รถแล่นเข้ามาจอดค่อนข้างนุ่มนวลแม้ว่าคนขับนั้นจะอารมณ์เดือดแค่ไหน บรรยากาศมาคุคลายลงเมื่อประตูรถถูกเปิดออกจากทั้งสองฝั่งพร้อมๆ กัน
ฉวียืนรอรับอยู่หน้าบ้าน ยิ้มหน้าบานยามเห็นบุลลาเดินเข้าไป ไม่สนว่านายทั้งสองกำลังมึนตึงใส่กัน...
“โถๆ แม่คุณ ไปทำงานนอกบ้านตากแดดตากลม ตายๆ นี่หญ้าก็บาดมือ ตัวก็ร้อนรุมๆ ยังกับจะเป็นไข้... ไม่ใจไม้ใส่ระกำจริงๆ ไม่ให้เมียไปทำอะไรแบบนี้หรอก” หันไปต่อว่าคนที่เดินขึ้นบ้านไปให้ทันได้ยิน
เขาไม่แม้แต่จะชะงัก เดินพาร่างสูงก้าวต่อไปอย่างมั่นอกมั่นใจ ดูท่าทางจะพอใจกับผลลัพธ์ด้วยซ้ำไป ทุกคนรู้พ้องกันว่าอยุทธ์กำลังเอาชนะในแบบของเขา...
ได้แต่ยิ้มแหยให้ป้าหวี... บอกได้เพียงว่าไม่เป็นไร หล่อนไม่ได้ยอมแพ้แต่ไม่มีสิทธิ์ได้แพ้ต่างหาก ไม่ว่าเขาจะทำอย่างไรอย่างเดียวที่ทำได้ก็คืออดทนและน้อมรับมัน
“อดทนและเข้มแข็งเข้าไว้นะคะคุณบัว ไปค่ะไป ป้าตั้งโต๊ะไว้แล้ว นี่เพราะตั้งโต๊ะแล้วคุณบัวไม่ได้มากินข้าวนายถึงนึกได้ว่าทิ้งคุณบัวไว้แปลงผัก ป้าจะฟ้องนายอินทร์ให้บ่นนายให้หูชา”
“อย่าบอกลุงอินทร์เลยนะคะ รู้เข้าแล้วเดี๋ยวท่านจะไม่สบายใจเปล่าๆ บัวขอไปกินข้าวก่อนนะคะตอนนี้หิวจะกินช้างได้ทั้งตัวแล้ว ได้กับข้าวอร่อยๆ ฝีมือป้าหวีแล้วจะกินให้พุงกางเลย”
รีบพูดให้คนแก่ใจเย็นลงและเปลี่ยนเรื่องไปเสีย ไม่อยากให้ผู้ใหญ่ต้องไม่สบายใจกับเรื่องของหล่อนกับเขา และพอไม่ได้ดั่งใจทุกคนก็จะเข้ามาจัดระเบียบให้พวกหล่อนที่รู้สึกว่าโดนบังคับอยู่แล้วมีสถานการณ์ที่แย่เข้าไปอีก
ป้าหวีจูงมือหญิงสาวมาที่โต๊ะกินข้าว อยุทธ์ที่นั่งนิ่งรออยู่ เกือบจะบอกว่าขอไปทานในครัวก็ได้หากต้องนั่งร่วมวงกับคนที่เฉยชาอย่างกับเป็นแวมไพร์ แต่ป้าหวีรั้งหล่อนให้นั่งลงเลยไม่ยื้อยุดอะไร พยักหน้าให้หล่อนตักข้าวจากโถให้อยุทธ์อย่างลุ้นสุดๆ
หญิงสาวก็ทำตามแล้วก็ทานข้าวมื้อเย็นไปพร้อมกับเขาไป ความเหนื่อยทำให้ลืมเรื่องแย่ๆ และทานข้าวได้อย่างเอร็ดอร่อย จนคนงานเก่าแก่เก็บจานเข้าครัวแล้วบุลลาถึงเลิกช่วยเพราะโดนไล่ให้มาอาบน้ำอาบท่าเสียไม่ต้องไปล้างจานให้มือเปื่อยมือพองขึ้นไปกว่าเดิมอีก แม้จะเหนื่อยอ่อนใบหน้าแดงก่ำเพราะแดดร้อนๆ แผดเผา หากแต่แววตาเด็ดเดี่ยวก็ยังฉายชัดอยู่บนใบหน้าของหล่อน
“นายไม่มีอะไรจะใช้แล้วใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะขึ้นไปอาบน้ำข้างบน” เอ่ยถามคนที่ยังจิบเบียร์อยู่บนโต๊ะอาหารเลื่อนแทบเล็ตดูนั่นนี่โน่นอยู่หน้าจออย่างกับเป็นเด็กโข่งติดเกม
“ไปพักผ่อนเถอะ งานพรุ่งนี้ยังรออีกเยอะ” โบกมือไล่หล่อนโดยไม่หันหน้ามามองสักนิด บุลลารีบเดินขึ้นไปบนห้อง ได้ยินเสียงโทรศัพท์เขาดังแว่วๆ และเสียงทุ้มเอ่ยอย่างอ่อนโยนกับปลายสายแตกต่างจากเสียงแข็งๆ ที่เอาไว้คุยกับหล่อนและคนงาน
หญิงสาวเดาว่าเขาอาจจะมีคนของเขาอยู่และถูกบังคับให้แต่งงานโดยไม่เต็มใจ ไม่อย่างนั้นคนที่ใครๆ ก็รักและเคารพอย่างเขาคงไม่ใจร้ายกับหล่อนได้ขนาดนี้... หญิงสาวไม่ได้คิดจะแอบฟังเพราะคิดว่าเรื่องของเขาไม่เกี่ยวกับหล่อนอยู่แล้ว อยู่กันให้ครบสามปีอย่างที่ลุงอินทร์เคยขอเอาไว้แล้วค่อยหย่ากัน แล้วจากนั้นจะมีชีวิตของใครของมันได้แล้ว แค่สามปีมันไม่นานนักหรอก
.............