ตอนที่ 6

1075 Words
“แต่ก็ใส่ออกนอกประเทศได้ก็แล้วกัน นั่นอย่าเผลอใส่ ออกนอกประเทศล่ะ” อัยรินทร์ชี้ไปยังกระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพงที่อีกฝ่ายสะพายอยู่ ดูยังไงก็รู้ว่าของปลอม “อี...อี” สายป่านแทบจะเข้าไปกระชากหัวอีนังรุ่นน้องเด็กเมื่อวานซืนมาตบแต่เพราะข้างกายของมันมีอีกะเทยหมีควายขวางอยู่ “ป้าไม่มีเรียนเหรอถึงมาหาเรื่องเด็ก” จีจี้ที่ทนฟังต่อไม่ได้ถึงกับต้องไล่คนที่เดินเข้ามาหาเรื่องเพื่อนเธอ อยากจะบอกว่ากูเป็นตุ๊ดตบผู้หญิงเนี่ยกูไม่ได้รู้สึกผิดเลยสักนิด “ใครเป็นป้ามึง!” “ป่านพอเถอะ” เพื่อนของรุ่นพี่ปีสามเห็นแววแล้วไม่เข้าท่าจึงดึงแขนเพื่อนออกไป “อย่ายุ่ง!” สายป่านสลัดแขนเพื่อนพร้อมหันไปมองหน้า อัยรินทร์อย่างเหลืออด “ถ้าโดนเสี่ยเขี่ยทิ้งเมื่อไหร่มึงอย่าซมซานมาขอข้าวบ้านกูกินแล้วกัน” “อ๋อ เพิ่งรู้ว่าสิ่งที่โกงคนอื่นเขามาเรียกว่าบ้านได้ด้วย หึ! อย่างมึงกับพ่อมึงควรจะเรียกว่าอะไรดี เห็บหมัดไหมนะ ที่เกาะมากับหมาขี้เรื้อนที่ปู่กูเก็บมาเลี้ยง แล้วพอแข็งแรงถึงได้มาแว้งกัดผู้มีพระคุณ” อัยรินทร์ยังใช้สายตาเหยียดกับสายป่าน ปู่เธอให้ย่าของสายป่านเข้ามาอยู่ที่บ้านพร้อมลูกติด ทุกอย่างในตอนแรกเหมือนจะดีแต่จริง ๆ แล้วกำลังมีตะขาบตัวใหญ่ซุกอยู่ใต้พรมที่คอยจะแว้งกัดเจ้าของให้ตายในทันที “ไม่มีหลักฐานอย่ามากล่าวหา” “หึ! บาปกรรมหนีไม่พ้นหรอก ระวังตัวไว้บ้างก็ดี” อัยรินทร์ยิ้มที่ไม่ส่งถึงดวงตาให้คนที่ยืนหัวโต๊ะ “ป้า หน้าป้าหมองนะคะ ดูแล้วคงกรรมหนา” วาดเมษาพูดยิ้ม ๆ มองหน้า คนหน้าเทาไม่รู้ว่าหมองคล้ำเพราะพักผ่อนน้อยหรือเพราะเลือกรองพื้นผิดเบอร์ เพื่อนก็ช่างกระไรไม่รู้จักเตือนเพื่อน “อีบ้า!” สายป่านด่าออกมาเสียงดังจนคนทั้งร้านหันมามองไม่เว้นแม้แต่เขา อาชวินมองภาพนั้นแล้วยิ้มดีเหมือนกันอย่างน้อยเด็กของเขาก็สู้คน นึกว่าจะปล่อยให้ยายนั่นโขกสับ สายป่านเดินออกไปจากร้านคาเฟด้วยอารมณ์ขุ่นมัว เธอจะเปิดโปงอีอัยย์ วันก่อนเธอเห็นมันขึ้นรถหรูไปกับใครไม่รู้ และเมื่อหลายวันต่อมาก็เจอมันลงจากรถหรูอีกคัน ถ้าอีอัยย์มันไม่รับงานเอนฯ มันก็ต้องเป็นเด็กเสี่ย ดูท่าทางแล้วคงมีหลายคนด้วย คอยดูนะเธอจะเปิดโปงให้มันไม่มีที่ยืนในสังคม “ใครเหรอมึงอีป้านั่น” จีจี้ถามขึ้นเมื่อยายป้าโรคจิตเดิน ออกจากร้านไป “ลูกสาวคนที่โกงพ่อ” อัยรินทร์พูดด้วยความเจ็บใจ พวกมันใช้ความไว้ใจ ใช้ความรักที่พ่อมีให้ทำร้ายครอบครัวของเธอ “โคตรตอแหล เห็นหน้าอีป้านั่นเครื่องวัดความตอแหลของกูทำงานไม่หยุดเลยมึง” จีจี้พูดพร้อมสะบัดบ๊อบทิพย์พร้อมเกี่ยว ผมยาวที่ไม่มีอยู่จริงด้วยท่าทัดหูทิพย์ “มหา’ลัยตั้งกว้างทำไมต้องเจอกัน” อัยรินทร์บ่นให้เทวดา ทำไมใจร้ายให้เธอมาพบเจอกับคนแบบนั้นด้วย ยิ่งคิดยิ่งโมโห “เล่ามาสาว พวกกูจะได้ช่วยมึงเกลียด” จีจี้มองหน้าเพื่อน อัยรินทร์นึกเรื่องราวที่ผ่านมาแล้วเมื่อสี่ปีก่อน การเป็นคุณหนูของเธอสิ้นสุดลงตอนนั้นสินะ เธอในวัยสิบสี่ปีกับพี่ชายใน วัยที่ยังไม่เต็มสิบแปดปี ยังเป็นผู้เยาว์ทั้งสองคน “พีกับอัยย์ไม่ต้องกังวลนะเดี๋ยวอาจัดการให้” คำพูดของ ผู้เป็นอาหรือญาติเพียงคนเดียวของผู้เยาว์ทั้งสอง หลังจากงานศพของพ่อแม่สองพี่น้องต้องเซ็นเอกสารหลายอย่างจนเธอและพี่ชายก็ไม่รู้ว่าเอกสารอะไรนักหนา ผู้เป็นอาบอกแค่เพียงว่าตอนนี้อาต้องมาเป็นผู้จัดการมรดกของพ่อแม่เพราะทั้งสองยังเป็นผู้เยาว์ เริ่มแรกพีรพลก็ไม่เอะใจอะไรจนเวลาล่วงเลยมาสามสี่เดือน จนเขาเข้ามหาวิทยาลัยปีหนึ่ง หลายอย่างเริ่มไม่ปกติ จนกระทั่งมารู้ตัวก็ต่อเมื่อผู้เป็นอาสั่งให้ย้ายออกจากบ้านที่อยู่ เหตุผลเพราะบ้านหลังนี้ถูกยึดไปแล้ว “อาทำไมบ้านถึงโดนยึด” เสียงของพีรพลสั่นเทาด้วยความเสียใจและความโมโห “พี อาขอโทษจริง ๆ นะ เพราะบริษัทของเราขาดสภาพคล่องตั้งแต่พ่อเราตาย อาก็พยายามแล้วแต่มันยากจริง ๆ” คำพูดรู้สึกผิดของอาทำให้หลานทั้งสองยิ่งเสียใจ เสียใจที่ช่วยอะไรไม่ได้ สุดท้ายทั้งสองจึงยอมออกไปเช่าบ้านหลังเล็ก ๆ อยู่กันสองคนพี่น้อง พีรพลเริ่มทำงานตั้งแต่เข้าเรียนปีหนึ่ง เงินที่เขากับอัยรินทร์มีเพียงพอที่จะเรียนให้จบแต่ทุกอย่างมันไม่แน่นอน เขาอยากให้น้องได้เรียนที่ดี ๆ เหมือนอย่างที่เขาได้เรียน น่าแปลกใจที่เงินปันผลของบริษัทที่บอกว่าขาดทุนกลับทำรายได้อย่างดี พีรพลเริ่มอ่านงบการเงินเป็นในตอนที่เขาอายุสิบเก้าและเมื่อรู้ว่าอะไรเป็นอะไรบ้างแล้ว “พี ทำไมทำแบบนี้” เสียงของ ธีรกิต หรืออากิตของเด็ก ทั้งสองดูเย็นชาอย่างไม่เคยได้ยิน พีรพลยื่นฟ้องต่อศาลขอเป็นผู้ปกครองอัยรินทร์เพราะตอนนี้เขาอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ ทรัพย์สินทุกอย่างของอัยรินทร์เขาจะขอเป็นผู้จัดการเองและแน่นอนว่าสร้างความไม่พอใจให้กับผู้เป็นอาอย่างมาก ตอนนั้นทั้งพีรพลและธีรกิตทะเลาะกันรุนแรง คำพูดหนึ่งที่ทำให้ อัยรินทร์จำจนถึงวันนี้ “หรือว่าผมต้องรื้อการตายของพ่อแม่ดี” คำพูดของพีรพลที่หยุดทุกการกระทำของธีรกิต ผู้เป็นอาออกจากบ้านเช่าหลังเล็กของทั้งสองคนไปแล้ว แต่คนที่ยังตะลึงกับเรื่องที่ได้ยินยังยืนนิ่งด้วยความสงสัย ที่ไม่กล้าสงสัย “พี่พี” “พี่แค่สงสัยอัยย์ เรายังไม่มีหลักฐาน” การตายของพ่อแม่อาจไม่ใช่แค่อุบัติเหตุ

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD