้หรือเปล่าครับว่าคุณแม่ได้ลูกแฝด!" หมอทักษ์กล่าวออกมาอย่างดีใจเพราะนานทีจะมีเคสเด็กแฝดเข้ามาเพราะเคสแบบนี้จะหายากมาก ๆ ส่วนใหญ่เขาจะเจอเฉพาะบุคคลที่อยากได้ลูกแฝดจริงๆมาทำกิ๊ฟ ฝากรังไข่ฝังตัวอ่อนไม่เคยเจอเคสแฝดธรรมชาติแบบนี้มาก่อน
"อะไรนะคะ!" อึ้ง สมอง อึ้ง ร่างกายแข็งค้างคนนอนดูผลอุลตร้าซาวด์ไม่คิดว่าตัวเธอเองจะได้ลูกแฝดเหมือนกัน
"คุณแม่ได้ลูกแฝดนะครับ" หมอทักษ์บอกกับเธอแล้วยิ้มออกมา ตอนนี้ตัวเขาเองก็รู้สึกมีความดีใจอย่างน่าประหลาดทั้ง ๆ ที่เมื่อวาน มันก็คนละฟิวกันเลยหรือตัวเขาเองจะทำงานหนักเกินไปจนเป็นไบโพล่าอารมณ์ขึ้น ๆลง ๆ สงสัยออกเวรวันนี้คงต้องไปตรวจแล้วล่ะ
"ลูกแฝด แฝดเลยเหรอคะหมอ ละ..แล้ว แล้วเรารู้เพศลูกได้เลยไหมคะ" สกาวถามออกมาเสียงลน ๆ เพราะเธอทำตัวไม่ถูกเก็บอาการที่ดีใจเอาไว้ไม่อยู่ ทำทีเดียวมาถึงสองคน มันช่างเป็นเรื่องมหัศจรรย์ของชีวิตเธอ จริง ๆ
"ตอนนี้ยังไม่ทราบเพศครับแต่ถ้าอยากทราบจริง ๆ ก็ต้องเจาะน้ำคร่ำเจาะเลือดตรวจ และรอผลประมาณประมาณสองสัปดาห์ แต่ถ้าคุณแม่จะรอดูตอนอายุครรภ์ 16-18สัปดาห์ ก็รู้เพศแล้วครับ" หมอทักษ์ก็ค่อย ๆอธิบายให้คนไข้ของตนเองฟังเพื่อทำความเข้าใจ
"เข้าใจแล้วค่ะคุณหมอยังไงก็รออุลตร้าซาวด์อีกทีตอนอายุครรภ์ 16สัปดาร์ก็ได้ค่ะ" สกาวหันไปยิ้มพยักหน้าตอบรับคำแนะนำคุณหมอ
"แต่วันนี้คุณแม่ต้องเจาะเลือดเอาไปตรวจนะครับเพื่อป้องกันพาหะนำโรคหรือธาลัสซีเมียในเด็ก" และหลังจากนั้นหมอก็ยังคงอธิบายต่อถึงรายละเอียดที่ต้องดูแลสำหรับคุณแม่พร้อมกับเอาสมุดฝากครรภ์ยื่นให้ และเขียนใบสั่งยาทันที
.
ร่างอรชรเดินออกจากห้องตรวจมองหาพี่ชายตัวเองแต่กลับไม่พบคนที่ควรนั่งรอเธออยู่
"ไปไหนของเขา" สกาวกวาดสายตามองหาพี่ชายทั่วบริเวณนั้นแต่กลับไม่เจอ
เธอจึงตัดสินใจที่จะต่อสายหาพี่ชายตัวเองแต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้วยุ่งเมื่อมองไปยังจุดที่ตัวเองนั่งก่อนจะเข้าตรวจกับพบกระเป๋าของเธอวางอยู่ตรงนั้นพร้อมกับโทรศัพท์มือถือของพี่ชายเธอที่วางอยู่บนกระเป๋า
"โอ้โหพ่อนักธุรกิจ คิดจะทิ้งของก็ทิ้งไปเฉย ๆ อย่างนี้เลยหรือไงรวยมากจริง ๆ เลยนะ" จากที่เธอกำลังอารมณ์ดีเริ่มมีอาการโมโหขึ้นมานิดหน่อยเพราะไม่คิดว่าพี่ชายของเธอจะทิ้งโทรศัพท์ของตัวเองไว้หน้าตาเฉยได้ขนาดนี้ คงกลัวเธอโทรตามมากมั้ง! ชิน่าเบื่อชะมัด