1
ชายหนุ่มรูปร่างสูงสง่า เรือนร่างงดงามอัดแน่นไปด้วยมัดกล้าม ผิวสีแทนของเขาน่ามองยิ่งนัก ช่วงขาเพรียว สะโพกสอบแข็งแรง ใบหน้าของเขาคมสันหล่อเหลา เรือนกายแข็งแกร่งแสนเซ็กซี่ ดวงตาคมเข้มยามทอดสายตามองนั้นดูอ่อนหวานเร่าร้อนจนคนถูกมองแทบละลาย
หญิงสาวรูปร่างอวบอิ่มถูกโอบกอดในอ้อมอกของชายหนุ่มอย่างทะนุถนอม เขาบรรจงจุมพิตดูดดื่มเหมือนจะสูบเลือดสูบเนื้อไปจากเธอจนหมดสิ้น ลิ้นของเขากระหวัดรัดรึง คลุกเคล้าในโพรงปากอ่อนนุ่มหวานล้ำ ริมฝีปากของเธอถูกบดขยี้จนต้องเผยอร้องครวญครางเสียงหอบกระเส่าออกมาไม่ขาดสาย
เขาปลดปล่อยริมฝีปากของเธอเป็นอิสระ เพียงชั่วครู่ก็ประทับลงมาใหม่ บดคลึงครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างหิวกระหาย หัวใจของเขาเต้นระรัว มือหนาฟอนเฟ้นอกอวบหนักเบา อุ้งมือใหญ่เริ่มเลื่อนลงไปสำรวจสัดส่วนความเป็นสาว เธอร้องครางด้วยความทรมานอันมากล้น นิ้วเรียวยาวสอดแทรกเข้าไปในกลีบบุหงาแสนสวย ก่อนที่ริมฝีปากจะเลื่อนลงไปคลุกเคล้าอย่างหิวกระหาย
ชายหนุ่มหอบหายใจอย่างรุนแรง เขาพลิกกายขึ้นทาบทับพาคนใต้ร่างไปยังดินแดนแห่งความสุขในทันที!!!
“เพลง” เสียงหนักๆ ทำให้คนเหม่อลอยสะดุ้งจากภวังค์ความคิด
“ค่ะ บก.” เพลงพิณนั่งตัวลีบเมื่อเห็นสีหน้าของบรรณาธิการวัยห้าสิบเศษกำลังมองเธอไม่วาง
“ไปหาไอเดียร์ เที่ยวเปิดหูเปิดตาบ้างสิ เขียนแบบนี้ไม่ว่าหรอกนะ แต่มันเหลือครึ่งหน้าได้ไง ก็รู้อยู่ว่าสำนักพิมพ์ทำนิยายประเภทไหน”
“ค่ะ หนูจะกลับไปแก้มาใหม่” เพลงพิณคอตก พักนี้เธอเขียนฉากรักไม่ค่อยออก สงสัยจะเขียนเยอะไป ไม่ก็เอาแต่อุดอู้อยู่แต่ในห้อง ไม่ได้เปิดหูเปิดตาอย่างที่เพื่อนรักบอกเอาไว้
“พี่เข้าใจ ไม่ต้องรีบหรอก เราเขียนหนังสือมาเยอะแล้ว ไปเที่ยวพักผ่อนเสียบ้าง เผื่อสมองจะแล่น เพลงว่าดีไหม”
“ค่ะ” เพลงพิณรับปากคอตกเมื่อเดินออกจากห้องทำงานของบรรณาธิการผู้ให้โอกาสเธอตั้งแต่ก้าวแรกของการเป็นนักเขียน
กรี๊ด!!!!
“โอ๊ย! ไอ้เพลง แกกรีดร้องทำไมของแกย่ะ ใครลากหล่อนไปข่มขืนหรือก็ไม่ คนจะหลับจะนอน”
เฌอร์รินสาวประเภทสองที่สวยหยด ดูไม่ออกเลยสักนิดว่าเคยเป็นผู้ชายมาก่อนโวยวายเสียงดัง เอามือปิดหูแทบไม่ทัน ก่อนจะบ่นเพื่อนสาวคนสนิทด้วยความหงุดหงิด เพราะถูกรบกวนเวลานอนในวันหยุดสุดสัปดาห์
“ฉันคิดนิยายไม่ออกอะแก” เพลงพิณเอามือเท้าคางทำปากยื่นใส่เพื่อนรัก
“ฉากไหนที่แกคิดไม่ออก ฉากรักสยิวกิ้วของแกนะรึ” เฌอร์รินเอ่ยถาม ทำหน้าเมื่อย ยืนหัวยุ่งมองเพื่อนรักที่ไม่ยอมหลับยอมนอนอย่างระอา เพลงพิณเป็นคนนอนดึก หรือกลางคืนไม่นอน เป็นมนุษย์ค้างคาวออกหากินตอนกลางคืน กลางวันหลับอุตุ ปลุกไปเถอะ ตื่นยากตื่นเย็นเหลือเกิน นอกจากจะนอนเต็มที่แล้ว ถึงจะลุกมาทำโน้นทำนี่
“ใช่แล้ว บก.บอกว่าฉากรักฉันหายไปไหนหมด”
“ครั้งก่อนแกก็บ่นยายเพลง”
“บ่นไง จำไม่ได้แล้ว” เพลงพิณทำหน้าเอ๋อ...
“แกบ่นเป็นหมีกินผึ้งอะ บอกว่าฉากแกมันดิบไป แกให้ฉันอ่านพระเอกตบนมนางเอกแทบแบนแล้วปล้ำไม่หยุด เกินมนุษย์มนาจะทำได้”
“จริงเหรอ”
“จริง พระเอกปล้ำนางเอกวันนึงเป็นสิบ” เฌอร์รินทำหน้าเมื่อย
“สองรอบก็คงหมดแรงล่ะ” เพลิงพิณทำหน้าแหยๆ
“ก็ตอนนั้นสมองแกแล่นเพิ่งเขียนนิยาย คืนนึงพระเอกแกสิบรอบยังไหว แกมีผัวจริง อาทิตย์นึงไม่รู้มันจะทำการบ้านหรือเปล่า”
“แกชอบพูดลามกยายเฌอร์”
“หรา... นังเพลง ทุกวันนี้แกก็ไม่หมกมุ่นเลยนะ วันๆ นึกแต่ฉากเอากันท่าอะไรบ้างของพระเอกนางเอกแก”
“ยายเฌอร์มันเป็นศิลปะ แกไม่เข้าใจหรอก พูดแต่ว่าเอากัน ฉันโกรธแกแล้วนะ”
“เข้าใจว่าแกชอบเขียนและแอบหื่น” เฌอร์รินค้อนเพื่อน
“บ้า!” เพลงพิณแหวใส่เพื่อนหน้าแดง
“พูดเรื่องจริงทำมาเป็นรับไม่ได้”
“ก็ช่วงนี้มันคิดไม่ออกนี่นา”
“แหงแหละ แกเล่นเขียนทุกกระบวนท่า แกเขียนนิยายอีโรติกมากี่ปีแล้วเพลง”
“ห้าปี” เพลิงพิณตอบแบบเซ็งๆ
“เออ... ห้าปีของแก อาจจะทำให้แกเบื่อกับการที่แกต้องเขียนซ้ำซากทุกๆ เรื่อง มันไม่เหมือนเวลาแกเขียนเล่มแรกๆ ไง”
“ก็รู้ไง แต่มันเป็นงาน”
“แล้วแกจะทำยังไงย่ะ ชวนไปหาประสบการณ์ก็ไม่เอา”
“แหวะ... ทำยังกับว่าถ้าฉันไปนอนกับผู้ชายจริงๆ จะเขียนฟินงั้นแหละ” เพลิงพิณมุ่ยหน้าใส่เพื่อนรัก เฌอร์รินเบ้หน้าใส่เพื่อน
“ถามจริงๆ เลยนะแก” เฌอร์รินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง หล่อนเป็นชายไม่จริงและเป็นเพศที่สามที่รักเพื่อนเหลือเกิน
“ถามอะไร”
“แกคิดฉากนั้นได้ไง ไม่เคยมีผัว”
“ก็ ก็...” เพลงพิณดึงนิ้วตัวเองไปมาอย่างเขินๆ
“มันเป็น...”
“ฟินลิ่งรึ” เฌอร์รินดักคอ
“ก็เออน่ะสิ ไม่เห็นต้องมีแฟนก็คิดได้ไอ้เรื่องแบบนั้น”
“แกหื่น”
“ฉันไม่ได้หื่น”
“แสดงว่าพระเอกแกหื่น”
“ก็ประมาณนั้นแหละ เวลาเขียนเรื่องอะไร ก็กระตุกผ้าห่มไม่ให้ฉันนอนทุกที ต้องลุกขึ้นมาเขียน”
“แกคิดได้นะ นังนักเขียนติสแตก ช่างมโนคิดไปได้” เฌอร์รินทำหน้าเมื่อย เท้าสะเอวมองเพื่อนอย่างหมั่นไส้
“แกพูดมากจริง”
“ไม่ให้พูดได้ยังไง ก็แกกรีดร้องเหมือนถูกข่มขืน วันนี้มันวันอาทิตย์ ฉันจะนอน แกเข้าใจไหมนังเพลง” เฌอร์รินทำหน้าโหดใส่เพื่อน
“ไม่เข้าใจ” เพลงพิณทำหน้าบ๊องแบ๊วไม่รู้ไม่ชี้
“ฉันควรจะทำยังไงกับแกดีนี่”
“แกช่วยฉันคิดฉาก NC หน่อยสินังเฌอร์” เพลงพิณทำหน้าอ้อน
“ถามจริงเหอะ”
“ถามไร” เพลงพิณถามกลับ
“นักเขียนคนอื่นอารมณ์แบบแกไหม คิดไม่ออกอะไรแบบนี้น่ะ”
“เยอะแยะไป” เพลงพิณตอบอย่างเนือยๆ
“มันเป็นอาการเขียนไม่ออก หรือเรียกอีกอย่างว่า Writer Block!"
“อ้อ... ก็ไม่ได้ใช่มีเท่าแต่แก แล้วแกจะเครียดทำไม”
“เครียดสิ”
“คนอื่นเขียนไม่ออกเขาทำกันยังไงล่ะ”
“ไม่รู้สิ บ่นว่าเขียนไม่ออกก็ต้องเขียนออกจนได้เหมือนฉันแหละ” เพลงพิณตอบแบบกำปั้นทุบดิน เฌอร์รินเท้าสะเอวมองเพื่อน ทำกัดหัวเพื่อนให้กระจุย จริงๆ เวลานี้ หล่อนต้องนอนหลับสบายอยู่บนเตียงนุ่มๆ แต่กลับต้องตื่นมารับรู้ปัญหาเขียนฉากรักของพระเอกนางเอกนิยายไม่ออกของเพื่อนแทน
“ฉันไปนอนดีกว่า” เฌอร์รินแยกเขี้ยวใส่เพื่อน
“เฌอร์ แกอย่าเพิ่งไปดิ๊ ช่วยกันคิดฉากนั้นให้ฉันก่อน” เพลงพิณรีบเรียกเพื่อนเอาไว้
“ไม่เอาหรอก มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของฉัน บก.บอกแกว่าแกเขียนไม่หื่น ก็ให้บก.ช่วยสิ เค้าเป็นบรรณาธิการ”
“แกจะบ้าหรือไง เขามีงานล้นมือ และหน้าที่เขียนมันก็เป็นของฉัน”
“แกมีแฟนคลับเยอะแยะ เขียนๆ ไปเถอะ ยังไงเค้าก็ซื้อของแกนั่นแหละ”
“ถ้าฉันเขียนห่วย เป็นแฟนคลับ ก็เลิกเป็นได้นะโว้ย ฉันรักงานของฉัน ไม่มีวันจะเขียนห่วยๆ เด็ดขาด”
“ย่ะ! แม่คนมีอุดมการณ์” เฌอร์รินประชดปนแดกดันเพื่อน
“เห้อ...” เพลงพิณถอนใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะวางคางลงบนโต๊ะคอม
“แกเขียนไม่ออกก็ลอกเล่มเก่าๆ มาเขียนสิ ฉากแบบนั้นพระเอกจ้ำจี้กับนางเอกทุกเรื่อง มันจะอะไรนักหนา แฟนนิยายแกจำไม่ได้หรอก”
“ไม่ได้หรอก มันต้องคิดใหม่ทำใหม่ ให้แปลกใหม่” เพลงพิณพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“โอ๊ย! ก็แกเขียนมากี่ปีแล้วนังเพลง ท่าเบสิคยันตีลังกา แกจะหาท่าใหม่อะไรมาอีกล่ะ ห้อยหัวร่วมรักกันรึ”
“มันไม่ใช่นังเฌอร์ มันต้องแบบว่าปรับอะไรให้มันแปลกใหม่น่ะ แกไม่เข้าใจหรอก”
“เออ... ฉันไม่เข้าใจจริงๆ นั่นแหละ”
“ฉันอยากไปเที่ยวน่ะแก หาบรรยากาศ ได้เจอสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ แทนที่จะอยู่ในห้อง ฉันต้องคิดออกแน่ๆ เลยแก” เพลงพิณรีบออดอ้อนเพื่อนรักทันที
“ฉันว่างหรือไง ทำงานตั้งแต่จันทร์ถึงเสาร์ จะให้ไปเที่ยวกับแกตอนไหนล่ะ”
“ใกล้ๆ ก็ได้”
“โอ๊ย! แก อะไรรอบตัวก็เขียนได้หมด แกเบื่อก็ไปนั่งสวนสาธารณะ ไปเดินห้าง เที่ยวสวนสนุกก็ได้ ไปดูคู่รักเขาจู๋จี๋จีบกัน รับรองแกฟินแน่ๆ”
“แต่ฉันไม่อยากไปคนเดียว”