“จริงเหรอ แสดงว่าแกรักเดียวใจเดียวกับพี่หมอว่างั้นเถอะ”
“ก็อืม...”
“ระวังเฮียโทจะไม่ยอมนะ”
“เขาไม่ยอมแล้วเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ”
“เขาไม่ยอม แกไม่ยอม เขาก็ปล้ำแกทำเมียยังไงล่ะ เหมือนพระเอกแก”
“บ้า!” เพลงพิณว่าให้ เฌอร์รินหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ
“เฮ้ยๆๆ เย็นไว้เพลง แกเป็นอะไร ไม่เคยกินไวน์เดี๋ยวก็เมาหรอก” เฌอร์รินแย่งแก้วในมือเพื่อนมาถือเอาไว้ แต่โดนแย่งกลับไปอีกรอบ พอโทธวิทหายไป ในงานก็ดูเหมือนจะปกติสุขเหมือนเดิม แต่เพลงพิณกลับหันมาดื่มไวน์กับเพื่อนทั้งสอง ทั้งๆ ที่ไม่เคยดื่มมาก่อน
“ฉันแค่อยากกินน่ะ”
“เป็นอะไรของแก”
“เปล่าหรอก” เพลงพิณตอบกลับ แต่ในใจกลับคิดเรื่องโทธวิท คิดแล้วก็อยากเมา เธอต้องไม่ชอบขี้หน้าหมอนั่นสิ แต่ทำไมกลับรู้สึกหวั่นไหวแค่โดนเขาจูบเถื่อนๆ แบบนั้น
“ตรี เพลงถามหน่อยสิ”
“อือ... ถามอะไรว่ามาสิ”
“ทำไมป๊าดูไม่ชอบเฮียโทของแกนักล่ะ”
“เฮียโทนะเหรอ” ตรีชฎาทวนซ้ำ มองหน้าเพื่อนเมื่อเห็นอีกฝ่ายสนใจเรื่องพี่ชายคนรอง
“อือ...” เพลงพิณรับคำในลำคอ
“แกจะอยากรู้ไปทำไมยายเพลง ฮันแน่ หรือว่าตกหลุมรักเฮียโทแทนพี่หมอซะแล้ว” เฌอร์รินแซว
“แค่อยากรู้เป็นข้อมูลเผื่อไปเขียนนิยาย”
“อะไรๆ ก็เอาไปเขียนนิยายเสียหมดนะแก แต่ฉันว่าเรื่องเฮียโทไม่น่าจะเกี่ยวนะ” เฌอร์รินว่าให้ ค้อนเพื่อนควักๆ วันนี้เอกวัฒน์มาทักทายพวกเธอเล็กน้อย ก่อนปล่อยให้สาวๆ คุยกันตามสบาย ซึ่งหล่อนก็สังเกตแหละว่าเพื่อนรักไม่ให้ความสนใจเอกวัฒน์เท่าที่ควร ไม่เหมือนตอนแรก อาจเพราะมีคนอื่นน่าสนใจมากกว่าก็เป็นได้
“ถ้าอยากรู้ก็จะเล่าให้ฟัง” ตรีชฎาลดเสียงลงเล็กน้อย
“เป็นยังไงเหรอ” เพลงพิณเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ก็ตอนเฮียคลอดน่ะทำให้แม่ตาย หมายถึงภรรยาของก่อนของป๊า แม่เราน่ะเป็นเมียอีกคน เรียกให้ถูกคือแม่ของพี่หมอกับเฮียโทเป็นป้าเรา”
“แม่ตรีก็เป็นน้องสาวรึ”
“ใช่ ป๊าได้แม่เราเป็นเมียอีกคน แต่ไม่ได้รักนะ แม่เคยบอกว่าป๊าต้องรับผิดชอบเพราะผิดพลาดน่ะ เลยมีเราอย่างที่เห็น ตอนเด็ก ป้ากับลุงเขยเราไม่มีลูกเลยเอาเราไปเลี้ยงที่กรุงเทพฯ เราไม่ค่อยสนิทกับครอบครัวที่เกิดเรามาเท่าไหร่ เพิ่งมาสนิทก็ตอนเรียนจบกลับมาอยู่ที่ไร่นี่แหละ”
“อย่างงี้นี่เอง ปกติตรีก็ไม่เคยเล่าเรื่องครอบครัวละเอียดนัก แค่บอกว่าพ่อกับแม่ทำไร่องุ่นอยู่ต่างจังหวัด”
“ป๊าของแกโกรธเฮียโทอะไรของแกเพราะคลอดออกมาแล้วทำให้แม่ตายเองนะเหรอ เหมือนนิยายที่ไอ้เพลงเขียนเลยอะตรี” เฌอร์รินวิจารณ์ตามคิด
“ไม่เท่านั้นหรอก มันมีอีก เฮียชอบทำตัวเกเรน่ะ มีเรื่องไม่เว้นวันสมัยเรียนนี่อาจารย์ฝ่ายปกครองเรียกป๊ากับแม่เราไปโรงเรียนบ่อยมาก”
“เวลามีเรื่องชกต่อยกันที่โรงเรียนป๊าไม่ไปแม่ของตรีกับพี่หมอจะไปเป็นผู้ปกครองให้ประจำ ป๊าบอกว่าเฮียไม่เคยสำนึก ยิ่งหาเรื่องให้ป๊าปวดหัว”
“คนเรานี่ล่ะน๊าไม่รู้จักสำนึกจริงๆ” เฌอร์รินวิจารณ์ไม่หยุด เลยได้สายตาพิฆาตมาจากตรีชฎา
“ขอโทษแล้วกัน ไม่ได้ตั้งใจจะว่าพี่ชายของแกนะตรี”
“เฮียไปชอบผู้หญิงคนหนึ่ง เรียกว่ารักมากมั้ง แต่ป๊าไม่ชอบเลยขัดขวาง ขัดขวางไม่สำเร็จนะ เฮียก็อยู่กินกับผู้หญิงคนนั้น แต่สุดท้ายผู้หญิงคนนั้นทิ้งไปมีผู้ชายคนอื่น เฮียเลยเสียใจ อาการหนักกว่าเดิมอีก ป๊าเลยซ้ำเติม ป๊าอยากให้เฮียมาดูแลไร่ เพราะพี่หมอน่ะคงไม่สนใจจะทำไร่แล้วล่ะ”
“เป็นแบบนี้นี่เอง” เฌอร์รินพยักหน้าเข้าใจ
“เฮียไปก่อเรื่อง ป๊าต้องไปประกันตัวก็เลยกลับมา แต่เฮียก็ไปๆ มาๆ นะ ไม่ได้อยู่บ้านถาวร”
“เฮียของตรีคนนี้ประวัติการโชกโชนเชียวนะ” เฌอร์รินวิจารณ์อีก แต่เพลงพิณนั่งฟังเฉย
“อือ... ช่วงนึงเฮียเคยติดคุกด้วย”
“จริงเหรอ” เฌอร์รินอ้าปากค้าง ในขณะที่เพลงพิณฟังนิ่งเช่นเดิม
“จริง ป๊าด่าเฮียใหญ่ว่าทำให้ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลเสียหาย”
“เฮียของตรีติดคุกได้ยังไงกัน” เพลงพิณเอ่ยถามขึ้นบ้าง
“เฮียไปช่วยเพื่อนมีเรื่องกับคู่อริ เพื่อนเฮียหายหัวไปกันหมด เฮียเลยติดคุก ทำความดี เป็นนักโทษชั้นดีก็เลยออกมาเร็ว”
“เพื่อนแย่ๆ” เพลงพิณพูดเหมือนโมโห
“แกจะโมโหทำไมห๊ะยังเพลง ทำยังกับตัวเองติดคุกเสียเองนี่นา”
“ไม่ใช่เท่าแต่เพลงหรอก เราก็โมโห” ตรีชฎาพูดแล้วหน้าบึ้ง
“ดูๆ ไปเฮียของแกไม่ใช่คนดีอะไร ทำไมแกถึงได้เข้าข้างนักล่ะ” เฌอร์รินถามอย่างสงสัย
“เฮียเป็นคนดีนะ ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรหรอก แต่ห่ามๆ ตามประสา ตอนเรากลับมาอยู่ไร่ เฮียก็สอนอะไรเราตั้งหลายอย่าง”
“ไหนป๊าบอกไม่เอาไหน”
“จริงๆ เฮียก็เก่งนะ แต่ไม่ค่อยแสดงออก เฮียกับป๊าไม่ค่อยลงรอยกันน่ะ พูดกันได้ไม่นานก็ทะเลาะ เฮียมีความคิดเรื่องทำไร่อีกอย่าง ป๊ามีความคิดอีกอย่างเลยเข้ากันไม่ได้ เฮียเลยไม่เข้ามาดูแลไร่อย่างจริงจังสักที”
ตรีชฎาพูดตามจริง บิดาของเธอชอบคิดว่าโทธวิทไม่เอาไหน และต้องฟังคำสั่งอย่างเดียว แต่พี่ชายคนรองของเธอมีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร เห็นเถื่อนๆ แบบนั้นมีลูกน้องเยอะเชียว แต่ละคนรักและจงรักภักดีกับโทธวิทยิ่งกว่าอะไร
“เฮียโทเรียนจบอะไรเหรอตรี” เฌอร์รินถามต่อ
“เฮียเรียนไม่จบ”
“จริงเหรอ ป๊าแกคงโกรธมาก”
“เป็นความลับนะพวกแก ห้ามไปบอกใคร” ตรีชฎาลดเสียงลงเล็กน้อย
“อะไร”
“ก็สาขาที่ป๊าให้เฮียเรียน เฮียเรียนไม่จบ แต่เฮียเรียนจบด้านอื่นที่ชอบ”
“โห... เฮียแกก็ไม่ธรรมดานะนี่”
“ก็ไม่ธรรมดาน่ะสิ ผู้หญิงชอบเฮียเยอะแยะ”
“เฮียโทเจ้าชู้รึ” เฌอร์รินหูผึ่ง
“ไม่น่ะ เฮียเป็นคนรักใครรักจริง ผู้หญิงคนไหนมาอ่อยไม่เคยสน หมายถึงตอนที่เป็นแฟนกับผู้หญิงคนนั้นที่ทิ้งเฮียไป แต่พอเลิกกันเฮียก็มีเรื่อยๆ ผู้หญิงมาอ่อยเฮีย”
“แล้วทำไมพี่ชายแกถึงมาประกาศว่าจะจีบยายเพลง”
“ก็ไม่รู้สิ” ตรีชฎายักไหล่ อันนี้เธอไม่รู้จริงๆ
“หรือเฮียแกจะชอบยายเพลงจริงๆ”
“แกก็เพ้อเจ้อยายเฌอร์” เพลงพิณว่าให้
“ก็แปลก คนทำท่าเหมือนจะไม่ชอบหน้ากัน แต่มาประกาศว่าจีบ หรือเขาอยากเอาชนะแก”
“ไม่รู้นะ เฮียโทชอบเอาชนะอยู่เหมือนกัน” ตรีชฎาวิจารณ์บ้าง
“ตอนเรียนคงเกเรมากสินะ” เฌอร์รินเปรย
“เกเรถึงขนาดติดคุก ป๊าบังคับให้ไปเรียน แต่เฮียก็โดดเรียนจนเรียนไม่จบ แต่ไปแอบเรียนอีกที่จนจบ เรื่องนี้ไม่มีใครรู้นอกจากฉัน”
“แกไปรู้ความลับของเฮียโทได้ไง”
“ก็แอบไปเห็นหลักฐานการเรียนจบน่ะ แต่น่าเสียดายเฮียไม่บอกป๊า จริงๆ ได้ไปแสดงความดีใจตอนรับปริญญา แต่เฮียไม่ได้ไปรับปริญญาแบบชาวบ้านนะ ไม่ไปซ้อมไม่ไปรับจริงอะไรเลย ให้เขาส่งใบปริญญาบัติมาแทน เฮียไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้น่ะ เฮียบอกว่าแค่กระดาษใบเดียว ก็แค่อยากเรียนให้รู้ ชีวิตนอกเหนือจากห้องเรียน เฮียบอกว่าสำคัญกว่าการเรียนในห้องเรียนอันน่าเบื่อหน่ายอีก”
“ทำไร่แบบนี้อาจไม่ต้องใช้วุฒิไปสมัครงานอะไรก็ได้” เฌอร์รินพูดต่อ
“มันก็ต้องใช้ความรู้ด้วย ทั้งบริหารคน และเรื่องพืชผล เรื่องการตลาด เรื่องปุ๋ย และอีกจิปาถะแหละ มีการทำบัญชีอะไรด้วย ไม่ใช่จะให้คนอื่นทำ เรามีเงินจ้างก็จ้าง เราก็ต้องมีความรู้ด้วย ไม่งั้นก็โดนโกงน่ะสิ” ตรีชฎาแจกแจงให้เพื่อนฟัง
“ถึงป๊าจะอยากให้พี่หมอทำไร่ แต่พี่หมอก็หันไปเรียนหมอแทน ป๊าก็ภูมิใจนะ เวลาเจ็บไข้ไม่สบายก็ได้พี่หมอนี่แหละ ช่วยรักษาคนในบ้าน คนในไร่”
“น่าภูมิใจนะ พี่หมอแกเก่งจริงๆ ป๊าแกคงทำใจได้ถ้าไม่มาทำไร่”
“อือ... เก่ง พี่หมอนิสัยดีด้วย สาวๆ ติดกันตรึม”
“ถ้าฉันเป็นผู้หญิงแท้ๆ จะลงแข่งกับเขาบ้าง หรือว่าไงเพลง ยายเพลงแกฟังฉันอยู่หรือเปล่า” เฌอร์รินเอ่ยถามซ้ำเมื่อเห็นเพื่อนใจลอย
“หือ... แกว่าอะไรนะ”
“ฉันถามว่าฟังฉันอยู่หรือเปล่า เป็นอะไรของแกห๊ะ นั่งใจลอยไปไหน”